Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน - ตอนที่ 1980 ไม่ไป!
ดัชนีครั้งนี้คือพลังสูงสุดของหวังหลิน ไม่เพียงแต่จะมีร่างอวตารในมิติว่างแต่ยังมีพลังสูงสุดของเกราะวิญญาณ ร่างแก่นแท้ห้าธาตุและร่างแก่นแท้สายฟ้าปรากฏขึ้นมา แม้แต่แก่นแท้นามธรรมทั้งสามยังปรากฏเพื่อกลายเป็นวังวนสามแห่งด้านหลังหวังหลิน!
พลังทุกอย่างเข้าสู่ดัชนี ด้วยค่ายกลที่สร้างจากแสงสีทองและเศษกระบี่ หวังหลินจึงสามารถระเบิดพลังของร่างอวตารในมิติว่างไปถึงขีดสุดได้
หวังหลินต้องการใช้ดัชนีนี้สังหารคนที่อยู่เบื้องหลังดัชนี หวังหลินเป็นคนแบบนี้เสมอ หากมีใครพยายามสังหารเขา เขาก็จะสังหารมันตอบแทน!
สายลมหิมะส่งเสียงดังกึกก้องไปบนถนน ดัชนีที่ปรากฏจากความว่างเปล่าพลันปะทะกับดัชนีของหวังหลินที่เต็มไปด้วยพลังสังหาร!
เมื่อสองดัชนีปะทะกัน พลังบัญชาโบราณของหวังหลินจึงพรั่งพรูออกมา
ภาพติดตา 98 ร่างจากเส้นชีพจรทั้งห้าได้ผสานกันเป็นหนึ่ง และด้วยพลังจากกระทิงสวรรค์จึงกลายเป็นคลื่นกระแทกรอบที่สองเข้าต่อสู้กับดัชนี!
เสียงดังสนั่นกึกก้องไปทั่วโลกราวกับสายฟ้าในคืนอันมืดมิด ทำให้ไฮ่จื่อที่กำลังวิ่งไปขอความช่วยเหลือต้องหยุดชะงักและไม่สามารถก้าวไปต่อได้
ดัชนีหยุดชั่วขณะและเส้นโลหิตบวมเป่งคล้ายกับไม่สามารถทนต้านดัชนีของหวังหลินได้
แต่นี่ยังไม่จบ ร่างแก่นแท้ห้าธาตุ ร่างแก่นแท้สายฟ้าและแก่นแท้นามธรรมทั้งสามได้กลายเป็นคลื่นกระแทกลูกที่สาม เป็นการโจมตีที่แฝงการรู้แจ้งแห่งเต๋าของหวังหลินตลอดชีวิต!
โลหิตไหลลงมาจากดัชนีของหวังหลิน แต่เขาไม่ถอย ส่งเสียงคำรามและพุ่งต่อไป!
ระลอกคลื่นรอบที่สี่มาจากร่างอวตารของหวังหลินในมิติว่าง พลังนี้มาจากสายตาของหวังหลินและเปลี่ยนกลายเป็นแสงสีทองห่อหุ้มปลายนิ้ว ด้วยเศษดาบหยินรอบด้านสะท้อนแสง ดัชนีของหวังหลินจึงกลายเป็นสีทอง!
ดัชนีทอง!
พลังสูงสุดทำให้อีกดัชนีต้านทานได้ครู่เดียวและพังทลายทันที!
แต่ขณะที่ดัชนีพังทลาย เสียงสงบนิ่งดังกึกก้องขึ้นมา
“เพราะมีพ่ายแพ้ เมื่อเกิดขึ้นใหม่ จึงจะมีตัวตน!”
เพียงคำพูดเหล่านั้นดังออกมา ดัชนีที่พังทลายก็สร้างขึ้นมาใหม่ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นและปะทะกับดัชนีของหวังหลินอีกครั้ง!
“เพราะมีตัวตน เมื่อพ่ายแพ้จึงกลายเป็นความว่างเปล่า!”
พอสองดัชนีสัมผัสกัน พลังบัญชาโบราณของหวังหลินจึงหายไปราวกับกลายเป็นความว่างเปล่า! นอกจากนี้วิชาที่เขารวบรวมและพลังของกระทิงสวรรค์ยังหายไปด้วยราวกับถูกปัดเป่าออกไป
แม้แต่ร่างแก่นแท้ห้าธาตุและร่างแก่นแท้สายฟ้ายังหายไปด้วยอำนาจของพลังประหลาดนี้ แต่แก่นแท้นามธรรมทั้งสามของเขายังเหลืออยู่
สามแก่นแท้นี้คือแก่นแท้แรกเริ่มของหวังหลิน พวกมันเป็นตัวแทนความรู้ความเข้าใจทั้งชีวิตของหวังหลิน เป็นความเข้าใจชีวิตและความตาย เวรกรรมและจริงเท็จที่ไม่มีพลังใดจะขับไล่ไปได้!
สิ่งที่เหลืออยู่อีกคือแสงสีทองจากร่างอวตารของหวังหลินในมิติว่าง!
โลหิตหวังหลินไหลออกมาจากมุมปาก เพียงเขากระเด็นถอยหลัง จึงสะบัดแขนขวาให้ค่ายกลเศษดาบหยินทะยานเข้าหาดัชนีที่พังทลายไป แต่ดูเหมือนมันกำลังจะก่อตัวขึ้นใหม่เป็นครั้งที่สาม!
เสียงดังสนั่นกึกก้องบนถนน หิมะคล้ายกับหยุดลง ดัชนีที่กำลังจะก่อตัวขึ้นได้พังทลายอีกครั้งแต่มันเผยสัญญาณฟื้นคืนเป็นครั้งที่สี่!
หวังหลินรีบถอยและมาถึงปลายสุดถนน ซึ่งคือสุดขอบผนึก เขาเพียงแค่ต้องทำลายผนึกตรงจุดนี้เพื่อออกไปจากกับดัก!
แต่ขณะที่เข้าไปใกล้กลับมีระลอกคลื่นโผล่ออกมาจากบ้านทั้งสองฝั่งถนนและปรากฏร่างคนขึ้นอีกร้อยร่าง!
ทั้งร้อยร่างล้วนมีสายตาไม่แยแส วินาทีนั้นทุกคนยกแขนขึ้นมาปรากฏคันธนูเล็งมาที่หวังหลิน ทุกคนดึงสายคันธนู ลูกธนูหิมะนับร้อยดอกควบแน่นเข้ามาหา!
แต่ละคนพ่นโลหิตเข้าใส่ลูกธนูของตัวเองตามกันไป จากนั้นร่างกายก็เหี่ยวแห้งราวกับโลหิตนั้นได้ดูดซับพลังชีวิตทั้งหมดไป!
“เซียนไร้ชีวิต!” หวังหลินหรี่ตาแคบลง ทุกคนที่ปรากฏขึ้นในกับดักนี้นอกจากดัชนีก็เป็นเซียนไร้ชีวิต ทุกคนใช้ความตายเป็นค่าใช้จ่ายในการวางกับดัก!
หวังหลินเคยเจอสถานการณ์ย่ำแย่หลายครั้งมาก่อนแต่ไม่มีครั้งไหนที่เป็นแบบนี้ ในทุกครั้งที่ผ่านมาผู้คนมักจะห่วงใยชีวิตของตัวเอง แต่คนพวกนี้ไม่สนใจความตายของตัวเองเลยแม้แต่น้อย!
พริบตาเดียวร่างนับร้อยก็หายไป แม้แต่กระดูกก็ไม่มีเหลือ แต่ตอนที่พวกเขาตาย ลูกธนูถูกปล่อยออกมาเป็นเสียงหวีดหวิวนับร้อย!
ลูกธนูหิมะโลหิตร้อยดอกทะยานเข้ามาหาหวังหลินจากทุกทิศทาง มันเปลี่ยนกลายเป็นลำแสงร้อยเส้นเข้ามาใกล้จนหวังหลินไม่มีโอกาสหลบหลีก!
หวังหลินร้องคำราม ฝ่ามือสร้างผนึกและผลักออกไป เรือนผมสีขาวพริ้วไหว เสื้อผ้าพัดปลิว ดวงอาทิตย์สีทองปรากฏขึ้นในความมืดด้านหลังหวังหลิน
วินาทีนั้นถนนสายยาวได้หายไป ทั้งโลกกลายเป็นทะเลอันมืดสนิท ดวงอาทิตย์ลอยขึ้นบนฟากฟ้าปลดปล่อยพลังขับไล่ความมืด!
“แยกราตรี!”
วินาทีที่วิชานี้ปรากฏขึ้นมา ลูกธนูโลหิตนับร้อยดอกคล้ายกับผสานกับความมืดและฉีกกระจายไปพร้อมกัน เสียงดังสนั่นดังกึกก้องอย่างต่อเนื่อง
หวังหลินเอ่ยเสียงดังขึ้นมาด้วยเช่นกัน!
“ข้าเชื่อว่าความมืดมิดทั้งหลายจะถูกทำลายเบื้องหน้าแสงไฟ!”
“ข้าเชื่อว่าตัวตนทุกอย่างจะต้องสูญสิ้นไปภายใต้อาทิตย์ที่กำลังสาดส่อง!”
“ข้าเชื่อว่าความว่างเปล่าและสูญสิ้นทุกอย่างจะไม่สามารถเข้าสู่วัฏจักรการเกิดใหม่ได้!”
ดวงอาทิตย์รอบร่างหวังหลินเปล่งแสงสว่างมากขึ้น ลูกธนูร้อยดอกพังทลาย แม้แต่ดัชนีที่ฟื้นคืนเป็นครั้งที่สามยังปล่อยเสียงซี่ๆ และมีควันสีดำจำนวนมากปรากฏออกมา!
หวังหลินสะบัดแขนร้องคำราม ดวงอาทิตย์กวาดไปข้างหน้าและกระหน่ำโจมตีใส่ทุกอย่างที่ขวางทาง ความมืดหายไป ร่างที่ปรากฏได้พังทลายไปจากการปะทะกับดวงอาทิตย์!
แสงรอบด้านหายไปและกลับคืนสู่ปกติ มันยังเป็นถนนยาวเส้นเดิน สายลมหิมะยังคงปกคลุมพื้นถนน!
แต่บนเสื้อผ้าหวังหลินมีอยู่เจ็ดรู เศษลูกศรเจ็ดดอกที่ไม่ได้สลายไปในดวงอาทิตย์ พวกมันแทงทะลุมาถึงร่างหวังหลิน
โลหิตไหลรินออกจากปากและเขาเดินเซถอยหลัง แขนขวากำหมัดและชกเข้าใส่ขอบถนนที่ถูกผนึก เมื่อกำปั้นร่อนลงไป อากาศรอบถนนยาวจึงเริ่มบิดเบือน
โล่รูปทรงวงแหวนปรากฏขึ้นมาคล้ายถ้วยชามและห่อหุ้มถนนเอาไว้ ก่อนที่ระลอกคลื่นจะหายไป หวังหลินเห็นเซียนชุดดำนับหมื่นคนกำลังนั่งอยู่นอกถนน
เหล่าเซียนชุดดำคล้ายกับเชื่อมต่อกันผ่านพลังรูปแบบหนึ่ง ซึ่งเป็นพลังประหลาดสำหรับปิดผนึกที่แห่งนี้
“เจ้าจะหนีไปไหนไม่ได้!” เสียงสงบนิ่งดังกึกก้องบนถนน เพียงเท่านั้นดัชนีที่พังทลายไปแล้วจึงปรากฏอีกครา
“เพื่อสังหารเจ้า ข้าจึงต้องส่งพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของสำนักออกไป!”
ระลอกคลื่นบนถนนหายไป โลกด้านนอกที่หวังหลินเห็นเริ่มพร่าเลือนจนมองไม่เห็นอะไรในอากาศเมื่อครู่อีก
ทว่าในจังหวะที่ภาพด้านนอกหายไป หวังหลินเห็นว่าคนจำนวนร้อยคนในหมื่นคนนั้นได้กลืนกินเม็ดยา ร่างแต่ละคนพังทลาย วิญญาณดั้งเดิมคล้ายควันลอยเข้าหาถนนเส้นยาวที่ถูกปิดผนึก
ขณะเดียวกันมีร่างเงาพร่าเลือนปรากฏขึ้นในสายลมหิมะ ทุกคนปลดปล่อยระดับบ่มเพาะขั้นผู้สูงส่งชั้นฟ้าและพุ่งหาหวังหลินโดยไม่คิดชีวิต
หวังหลินมีสายตาสงบนิ่งแต่ภายในมีประกายแสงมองทะลุผ่านร่างร้อยคนที่กำลังพุ่งเข้ามา สายตาจับจ้องไปบนดัชนีที่ก่อตัวขึ้นมาใหม่และลอยอยู่นิ่งๆ ตรงนั้น
‘ในเมื่อพวกเจ้าไม่ต้องการให้ข้าไป เช่นนั้นวันนี้ข้าจะไม่ไปไหน! วิธีที่ดีที่สุดในการต่อกรกับดักแห่งความตายนี้คือสังหารพวกเจ้าทั้งหมด จากนั้นกับดักก็จะถูกทำลาย’ เรือนผมสีขาวของหวังหลินเริ่มยืดยาว ส่วนโคนผมกลายเป็นสีดำราวกับเส้นผมกำลังเปลี่ยนสี!
ภายในแววตาอันสงบนิ่งมีสัมผัสความโหดเหี้ยมอำมหิต เป็นความไม่แยแสในโลกนี้และไม่แฝงอารมณ์ใดเจือปน วินาทีนี้หวังหลินเสมือนเศษน้ำแข็งที่ไม่มีวันละลาย!
“เดิมทีข้าไม่ได้ต้องการเดินบนเส้นทางสังหาร แต่เวลานี้พวกเจ้าทุกคน…ต้องเจอกับการสังหารของข้า!” หวังหลินหลับตา ราวกับเทพสงครามจุติลงมา เป็นครั้งแรกที่เขาปล่อยให้ร่างอวตารสายฟ้าสังหารเข้ามาควบคุม!
ทั้งยังเป็นครั้งแรกที่หวังหลินปลดปล่อยแก่นแท้สังหารและแก่นแท้ต้นกำเนิดแท้จริง ซึ่งทำให้แก่นแท้สังหารและแก่นแท้จุดจบที่แท้จริงปะทุออกมาด้วย!
………………………………………