Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน - ตอนที่ 1895
เขาตัดสินใจที่จะรอ อายุขัยยังเหลืออยู่เกือบหกสิบปี เขาไม่ต้องการละทิ้งเครื่องบรรณาการที่ตระกูลเตรียมการไว้หลายรุ่นเพียงเพื่อความคิดลังเล
เวลาแปดสิบปีนั้นมากเท่าทั้งชีวิตของคนผู้หนึ่ง แต่กับหวังหลินคือเวลาที่เขาอยู่ในอารามแมงป่องเขียว
ช่วงแปดสิบปีนี้เขาไม่สามารถดูดซับพลังงานอันใดหรือบ่มเพาะได้ เขาทำได้แค่เพียงรอคอยอยู่ใต้พลังป้องกันของลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าเท่านั้น ขณะที่รอคอยไปเงียบๆ เขาจึงเหมือนกับชายชรา ความทรงจำและหลายสิ่งหลายอย่างกลายเป็นภาพพร่ามัว
ราวกับมีม่านหมอกทำให้เขาไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน หรือกล่าวให้ถูกก็คือความทรงจำกำลังโดนปิดผนึก
เขาลืมเลือนหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นแคว้นกระทิงสวรรค์หรือโลกถ้ำ ลืมเรื่องอันตรายข้างใน ตกอยู่ในสภาวะที่คล้ายกับการผสานเข้ากับโลกแต่ไม่เหมือนกับวิชาบิดมิติ
ทว่าในใจยังมีร่างหลายคนที่เขาไม่สามารถลืมได้และไม่ต้องการลืม…ในร่างเหล่านั้นมีครอบครัวของเขาและหญิงสาวที่กำลังเล่นพิณด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน…
บางคนยุ่งยากวุ่นวายกับชีวิตและหลงลืมเป้าหมายของการไปเกิดใหม่…
บางคนมีชีวิตธรรมดา มีแค่ก่อนตายจึงมองไปบนท้องฟ้าและจำได้ว่าสูญเสียเป้าหมายของตัวเอง…
บางคนยอมทิ้งโลกทั้งใบเพียงเพื่อตามหาคนคนหนึ่ง…แม้อาจเป็นแค่สิ่งที่คิดไปเอง เขาก็กำลังจะฝืนลิขิตมัน…
เวลาผ่านไปอีกครั้ง คราวนี้ไม่ใช่สี่สิบปีแต่เป็นอีกสามสิบปี…หลังจากหวังหลินอดทนด้วยความมุ่งมั่นมา 110 ปี ชายชราชุดเขียวจึงตัดสินใจได้!
เขารอไม่ได้อีกแล้ว อายุขัยเหลืออยู่ไม่ถึงสามสิบปีและไม่ต้องการทดสอบหวังหลินอีกต่อไป เขาไม่เชื่อว่าจะมีคนที่สามารถรอแบบนี้ได้ถึง 110 ปี นี่ไม่ใช่การฝึกฝนแต่เป็นการเดินเข้าหาความตาย!!
เขาเห็นร่างหวังหลินใช้การไม่ได้โดยสมบูรณ์ หากมีวิญญาณดั้งเดิมอยู่ เมื่อร่างกายหยาบถูกทำลาย วิญญาณคงจะโดนรุมและโดนแมงป่องกลืนกิน เขาไม่เชื่อว่าจะมีคนอดทนรอความตายมาได้ถึงขนาดนี้!
วันนี้ของปีที่ 110 ชายชราชุดเขียวพลันยืนขึ้น ก้าวเดินเข้าหามิติที่มีหวังหลินอยู่ข้างในพร้อมกับองครักษ์สองคน
จากนั้นไม่นาน เสียงกระแอมดังเบาๆ ขึ้นในอารามแมงป่อง
ณ มิติสีเขียว ชายชราร่างกายอ่อนแอก้าวเดินออกมาจากระลอกคลื่น เขามองร่างหวังหลินที่มีแมงป่องจำนวนมากปกคลุมและขบคิดอยู่สักพัก
“ข้าไม่รู้ว่าเจ้าได้ยินข้าหรือไม่ หากเจ้าได้ยินข้า ข้าเองก็ขอชื่นชมความอดทนของเจ้า…การจะอดทนได้มากกว่าร้อยปีด้วยสภาพแวดล้อมเช่นนี้ ข้าเองก็ไม่สามารถทนได้…”
“จากที่ผู้ส่งสาส์นมารเขียวสัมผัสได้ การต่อสู้ระหว่างแคว้นมารเขียวและแคว้นกระทิงสวรรค์มาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว …” ชายชราชุดเขียวหยุดพูดไปช่วงหนึ่ง
ผ่านไปสักพักจึงเอ่ยเสียงดังกึกก้องอีกครั้ง
“หากเจ้าได้ยินข้า หากเจ้าอดทนอยู่จริงๆ เช่นนั้นข้าก็หวังว่าหลังจากเจ้าได้รับโชคอันยิ่งใหญ่นี้ เจ้าจะไม่ทำให้แคว้นมารเขียวลำบากเกินไป…หากเจ้าทำมันได้ ถึงแม้ยังมีจิตใจอยู่ ข้าจะมอบโชควาสนานี้กับเจ้าโดยไม่ลังเล!!”
ชายชราชุดเขียวพึมพำ คำพูดของเขาเผยความเหนื่อยล้า
“ข้าแก่แล้วและจะตายในอีกไม่กี่สิบปี ข้าเหนื่อยมามากตลอดหลายปี…ภารกิจของตระกูลข้าคือการคุ้มกันที่นี่…”
“หลังจากข้าตาย ข้าหวังว่าเจ้าจะให้สัญญากับข้าว่าจะพาเถ้าธุลีที่ฝังอยู่ที่นี่กลับไปยังแคว้นกลาง เพราะนั่นคือบ้านของตระกูลข้า…” คำพูดของชายชราเหมือนคำพูดสุดท้ายก่อนตาย ทั้งหมดทั้งมวลเผยความรู้สึกจริงใจ
แต่!!
มือขวาที่ซ่อนอยู่ใต้เสื้อผ้ามีหินหยกอยู่หนึ่งก้อน หินหยกก้อนนี้สีเขียวและไม่ได้ใช้เพื่อบ่มเพาะ จวี่ซื่อแต่ละรุ่นสามารถใช้ได้เท่านั้น หน้าที่หลักของมันนอกจากการทำลายแล้วคือการตรวจจับจิตใจที่ผันผวนอยู่ใกล้ๆ
หากจิตใจหวังหลินไม่นิ่งพอ เขาจะใช้หินหยกสังหารโดยไม่ลังเลและไม่ได้จิตใจดีเหมือนคำพูด!
นี่คือบททดสอบสุดท้าย!
หลังจากพูดจบไปสักพัก หินหยกในมือไม่เกิดปฏิกิริยาอะไรเลย ชายชราชุดเขียวผ่อนคลายลง เก็บหินหยกไปและมองดูเหล่าแมงป่องจำนวนมากตรงหน้า จากนั้นกัดปลายลิ้นและพ่นโลหิต
โลหิตกระจายใส่พื้นที่ด้านล่าง เหล่าแมงป่องทั้งหมดส่งเสียงฝ่อและถอยอย่างรวดเร็ว ร่างเหี่ยวแห้งของหวังหลินที่จมอยู่ด้านล่างจึงเผยออกมา
“แปดแก่นแท้ ยังขาดอยู่หนึ่ง…” ชายชราพึมพำ จากนั้นยกแขนขวาขึ้นมา เสื้อคลุมสะบัดพริ้วเผยให้เห็นแขนข้างขวาที่มีเส้นขนสีเขียวเต็มไปหมด แขนนั้นเหี่ยวแห้งและมีกลิ่นเน่าเหม็น
เส้นขนสีเขียวทั้งหมดหลุดออก แสงสีเขียวเข้ามาล้อมรอบแขนขวา จากนั้นแขนก็หลอมละลายกลายเป็นลูกปัดสีเหลืองน้ำตาลลอยออกมา
“ด้วยลูกปัดเมิ่งตูทั้งสามก้อนนี้ เจ้าน่าจะสามารถถือกำเนิดแก่นแท้ปฐพีได้!” ชายชราหายใจถี่พลางสะบัดแขนซ้ายส่งลูกปัดทั้งสามไปหาหวังหลิน หนึ่งนั้นพุ่งไปตรงกลางหน้าผาก อีกหนึ่งพุ่งเข้าสู่หน้าอกและเม็ดสุดท้ายเข้าสู่ตรงจุดตันเถียน
พอลูกปัดทั้งสามเข้าสู่ร่างหวังหลินจึงเกิดอาการสั่นสะท้าน แสงสีเหลืองเข้มแพรวพราวโผล่ออกมาจากร่างกายทันที
เหล่าแมงป่องรอบด้านส่งเสียงขู่และล่าถอย พวกมันดูเหมือนมีความรู้สึกไวต่อแสง แสงนี้กะพริบอยู่หลายชั่วโมงและจากนั้นมีชั้นพื้นดินปกคลุมหวังหลิน
หวังหลินกลายเป็นมนุษย์โคลนและยังคงแน่นิ่ง
เวลาดำเนินผ่านไปอีกครั้ง ชายชราชุดเขียวไม่ได้จากไปแต่นั่งลงมองหวังหลินด้วยท่าทีจริงจัง ความฝันของตระกูลกำลังจะบรรลุ นี่เป็นเรื่องสำคัญมาก
สามวันต่อมา ชั้นพื้นดินบนร่างหวังหลินไม่ได้เปลี่ยนแปลงเลย ทำให้ชายชราประหลาดใจ
‘ลูกปัดเมิ่งตูสามเม็ดยังไม่พอ…จะให้พอได้ต้องทำให้บรรลุร่างแก่นแท้ปฐพี…’ ชายชราขมวดคิ้วและกดแขนซ้ายไว้กลางหน้าผากตัวเอง เขาใช้วิธีพิเศษบางอย่างเพื่อดึงเม็ดทรายออกมาสามเม็ด!
เม็ดทรายทั้งสามเป็นสีแดงเข้ม ราวกับชุ่มไปด้วยโลหิต
พอมองเม็ดทรายในมือ ชายชราจึงถอนหายใจ ตระกูลเขาใช้ความพยายามอย่างมากและใช้เวลาหลายปีเพื่อรวบรวมเม็ดทรายทั้งสามนี้ ลือกันว่าตอนที่บรรพชนเทพสร้างแคว้นขึ้นมา มันคือสามในเก้าเม็ดทรายที่เต็มไปด้วยแก่นแท้ปฐพี!
นอกจากทรายทั้งสามเม็ดนี้แล้ว อีกห้าเม็ดถูกคนอื่นดูดซับไปเพื่อเอาแก่นแท้ปฐพี เม็ดสุดท้ายถูกเปลี่ยนกลายเป็นผืนปฐพีที่ตั้งของเมืองหลวง!
ของชิ้นนี้มีคุณค่ามหาศาลและมีไม่กี่คนที่ได้เห็นมัน ชายชราโยนหนึ่งเม็ดไปหาหวังหลินโดยไม่ลังเล
พอเม็ดทรายเข้าสู่ร่างหวังหลิน เสียงระเบิดดังสนั่น ชั้นดินเบาบางรอบร่างพลันขยายขนาดขึ้นอย่างรวดเร็วถึงเก้าสิบฟุต
ก้อนดินปลดปล่อยแก่นแท้ปฐพีอันทรงพลังยิ่งและคงอยู่แบบนี้ไปเก้าวันก่อนจะหดลงจนหายไป จากนั้นแผ่กระจายออกมาจากร่างหวังหลินอีกครั้งและทำแบบเดิมแปดรอบจนสูญเสียประสิทธิภาพ
แต่ก่อนที่จะสูญเสียประสิทธิภาพจนหมด ชายชราชุดเขียวโยนเม็ดทรายที่สองออกไป เสียงจากร่างหวังหลินดังสนั่นอีกครั้ง แก่นแท้ปฐพีเริ่มโคจรอีกรอบ
คราวนี้มันโคจรเก้าครั้งจนสมบูรณ์ แก่นแท้ปฐพีจำนวนมหาศาลพรั่งพรูออกจากร่างหวังหลิน ภายในร่างเขาได้มีแก่นแท้ที่เก้าเพิ่มขึ้นมาแล้ว!!
แต่มันยังไม่จบ ต่อจากเรื่องแก่นแท้ที่เก้า พลังอำนาจของแก่นแท้ปฐพียังไม่หมดลง มันเพิ่มขึ้นจนกำลังจะสร้างร่างแก่นแท้อย่างรวดเร็ว
ชายชราชุดเขียวยืนขึ้นอย่างตื่นเต้นและสะบัดแขนซ้าย ส่งเม็ดทรายเม็ดที่สามออกไปหาหวังหลิน ร่างกายที่เหี่ยวแห้งของหวังหลินเกิดการฟื้นตัว อาการบาดเจ็บทั้งหมดหายเป็นปลิดทิ้ง
แก่นแท้ปฐพีขยายตัวออกทันทีและดูดซับแก่นแท้ปฐพีจากเม็ดทรายที่สาม จากนั้นร่างแก่นแท้ร่างที่สามเผยสัญญาณการปรากฏตัว
แต่เมื่อไม่มีเจตจำนงของหวังหลิน ร่างแก่นแท้จึงไม่สามารถสร้างขึ้นได้อย่างสมบูรณ์ หากวิญญาณดั้งเดิมของหวังหลินโผล่ออกมาจากการป้องกันของลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า เขาสามารถครอบครองร่างแก่นแท้สายฟ้าและปฐพีได้ เขาจะกลายเป็นเซียนที่มีร่างแก่นแท้สามร่างในทันที!
ด้วยร่างแก่นแท้ทั้งสามนี้ แม้จะอยู่ในขั้นวิญญาณดับสูญระดับปลาย ความแข็งแกร่งก็ยังคงเพิ่มขึ้นหลายเท่า!
นอกเหนือจากนั้นตอนนี้หวังหลินมีเก้าแก่นแท้ไปแล้ว พอให้วิญญาณดั้งเดิมออกมา เขาจะสามารถใช้เก้าแก่นแท้เพื่อทะลวงเข้าสู่ขั้นแก่นแท้ดับสูญได้เลย!!!
‘ร่างเขามีสามแก่นแท้นามธรรมและมีสองแก่นแท้พิเศษ ที่เหลืออีกสี่ล้วนเป็นรูปธรรมทั้งหมด…ข้าไม่มีวิธีอะไรในการสร้างร่างแก่นแท้ให้แก่นแท้นามธรรมและแก่นแท้พิเศษ แต่ข้ามีวิธีสำหรับแก่นแท้รูปธรรมชนิดที่สี่!’ ชายชราชุดเขียวกำลังตื่นเต้น