Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน - ตอนที่ 1843
ทั้งสามคนคือวิหคศักดิ์สิทธิ์ พยัคฆ์ขาวและเต่าดำที่มาจากโลกถ้ำ พวกเขากลับมาได้หลายปีแล้วและพอเห็นว่าไม่มีสำนักเจ็ดเต๋าอีกต่อไปจึงเลือกที่จะออกมาเป็นเซียนไร้สำนักที่นี่
พวกเขานั้นมีชื่อเสียงอยู่แล้วและมีช่วงชีวิตอันรุ่งโรจน์ แต่พอใกล้ถึงปลายทางแห่งชีวิตจึงรู้สึกเหน็ดเหนื่อยและต้องการพักผ่อนเท่านั้น
ด้วยระดับบ่มเพาะของแต่ละคนจึงสามารถทำสิ่งใดก็ได้หลายอย่างในทะเลโอสถ แต่ทั้งสามกลับเลือกที่จะมีชีวิตอยู่อย่างสงบ
อย่างไรก็ตามถึงทั้งสามคนอยากมีชีวิตสงบสุขสักเพียงใด ตอนนี้กลับต้องวิ่งหนีความตาย วิหคศักดิ์สิทธิ์และเต่าดำได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนพยัคฆ์ขาวแค่บาดเจ็บเล็กน้อยและกำลังพาสหายร่วมเป็นร่วมตายสองคนเพื่อหนีออกไปจากทะเลโอสถอย่างสุดชีวิต
พอคำพูดนั้นดังออกจากปากทั้งสองคน พยัคฆ์ขาวถึงกับหน้าซีดและเผยรอยยิ้มเจ็บปวด
“พวกเจ้าสองคนไม่ต้องพูดหรอก ข้าจะหนีไปคนเดียวได้อย่างไร!? เราเข้าไปโลกถ้ำด้วยกันและตอนนี้มังกรฟ้าก็ตายแล้ว นั่นพอเข้าใจได้ เราไม่ได้ตกลงร่วมกันหรือว่าจะอยู่ที่นี่จนแก่ตาย? เราไม่ได้ตกลงกันหรือว่าจะหารุ่นเยาว์สามคนเพื่อส่งต่อเต๋าของเรา…”
“เรายังไม่ได้ทำเรื่องพวกนั้นเลย แล้วจะให้ข้าหนีเอาตัวรอดคนเดียวได้อย่างไร!?” พยัคฆ์ขาวส่งเสียงคำรามพลางแบกอีกสองคนหนีไปด้วย
ด้านหลังทั้งสามเป็นชายหนุ่มใบหน้างดงามถือพัดในมือไล่ตามมา ส่วนชายหนุ่มแซ่เฉียนเผยสายตาดุดันพลางหัวเราะไปด้วย
ทั้งสองคนไม่ได้เร่งรีบ ทะเลโอสถถูกปิดผนึกดังนั้นจึงไม่มีทางที่ทั้งสามจะหนีไปไหนได้ สำหรับเซียนชื่อเฉียนนั้นของเล่นก็ต้องเล่นให้สนุก
ห้าคนนี้ทั้งหนีและไล่ตามกันต่อไป แต่ดวงตาเซียนสตรีสาวตรงผืนธงทั้งสามพลันส่องสว่างเป็นประกายและจ้องมองเข็มทิศในมือ
นางเกิดความรู้สึกแย่ๆ ขึ้นมา!
‘เพียงวันเดียว ระดับน้ำทะเลลดลงไปหลายร้อยฟุต มากกว่าเมื่อวานหลายเท่า นี่น่าจะมีปัญหา!’ นางจ้องมองเข็มทิศที่มีแต่จุดสีเขียว จุดสีขาวเหลืออยู่ไม่มากนักและมีไม่ถึงพันจุด
แสงที่ใหญ่ที่สุดสามจุดได้หายไปแล้ว ส่วนจุดที่แสงอ่อนกว่าทั้งเก้านั้น หลังจากสี่จุดแรกได้หายไป ตอนนี้อีกสองจุดหายไปเพิ่ม เหลือเพียงสามจุดที่อยู่ด้วยกันกำลังเคลื่อนที่อย่างช้าๆ และมีจุดสีเขียวสองจุดที่โดดเด่นกำลังไล่ตาม
เซียนสตรีสาวกำลังพิจารณาเข็มทิศอย่างละเอียดและขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม
‘ไม่มีอะไรผิดพลาด…ระดับน้ำลดลงมากขนาดนี้ในสองวันได้อย่างไร…ยังเหลืออีกสองวัน…ช่างมันเถอะ ข้าไม่รอจนกระทั่งถึงตอนจบหรอก การเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำนี้ดูประหลาดเกินไป…ข้าจะใช้หยดหมื่นหลอมเพื่อกวาดล้างเซียนที่เหลือ!’
นางรู้สึกไม่สบายใจ หลังจากลังเลเพียงชั่วครู่จึงกัดฟันและนำของเหลวสีดำออกมา จากนั้นสะบัดมันออกไปยังทะเล
หยดน้ำสีดำจมดิ่งลงทะเลและหายไปทันที น้ำในทะเลเบื้องหน้านางพลันเปลี่ยนเป็นสีดำ!
น้ำสีดำดุจหยดน้ำหมึกได้แผ่กระจายด้วยอันตราเร็วสูงยิ่ง
‘ไม่ว่าจะมีความลับอะไรซ่อนอยู่ในทะเลโอสถ มันจะต้องตายด้วยหยดหมื่นหลอม!’
ส่วนหวังหลินนั้นหลังจากผ่านไปสองวันจึงดูดซับน้ำได้จำนวนมาก และพยายามควบแน่นแก่นแท้วารีในร่างกายแต่มันยังไม่ก่อเกิด พอขบคิดเล็กน้อยเขาจึงดูดซับให้เร็วยิ่งขึ้น
หลายชั่วโมงต่อมา ทะเลโอสถมากกว่าครึ่งได้เปลี่ยนกลายเป็นสีดำ เหล่าเซียนแคว้นกระทิงสวรรค์ทั้งหมดที่ถูกมันเข้าสัมผัสจะส่งเสียงร้องทุรนทุรายทีละคน ร่างกายถูกน้ำกัดกร่อน แม้แต่วิญญาณดั้งเดิมก็ไม่รอด
แม้กระทั่งเหล่าเซียนชุดเขียวยังชะลอตัวลงในทะเลสีดำ แต่พวกเขาไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเพราะถึงแม้สตรีที่อยู่ใต้ผืนธงจะมองไม่เห็น แต่เข็มทิศในมือนางเผยสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน
แผนที่ทะเลโอสถบนเข็มทิศได้เปลี่ยนไปเป็นสีดำกว่าครึ่งทาง จุดสีขาวทั้งหมดที่ถูกทะเลสีดำสัมผัสได้หายไปราวกับถูกลบเลือน
“ไม่ว่าใครที่เป็นตัวการ ข้าอยากจะเห็นเสียจริงว่าเจ้าจะดูดซับทะเลโอสถที่กลายพิษได้อย่างไร…” นางพึมพำ แววตาเย็นเยียบพลางค้นหาจุดสีขาวหลายร้อยบนเข็มทิศ
นางกังวลเรื่องระดับน้ำทะเลที่กำลังลดลงอย่างรวดเร็ว จึงต้องหาเหตุผล!
จุดสีขาวที่เป็นตัวแทนของหวังหลินได้ถูกนางมองข้ามไปรอบนึงแล้ว แต่ขณะที่นางกวาดสายตาผ่านไป สายตาจับจ้องไปยังจุดที่เป็นตัวแทนของหวังหลินและเผยจิตสังหารมหึมา!
‘จุดสีขาวทุกจุดเป็นตัวแทนของเซียนที่ไม่ใช่คนจากแคว้นมารเขียว…จุดสีขาวทั้งหมดกำลังเคลื่อนตัวหลบหนีเข้าหาแคว้นกระทิงสวรรค์อย่างช้าๆ แต่จุดสีขาวจุดนี้กลับอยู่นิ่งเฉย!!’
‘ข้าควรจะสังเกตมันได้นานแล้ว!’ แววตาจิตสังหารกะพริบวูบวาบ
“ตรงไปทางเหนือ ห่างจากที่นี่ 97 ล้านลี้ ส่งทหารมารเขียวออกไปสังหารสามสิบชุด…” ก่อนที่นางจะพูดจบ จุดสีขาวที่เป็นตัวแทนหวังหลินพลันหายไป
เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ทำให้นางหยุดพูดและตกตะลึงทันที
ขณะที่หวังหลินทำการดูดซับน้ำทะเลไปตลอดวัน เขายังไม่สามารถควบแน่นแก่นแท้วารีได้เลย หลังจากผ่านไปสักพักพอเริ่มดูดซับเร็วขึ้น ร่างกายกลับสั่นเทา เขาลืมตาขึ้นมาและเปล่งประกายเจิดจ้า
‘แก่นแท้วารี!! ข้ารู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของแก่นแท้วารี!!’ หวังหลินดวงตาส่องสว่าง หลังจากลังเลอยู่เล็กน้อยจึงเผยสายตามุ่งมั่น เขายืนขึ้นและก้าวไปข้างหน้า ใต้ฝ่าเท้าเกิดระลอกคลื่นพลางผสานเข้ากับโลกและหายตัวไป
เมื่อหวังหลินปรากฏตัวอีกครั้งเขาอยู่ด้านบนทะเลโอสถที่อีกครึ่งนึงเป็นน้ำสีดำ พอเขาปรากฏตัวจึงสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายน่ากลัวจากน้ำทะเลสีดำซึ่งสามารถสลายเลือดเนื้อและวิญญาณดั้งเดิมได้
‘นี่มันคือพลังแก่นแท้วารีอีกแห่ง!’ ร่างหวังหลินในตอนนี้อยู่ในระหว่างการโคจรแก่นแท้วารีรอบที่เก้า เขามีพลังต้านทานน้ำทะเลสีดำมากกว่าเซียนทั่วไป
แม้น้ำทะเลนี้จะน่ากลัวแต่ก็ไม่สามารถกัดกร่อนร่างกายเขาได้ สิ่งสำคัญยิ่งกว่าคือมันมีแก่นแท้วารีที่หวังหลินต้องการในตอนนี้!
หลังปรากฏตัวออกมา หวังหลินนั่งลงโดยไม่ลังเล สองมือสร้างผนึก รูขุมขนในร่างกายเปิดออกเพื่อดูดซับน้ำทะเลสีดำเข้าไปในร่าง!
ขณะที่ทำการดูดซับอย่างรวดเร็ว เขารู้สึกได้ถึงเส้นใยกัดก่อนในร่างกายแต่ขณะเดียวกันก็เกิดความรู้สึกปลอดโปร่งออกมาจากจิตใจ ร่างกายเขากำลังได้รับการหล่อเลี้ยงและการโคจรรอบที่เก้ากำลังสมบูรณ์อย่างช้าๆ!
ห่างจากหวังหลินออกไปไกล อีกด้านหนึ่งของทะเลโอสถซึ่งใกล้กับแคว้นมารเขียว เซียนสตรีใต้สามผืนธงกำลังหรี่ตาแคบ จ้องมองเข็มทิศในฝ่ามือ แขนขวากำลังสั่นเทา
หมึกสีดำที่ปกคลุมทะเลโอสถกว่าครึ่งกำลังสูญสลายไปบนแผนที่อย่างรวดเร็ว พอนางเห็นเช่นนี้จึงมีสีหน้าเปลี่ยนไปและอ้ากปากค้าง
“นี่…” นางถึงกับเผยแววตาไม่เชื่อพลางมองเข็มทิศด้วยความงุนงง ไม่นานนักจึงสังเกตได้ว่าส่วนหนึ่งภายในทะเลสีดำได้มีจุดสีขาวอยู่ด้วย จุดนี้ไม่ได้สว่างนักและมีเพียงจุดเดียว!
‘คนผู้นั้น!’ แววตาของนางเต็มไปด้วยจิตสังหารพลางชี้มือซ้ายออกไป
“ทหารมารเขียวห้าสิบกอง สังหารมัน!” เหล่าทหารมากกว่าห้าร้อยคนด้านข้างหญิงสาวพลันก้าวเท้าและหายวับไป
ภายในเข็มทิศของนาง จุดสีเขียวจำนวนมากปรากฏขึ้นรอบตัวหวังหลินทันที
ส่วนหวังหลินที่กำลังดูดซับแก่นแท้วารีอย่างรวดเร็ว สองมือเหี่ยวแห้งฟื้นคืนกลับมาอย่างรวดเร็ว โลหิตเริ่มไหลเวียนราวกับได้พลังชีวิตกลับคืนมา
ร่างกาย ศีรษะและเรือนผมไม่ได้เหี่ยวแห้งอีกต่อไปแล้ว
การโคจรแก่นแท้วารีรอบที่เก้าเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้งหลังจากหวังหลินเติมเต็มพลังใหม่ที่ดูดซับจากน้ำทะเลสีดำเข้าไป
ระดับความเร็วนี้ถือว่ารวดเร็วมากจนระดับน้ำทะเลลดลงอย่างเห็นได้ชัด การโคจรรอบที่เก้าของหวังหลินกำลังสมบูรณ์!
เมื่อรอบที่เก้าสมบูรณ์เรียบร้อย หวังหลินลืมตาขึ้นมา ร่างกายไม่เหี่ยวแห้งและฟื้นคืนเต็มที่!
แก่นแท้ที่แปดปรากฏขึ้นในร่างกาย มันคือแก่นแท้วารี!
การปรากฏของแก่นแท้วารีได้ทำให้ระดับบ่มเพาะของหวังหลินเพิ่มขึ้นทันที กลิ่นอายทรงพลังกระจายออกมารอบตัวเขา มันคือกลิ่นอายระดับบ่มเพาะที่แท้จริง เป็นขั้นวิญญาณดับสูญระดับปลาย
จังหวะนั้นกลิ่นอายเขาได้เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่งและทะลวงผ่านไปอีกระดับ!
เมื่อผ่านการทะลวงนี้ไป กลิ่นอายหวังหลินเพิ่มไปจนบรรลุขั้นวิญญาณดับสูญระดับสูงสุดและห่างจากขั้นแก่นแท้ดับสูญเพียงแค่ขั้นเดียว!
ขณะเดียวกันภายในร่างหวังหลินเกิดความปั่นป่วนและมีเสียงปะทุดังออกมา ดวงตาเผยประกายแสงดุจผลึกน้ำสดใส!
‘แก่นแท้วารีกลั่นตัวอยู่ในโลหิตข้า ตั้งแต่บัดนี้ไป โลหิตข้าจะกลายเป็นแก่นแท้วารี!’