Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน - ตอนที่ 1904
หวังหลินส่ายศีรษะ เขาไม่รู้ว่าคนอื่นผ่านด่านวิบากแก่นแท้กันอย่างไร แต่หิมะนี้ไม่สามารถทะลุทะลวงผ่านร่างแก่นแท้ของเขาไปได้และสายลมก็ไม่สามารถเอาชนะความแข็งแกร่งทางร่างกายของเขาได้เช่นกัน
แม้สายลมนี้จะพัดมาใส่สักร้อยปี มันก็ไม่สามารถฉีกกระชากร่างของเขาเป็นชิ้นๆ ได้เลย
ร่างกายหวังหลินไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้ หลังจากได้รับการเสริมพลังจากชายชราชุดเขียว ร่างกายจึงแข็งแกร่งและยืดหยุ่นยิ่งขึ้น ความแข็งแกร่งและความทนทานแบบนี้ไม่ได้รับผลกระทบจากสายลมเลย!
หวังหลินยกแขนซ้ายยื่นเข้าหาพายุทอร์นาโดรอบร่างกาย เขาดึงมันออกอย่างลวกๆ! เกิดเป็นเสียงดังกึกก้อง พายุทอร์นาโดแตกสลายจากชั้นแรกตรงไปสู่ชั้นที่เก้า มันระเบิดทั้งหมดและหายไปทันที
สายลมแตกกระเจิง หวังหลินยังคงนั่งดื่มสุราต่อไป ร่างแก่นแท้ห้าธาตุยืนอยู่ด้านหลัง จ้องมองท้องฟ้าอย่างเยือกเย็น
ท้องฟ้ามืดครึ้มราวกับใบหน้าอันหมองหม่น ไม่นานนักก้อนเมฆหายนะเต็มไปทั่วท้องฟ้า มันมีสายฟ้าแล่นผ่านและส่องสว่างจนถึงพื้นปฐพีด้านล่าง
เหล่าเซียนจากแคว้นมารเขียวซึ่งอยู่ห่างไกลไปหลายพันลี้ได้เป็นสักขีพยานหายนะแห่งหิมะและสายลม ตอนนี้พวกเขากลับเงียบสนิท
เสียงสายฟ้าดังรุนแรงมากยิ่งขึ้นและมีก้อนเมฆหายนะก่อตัวปกคลุมท้องฟ้ายิ่งกว่าเดิม พวกมันกดทับลงมาและมีสายฟ้าแล่นผ่านอยู่ภายใน ก้อนเมฆได้เผยความบ้าคลั่งและรุนแรง
ทว่ากลับไม่มีอะไรทำให้หวังหลินต้องลงมือ เขาดื่มสุราอย่างนิ่งเฉย จ้องมองก้อนเมฆและสายฟ้าในท้องฟ้า พลางหัวเราะขึ้น
“สายฟ้า?” หวังหลินมองก้อนเมฆและสายฟ้าในท้องฟ้าอีกครั้ง ส่ายศีรษะและดื่มไปอีกจิบ
เพียงแค่เขาส่ายศีรษะ ก้อนเมฆก็ส่งเสียงดังลั่น พวกมันเคลื่อนไหวไปพร้อมกับสายฟ้า กระหน่ำเทลงมาหาหวังหลิน สายฟ้านี้มีพลังอันน่าตกตะลึง พริบตาเดียวมันก็เข้าประชิดเพื่อจะสังหารหวังหลิน!
“เจ้ากล้าหรือ!?” หวังหลินพลันเงยหน้าและร้องคำราม!
เสียงคำรามเหนือล้ำกว่าเสียงแห่งสายฟ้าและกดทับเสียงดังสนั่นจากก้อนเมฆ เจตจำนงแห่งสายฟ้าระเบิดออกมาจากร่างหวังหลิน มันคือเจตจำนงของจ้าวแห่งสายฟ้า!!
สายฟ้าที่กำลังตกลงมาพลันหยุดชะงักและล่าถอยห่างจากหวังหลินไปพันฟุต ไม่เพียงแต่จะไม่โจมตีหวังหลิน มันพุ่งทะยานกลับเข้าไปยังก้อนเมฆหายนะ!
“ตั้งแต่ที่แก่นแท้สายฟ้าของข้าบรรลุความสมบูรณ์ มีเพียงข้าเท่านั้นที่สามารถใช้สายฟ้าใส่คนอื่น!” หวังหลินยกแขนซ้ายขึ้นมาและยื่นหาก้อนเมฆ ก้อนเมฆสั่นสะท้านและส่งเสียงคำรามราวกับไม่สามารถทนต่อแรงกดดันได้ สายฟ้าทั้งหมดข้างในไหลออกมาหาหวังหลิน
สายฟ้ามหาศาลรวมกันเบื้องหน้าแขนซ้ายและก่อเกิดเป็นก้อนสายฟ้า หวังหลินสะบัดแขนส่งก้อนสายฟ้าเข้าไปในท้องฟ้าและปะทะกับก้อนเมฆหายนะ
ก้อนเมฆหายนะพังทลายโดยไร้อาการต่อต้าน ความมืดมิดที่ปกคลุมโลกพลันหายวับไปทันที!
วิบากแก่นแท้ด่านที่สามพังทลายไปเรียบร้อย!
ห่างออกไปหลายพันลี้ เหล่าเซียนจากแคว้นมารเขียวมากกว่าสิบคนไม่สามารถมองเห็นหวังหลินได้ แต่พวกเขารู้สึกได้ถึงการผ่านด่านวิบากแก่นแท้ทั้งสามด่านอย่างง่ายๆ นี้ มันเหนือล้ำเกินกว่าจะเชื่อ!
พลังของด่านวิบากแก่นแท้ทั้งสามนั้นนับว่าธรรมดา มีเซียนที่ใจกล้าพอก็จะผ่านไปได้ ทว่ายังต้องใช้เวลาอยู่บ้างและคงต้องใช้พลังงานจำนวนมากเพื่อผ่านด่านทั้งสามในรอบเดียวเพื่อให้ได้รางวัลเพิ่มขนาดวิญญาณดั้งเดิมขึ้นสองเท่า
แต่หายากนักที่จะมีคนผ่านมันได้ง่ายๆ!
“ต้องเป็นท่านมารเขียว! ไม่เช่นนั้นคงไม่มีทางที่จะมีใครทำได้แบบนี้!”
“ด้วยระดับบ่มเพาะของท่านมารเขียวที่เขาเคยผ่านด่านวิบากแก่นแท้มาแล้ว คราวนี้จึงเผชิญพวกมันอีกครั้งอย่างสบายๆ!”
เหล่าเซียนจากแคว้นมารเขียวเผยความเคารพ พวกเขามองเข้าไปในพื้นที่ที่ปกคลุมด้วยแรงกดดันวิบากแก่นแท้ รอคอยให้ท่านมารเขียวก้าวเดินออกมา
หวังหลินยังคงนั่งบนหางแมงป่องและมองออกไปยังท้องฟ้า ด่านวิบากแก่นแท้ทั้งสามที่ผ่านมาทำให้เขาผิดหวัง ตอนนี้เขากำลังรอคอยด่านที่สี่และอยากเห็นว่ามันจะน่าดูแค่ไหน
หวังหลินใช้ความสงบนิ่งเพื่อเฝ้าดูความงดงามของด่านวิบากแก่นแท้
‘ด่านวิบากแก่นแท้ที่สี่จะออกมาเป็นแบบไหนกัน…’ หวังหลินดื่มไปหนึ่งจิบ
จังหวะนี้เองเกิดระลอกคลื่นนับไม่ถ้วนขึ้นในท้องฟ้า ระลอกคลื่นแผ่กระจายและไม่นานก็ปกคลุมท้องฟ้าทั้งหมด
จากนั้นแรงกดดันหนึ่งแผ่กระจายและห่อหุ้มทั่วบริเวณ กลองยักษ์ขนาดหมื่นฟุตตกลงมาจากท้องฟ้า
กลองทั้งสองฝั่งสร้างขึ้นจากวัตถุดิบบางอย่าง ตอนที่ตกลงมามันไม่เกิดเสียงแต่เปล่งกลิ่นอายเก่าแก่
หวังหลินมองเข้าไปและถือขวดสุราเอาไว้
“น่าสนใจขึ้นมาหน่อย…” เพียงแค่เขาพึมพำ แววตาทอประกายวูบวาบ
ขณะเดียวกันเสียงกลองดังกึกก้องราวกับพลังที่มองไม่เห็นเข้าปะทะใส่ ราวกับมีคนับไม่ถ้วนกำลังตีกลองจากทิศทางที่แตกต่างกัน กลายเป็นคลื่นเสียง
วินาทีนั้นโลหิต เลือด กระดูกและเส้นชีพจรทั้งหมดของหวังหลินเกิดอาการสั่นเทา เขาสัมผัสได้ว่าเสียงกลองไม่ได้ออกมาจากหน้ากลอง แต่เป็นร่างของเขาเอง!
สิ่งนี้ทำให้แววตาหวังหลินทอประกายแสงรุนแรงยิ่งขึ้น เขารู้สึกถึงความรู้สึกคันๆ แล่นกระจายไปทั่วร่าง วินาทีนี้ร่างกายไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เนื่องจากมีแรงสั่นสะเทือนจากเสียงกลอง!
สายหมอกจำนวนมากก่อตัวขึ้นมากลายเป็นหมอกกระบี่ยักษ์ กระบี่เล่มนี้ดูราวกับภาพมายา ราวกับไม่มีอยู่จริง แต่วินาทีนั้นมันกลับปลดปล่อยจิตสังหารมหึมา
เพียงแค่กระบี่ยกขึ้นไปในอากาศ จิตสังหารจึงยิ่งแผ่กระจายอย่างรุนแรง จากนั้นฟาดฟันตรงเข้าสู่ศีรษะของหวังหลิน!
กระบี่เล่มนี้ไม่ได้กำลังจะผ่าร่างหวังหลินหรือวิญญาณดั้งเดิม มันกำลังจะตัดการเชื่อมต่อระหว่างร่างกายและวิญญาณ เมื่อตัดขาด วิญญาณและวิญญาณดั้งเดิมจะไม่สามารถกลับเข้าสู่ร่างได้อีกครั้ง กระบี่เล่มนี้ส่งผลต่อสายโลหิตซึ่งจะทำให้ร่างกายและวิญญาณเป็นเสมือนน้ำกับไฟ!
มันจะบังคับให้วิญญาณและวิญญาณดั้งเดิมอยู่นอกร่างกายไปตลอดกาล!
นี่คือหายนะภายในด่านแรก หายนะแห่งการแยก! กลองคือกุญแจสำคัญ ทันทีที่มันปรากฏขึ้นมา เป็นตัวชี้วัดว่าด่านวิบากแก่นแท้หายนะภายในได้เริ่มขึ้นแล้ว!
หายนะนี้ประหลาดมาก นับตั้งแต่ยุคโบราณมีเซียนหลายคนตายไปมากมาย เมื่อวิญญาณดั้งเดิมและวิญญาณถูกบังคับให้ออกมา ร่างกายจะแตกสลายไปเพราะเสียงกลอง จากนั้นวิญญาณและวิญญาณดั้งเดิมจะแตกสลายตามมาติดๆ
หมอกกระบี่เงียบเชียบแต่มีจิตสังหารพรั่งพรูออกมาราวกับควันสีดำพุ่งทะยานหาหวังหลิน ตลอดหลายชั่วอายุคนมีเซียนนับไม่ถ้วนถูกกระบี่เล่มนี้ฟาดฟันใส่ วิญญาณและร่างกายแยกขาดจากกันอย่างสิ้นเชิง
ตอนนี้กระบี่ได้ปรากฏขึ้นอีกครั้งและฟาดฟันใส่หวังหลิน!
หวังหลินไม่รู้ว่าเซียนส่วนที่ผ่านด่านวิบากแก่นแท้ภายในทั้งสามต้องเตรียมการมานานก่อนที่จะกล้าลองของ ทั้งหมดต่างก็ผ่านแต่ละด่านไปด้วยการค้นหาโอกาสรอดชีวิตอันน้อยนิดอย่างระมัดระวัง!
วินาทีนี้เสียงกลองมาถึงขีดจำกัดในร่างหวังหลิน แต่ไม่สามารถหยุดการเต้นหัวใจได้ เขาไม่รู้ว่าคนอื่นเผชิญหน้ามันอย่างไร แต่หวังหลินมีวิธีของตัวเอง อัตราเต้นหัวใจเพิ่มความเร็วขึ้นและเสียงดังดุจสายฟ้า เสียงหัวใจเต้นปะทะกับเสียงกลอง ทำให้เขาได้กลับมามีพลังเคลื่อนไหวอีกครั้ง
ชั่วจังหวะที่เขาสามารถเคลื่อนไหวได้ หมอกกระบี่กำลังเข้าประชิด หวังหลินปล่อยขวดสุราในมือขวา ยกฝ่ามือขึ้นมาและพลันปรากฏดาบหยินขึ้นในทันที ตัวดาบเปล่งกลิ่นอายเย็นเยียบราวกับโผล่ออกมาจากขุมนรก!
“ดี เข้ามา!” หวังหลินยิ้มและไม่ได้ลุกขึ้น เขาใช้ดาบหยินฟาดฟันเข้าใส่หมอกกระบี่
ดาบและกระบี่เข้าปะทะกันในทันทีจนเกิดเสียงดังสนั่นกึกก้อง หมอกกระบี่สั่นเทาอย่างรุนแรง จากนั้นเกิดรอยแตกร้าวและแตกสลายไป จิตสังหารจากกระบี่ไม่ยอมถอยและพุ่งเข้ามากลืนกินหวังหลิน วินาทีนี้ภายในร่างหวังหลินมีจิตสังหารทรงพลังยิ่งกว่าที่มาจากหมอกกระบี่ได้ระเบิดออกมา มันเข้าไปกลืนกินจิตสังหารจากหมอกกระบี่และพุ่งเข้าสู่ท้องฟ้า
จิตสังหารนี้คล้ายกับมีจิตวิญญาณ มันแตกสลายและล่าถอยราวกับไม่กล้าสู้กับจิตสังหารของหวังหลิน จากนั้นมันจึงแตกสลายไปอย่างรวดเร็ว
ด่านวิบากแก่นแท้ภายใน ด่านแรกได้พังทลาย! ขณะที่จิตสังหารแตกสลาย เสียงกลองดังออกมาจากท้องฟ้าอีกครั้ง!
เสียงนี้รุนแรงยิ่งกว่าครั้งก่อนหลายเท่าและเกิดคลื่นเสียงแผ่กระจาย ราวกับกลองสงครามกำลังเพิ่มเสียงเข้าทำลายล้างโลก!
นาทีที่เสียงดังออกมา หวังหลินยืนขึ้นเป็นครั้งแรก แขนซ้ายคว้าจับขวดสุราที่ปล่อยออกมาจากมือขวาและดื่มไปหนึ่งอึก จากนั้นพุ่งทะยานเข้าสู่ท้องฟ้า!
“ข้าจะทำลายกลองนี้ มาดูกันว่าด่านวิบากแก่นแท้จะเหลืออะไรหลังจากนี้!”