Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน - ตอนที่ 1920
หลังจากผสานเต๋าเข้ากับร่างกาย การออกหมัดหรือการเตะสามารถสร้างวิชาขึ้นมาได้จำนวนหนึ่ง นี่คือวิธีการแสดงพลังอำนาจของผู้สูงส่งชั้นฟ้าที่แข็งแกร่งที่สุด บรรพชนของสำนักเต๋ามารสามารถผสาน 27 วิชาได้ภายในกำปั้นนี้ มันมากพอที่ทำลายเซียนทุกคนที่มีระดับต่ำกว่าผู้สูงส่งชั้นฟ้าได้
กุญแจสำคัญคือจำนวนของวิชาที่สามารถผสานเข้าไปได้ ไม่ใช่จำนวนความแตกต่างในวิชา ผู้สูงส่งชั้นฟ้าบางคนอาจไม่มีวิชาถึงหลักสิบแต่สามารถผสานวิชาเดียวกันได้มากมายจนเพิ่มพลังต่อสู้ได้เหมือนกัน
หัวใจหลักคือจำนวน!
หลังจากเคล็ดเร่งความเร็วทำให้หวังหลินมีเส้นชีพจรเซียนถึงหกสายและสร้างภาพติดตาได้ 97 ร่าง ความเร็วของหวังหลินจึงเกินระดับจนน่ากลัว หวังหลินสามารถใช้เคล็ดนี้เพื่อร่ายวิชา 98 อย่างได้ทันที
เขาสามารถทำแบบนี้ได้เพราะพลังต่อสู้ในปัจจุบันสามารถไปถึงผู้สูงส่งชั้นฟ้าได้ หากมาไม่ถึงระดับนี้ แม้จะมีเส้นชีพจรเซียนถึงเก้าสาย มีภาพติดตาหลายร้อยร่างและสามารถร่ายวิชาได้หลายร้อย ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้สูงส่งชั้นฟ้า
แม้ผู้สูงส่งชั้นฟ้าจะเรียนรู้เคล็ดเร่งความเร็วได้ก็สามารถใช้ได้แค่ 27 วิชาเท่านั้น แม้ภาพติดตาจะสามารถใช้วิชาได้ก็ยังแสดงพลังได้ใกล้เคียง 27 วิชาที่ร่างดั้งเดิมแสดงออกมาได้เท่านั้น
เพราะขีดจำกัดคือ 27 วิชา มันจึงไม่สามารถเหนือไปกว่านี้ได้ เหมือนขวดน้ำ ไม่ว่าจะเติมน้ำไปแค่ไหนก็ได้เท่ากำลังของมันเท่านั้น
แต่หวังหลินนั้นแตกต่าง พลังต่อสู้ที่แท้จริงของเขาแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างไร้ขีดจำกัดเพราะมีร่างบัญชาโบราณและโลหิตวิญญาณ ซึ่งโลหิตวิญญาณถือว่ามีหน้าที่สำคัญมาก
ดังนั้นด้วยระดับบ่มเพาะที่เพิ่มขึ้นมาจนถึงขั้นผู้สูงส่งชั้นทอง ระดับพลังต่อสู้ของเขาสามารถแสดงออกมาได้มากกว่าเดิมอย่างมหาศาล
นี่คือเหตุผลว่าทำไมหวังหลินถึงสามารถต่อสู้กับคนที่มีระดับบ่มเพาะสูงกว่าได้หลังจากผสานพลังเทพและพลังโบราณเข้าด้วยกัน! อีกเหตุผลที่หวังหลินแข็งแกร่งได้เป็นเพราะร่างอวตารที่แข็งแกร่งที่สุดในมิติว่าง!
ด้วยพลังทั้งสามแบบเข้าผสานกันจึงกลายเป็นเหตุผลว่าทำไมหวังหลินถึงมีพลังต่อสู้ระดับนี้ได้!
ร่างกายเขาคือขวด ระดับบ่มเพาะคือน้ำ ร่างอวตารที่แข็งแกร่งที่สุดคือสิ่งที่ทำให้ขวดยืดหยุ่นและขยายออกไปได้เรื่อยๆ
ด้วยโลหิตวิญญาณทำให้หวังหลินเกิดการเปลี่ยนแปลงไปอีก ปกติการเปลี่ยนแปลงนี้จะไม่เผยออกมาแต่มันคือหนึ่งในเหตุผลที่หวังหลินแข็งแกร่ง เป็นความแตกต่างที่ทำให้คนในเผ่าโบราณคนอื่นไม่สามารถเทียบกับหวังหลินได้
โชควาสนาทั้งหมดนี้หากแยกกันดูเหมือนไม่สำคัญ แต่พอมันทับซ้อนกันกลายเป็นผลลัพธ์ที่น่าตกตะลึง!
ขณะหลุมดำเข้าใกล้ หวังหลิน 98 ร่างปรากฏขึ้นมา เขาไม่ได้ใช้วิชาที่แตกต่างกันแต่กลับเป็นวิชาเดียวกันทั้งหมด!
หวังหลินใช้วิชากระทิงขวิดที่ได้เรียนรู้มาจากเศษเสี้ยวความทรงจำหลังจากใช้เกราะวิญญาณถึง 98 ครั้ง!
วิชากระทิงขวิดสามารถแสดงพลังที่หยิบยืมมาได้อย่างสมบูรณ์
ร่างทั้ง 98 ร่างยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมา บนศีรษะมีเขาโผล่ เสียงคำรามดังกึกก้องอย่างต่อเนื่อง พวกมันพุ่งทะยานไปข้างหน้า!
พื้นดินสั่นสะเทือน ท้องฟ้ากลายเป็นความว่างเปล่า ดวงอาทิตย์หายไป สิ่งเดียวที่เหลืออยู่ในโลกนี้คือบรรพชน หลุมดำและหวังหลินทั้ง 98 ร่าง!
หวังหลินทั้ง 98 ร่างพลันหายไปจนเหลือเพียงร่างเดียว ส่งเสียงคำรามสั่นสะเทือนสวรรค์!
ร่างเงากระทิงสวรรค์ขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นมา ร่างเงาดูสมจริงราวกับกระทิงสวรรค์หนีออกมาได้ มันส่งเสียงคำรามจากกระทิงสวรรค์ไปด้วย!
ร่างเงากระทิงสวรรค์เป็นสีเขียวล้วนและเปล่งกลิ่นอายเก่าแก่ มันมีกลิ่นอายที่ไม่ย่อท้อและยกหัวขึ้นมา เงาสีดำขนาดใหญ่สองข้างพุ่งทะยานออกไป
กระทิงขวิด!
มองไกลๆ ร่างเงากระทิงสวรรค์เข้าปกคลุมร่างหวังหลิน มันใช้สองเขาเข้ากระแทกใส่หลุมดำ
ฉากเหตุการณ์ดุจภาพวาดแปะผนัง มันกลายเป็นสมบัติอันงดงามบนผืนแผ่นดินเซียนดารา
ตึงตัง ตึงตัง ตึงตัง ตึงตัง!!
วิชา 27 อย่างภายในหลุมดำถูกทำลาย หลุมดำเกิดการสั่นเทาและแตกสลายจากแรงกระแทก!
กระทิงสวรรค์ชะงักศีรษะไปชั่วจังหวะหนึ่งแต่มันไม่หยุดแค่นั้น กระทิงสวรรค์มุ่งหน้าเข้าหาบรรพชนสำนักเต๋ามาร
เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเร็วมาก ชั่ววินาทีที่หลุมดำพังทลายไป เขากระทิงสวรรค์ก็มาถึงเบื้องหน้าบรรพชนสำนักเต๋ามารเรียบร้อย
ชายชราผมแดงมีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที แววตาเผยอาการตกตะลึงและรีบถอย
‘การผสานวิชาทั้ง 98 ครั้ง เขาไม่สามารถผสานเต๋าเข้ากับร่างกายได้แต่ใช้วิธีนี้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์คล้ายกัน หากสามารถเพิ่มไปอีกหนึ่งวิชาได้ ไม่ใช่ว่าเขาแข็งแกร่งกว่าหรอกหรือ!?’
‘ขีดจำกัดของผู้สูงส่งชั้นฟ้าคือ 99 และมากกว่านั้นจะถือว่าเป็นผู้สูงส่งชั้นเทวะ! พอยืมพลังจากเกราะวิญญาณ เขาจึงทรงพลังมาก!!’ ชายชราผมแดงยกแขนขึ้นมา ส่งเสียงคำรามโจมตีไปหลายครั้ง
‘นี่มันเกือบเทียบกับผู้สูงส่งชั้นเทวะได้แล้ว!! เขาไม่ได้ผสานเต๋าเข้ากับร่างกายและวิชาทั้ง 98 นี้ก็ไม่ใช่ทั้งหมด พวกมันถูกฝืนผสานเข้าไปและไม่สมบูรณ์แบบ แต่ข้าแทบจะต้านทานไม่ได้!’
ทุกกำปั้นเกิดจากการผสานวิชา 27 อย่าง ทั้งหมดปะทะกับกระทิงสวรรค์ซึ่งทำให้วิชาภายในกระทิงสวรรค์พังทลายไปทีละชั้น
การปะทะกับหลุมดำก่อนหน้านี้ทำให้วิชาพังทลายไปสี่สิบวิชา ตอนนี้ชายชราผมแดงโจมตีอีกครั้งทำให้หายไปอีกสี่สิบวิชา
แต่ยังเหลือวิชาอีกสิบกว่ายังไม่แตกสลายไป ทั้งหมดกระแทกเข้าใส่ชายชราผมแดง เขากระอักโลหิตและกระเด็นกลับไป ขณะเดียวกันหวังหลินสร้างภาพติดตาอีกครั้ง ส่งเสียงคำรามใช้กระทิงขวิดเป็นครั้งที่สอง!
ร่างกระทิงสวรรค์ปรากฏขึ้นอีกตัวในท้องฟ้าและพุ่งทะยานออกไป
‘ความเร็วและความแข็งแกร่งอะไรกัน ข้ายังไม่ได้ต้านทานรอบแรก รอบที่สองก็มาถึงแล้ว! ร่างกายเขาต้องทรงพลังยิ่งถึงสามารถต้านทานการร่ายอย่างต่อเนื่องได้แบบนี้!!’
ชายชราผมแดงพลันล่าถอย ร่างเงากระทิงสวรรค์ร่างที่สองพุ่งเข้าใส่อีกครั้ง กลิ่นอายมหาชั้นฟ้าพลันระเบิดออกมาจากชุดคลุมเต๋าที่เขาสวมใส่อยู่
ชุดคลุมเต๋านี้คือของขวัญที่มหาชั้นฟ้าต้าวยี่มอบให้ ในช่วงเวลาสำคัญมันสามารถช่วยชีวิตเขาได้!
เมื่อกลิ่นอายมหาชั้นฟ้าปรากฏ ร่างเงาหนึ่งโผล่ขึ้นเบื้องหน้าบรรพชนของสำนักเต๋ามาร เงานี้ถูกสร้างขึ้นจากเศษเสี้ยวสัมผัสวิญญาณของมหาชั้นฟ้าต้าวยี่
ร่างเงาโผล่ขึ้นมาขัดขวางกระทิงขวิด จากนั้นหันกลับมาโยนกำปั้นใส่กระทิง!
กำปั้นดูธรรมดาเหมือนคนทั่วไปที่กำลังชกออกไป แม้แต่โลกก็ยังสงบนิ่งราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่กระทิงสวรรค์ได้พังทลายทันที วิชาทั้ง 98 อย่างข้างในถูกทำลายไปหมด
หวังหลินกระเด็นกลับไปและหน้าซีด แต่สายตาดุดัน
‘มหาชั้นฟ้าต้าวยี่!!’
“ขอคารวะ มหาชั้นฟ้าต้าวยี่!!” เบื้องหลังร่างเงา บรรพชนของสำนักเต๋ามารพลันคำนับฝ่ามือและโค้งตัวให้แก่ร่างเงา
เดิมทีร่างเงาพร่าเลือน แต่ไม่นานมันก็ชัดเจนจนเผยร่างข้างใน
ร่างนี้เป็นชายหนุ่มชุดคลุมเต๋า เขาดูอายุราวยี่สิบปี เรือนผมสีดำและคิ้วเรียวแหลมดูหล่อเหลามาก ดวงตาดุจประกายดวงดาว มองไปอาจทำให้ตกอยู่ในภวังค์ได้
เขาสวมชุดคลุมเต๋าเรียบง่ายและดูธรรมดามาก อย่างไรก็ตามฟ้าดินไม่เคลื่อนไหว สายลมไม่คล้อยตาม ไม่มีสิ่งใดเคลื่อนไหว! แม้แต่โองการแห่งฟ้าดินดูเหมือนหยุดชะงักไปอย่างสิ้นเชิง
เบื้องหน้ายังมีฝุ่นผงบางส่วนลอยอยู่ ฝุ่นนั้นลอยขึ้นสู่อากาศเนื่องจากเกิดการต่อสู้และควรจะตกลงมา แต่ตอนนี้มันกลับแข็งค้างในอากาศ
ผิวพื้นดินบางส่วนที่ถูกคลื่นการต่อสู้กระแทกใส่ ตอนนี้มันแช่แข็งไปอย่างสมบูรณ์
ฉากเหตุการณ์นี้ทำให้หวังหลินต้องหรี่ตาแคบ กระทั่งรู้สึกว่าจิตใจเต้นช้าลงเพราะกลิ่นอายประหลาดนี้ ราวกับมันกำลังจะหยุดทุกสิ่งทุกอย่าง
เรื่องน่าตกตะลึงก็คือโลหิตที่บรรพชนของสำนักเต๋ามารกระอักออกมา มันควรจะตกลงพื้นแต่กลับลอยอยู่ตรงนั้น
“นี่คือพลังของมหาชั้นฟ้า…เป็นแค่เศษเสี้ยวสัมผัสวิญญาณบนผ้าคลุม…เพียงแค่เศษเสี้ยวกลับสามารถสร้างแรงกดดันจนโลกและทุกสิ่งทุกอย่างไม่กล้าเคลื่อนไหว!”
หวังหลินมองไปข้างหน้า ไม่ใช่ว่าทุกอย่างถูกแช่แข็ง แต่ทุกอย่างไม่กล้าเคลื่อนไหวหลังจากมหาชั้นฟ้าต้าวยี่ปรากฏตัว
“เจ้ามีคุณสมบัติที่จะติดตามข้า เหล่าคนที่ติดตามข้าจะไม่ตาย ตราบใดที่ข้าไม่ตาย!” ชายหนุ่มเรือนผมสีดำกล่าวขึ้นมาพลางมองดูหวังหลิน แววตาเต็มไปด้วยประกายแสงแห่งปัญญา
…………………………………………………….