Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน - ตอนที่ 1990 ปลดปล่อยต้าวหวัง!
ณ วังต้องห้ามในเมืองหลวง!
มีหลุมขนาดใหญ่บนท้องฟ้ากำลังเปล่งแสงเบาบาง ศีรษะขนาดร้อยฟุตลอยอยู่ท่ามกลางภูเขาทั้งแปดด้านล่าง ศีรษะกำลังลอยอยู่ในอากาศอย่างนิ่งๆ
ทว่าตาขวากลับเปิดออกและมีแสงเล็กน้อย มันขุ่นมัวและแสงยังเหมือนวังวนที่หมุนอยู่ในตาขวา
เพียงแต่แสงที่หมุนวนอยู่นั้น ข้างในมีร่างเงาเลือนลาง ร่างเงานี้คือหวังหลิน!
ตาขวาของบรรพชนเทพเสมือนโลกอีกแห่ง หวังหลินลอยอยู่ในโลกอันมืดมิด ที่นี่ว่างเปล่าและเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตาย
เส้นผมหวังหลินสลับเปลี่ยนระหว่างสีขาวและดำอย่างรวดเร็ว เขาดูเหมือนไม่รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลง ดวงตายังคงหลับใหล
ภายในร่าง แสงสีทองกำลังหายไปอย่างช้าๆ ราวกับมันเจาะทะลุผิวหนัง แสงสีทองหมองหม่นลงจนหายไปได้ทุกเมื่อ หวังหลินดูสงบนิ่งอยู่ในแสงสีทองนี้ราวกับเขาหลับและไม่รู้สึกอะไร
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน แสงสีทองในร่างหวังหลินยิ่งเจิดจ้าและแผ่กระจายออกไปข้างนอกมากขึ้น ภายในร่างกายมีทั้งการสืบทอดและการครอบงำ การข่มและการต่อต้าน!
มองด้านนอกหวังหลินดูปกติ ข้างในร่างมีก้อนแสงสีทองซึ่งมีพลังอำนาจของบรรพชนเทพและแผ่กระจายแสงสีทองผ่านร่างหวังหลิน มันกำลังเปลี่ยนแปลงร่างเนื้อ โลหิตและกระดูกให้เหมาะสมต่อการคงอยู่ของแสงสีทอง
แสงสีทองมีความจองหองยิ่ง มันเปล่งกลิ่นอายที่สามารถควบคุมได้ทุกชีวิตและสามารถทำให้คนบ้าคลั่ง กลิ่นอายนี้ทรงพลังมากพอจนแม้แต่ราชครูก็ไม่สามารถครอบงำได้ การสืบทอดครั้งนี้มีอำนาจมากเสียจนทำให้หวังหลินเปลี่ยนกลายเป็นคนบ้าเสียสติ!
แสงสีทองอันจองหองได้เข้าทำลายทุกอย่างที่ทำให้หวังหลินเกิดการต่อต้าน มันครอบงำสองแขนและครอบคลุมทั้งร่างกาย
ทว่ามีส่วนหนึ่งในร่างหวังหลินที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้แม้แสงสีทองจะรุกล้ำไปมากแค่ไหน มันคือตำแหน่งที่มีโลหิตวิญญาณของบรรพชนโบราณตั้งอยู่!
โลหิตวิญญาณของบรรพชนโบราณมีระดับเดียวกับการสืบทอดจากบรรพชนเทพ ดังนั้นแสงสีทองจึงไม่สามารถก้าวล่วงไปได้มากนัก ทว่าโลหิตวิญญาณไม่ได้มีมากมาย มันจึงไม่สามารถแผ่กระจายออกไปต่อต้านได้ ทำให้สองฝั่งไม่แตะต้องกันเอง
‘หลังจากแสงสีทองครอบงำร่างเขาไปแล้ว ข้าสามารถครอบงำวิญญาณเขาและทำให้มันแตกสลาย จากนั้นข้าก็จะควบคุมร่างของเขาได้อย่างสมบูรณ์!’ ความคิดของราชครูดังขึ้นมาในร่างหวังหลิน
ร่างกายของราชครูตายไปแล้วตอนนี้เขาจึงเป็นเพียงเศษสัมผัสวิญญาณในร่างหวังหลิน เขาตระหนักไว้แล้วว่าการครอบงำร่างหวังหลินไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นจึงใช้ระดับบ่มเพาะของบรรพชนเทพเป็นตัวล่อ เป้าหมายก็เพื่อหยิบยืมพลังการสืบทอดนี้เพื่อลบล้างการดิ้นรนของหวังหลิน ทำให้ร่างหวังหลินมีระดับบ่มเพาะของบรรพชนเทพและจากนั้นเขาก็จะครอบงำได้โดยไม่มีอันตราย
แสงสีทองเกาะกุมทุกส่วนในร่างหวังหลินยกเว้นจุดที่มีโลหิตวิญญาณอยู่และส่วนสมอง แสงสีทองจากร่างหวังหลินนั้นส่องสว่างจนเห็นได้จากภายนอก หากมองตาขวาตรงศีรษะบรรพชนเทพก็จะเห็นแสงสีทองเบาบางได้ชัดเจน
เพียงแค่แสงสีทองแผ่กระจายออกมา ราวกับศีรษะบรรพชนเทพมีพลังชีวิต!
‘ร่างหวังหลินคนนี้ประหลาดยิ่ง มันมีกลิ่นอายของบรรพบนโบราณ กลิ่นอายที่ไม่สามารถลบล้างออกไปได้…แต่มันสามารถผนึกได้ ดังนั้นมันจึงไม่แทรกแซงแผนการของข้า!’ ราชครูคิดกับตัวเอง จากนั้นแสงสีทองในร่างหวังหลินรวมกันรอบโลหิตวิญญาณ แม้จะไม่สามารถลบโลหิตวิญญาณออกไปได้ มันก็ไม่สามารถขัดขวางแผนการครอบงำร่างของราชครูได้อีกแล้ว
‘ข้าครอบงำร่างกายไปแล้ว ถัดไปคือส่วนศีรษะ เมื่อข้าครอบงำศีรษะได้ ข้าก็จะครอบงำวิญญาณเขาได้!’ ราชครูตื่นเต้นมาก หลังจากผนึกโลหิตวิญญาณ เขาสัมผัสถึงแสงสีทองแผ่กระจายเป็นระลอกคลื่นเข้าหาลำคอหวังหลิน
ร่างหวังหลินสั่นสะท้าน จากนั้นแสงสีทองเต็มไปทั่วศีรษะและไหลออกมาจากรูขุมขน
แสงสีทองแผ่กระจายผ่านศีรษะและใช้พลังอันเหนือล้ำของมันเข้ากวาดล้างการป้องกันทุกอย่างที่หวังหลินวางเอาไว้ มันครอบครองส่วนร่างกายและศีรษะของหวังหลินอย่างสมบูรณ์!
จากนั้นแสงสีทองก็เปล่งประกายเจิดจ้า ทำให้ดวงตาของศีรษะบรรพชนเทพเรืองแสง
“ครอบงำวิญญาณ!!” ราชครูปรากฏขึ้นทันทีและยืมพลังแสงสีทองที่กำลังครอบงำร่างหวังหลินมาใช้ค้นวิญญาณ!
ครู่ต่อมาเขาสัมผัสได้ถึงความผันผวนในร่างหวังหลิน จึงมุ่งเข้าไปด้วยความตื่นเต้น
“ทุกสิ่งที่มีตัวตนสามารถกลายเป็นความว่างเปล่าได้เพราะดำรงอยู่! วิญญาณ จงว่างเปล่า!” เพียงราชครูเอ่ยเสียงดังกึกก้อง วิญญาณหวังหลินก็สูญสลายไปและลบล้างตัวตน
‘เอ๋ ช่างเปราะบาง ไม่มีแม้แต่ความทรงจำเหลืออยู่…น่าจะเป็นเพราะแสงจากการสืบทอดรุนแรงเกินไป วิญญาณหวังหลินก็อ่อนแอมาก เพียงแตะก็แตกสลาย!’
พอไม่มีวิญญาณ ร่างกายจึงเหมือนร่างศพ จังหวะนั้นราชครูแผ่กระจายสัมผัสวิญญาณออกมาข้างในแสงสีทองเพื่อควบคุมร่างหวังหลิน
หวังหลินพลันลืมตา แสงสีทองจากแววตากำลังแพรวพราวยิ่งขึ้น!
กระนั้นหวังหลินในตอนนี้ไม่ได้มีสติของตัวเอง แต่เป็นของราชครู!
‘ได้ผล!! หวังหลินที่ดูเจ้าเล่ห์ตั้งแต่แรกและมักจะทำให้ข้าสงสัยอยู่ตลอด เขาไม่ร่วมมือกับข้าเลย แต่ในตอนนี้ด้วยพลังของการสืบทอดบรรพชนเทพ ก็ยังโดนข้าครอบงำไปได้!’
‘ร่างกายนี้แข็งแกร่งมาก!! แม้จะมีพลังเพลิงนรกานต์เพิ่มขึ้นก็ยังหลอมได้อีก!!’ ราชครูเต็มไปด้วยความตื่นเต้นหลังจากครอบครองร่างหวังหลินและกำหมัด
‘น่าเสียดายที่การสืบทอดไม่สมบูรณ์ แต่นี่แค่ขั้นตอนแรกเท่านั้น ขึ้นตอนที่สองเมื่อทำมันสำเร็จ เผ่าพันธุ์ของข้าจะไม่กลายเป็นทาสรับใช้ของบรรพชนเทพอีกแล้วและจะได้รับอิสระ!!’
‘ข้ารอคอยวันนี้มานานมาก ไม่มีสิ่งใดในโลกคุ้มค่ามากกว่าการได้เป็นอิสระ!’
‘เพื่อเผ่าของข้าแล้ว แม้ข้าจะถูกทำลาย ข้าก็จะขอยอมทำทุกอย่าง!!’ ราชครูมีแววตาตื่นเต้นแต่ก็โศกเศร้าไปด้วย เขาเห็นตั้งแต่อดีตแล้วว่าคนในเผ่าทุกคนล้วนมีชะตากรรมที่กำหนดมาตั้งแต่เกิด
‘หวังหลิน…อย่ากล่าวหาข้าเลย…’ ราชครูถอนหายใจแต่แววตาเปล่งประกายเจิดจ้าและเกิดความมุ่งมั่น เขาไม่ได้ออกไปจากตาขวาของบรรพชนเทพแต่ยังอยู่ข้างใน ยกสองแขนขึ้นมาสร้างผนึก แสงสีทองในร่างกายเปลี่ยนไปมากมาย!
แสงสีทองรอบร่างกายเพิ่มขึ้นสิบเท่า ร้อยเท่า พันเท่า หมื่นเท่า ราวกับไฟลุกลามและทำให้ระดับบ่มเพาะของบรรพชนเทพในร่างหวังหลินระเบิดออกอย่างรวดเร็ว!
ด้วยแสงสีทองหมื่นเท่านี้ ร่างหวังหลินเสมือนดวงอาทิตย์ที่กำลังส่องสว่างขึ้นมาในโลกอันมืดมิดของตาขวา ดวงตาตอนนี้ไม่มืดสนิทอีกต่อไป!
แสงในตาขวาของบรรพชนเทพกำลังส่องสว่างเจิดจ้าเข้าห่อหุ้มวังต้องห้าม!
ราวกับกะโหลกได้รับการฟื้นคืนชีพ!
“ตาซ้าย!!” ราชครูสร้างผนึกและเริ่มร่ายวิชาอันซับซ้อน
บรรพชนเทพลืมตาซ้ายขึ้นมา มันขุ่นมัวและเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายซึ่งแตกต่างจากตาขวาอย่างสิ้นเชิงที่ตอนนี้มีทั้งแสงและพลังชีวิต!
นาทีที่ลืมตาซ้าย พลังดึงดูดรุนแรงพุ่งเข้าหาท้องฟ้าไปยังตำแหน่งที่มีหลุมปรากฏขึ้น!
ขณะเดียวกันเกิดเสียงแตกร้าวดังกึกก้อง ด้านนอกบ่อน้ำ เหลียนต้าวเฟยพลันถูกดึงลงไปในบ่อน้ำโลหิต!
โซ่ตรวนที่ดึงรั้งร่างไว้อยู่ถูกดึงจนถึงขีดสุดจนเกิดเสียงแตกร้าวและไม่สามารถทนรับไหว!
ความจริงแล้วพลังดึงดูดนี้ไม่ได้ดึงโซ่ตรวนแต่เป็นร่างเหลียนต้าวเฟยที่ผูกมัดอยู่ เหลียนต้าวเฟยถูกดึงตรงเข้าหาบ่อน้ำโลหิต พออยู่ระยะสิบฟุต โซ่ตรวนซึ่งไม่ได้ยาวมากพอและเป็นโซ่ที่หวังหลินทำลายได้ยากยิ่งก็พลันแตกสลาย!
โซ่ตรวนที่เหลืออยู่หกสายพลันแตกสลายไปทั้งหมด!
หลังจากนั้นร่างของเหลียนต้าวเฟยได้ถูกดูดเข้าไปในบ่อโลหิต เขาเปลี่ยนกลายเป็นลำแสงสีทองและทะยานตรงเข้าหาตาซ้ายของบรรพชนเทพ!
พริบตาเดียวร่างเหลียนต้าวเฟยก็เข้ามาใกล้และถูกดูดเข้าไปในตาซ้ายเหมือนหวังหลิน!
จังหวะนี้เองร่างพร่ามัวของเหลียนต้าวเฟยจึงปรากฏขึ้นในตาซ้าย ร่างกายเปล่งแสงสีทองอันทรงพลังจนทะลุออกมา ทำให้ดวงตาทั้งสองข้างของบรรพชนเทพเปิดออกและเปล่งแสงสีทองมหาศาลดุจฟื้นคืนชีพขึ้นมาจริงๆ!
“บรรพชนเทพ พูด!! ปลดปล่อยผนึกของเผ่าพันธุ์ต้าวหวัง!!” ราชครูกรีดร้องอย่างตื่นเต้นแต่ไม่ได้สังเกตว่าส่วนที่ซ่อนในร่างกายมีวิญญาณของหวังหลินเฝ้าดูทุกอย่างจากลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าอย่างเย็นเยียบ
เพียงราชครูเอ่ยปาก บรรพชนเทพอ้าปากอย่างช้าๆ เสียงเก่าแก่คล้ายกับเสียงของราชครูเอ่ยดังออกมา!
“ปลดปล่อย…ต้าว…หวัง…”
…………………………………………