Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน - ตอนที่ 1911
ขณะที่หวังหลินทำลายค่ายกลของสำนักเต๋ามารและยกดาบหยินขึ้นมาอยู่นั้น สงครามในแคว้นกระทิงสวรรค์กำลังมาถึงจุดสำคัญ
สงครามที่กินเวลามากกว่าร้อยปี ยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งลุกลามออกไปเรื่อยๆ พื้นที่หลายสิบล้านลี้กลายเป็นพื้นที่สงครามซึ่งส่วนใหญ่เป็นของแคว้นกระทิงสวรรค์
เหล่าเซียนจากแคว้นมารเขียวจำนวนมากข้ามผ่านทะเลโอสถอันว่างเปล่าและเข้าไปยังแคว้นกระทิงสวรรค์ภายใต้การนำของเซียนขั้นที่สามและผู้สูงส่งหลายคน ม่านพลังป้องกันของแคว้นกระทิงสวรรค์พังทลายไปหลายชั้นและถูกไล่สังหารจนถึงแกนกลาง
เหล่าเซียนจากแคว้นมารเขียวมีสองกองทัพ เข้าโอบล้อมสำนักกุ้ยยี่และสำนักมหาวิญญาณเพื่อต่อสู้ในศึกสุดท้าย!
บรรพชนผู้สูงส่งชั้นทองจำนวนสองในสามคนของแคว้นมารเขียวได้รวมกันอยู่ด้านนอกสำนักมหาวิญญาณ
ส่วนทางสำนักกุ้ยยี่ มีผู้สูงส่งหลายคนกำลังนำทัพเซียนจากแคว้นมารเขียวเข้าไล่สังหาร
การรบกินเวลามาร้อยปีแล้วแต่ความรุนแรงของมันเกินกว่าบันทึกในประวัติศาสตร์ เหล่าเซียนจากทั้งสองแคว้นล้วนตายไปนับไม่ถ้วน!
สูญเสียเซียนขั้นที่สาม สูญเสียผู้สูงส่ง และสูญเสียเซียนจำนวนมากมาย
อย่างไรก็ตามช่วงระหว่างสงครามทั้งสองแคว้น มีคนไร้ชื่อเสียงบางคนเปล่งประกายดุจดวงดาวและมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งสองแคว้น หรือคนที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วก็ยิ่งมีมากขึ้นในสงครามนี้
ทางฝั่งของแคว้นกระทิงสวรรค์ หยุนยี่เฟิงอยู่ในกลุ่มนั้น! เขาสังหารเซียนจากแคว้นมารเขียวจำนวนมาก บรรลุระดับบ่มเพาะอันสูงส่งด้วยวิชาแปดดาบผ่าวิญญาณจนเขามีชื่อเสียงโด่งดัง!
หลายเดือนก่อนเขาออกมาจากอารามแมงป่องและกลับสู่แคว้นกระทิงสวรรค์เพื่อเข้าร่วมในศึกสุดท้าย!
นอกจากเขาแล้วก็ยังมีถังเจียและขอบเมฆาที่มีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นจากเกราะวิญญาณกระทิงสวรรค์!
หลายคนจากสำนักมหาวิญญาณมีชื่อเสียงเพิ่มขึ้นและกลายเป็นแสงเจิดจรัส!
แคว้นมารเขียวเองก็มีเซียนที่โด่งดังขึ้นเช่นเมฆาสูญสิ้นที่หวังหลินสังหารไปสองครั้ง ร่างกายดั้งเดิมของเขายังอยู่ในแคว้นกระทิงสวรรค์ ที่หวังหลินสังหารเป็นเพียงร่างอวตารเท่านั้น
การบ่มเพาะด้านกระบี่ของเมฆาสูญสิ้นช่างอัศจรรย์และทำให้ทุกคนสนใจ นอกจากเมฆาสูญสิ้นแล้วยังมีอีกหลายคนที่โด่งดังขึ้นมาในสงคราม ซึ่งมีเกือบยี่สิบคนที่เป็นหัวเรือหลักในสงคราม!
ราวกับเป้าหมายของสงครามครั้งนี้เพื่อเปล่งประกายเหล่าเซียนเกือบยี่สิบคนเหล่านี้!
สงครามดำเนินต่อไปรอบสำนักมหาวิญญาณและสำนักกุ้ยยี่ เซียนจำนวนสิบคนจากทั้งสองฝั่งปลดปล่อยระดับบ่มเพาะเต็มกำลังราวกับสนามรบคือสนามที่พวกเขาแสดงฝีมือให้เป็นที่ประจักษ์!
หวังหลินยังคงอยู่ในสำนักเต๋ามาร!
หวังหลินไม่ต้องการเผยตัวเอง เขาเพียงต้องการล้างแค้น แต่การจะทำเรื่องนี้ได้เขาจะต้องเผยแสงของตัวเองออกมา หากใครที่กำลังให้ความสนใจสงครามระหว่างสองแคว้น พวกนั้นคงจะไม่สนใจหวังหลินแน่นอน!
สิ่งที่หวังหลินกำลังทำอยู่ไม่ใช่สิ่งที่เหล่าสิบหกอัจฉริยะจะเทียบได้!
หวังหลินกระโจนขึ้นสู่อากาศ ยกดาบหยินขึ้นมา ด้านหลังมีร่างแก่นแท้ห้าธาตุและร่างแก่นแท้สายฟ้าต่างก็ยกดาบหยินขึ้นมาและฟาดฟันลงใส่เซียนทั้งสองที่กำลังเข้ามา!
ร่างทั้งสามเจิดจรัสอยู่ใต้ดวงอาทิตย์และเข้าประชิดกันในเสี้ยววินาที!
เสียงคำรามสั่นสะเทือนสวรรค์เข้ามาแทนที่เสียงทุกอย่างในอาณาบริเวณ ดูดกลืนความสนใจของเซียนทั้งสามหมื่นคนด้านล่าง ราวกับเวลาได้หยุดชะงักไปในตอนนี้!
การต่อสู้ครั้งนี้จะทำให้หวังหลินมีชื่อเสียงโด่งดังบนแผ่นดินเซียนดารา ทำให้ชื่อหวังหลินถูกขับขานบนแผ่นดินเซียนดารา!!
ต่อสู้กับผู้สูงส่งขั้นวิบากดับสูญทั้งสองคนด้วยตัวคนเดียวก็มากพอให้ทุกคนตกตะลึงแล้ว! พวกเขายังเป็นผู้สูงส่งที่แท้จริงและถึงแม้อาจจะไม่ได้เป็นผู้สูงส่งชั้นทองแต่ก็ยังน่าหวาดหวั่นจนทุกคนใฝ่ฝัน!!
หนึ่งในสองคนนี้ไม่ว่าคนใดก็ทรงพลังยิ่งกว่าราชันย์เทพสีรุ้งไปแล้ว พวกเขาสามารถสังหารราชันย์เทพสีรุ้งได้ง่ายๆ เหมือนปอกกล้วยเข้าปาก
วันนี้ทั้งสองกำลังโจมตีพร้อมกัน เช่นนั้นการต่อสู้นี้จะไม่ทำให้ทุกคนตกตะลึงได้อย่างไร?
ดาบหยินตวัดลงและฟันใส่ชายชราชุดทองในพริบตา พลังหยินปกคลุมดาบเข้าปะทะในทันที!
ชายชราชุดทองส่งเสียงคำราม ฝ่ามือสร้างผนึกและโยนสมบัติทั้งหมดออกไป สมบัติเหล่านี้เปล่งกลิ่นอายทรงพลัง ขณะเดียวกันเขาได้กัดปลายลิ่นพ่นโลหิตออกมา ร่ายวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดที่มีในฐานะเซียนขั้นวิบากดับสูญ!
“เต๋าโลหะทองคำ!” สิ้นเสียงคำราม แสงสีทองห่อหุ้มรอบตัวก่อเกิดเป็นม่านพลังป้องกัน เขาดูเหมือนเทพสงครามที่ทุกคนต้องเคารพ!!
“สุดยอดพลังมาร!” เสียงคำรามครั้งที่สองดังออกมาจากแสงสีทอง เกิดเป็นควันสีดำเข้าห่อหุ้มแสงและกลายเป็นเทพมารขนาดใหญ่ยิ่งขึ้น
เทพมารตนนี้ดูดุร้ายและสวมเกราะสีดำเปล่งกลิ่นอายทำลายล้างราวกับสามารถทำลายโลกได้ทั้งใบ มันกำหมัดขึ้นมาจนส่งเสียงดังปะทุและปะทะกับดาบหยินของหวังหลิน
ดาบหยินของหวังหลินบรรจุระดับบ่มเพาะทั้งหมดของเขาเอาไว้ด้วย ดังนั้นมันจึงผ่ากำปั้นของเทพมารราวกับกำลังตัดกระดาษ
ดาบตัดผ่านสมบัติทั้งหมดโดยไม่มีการต่อต้าน ผ่าแขนของเทพมาร ผ่าร่างของเทพมาร ร่อนลงใส่ร่างสีทองของชายชรา!
แสงสีทองสั่นเทา ชายชราข้างในกระอักโลหิต ใบหน้าซีดเผือดและกวาดกลัวสุดขีด เทพมารรอบร่างเขาถูกดาบของหวังหลินผ่าครึ่งโดยไม่สามารถต่อต้านได้เลย!
เทพมารแตกสลาย แสงสีทองสั่นสะท้าน ร่างแก่นแท้ห้าธาตุของหวังหลินเข้ามาประชิดพร้อมดาบหยินและฟันลงใส่แสงสีทองรอบตัวชายชรา
แสงสีทองสั่นไหวและระเบิดเป็นเสียงกระจกแตกละเอียด แสงกระจัดกระจายเป็นเศษเสี้ยวนับไม่ถ้วน เผยร่างชายชราที่ข้างในที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
ความหวาดกลัวและหวั่นเกรงในแววตาของชายชราถูกดาบหยินสายฟ้าเข้ามาแทนที่ ร่างแก่นแท้สายฟ้าของหวังลินฟาดฟันลงไป!
กระบวนท่านี้ดาบหยินสายฟ้าเคลื่อนไหวด้วยความเร็วเหนือจินตนาการ พาดผ่านลำคอของชายชรา ศีรษะถูกตัดขาดพร้อมกับโลหิตสาดกระจาย วิญญาณดั้งเดิมแตกสลายไปทันที!
ผู้สูงส่งวิบากดับสูญตายไปหนึ่งคน!
เหตุการณ์ทั้งหมดรวดเร็วเกินกว่าที่ศิษย์ทั้งสามหมื่นของสำนักเต๋ามารจะตอบสนองได้ทัน ผู้อาวุโสที่พวกเขาเคารพ ผู้มีพลังสูงเสียดฟ้า ได้ถูกตัดศีรษะ ร่างกายแตกสลายเป็นหมอกโลหิต!
วินาทีที่ชายชราเสียชีวิต ชายชุดแดงได้เข้ามาใกล้ ใบหน้าเขาซีดเผือดและหรี่ตาแคบ เขาหวาดกลัวสุดขีดและถอยหนีอย่างบ้าคลั่งโดยไม่ลังเล คราวนี้เขาไม่สนเรื่องสำนักเต๋ามารอีกแล้ว ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าชีวิตของตัวเอง!
อย่างไรก็ตามจะมาคิดหนีเอาตอนนี้ก็สายเกินไปแล้ว! ความจริงตอนที่หวังหลินผ่าเปิดค่ายกลป้องกันสำนัก การคิดหนีไม่ใช่ตัวเลือกของเซียนที่นี่อีกต่อไป!
หวังหลินหันกลับมา ดวงตาระเบิดแสงสีทองแพรวพราว แสงสีทองนี้มาจากเศษกระบี่ของบรรพชนเทพ แสงสีทองพุ่งทะลุทะลวงเข้าหาชายชุดแดงที่กำลังหนี
แม้ชายชุดแดงจะเป็นถึงผู้สูงส่งวิบากดับสูญ เขาก็ยังถูกดวงตาของหวังหลินสะกดข่ม!
ชายชุดแดงจิตใจสั่นเทาราวกับกระบี่แทงทะลุถึงหัวใจ ขณะเดียวกันหวังหลินได้ยกแขนซ้ายและโบกสะบัด
ท้องฟ้าของสำนักเต๋ามารถึงกับมืดหม่น ฝ่ามือยักษ์ข้างหนึ่งปรากฏขึ้นในท้องฟ้าและกระแทกลงมาหายังผืนปฐพี
ฝ่ามือนี้มีถึงเก้านิ้ว!!
เหตุการณ์ถึงกับทำชายชุดแดงต้องส่งเสียงกรีดร้องโหยหวน เขาหลบหนีอย่างบ้าคลั่งพลางสร้างผนึกและใช้วิชาทุกอย่างที่นึกออก
ขณะเดียวกันเหล่าเซียนสามหมื่นคนด้านล่างต่างก็แตกกระเจิงและหลบหนีเงาฝ่ามือ ทว่าฝ่ามือเก้านิ้วนี้กลับปกคลุมสถานที่เกือบทุกแห่งของสำนักเต๋ามาร!
มันไม่ได้มีแค่ฝ่ามือเดียว ฝ่ามือยักษ์อีกสองข้างตามกันมาติดๆ หนึ่งนั้นมาจากร่างแก่นแท้ห้าธาตุ ส่วนอีกหนึ่งมาจากร่างแก่นแท้สายฟ้า ประทับฝ่ามือทั้งสามเต็มไปด้วยกลิ่นอายทำลายล้างและเข้าใกล้ชายชุดแดง!
ร่างชายชุดแดงพลันห่อหุ้มตัวเองด้วยหมอกสีแดงจำนวนมาก หมอกนี้เปลี่ยนกลายเป็นฝ่ามือยักษ์สองข้างและยกขึ้นราวกับกำลังค้ำจุนท้องฟ้า!!