Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน - ตอนที่ 1891
หลายเดือนต่อมา ณ ใจกลางแคว้นมารเขียว ที่แห่งนี้เป็นหนองบึงขนาดใหญ่สีเขียวและมีฟองจำนวนมากผุดขึ้นไปทั่วจนส่งกลิ่นเน่าเหม็น สถานที่แห่งนี้ปกคลุมด้วยหมอกสีเขียวและมีฟองรวมกันหลายปีแล้ว
ในหนองบึงแห่งนี้มีสิ่งก่อสร้างสูงตระหง่านตั้งอยู่ แค่ชำเลืองมองก็รู้ว่ามันมีรูปร่างเป็นแมงป่องยักษ์!
แมงป่องมีขนาดตัวหลายแสนฟุต นอนอยู่บนบึงและดูเหมือนมีชีวิตจริงๆ! ทั้งยังเปล่งพลังมารทรงพลังจนทำให้เซียนส่วนใหญ่ไม่กล้าเข้าใกล้ เนื่องจากพลังมารนั้นจะเข้าสู่ร่างกายและทำให้บ้าคลั่ง
เซียนสำนักเต๋ามารทั้งหมดกลับมาภายในสำนักยกเว้นจ้าวสำนักที่อยู่ด้านนอกอารามแมงป่องมารเขียวพร้อมกับหวังหลิน
ด้วยระดับบ่มเพาะอันสูงส่งของเขาจึงไม่ได้รับผลกระทบจากพลังมารที่นี่
จ้าวสำนักปรากฏตัวข้างสิ่งก่อสร้างรูปแมงป่องขนาดยักษ์ หลังจากนั้นจึงกระแอมเบาๆ จากด้านล่าง
เสียงกระแอมเบามากแต่ในสภาพแวดล้อมอันเงียบเชียบ กลับได้ยินชัดเจนยิ่ง
มีร่างสามคนค่อยๆ ก้าวออกมาจากปากแมงป่อง
ในสามคนนี้มีอยู่สองคนด้านหลังสวมชุดคลุมเต๋าสีเขียว ทั้งคู่มีสัญลักษณ์แมงป่องอยู่บนเสื้อผ้า ถึงจะดูอายุวัยกลางคนแต่กลับเปล่งกลิ่นอายขั้นวิบากดับสูญระดับกลาง สีหน้าแต่ละคนเย็นเยียบราวกับไร้อารมณ์ความรู้สึก
ทั้งสองเสมือนเป็นองครักษ์ปกป้องคนตรงหน้าที่สวมชุดคลุมสีเขียวสนิท คนผู้นี้แก่ชรามาก ขณะที่เดินออกมายังกระแอมไปด้วย
เขาหยุดกระแอมและเอ่ยถามเสียงแหบพร่า “เจ้าพาคนกลับมาด้วยหรือไม่…”
จ้าวสำนักเต๋ามารทำตัวสุภาพต่อชายชราชุดเขียวอย่างมาก เขาคำนับฝ่ามือและพยักหน้า
“ข้าพาเขามาที่นี่ โปรดดูเถิดจวี่ซื่อ”
หลังจากเอ่ยปากจึงสะบัดแขนขวา ปรากฏร่างหวังหลินที่ยังคงนั่งหลับตาอยู่นิ่งๆ
“เยี่ยมมาก เขาน่าจะเป็นดาวข่มโชคของแคว้นมารเขียวได้เป็นอย่างดีและทำให้ท่านจ้าวมารเขียวพึงพอใจ…” ชายชรามองขึ้นไป แม้จะมองไม่เห็นใบหน้า แต่ดวงตาชั่วร้ายภายในชุดคลุมได้มองหวังหลินอย่างพอใจ
จ้าวสำนักเต๋ามารเอ่ยขึ้น “การจะจับเขาได้ สำนักเต๋ามารสูญเสียไปมหาศาล”
“เมื่อท่านจ้าวมารเขียวฟื้นคืนชีพ เจ้าจะได้รับรางวัลตามที่สัญญาไว้! แต่การจะข่มคนผู้นี้ ข้ายังต้องใช้กฎเต๋าพญามารของเจ้าด้วย เจ้ารู้อยู่แล้วว่าต้องทำอะไร จงลบล้างวิญญาณดั้งเดิมของเขา ทำลายความคิดและความทรงจำ!” ชายชราเอ่ยเสียงแหบพร่าและมองหวังหลินอย่างตื่นเต้น
“เจตจำนงของคนผู้นี้แข็งแกร่งมาก การทำลายความคิดและความทรงจำของเขาไม่ใช่เรื่องง่าย…” จ้าวสำนักเต๋ามารยิ้มออกมาและไม่ได้เริ่มทันที
“แค่ก…ในอนาคต แคว้นมารเขียวจะมีเพียงสำนักเดียว สำนักเต๋ามาร!” ชายชราชุดเขียวเกิดอาการไออย่างรุนแรงก่อนจะพูดขึ้นมา
“ดี ในเมื่อจวี่ซื่อรักษาคำพูด ข้าจะใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดและใช้กฎเต๋าพญามารเพื่อปลูกฝังเมล็ดพันธุ์เอาไว้ ปล่อยให้เขาทำลายจิตใจตัวเอง!” จ้าวสำนักเต๋ามารหัวเราะและไม่ลังเลอีกต่อไป แขนขวายื่นทะลุแสงและชี้ไปที่จุดกลางหน้าผากของหวังหลิน คว้าแสงสีขาวและดำที่ห่อหุ้มรอบตัวหวังหลินและโยนเข้าไปในสิ่งก่อสร้างรูปร่างแมงป่องขนาดยักษ์
หวังหลินพลันถูกโยนเข้าไปหาแมงป่อง ลอยทะยานเป็นเสียงลมหวีดหวิว เมื่อร่อนไปถึงจึงปรากฏวังวนขนาดยักษ์ขึ้นด้านหลังแมงป่องและถูกดูดเข้าไป
“ในร่างเขามีแก่นแท้หลายอย่าง ทั้งหมดมีอยู่แปดและหนึ่งในนั้นก่อเกิดร่างแก่นแท้ไปแล้ว! ในแปดนั้นมีอยู่หนึ่งแก่นแท้ที่เหมือนกับข้า ซึ่งก็คือแก่นแท้สายฟ้า!”
“ข้าจะใช้แก่นแท้สายฟ้านี้เชื่อมสัมพันธ์เพื่อทำลายจิตใจและความทรงจำ!” จ้าวสำนักเต๋ามารนั่งลง หลับตานิ่งไร้การเคลื่อนไหว
ชายชราชุดเขียวตรงปากแมงป่องจึงหันตัวกลับและเดินเข้าไปข้างใน เขากระแอมเบาลงช้าๆ องครักษ์ทั้งสองไม่พูดอะไรออกมาเลยและหายวับเข้าไปในแมงป่อง
ณ ส่วนที่ลึกที่สุดของแมงป่องคือความว่างเปล่าที่เต็มไปด้วยแสงสีเขียวไร้ขอบเขต แสงแต่ละเส้นคือดวงวิญญาณแมงป่องเขียวนับไม่ถ้วน พวกมันรวมกันในมิติแห่งนี้และส่งเสียงร้องอย่างต่อเนื่อง
หวังหลินนั่งนิ่งอยู่ในมิติว่างโดยไม่ได้เคลื่อนไหว ทว่าเหล่าแมงป่องเขียวนับไม่ถ้วนได้รวมกันรอบตัวเขาจนเกือบจะปกคลุมทั่วร่าง
เขาไม่ได้เคลื่อนไหวแต่ในดวงตาขวามีสายฟ้ากะพริบถี่ แก่นแท้หนึ่งกำลังเคลื่อนไหวไปทั่วร่างกายอย่างบ้าคลั่ง มันคือแก่นแท้สายฟ้าของเขา!
แก่นแท้สายฟ้าเคลื่อนไปรอบๆ จนเกิดเสียงปะทุออกมาจากร่างกาย สายฟ้าเส้นโค้งแผ่กระจายไปทั่ว
ตอนนี้หวังหลินตกอยู่ในอาการย่ำแย่ จิตใจและวิญญาณเงียบสนิทไร้สัญญาณการเคลื่อนไหว ทว่าสิ่งที่คนภายนอกไม่สามารถมองเห็น แม้แต่จวี่ซื่อหรือจ้าวสำนักเต๋ามารก็ไม่สามารถเห็นได้นั่นคือลูกปัดเม็ดหนึ่งที่กำลังหมุนอยู่ในวิญญาณหวังหลินอย่างช้าๆ
ทุกครั้งที่หมุนรอบ วิญญาณครบหนึ่งรอบ จิตใจและความทรงจำของหวังหลินจะสั่นเทาเล็กน้อยพร้อมกับได้รับการปกป้องจากแสงเบาบางหนึ่งชั้น
ราวกับตอนนี้เขาแยกออกมาจากร่างกายจนอยู่ในสภาวะแปลกประหลาด แก่นแท้สายฟ้าของเขาได้ทรงพลังยิ่งขึ้นและมีพลังเหนือกว่าแก่นแท้ที่เหลือ แม้จะยังด้อยกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับแก่นแท้เพลิงที่กลายเป็นร่างแก่นแท้ แต่พลังของมันยิ่งใกล้เคียงกันขึ้นเรื่อยๆ
ราวกับมีเส้นทางที่มองไม่เห็นเส้นหนึ่งถูกสร้างขึ้นระหว่างร่างหวังหลินและร่างของจ้าวสำนัก มันค่อยๆผสานเข้ากับแก่นแท้สายฟ้าของเขาที่ยังไม่ได้ก่อเกิดเป็นร่างแก่นแท้
เวลาค่อยๆ ผ่านไปอีกหลายเดือน
ช่วงระหว่างนี้แก่นแท้ของหวังหลินนั้นทรงพลังยิ่งขึ้นและส่งเสียงดังกึกก้องอยู่ในร่างกาย เขาดูดซับแก่นแท้สายฟ้าของจ้าวสำนักเต๋ามารซึ่งมีเจตจำนงเป็นของตัวเองไปเรื่อยๆ
เวลาหลายเดือนที่ผ่านมา จ้าวสำนักเต๋ามารที่นั่งอยู่ด้านนอกถึงกับขมวดคิ้ว เขาไม่คิดว่าแก่นแท้สายฟ้าของหวังหลินได้ดูดซับแก่นแท้สายฟ้าของเขาไปมากขนาดนี้และยังไม่สร้างเจตจำนงของตัวเองขึ้นมาสักที
แผนเดิมนั้นคิดว่าแค่หนึ่งเดือน แก่นแท้สายฟ้าของเขาจะเข้าไปแทนที่สายฟ้าของหวังหลินอย่างสิ้นเชิง เพราะแก่นแท้สายฟ้าของเขามีเจตจำนง เขาเพียงแค่ใช้วิธีนี้ก็จะลบล้างสัมผัสวิญญาณและความทรงจำของหวังหลินได้ตามคำขอของจวี่ซื่อได้อย่างสมบูรณ์
ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นคำขอของจวี่ซื่อ เขาคงใช้วิธีอื่นอีกนับไม่ถ้วนเพื่อลบล้างจิตใจหวังหลิน ทว่าวิธีเหล่านั้นหยาบช้าเกินไปและทำให้เกิดความเสียหายได้ ซึ่งความเสียหายแม้เพียงเล็กน้อยก็สามารถส่งผลกระทบต่อการชุบชีวิตแมงป่องมารเขียวได้ในอนาคต
ในวันหนึ่งของเดือนที่สี่ จ้าวสำนักเต๋ามารทนไม่ได้อีกแล้วและเอ่ยขึ้นมา “จวี่ซื่อ ข้าต้องการให้ท่านช่วย ไม่เช่นนั้นสิ่งที่ท่านขอไปคงเป็นเรื่องยากมาก”
เขารู้สึกช่วยไม่ได้เพราะถึงแม้แก่นแท้สายฟ้าเกือบทั้งหมดเข้าไปในร่างหวังหลิน มันก็ยังไม่สามารถเข้าไปแทนที่แก่นแท้ของหวังหลินจนสร้างเป็นเจตจำนงของตัวเองได้
เรื่องนี้ประหลาดมาก ราวกับมีวังวนอยู่ในร่างหวังหลินซึ่งกำลังดูดซับเจตจำนงของเขา ความจริงนั้นเป็นตามที่เขาคาดเดาไว้ ทุกครั้งที่ลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าหมุนครบหนึ่งรอบ นอกจากการปกป้องหวังหลินแล้วมันยังดูดซับพลังแปลกๆ ในร่างหวังหลินอีกเล็กน้อย
“ข้ามาแล้ว…แค่กๆ…” เสียงแหบพร่าและเก่าแก่ดังออกมาจากภายใน ก่อนที่จะพูดจบกลับมีเสียงไอขึ้นยาวๆ แล้วพูดต่อ
“ข้ามีลูกปัดสายฟ้าจักรพรรดิอยู่สองลูก ข้าได้มาจากแคว้นสายฟ้าจักรพรรดิ เดิมทีวางแผนจะมอบให้กับท่านจ้าวเมื่อเขาตื่นขึ้นมา…ข้าจะมอบให้เจ้าหนึ่งเม็ด…” ประกายสายฟ้าสีเทาส่องแสงออกมา แมงป่องเรืองแสงขึ้นและมีลำแสงหนึ่งสายทะยานเข้าหาจ้าวสำนักเต๋ามาร
มันเปลี่ยนกลายเป็นลูกปัดขนาดเท่ากำปั้น ลูกปัดนี้เต็มไปด้วยสายฟ้านับไม่ถ้วนและมีเงาเป็นรูปราชรถอยู่ข้างใน มีร่างคนอยู่บนราชรถดูราวกับจักรพรรดิแห่งสายฟ้า!
ด้วยระดับบ่มเพาะและความรอบรู้ของจ้าวสำนักเต๋ามาร เขาจึงรู้สึกจิตใจกระสับกระส่าย ดวงตาเผยแสงประหลาด ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาก่อนจะละทิ้งไป นี่คือของขวัญสำหรับแมงป่องเขียวหลังจากมันฟื้นคืนชีพ ดังนั้นเขาคงไม่กล้าเอาไป ถ้าไม่ใช่เพราะต้องลบล้างสัมผัสวิญญาณและความทรงจำของหวังหลิน จวี่ซื่อคงไม่มีวันเอาออกมา
จ้าวสำนักเต๋ามารไม่ลังเลอีกต่อไป เขาอ้าปากและสูดหายใจเข้าไป เส้นใยสายฟ้านับไม่ถ้วนลอยเข้าไปในปากและถูกเขากลืนเข้าไป ก่อนที่เขาจะเก็บมันเอาไว้ ทั้งหมดได้ถูกกฎเต๋าพญามารส่งเข้าไปในร่างหวังหลิน
ลึกเข้าไปในความว่างเปล่าที่อยู่ในแมงป่อง ร่างหวังหลินสั่นเทาอย่างรุนแรง แก่นแท้สายฟ้าในร่างกายพลันเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นอย่างมหาศาลและแสดงทีท่าว่ากำลังก่อเกิดเป็นร่างแก่นแท้สายฟ้า!