Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน - ตอนที่ 1933 เปลี่ยนแปลง
ผิวน้ำส่วนใหญ่ของทะเลขุนเขาถูกน้ำหมึกสีดำปิดผนึก น้ำหมึกนี้แข็งแกร่งมากและถูกสร้างขึ้นจากค่ายกล มันจึงไม่สามารถทำลายได้ง่ายๆ
ด้านในทะเล หวังหลินและไฮ่จื่อกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด!
ไฮ่จื่อใช้วิชาประหลาดกระอักโลหิตเพื่อสร้างผนึกที่มีวิชา 96 วิชา ส่งผนึกทรงรีเข้าไปหาหวังหลิน
แม้หวังหลินจะตกตะลึงเขาก็ต้านทานด้วยกระทิงขวิด ร่างเงากระทิงสวรรค์เข้าปะทะกับผนึกทรงรี
ทั้งสองฝ่ายปะทะกันราวกับทะเลกำลังแยกออกเป็นสองส่วน
ไฮ่จื่อหน้าซีดและกระเด็นกลับมา นี่เป็นวิชาที่อาจารย์ของนางสอนให้และทรงพลังมาก แม้นางจะยังไม่สามารถควบคุมรูปแบบที่สองได้ แต่ก็มีน้อยคนมากในระดับต่ำกว่าผู้สูงส่งชั้นเทวะจะเทียบเคียงนางได้!
กระนั้นตอนนี้นางได้มาเจอหวังหลิน!!
หวังหลินล่าถอยไปเช่นกัน ลมหายใจถี่รัว พอกระทิงสวรรค์พังทลาย เกราะวิญญาณบนร่างกายเผยอาการแตกสลายไปด้วย
หวังหลินดวงตาเป็นประกาย เขายกแขนขวาขึ้นมาปรากฏภาพติดตา 97 ร่าง ชี้ใส่ไฮ่จื่อที่กำลังถอย!!
“หยุด!”
“หยุด!!”
“หยุด!!!” หวังหลินใช้วิชายับยั้งเป็นครั้งที่สองเบื้องหน้าไฮ่จื่อ ภาพติดตา 97 ร่างผสานกันอีกครั้งเป็นดัชนีที่นางรู้สึกกลัว โกรธเกรี้ยวและอับอาย!!
“หวังหลิน เจ้า…” ไฮ่จื่อไม่ได้พูดจนจบ เพราะว่านางบาดเจ็บจึงถูกหยุดเอาไว้อย่างสิ้นเชิง เนื่องเพราะวิญญาณดั้งเดิมโดนหยุดเอาไว้และนางไม่มีเจ้าปลาหมึกแบกรับ นางจึงเริ่มตกลงไปอยู่ใต้ทะเล
กระนั้นในเมื่อนางกล้าหยุดหวังหลิน นางก็เตรียมตัวมาแล้ว แม้การเตรียมตัวจะรีบไปเล็กน้อยและลดความระมัดระวังจนหวังหลินใช้จังหวะโจมตีอันยอดเยี่ยม มีเพียงวิญญาณดั้งเดิมของนางที่หยุดลง ดวงตาและความคิดยังคงทำงานเหมือนปกติ
นางจ้องมองหวังหลินที่ห่างออกไปไกลมากขึ้นเรื่อยๆ นางรู้สึกละอายและโกรธเกรี้ยว ถ้าไม่ใช่เพราะปากนางขยับไม่ได้ นางคงกัดฟันไปแล้ว
หวังหลินไม่ได้ใช้วิชายับยั้งในทันทีมีอยู่สองเหตุผล หนึ่งเป็นเพราะในเมื่อนางกล้าลองดีมาหยุดเขา นางก็ต้องเตรียมการมาบ้างและมั่นใจว่าสามารถต่อต้านวิชายับยั้งของเขาได้!
ดังนั้นแล้วหวังหลินจึงไม่ใช้มันในทันทีและรอคอยจังหวะเวลาที่เหมาะสม!
เหตุผลที่สอง ถึงแม้หวังหลินจะถูกไฮ่จื่อหยุดเอาไว้ นางก็คงจะไล่ตามเขาเมื่อเป็นอิสระมาได้ เว้นแต่นางจะบาดเจ็บสาหัสและหลบหนีไป
ตรงกันข้าม แทนที่จะหยุดนางและทำให้นางบาดเจ็บสาหัส กลับเป็นทำให้นางบาดเจ็บสาหัสแล้วค่อยหยุดนางเสียจะดีกว่า จากนั้นนางคงไม่กล้าตามมา!
หลังจากหยุดไฮ่จื่อได้ หวังหลินกำลังจะเตะเจ้าปลาหมึกออกไปให้ห่างและพามังกรสมุทรไป สัมผัสวิญญาณของเขากวาดผ่านไฮ่จื่อที่กำลังจมลงไปในน้ำโดยไม่รู้ตัว
ทว่าเขากลับต้องตกตะลึง
สถานที่ที่เขาต่อสู้กับไฮ่จื่ออยู่ไม่ไกลจากพื้นทะเล นางที่กำลังจมลงไปก็อยู่ห่างจากหลุมดำไม่ไกลนัก
หวังหลินกวาดสัมผัสวิญญาณจนเห็นระลอกคลื่นเลือนลางและมีบางอย่างพุ่งออกมาจากหลุมดำเข้าหาไฮ่จื่อที่สูญเสียพลังในการต่อต้าน!
ราวกับมีบางอย่างแปลกประหลาดอยู่ในระลอกคลื่น แต่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
“ค้นพบวิญญาณนอกแผ่นดินเซียนดารา ผนึก!” สัมผัสวิญญาณแผ่กระจายผ่านน้ำทะเลเข้าสู่จิตใจหวังหลินและทำให้สีหน้าเขาเปลี่ยนไปอย่างมหาศาล!!
‘มันไม่ตาย!!’
หวังหลินรู้สึกหนังศีรษะด้านชา เขาอยู่ไกลเกินกว่าจะรู้ได้ว่าใบหน้านั้นทรงพลังแค่ไหน หวังหลินกำลังจะจากไปแต่ก็ถูกหยุดอีกครั้ง
วิญญาณดั้งเดิมของไฮ่จื่อถูกหยุดแต่ดวงตาและความคิดยังคงเคลื่อนไหว นางเห็นความผันผวนในน้ำทะเลและมีร่างเงาเลือนลางกำลังเข้ามาใกล้นาง
ในใจเกิดความรู้สึกอันตรายไม่อาจอธิบายได้ ความอันตรายนี้รุนแรงยิ่งกว่าการต่อสู้กับหวังหลิน ความจริงแล้วนางไม่เคยเจออะไรที่ทำให้รู้สึกอันตรายขนาดนี้มาก่อนในชีวิต!
ดวงตาของนางเบิกกว้าง นางไม่สามารถเคลื่อนไหวได้และไม่มีพลังในการต่อต้าน นางทำได้แค่เพียงมองดูร่างเงากำลังโผล่ออกมาจากระลอกคลื่นและพุ่งเข้าหานางจากด้านขวา!
ไฮ่จื่อผู้แข็งแกร่งจึงเผยความหวาดกลัวและอ่อนแออย่างไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน ร่างกายของนางสั่นเทาและพยายามเป็นอิสระจากวิชายับยั้ง!
ความรู้สึกความเป็นความตายนี้เองทำให้นางรู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่ผู้สูงส่งชั้นฟ้าแต่เป็นหญิงสาวอ่อนแอคนหนึ่ง การเผชิญหน้ากับสิ่งน่าหวาดกลัวเช่นนี้ทำให้นางรู้สึกสิ้นหวัง!
ระลอกคลื่นในน้ำทะเลคือฝ่ามือที่ยื่นออกมาจากหลุมดำ มันดูเหมือนบ้าคลั่งไปแล้วและไม่สนว่าเจอกับใคร มันบอกแต่ว่า “ค้นพบวิญญาณนอกแผ่นดินเซียนดารา ผนึก!”
ตอนนี้หากหวังหลินต้องการจากไปตอนนี้ก็สามารถทำเมินเฉยไฮ่จื่อได้เลย หากเขาหนีได้เร็วพอก็สามารถหนีได้โดยใช้ไฮ่จื่อเป็นเหยื่อล่อ
แต่หลังจากสองจิตสองใจ เขาหันกลับมาและพุ่งไปหาไฮ่จื่อด้านล่าง!
‘ในชีวิตข้า ข้าไม่ใช่คนเลวหรือสุภาพบุรุษ ข้ามักจะถามเสมอว่าข้าสามารถใช้ชีวิตตามการตัดสินใจของข้าได้หรือไม่ ข้าไม่มีความเกลียดชังระหว่างไฮ่จื่อ นี่คือถ้ำของนางและเป็นธรรมดาที่นางจะคุ้มกัน!’ หวังหลินเคลื่อนร่างหมื่นฟุตอย่างรวดเร็ว
‘ผนึกทะเลขุนเขาโผล่ขึ้นมาก็เพราะข้า และตอนนี้นางถูกข้าหยุดเอาไว้ หากข้าหนีตอนนี้และละทิ้งนาง นั่นแปลว่าข้าตัดสินใจแล้วว่ามันไม่คุ้มค่าต่อจิตใจของข้า!’
‘หากข้าไม่สามารถยึดมั่นในหนทางของตัวเอง ข้าต้องทำสิ่งใดถึงจะฝืนลิขิตสวรรค์และชุบชีวิตหวานเอ๋อร์ได้? ต้องศรัทธาสิ่งใดถึงจะทำให้ข้าก้าวไปบนจุดสูงสุด!? บางทีคนอื่นอาจทำได้ แต่ข้าหวังหลินทำไม่ได้!’ หวังหลินเผยสายตามุ่งมั่น พุ่งทะยานเข้าหาไฮ่จื่อ
การกระทำของเขานั้นไฮ่จื่อมองเห็นอยู่เช่นกัน นางตกอยู่ในความสิ้นหวังและตกตะลึง
หวังหลินเคลื่อนที่มาเร็วมากและเข้ามาภายในระยะสี่ร้อยฟุต ไม่ว่าเขาจะเร็วแค่ไหนก็ไม่เร็วไปกว่าฝ่ามือนั้นซึ่งอยู่ห่างไฮ่จื่อไม่ถึงสามร้อยฟุต!
ฝ่ามือมีความโหดเหี้ยม กระหายโลหิตและสัมผัสความบ้าคลั่งที่ไม่อาจอธิบายออกมาได้ มันเปิดนิ้วทั้งห้าพุ่งเข้าหาไฮ่จื่อ
หวังหลินสามารถใช้วิชายับยั้งได้แต่ไม่สามารถสลายมันได้เว้นแต่ระดับบ่มเพาะของเป้าหมายจะอยู่ต่ำกว่า ไฮ่จื่อเป็นถึงระดับผู้สูงส่งชั้นฟ้า ดังนั้นระดับบ่มเพาะของนางจึงสูงมากกว่าหวังหลิน เขาจึงไม่สามารถทำลายมันได้ในชั่วเวลาสั้นๆ
ทะเลขุนเขาถูกนางผนึกเอาไว้ ดังนั้นจึงไม่สามารถเคลื่อนย้ายพริบตาออกไปได้ ฝ่ามือกำลังจะกลืนกินไฮ่จื่อเข้าไปแล้ว นางเต็มไปด้วยแววตาสิ้นหวัง ด้านหวังหลินร้องคำรามและระเบิดเส้นชีพจรเซียนทั้งห้าออกมา มันโคจรอย่างบ้าคลั่งทำให้หวังหลินเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าที่เคยทำได้มาก่อน!!
ความเร็วนี้เกิดจากเคล็ดเร่งความเร็วที่ใช้พลังอย่างเต็มที่ หวังหลินเคลื่อนไหวปรากฏภาพติดตา 97 ร่าง ตามมาด้วยร่างที่ 98!
รวมกับร่างดั้งเดิมแล้วจึงรวมเป็น 99 ร่าง!
ใช้พลังที่เพิ่มขึ้นจากเคล็ดเร่งความเร็วนี้ทำให้ความเร็วของหวังหลินเพิ่มพูน เมื่อฝ่ามือนั้นอยู่ห่างจากไฮ่จื่อไม่ถึงสามนิ้วและมีกลิ่นอายดุร้ายเข้าใกล้นาง พลังอันรุนแรงได้กระแทกเข้าใจตรงกลางระหว่างฝ่ามือและไฮ่จื่อทำให้นางกระเด็นออกไปอย่างรวดเร้ว
ไฮ่จื่อเห็นร่างหวังหลินตอนที่นางกระเด็นออกไป
ร่างกายของนางสั่นเทา ตอนนี้นางกลับมาเคลื่อนไหวได้แล้ว
หวังหลินเปลี่ยนแขนขวาเป็นดาบหยินและฟันลงใส่ฝ่ามือแตกหัก
ฝ่ามือนั้นไม่สนใจไฮ่จื่อแล้วและเปลี่ยนเป้าหมายมาที่หวังหลิน
“ค้นพบวิญญาณนอกแผ่นดินเซียนดารา ผนึก!” สัมผัสวิญญาณดังกึกก้องในใจหวังหลินพร้อมกับปะทะเข้ากับดาบหยิน
หวังหลินกระเด็นออกไป โลหิตไหลจากมุมปากทว่ามีร่างนุ่มนวลได้จับเขาเอาไว้ และนั่นคือไฮ่จื่อ นางกัดริมฝีปากและรีบดึงหวังหลินออกไปยังผิวน้ำ
ฝ่ามือแตกหักนั้นถูกดาบหยินผ่าเป็นสองส่วนแต่ไม่ได้สูญสลายไป มันฟื้นคืนกลับมาดั้งเดิมและไล่ตามทั้งสองคน
ฝ่ามือเริ่มเคลื่อนไหวเร็วยิ่งกว่าเดิมหลายเท่า มันไล่ตามมาทันในทันทีทำให้หวังหลินและไฮ่จื่อไม่มีเวลาหลบหลีกได้เลย หวังหลินยกแขนซ้ายและส่งกำปั้นออกไป
ตอนที่เขาชก ภาพติดตา 98 ร่างปรากฏขึ้นรอบตัวและควบแน่นเป็นกำปั้นเดียวพุ่งทะยานเข้าหาฝ่ามือราวกับประกายสายฟ้า
ขณะเดียวกันไฮ่จื่อสะบัดแขนและใช้ผนึกวงรี บังคับให้มีวิชา 90 วิชาผสานเข้าด้วยกัน พุ่งทะยานเข้าหาฝ่ามือตามหลังกำปั้นของหวังหลิน
เกิดเสียงดังสนั่นกึกก้องจนทะเลปั่นป่วน ฝ่ามือเกิดการพังทลายแต่มันเปลี่ยนกลายเป็นละอองแสงน่ากลัวนับไม่ถ้วนและเข้าสู่แขนซ้ายของหวังหลิน!
ฝ่ามือนี้ได้กลายเป็นเป็นฝ่ามือซ้ายของเขาไปด้วย!
ละอองแสงน่ากลัวนับไม่ถ้วนเข้าสู่แขนซ้ายหวังหลิน คลื่นความเจ็บปวดรุนแรงปะทุขึ้นมาจนหวังหลินต้องหน้าซีด ความเจ็บปวดมากมายมหาศาลจนร่างหวังหลินสั่นสะท้านรุนแรง ละอองแสงจำนวนมากรวมตัวกันราวกับเป็นถุงมือสีดำปรากฏขึ้นปกคลุมแขนซ้าย!!
แขนซ้ายกลายเป็นสีดำสนิท ถุงมือเริ่มลุกลามแผ่กระจายไปยังแขน
เหตุการณ์นี้ทำให้ไฮ่จื่อตกตะลึง หวังหลินหน้าซีดและเผยสายตามุ่งมั่น แขนซ้ายเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและสูญเสียสัมผัสไปหมดแล้วราวกับมันไม่ได้เป็นอวัยวะของเขา หวังหลินรู้สึกว่าหากลุกลามไปกว่านี้ ร่างกายเขาคงไม่เป็นของตัวเองอีกต่อไป!
ความรู้สึกสะอิดสะเอียนผุดขึ้นในใจ ราวกับน้ำและไฟไม่อาจผสานด้วยกันได้ เป็นความรู้สึกที่ชัดเจนยิ่ง!!
หวังหลินผุดแววตาเป็นประกายเย็นเยียบและยกดาบหยินขึ้นมาในแขนขวา ฟันลงไปตัดแขนซ้าย เลือดเนื้อและแขนซ้ายได้หลอมรวมกันจนเหลือแต่ผิวหนัง ซึ่งมันผสานกับทะเลและพุ่งเข้าหาหวังหลินอีกครั้ง
“ค้นพบวิญญาณนอกแผ่นดินเซียนดารา ผนึก!”
การกระทำอันมุ่งมั่นของหวังหลินทำให้ไฮ่จื่อมีเวลาพอ นางยกแขนขึ้นมาหยิบหินหยกและบดขยี้เกิดเป็นแสงสีฟ้าเข้มขึ้นมาหนึ่งชั้นห่อหุ้มรอบตัวนางและหวังหลิน มันแผ่กระจายออกไปแสนฟุตและปกป้องมังกรสมุทรกับเจ้าปลาหมึกที่ได้ถอยหนี จากนั้นม่านแสงหดกลับเข้าไปในทะเลพร้อมกับหวังหลิน ไฮ่จื่อ มังกรสมุทรและเจ้าปลาหมึก
ไม่นานนักม่านแสงก็ร่อนลงสู่ก้นทะเล ผิวน้ำด้านนอกเป็นสีดำเนื่องจากน้ำหมึกจนมองไม่เห็นสิ่งใด มีเพียงเสียงดังตึงตังให้ได้ยินแต่ม่านแสงก็แค่สั่นเทาและไม่แตกสลาย
ฝ่ามือทำการโจมตีม่านแสงต่อไปแต่ก็ไม่สามารถทำลายได้ในชั่วเวลาสั้นๆ อย่างไรก็ตามเสียงตึงตังยิ่งรุนแรงมากกว่าเดิม
ม่านแสงก่อตัวบนพื้นทะเลเป็นรูปครึ่งวงกลม นอกจากเสียงตึงตังแล้วก็ไม่มีเสียงอื่นเลย!
หวังหลินหลับตานั่งอยู่ด้านข้างด้วยท่าทีมืดมน มังกรสมุทรหมุนวนรอบหวังหลินและจ้องมองเจ้าปลาหมึกห่างออกไปไม่ไกล สายตาของมันไม่เป็นมิตรแต่ก็มองไปที่ม่านแสงด้วยความหวาดกลัว
เจ้าปลาหมึกก็จ้องมองมังกรสมุทรอย่างโกรธเกรี้ยวราวกับสองสัตว์ไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้
ไฮ่จื่ออยู่ห่างจากหวังหลินหนึ่งพันฟุต ใบหน้างดงามของนางในตอนนี้กำลังซีดเผือด ผมเผ้ากระจัดกระจาย นางมองหวังหลินด้วยท่าทีซับซ้อนและเหตุการณ์ที่หวังหลินเข้ามาขัดขวางฝ่ามือให้นางพลันปรากฏขึ้นในใจ
“เจ้า…เป็นไรหรือไม่…ข้าบดขยี้หินหยกช่วยชีวิตที่อาจารย์มอบให้แล้ว อาจารย์น่าจะรับรู้และน่าจะมาถึงเร็วๆ นี้ ข้ายังมีขวดยาอยู่ที่นี่ ฝ…ฝ่ามือเจ้า…” ไฮ่จื่อพูดขึ้น สะบัดแขนปรากฏขวดหยกขึ้นมา มีอักษรโบราณคำว่า “ตี้” บนขวดซึ่งเปล่งคลื่นความกดดัน
ไฮ่จื่อถือขวดหยกเดินเข้าไปหาหวังหลิน นางบดขยี้เม็ดยาและกำลังจะทาใส่แขนซ้ายของหวังหลิน จังหวะนั้นหวังหลินลืมตาในทันที
“ไม่จำเป็น!” หวังหลินพูดอย่างเย็นเยียบจากนั้นถอยออกไปพันฟุต แสงโลหิตระเบิดออกมาจากแขนซ้ายที่เขาสูญเสียฝ่ามือไป แขนซ้ายเริ่มเติบโตขึ้นเนื่องจากเป็นพลังการฟื้นฟูอันทรงพลังของร่างกาย!
ไฮ่จื่อตกตะลึงไปชั่วขณะและกำลังจะพูดขึ้นมา ทันใดนั้นสีหน้าพลันเปลี่ยนไป นางมองไปที่ม่านแสงและไม่เชื่อสายตาตัวเอง หวังหลินจ้องมองม่านแสงด้วยเช่นกัน
เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้น!
………………………………………………………