Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน - ตอนที่ 1914
ขณะที่มังกรสมุทรทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าเข้าหาหวังหลิน ลำแสงสีทองสายหนึ่งจากแคว้นกระทิงสวรรค์ได้มาถึงแคว้นมารเขียว ลำแสงนี้ทะยานด้วยความเร็วยิ่งกว่าผู้สูงส่งวิบากดับสูญ ด้วยความเร็วนี้คงใช้เวลาไม่นานก็จะถึงสำนักเต๋ามาร!
ภายในเกาะกลางที่ห่อหุ้มด้วยแสงสีเหลืองเข้ม จ้าวสำนักเต๋ามารจ้องมองเบื้องบน ดวงตามองทะลุออกไปและเห็นทุกอย่างด้านนอก
‘มังกรสมุทรที่ท่านบรรพชนทิ้งเอาไว้ หากข้าต้องการฆ่ามันคงต้องใช้ความพยายามอย่างมหาศาลและอาจไม่สำเร็จ แม้หวังหลินจะสังหารผู้อาวุโสเฟิ่งที่สังเวยพลังชีวิตตัวเองบรรลุผู้สูงส่งชั้นทองได้ในระยะเวลาอันสั้น แต่ก็ยังมีช่องว่างระหว่างเขากับผู้สูงส่งชั้นทองของจริง!’
‘เขาสังหารผู้อาวุโสเฟิ่งได้ แต่ไม่สามารถผนึกมังกรสมุทรในระยะเวลาสั้นๆ ได้แน่!! ด้วยการถ่วงเวลาของมังกรสมุทร บรรพชนจะต้องได้รับข่าวอย่างแน่นอน!’ จ้าวสำนักเต๋ามารไม่กล้าออกไปไหนแต่ก็เกลียดชังหวังหลินเข้ากระดูกดำ เขาอยากกลืนกินหวังหลินไม่ให้เหลือ
ขณะที่กัดฟันและคาดหวัง แขนขวากลับสั่นเทา จ้าวสำนักเต๋ามารมองแขนตัวเองและมีควันสีเขียวปรากฏขึ้น แบ่งออกเป็นเจ็ดสายและเข้าไปในทวาร
จ้าวสำนักเต๋ามารถึงกับตัวสั่นและหลับตา ไม่นานนักเขาจึงลืมตาขึ้นมาด้วยความปิติยินดี จากนั้นเริ่มหัวเราะเสียงดัง
‘สำเร็จ! จักรพรรดิเทพส่งราชโองการมาแล้ว มีถึงสามเรื่องและหนึ่งในนั้นกำลังตรงมาที่สำนักเต๋ามาร โองการนั่นต้องมอบมาให้ข้า!’ จ้าวสำนักเต๋ามารหัวเราะและเผยความตื่นเต้นจนปิดไว้ไม่มิด
‘หวังหลิน เจ้าต้องการสังหารข้า? เจ้าต้องการสังหารเต๋าของสำนักเต๋ามาร? บรรพชนจะมาถึงในอีกไม่นานและเมื่อเขามาแล้ว เจ้าจะต้องตายแน่นอน ราชโองการก็กำลังมาแล้ว เมื่อผู้ส่งสาส์นมาที่นี่ เจ้าจะสังหารข้าได้อย่างไร?!’
‘หากเจ้าสังหารข้า เช่นนั้นถือว่าเจ้าสังหารคนที่น้อมรับราชโองการ นั่นเป็นความผิดมหันต์!!’ จ้าวสำนักเต๋ามารมีความสุขยิ่งนัก
ภายนอกแสงสีเหลืองเข้ม มังกรสมุทรจ้องมองหวังหลิน ร่างกายใหญ่ยักษ์เปล่งแรงกดดันอันน่าตกตะลึงจนสั่นคลอนโลกได้ทั้งใบ เหล่าผู้สูงส่งชั้นทองยังต้องสั่นเทาและไม่กล้าสู้ด้วย!!
เสียงคำรามดังรุนแรงจนสั่นสะท้านถึงดวงวิญญาณ!
หวังหลินจ้องมองมังกรสมุทรที่กำลังเข้ามาใกล้ด้วยท่าทีเย็นชา เขาไม่เคยเห็นอสูรแบบนี้มาก่อนและรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายน่าขนลุกออกมาจากมัน
นี่คือพลังของผู้สูงส่งชั้นทองซึ่งมีอำนาจพอให้ท้องฟ้าเปลี่ยนสีสัน ท้องฟ้าที่กำลังสดใสกลับมืดมนราวกับมีก้อนเมฆเต็มไปหมด
‘อสูรระดับผู้สูงส่งชั้นทอง…’ หวังหลินดวงตาเปล่งประกายและเผยแสงสีทองลี้ลับ เปล่งเจตนาต่อสู้ชัดเจน
ระดับบ่มเพาะของหวังหลินระเบิดออกมาเต็มที่ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาทุ่มสุดตัวตั้งแต่ได้รับโชควาสนามาจากอารามแมงป่องมารเขียว!!
หวังหลินปลดปล่อยระดับบ่มเพาะขั้นวิบากดับสูญและร่างบัญชาโบราณ หากไม่นับเรื่องการสวมเกราะวิญญาณ นี่คือจุดบ่มเพาะที่สูงที่สุดของเขาภายในระยะเวลาเกือบสามพันปี!!
เรือนผมสีขาวยืดยาวออกไปหลายเท่าจนมากกว่าความสูงของร่างกาย มันพริ้วอยู่ในอากาศและจับคู่กับเสื้อผ้าสีขาว หวังหลินดูราวกับถูกแสงสีขาวเยือกเย็นห่อหุ้มเอาไว้!
พอเส้นผมยาวผ่านปลายเท้าไป หวังหลินยกแขนและชี้มาที่มังกรสมุทร!
“แยกราตรี!”
โลกใบนี้เกิดเสียงดังสนั่น รอบด้านเปลี่ยนกลายเป็นทะเลไร้ขอบเขต จากนั้นเกิดเสียงคำราม ท้องฟ้ามืดสนิท
ดวงอาทิตย์กำลังทอแสงแพรวพราวขึ้นบนขอบทะเล ร่างมังกรสมุทรถึงกับสั่นสะท้านและเผยแววตาหวาดกลัว
มันสัมผัสได้ชัดเจนว่าเซียนผู้นี้กำลังใช้วิชาที่ทำให้มันหวาดกลัวเกินกว่าจินตนาการ มันรู้สึกเหมือนย้อนเวลากลับไปตอนที่มันยังอ่อนแอมาก มันจดจำถึงความหวาดกลัวตอนที่เผชิญกับอำนาจแห่งสวรรค์ได้อย่างแท้จริง
ดวงอาทิตย์ที่กำลังทอแสงเผยเป็นร่างหวังหลิน เขาคือดวงอาทิตย์และก้าวออกมาจากแสงสว่างเจิดจ้า พลังแห่งศรัทธาอันแข็งแกร่งแผ่กระจายออกมาจากร่างกาย
พลังแห่งศรัทธานี้ห่อหุ้มทั่วบริเวณและทำให้ร่างมังกรสมุทรสั่นสะเทือนรุนแรง เจ้ามังกรไม่กล้าเข้าใกล้และถอยอย่างบ้าคลั่ง
แม้มันจะแข็งแกร่งเท่าผู้สูงส่งชั้นทอง มันก็ยังกลัวตาย ไม่ว่าจะหนีรวดเร็วแค่ไหนก็หนีไม่พ้นท้องฟ้าอันมืดมนและพลังฉีกกระชากความมืดมิด
ขณะที่แสงดวงอาทิตย์ได้ทำลายความมืดมิดไปทีละชั้นและเข้าหาเจ้ามังกรสมุทร มันรู้สึกว่ากำลังจะถูกฉีกกระชากไปพร้อมกับความมืด!
กลิ่นอายแห่งความตายห่อหุ้มรอบร่างมังกรสมุทร มันส่งเสียงคำรามและสั่นเทา ความเจ็บปวดผุดออกมาจากทั่วร่าง กำลังฉีกกระชากความมืดกำลังทำลายร่างกายของมัน
ความเจ็บปวดรุนแรงนี้แม้แต่ร่างกายหยาบอันแข็งแกร่งและระดับบ่มเพาะแบบผู้สูงส่งชั้นทองก็ไม่สามารถทนไหว มันเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและสิ้นหวังราวกับฝันร้ายที่ไม่มีวันตื่น
“ยอมจำนนหรือตาย!” ขณะทีร่างมันกำลังจะแตกสลายและตายไป ความเจ็บปวดแล่นผ่านทั่วร่าง ผลักดันให้มันเข้าใกล้ความตายถึงขีดสุด น้ำเสียงทรงพลังเต็มไปด้วยศรัทธาได้เปล่งสะท้อนออกมา
วินาทีนั้นเจ้ามังกรสมุทรพยายามลืมตาที่พร่ามัวจากแสงของดวงอาทิตย์ มันเห็นหวังหลินก้าวออกมาจากดวงอาทิตย์และจากนั้นจึงตกอยู่ในภวังค์ทันที
“มหาชั้นฟ้า…” ในดวงตามังกรสมุทร แสงอาทิตย์ที่กำลังส่องเบื้องหลังหวังหลินเสมือนดวงอาทิตย์ ดวงอาทิตย์ดวงที่เจ็ดของแผ่นดินเซียนดารา!!
ร่างที่อยู่ใต้ดวงอาทิตย์ พลังศรัทธาอันทรงพลัง นั่นคือมหาชั้นฟ้า!!
เจ้านายของมัน บรรพชนของสำนักเต๋ามารเป็นเพียงผู้สูงส่งชั้นฟ้า และตอนนี้หวังหลินเป็นเหมือนมหาชั้นฟ้า มันกำลังตกอยู่ในภวังค์ แม้ยามตายก็ไม่อยากยอมก้มหัวให้คนอื่น เพราะมันมีศักดิ์ศรีของตัวเอง แต่วินาทีนี้มันสั่นเทาและยอมหมอบลงโดยไม่มีเงื่อนไข
“ยอมจำนน!” นาทีที่มันปลดปล่อยข้อความนี้ออกมาจากจิตใจ ผนึกของเจ้านายคนเก่าพลันแตกสลายทันที อสูรระดับผู้สูงส่งชั้นทองไม่สามารถถูกควบคุมได้ตามปกติแล้ว มันต้องใช้กลิ่นอายมหาศาลเพื่อให้ยอมรับใช้
นอกจากเหล่ามหาชั้นฟ้าแล้ว คนอื่นไม่สามารถทำให้อสูรเทพแบบนี้กลายเป็นทาสรับใช้ได้ พวกเขาทำได้แค่รักษาความสัมพันธ์ให้เท่ากัน มังกรและเจ้านายคนก่อนก็เป็นเช่นนี้
แต่ตอนนี้มันได้ยอมจำนน กลิ่นอายวิญญาณสีเขียวโผล่ออกมาจากเศียรมังกรสมุทร หวังหลินคว้ากลิ่นอายวิญญาณนี้เอาไว้ทันที
แม้แต่เจ้านายคนก่อนของมังกรสมุทรก็ไม่สามารถได้รับกลิ่นอายวิญญาณนี้ได้ แต่ด้วยภวังค์และความรู้แจ้ง เจ้ามังกรกลับมอบกลิ่นอายวิญญาณให้แก่หวังหลิน!
การควบคุมกลิ่นอายวิญญาณได้หมายความว่าควบคุมได้ทั้งชีวิตและความตายของมัน!
เมื่อหวังหลินควบคุมกลิ่นอายวิญญาณได้ ความมืดมิดจึงหายไป ทะเลและดวงอาทิตย์รอบด้านแตกสลาย ทุกอย่างกลับคืนมาเป็นปกติ พื้นดินยังเป็นเศษซากสำนักเต๋ามาร ท้องฟ้ายังคงกระจ่างใส
ทว่าจ้าวสำนักเต๋ามารภายในแสงสีเหลืองเข้มกลับเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ ร่างกายสั่นสะท้าน
‘ไม่…ไม่มีทาง!! มังกรสมุทรนั่นเป็นของบรรพชน มัน…มันยอมจำนนแก่หวังหลินจริงๆ!!’ จ้าวสำนักเต๋ามารเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เขาไม่เพียงตกตะลึงที่เจ้ามังกรยอมจำนนแก่หวังหลินแต่ยังตกตะลึงวิชาแยกราตรีที่หวังหลินใช้ด้วยระดับบ่มเพาะเต็มกำลัง!!
‘วิชาแห่งศรัทธา!! นั่นมันวิชาแห่งศรัทธา!!’ ข้าคิดว่ามังกรสมุทรสามารถถ่วงเวลาได้แต่ไม่คิดว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนเร็วขนาดนี้ เพียงชั่วเวลาสั้นๆ หวังหลินได้ใช้วิชาแห่งศรัทธาและทำให้เจ้ามังกรสมุทรยอมจำนน!!
ความหวาดกลัวไร้ขอบเขตพวยพุ่งขึ้นในใจของจ้าวสำนักเต๋ามาร เขากัดปลายลิ้นและพ่นโลหิตออกไปโดยไม่ลังเล โลหิตเปลี่ยนเป็นหมอกโลหิตและเข้าสู่ม่านแสงสีเขียวเพื่อเติมพลังงานให้แก่ม่านแสง
‘ข้าไม่ยอมปล่อยเขาให้เข้ามาข้างในได้! ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ ข้าปล่อยเข้ามาไม่ได้!! เวลา ข้าต้องการเวลา อีกไม่นานบรรพชนจะมาที่นี่แล้ว รวมถึงราชโองการได้ เวลา ข้าต้องการเวลา!!’ จ้าวสำนักเต๋ามารดูเหมือนบ้าคลั่งไปแล้ว ฝ่ามือสร้างผนึกอย่างรวดเร็วและส่งเข้าสู่ม่านพลังรอบเกาะ
ขณะที่ม่านแสงกะพริบวูบวาบและถูกเติมพลังเรื่อยๆ หวังหลินก้าวทะยานมาข้างหน้า เจ้ามังกรสมุทรตามมา มันมองหวังหลินด้วยความเคารพและหวาดกลัว
หวังหลินยกแขนขวาขึ้นใกล้ม่านแสง แววตาเย็นเยียบและส่งกำปั้นออกไป
ตึงตัง ตึงตัง ตึงตัง ตึงตัง!!
ม่านแสงที่จ้าวสำนักเติมพลังเข้าไปสามารถอยู่ได้เพียงไม่กี่อึดใจเท่านั้นก่อนจะแตกสลายเป็นเศษเสี้ยว สิ่งก่อสร้างทั้งหมดรอบเกาะถูกทำลายไปด้วยเช่นกัน เผยให้เห็นจ้าวสำนักเต๋ามารที่กำลังจนมุม!
หวังหลินมองจ้าวสำนักเต๋ามารอย่างเย็นชา เขาพุ่งทะยานพร้อมกับชกกำปั้นออกไปโดยไม่ลังเล จ้าวสำนักล่าถอยอย่างบ้าคลั่ง ฝ่ามือสร้างผนึกอย่างต่อเนื่องแต่ร่างกายกลับสั่นสะท้านและกระอักโลหิต เขาบาดเจ็บสาหัสและถูกพลังตีกลับ
“หวังหลิน เจ้ากล้าสังหารข้า!? บรรพชนของสำนักเต๋ามารคือเซียนระดับผู้สูงส่งชั้นฟ้า หากเจ้าสังหารข้า เจ้าจะต้องตายอย่างทรมาน!!”
หวังหลินไม่พูดมาก ก้าวทะยานและกำลังจะส่งกำปั้นออกไป!
วินาทีนั้นลำแสงสีทองสายหนึ่งเข้ามาถึงด้วยความเร็วเหนือจินตนาการและห่อหุ้มบริเวณนี้เอาไว้! ข้างในแสงมีร่างสีทองยืนอยู่!
“ท่านผู้ส่งสาส์นแห่งจักรพรรดิเทพ ราชโองการอยู่นี่แล้ว หวังหลิน ข้าอยากจะเห็นเสียจริงว่าเจ้ายังกล้าสังหารข้าหรือไม่!! เจ้ากล้าต่อต้านราชโองการ!?” จ้าวสำนักเต๋ามารที่เดิมทีสิ้นหวังไปแล้วแต่กลับตื่นเต้นทันที