Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน - ตอนที่ 1992 มหาชั้นฟ้าทั้งห้า!
การปรากฏตัวของมหาชั้นฟ้าจิ่วตี้ไม่ได้ทำให้จักรพรรดิเทพประหลาดใจ เขายังคงยืนอยู่บนศีรษะของบรรพชนเทพอย่างมั่นใจและมองดูจิ่วตี้ก้าวเดินออกมา!
“จิ่วตี้! เจ้ามาจริงๆ!” จักรพรรดิเทพยิ้ม
มหาชั้นฟ้าจิ่วตี้จ้องมองจักรพรรดิเทพด้วยท่าทีเคร่งขรึม เขาเพ่งสมาธิไปที่ศีรษะของบรรพชนเทพและเผยท่าทางอันซับซ้อน
“ศีรษะของบรรพชนเทพ…ข้าเองก็เคยติดตามบรรพชนเทพ นับเวลานี้ก็ผ่านมานานหลายปี…เหลียนต้าวเจิน ข้าได้เจอจักรพรรดิเทพหลายต่อหลายรุ่น แต่เจ้าถือว่าเป็นคนที่ใจกล้าที่สุด!”
“เจ้าใช้สิ่งที่ราชครูต้องการเพื่อให้ได้ศีรษะของบรรพชนเทพมา หากมีเวลามากพอเจ้าก็อาจดูดซับศีรษะของบรรพชนเทพเข้าไปในร่างกายได้ เมื่อนั้นเจ้าก็คงจะได้เป็นมหาชั้นฟ้าอันดับหนึ่งในเผ่าเทพจริงๆ!”
“แต่ตอนนี้เจ้าจะไม่มีโอกาสนั้นแล้ว!” จิ่วตี้เอ่ยขึ้นและก้าวออกมา เพียงเท่านั้นหญิงสาวที่เกิดขึ้นจากการผสานร่างของมหาชั้นฟ้าชวงจื่อพลันปกคลุมร่างด้วยแสงสีม่วงและก้าวเข้าหาจักรพรรดิเทพเช่นกัน!
มหาชั้นฟ้าทั้งสามเริ่มการต่อสู้อันดุเดือดภายในวังต้องห้ามแห่งนี้!
จักรพรรดิเทพยังคงมั่นใจเมื่อเผชิญหน้ากับจิ่วตี้และชวงจื่อ เขายกแขนขึ้นมาประทับใส่ศีรษะด้านล่าง
“แปดสุดขั้ว เต๋าเพลิงสุดขั้ว!”
เพียงเท่านั้นแสงสีทองที่ปกคลุมร่างจักรพรรดิเทพก็ได้แผ่กระจายออกไปทั่วศีรษะ และแล้วศีรษะก็อ้าปากเอ่ยเสียงของบรรพชนเทพ!
“แปด…สุด…ขั้ว…เต๋า…เพลิง…สุด…ขั้ว!”
แม้แต่ละคำจะติดขัดแต่ก็สมบูรณ์ หลังจากนั้นควันสีเขียวเก้าสายมีความหนาสิบฟุตปรากฏขึ้นมา มันล้อมรอบจักรพรรดิเทพและศีรษะถึงเก้าครั้งก่อนจะทะยานไปยังจิ่วตี้และชวงจื่อ
เสียงดังสนั่นกึกก้องในวังต้องห้าม หวังหลินยังคงซ่อนอยู่ในร่างกาย เขาเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นข้างนอกได้ชัดเจน
หวังหลินไม่ได้ลงมืออย่างวู่วามเนื่องเพราะการเปลี่ยนแปลงฉับพลันนี้ เขายังคงรอคอย! หวังหลินไม่คิดว่าทุกอย่างจะง่ายดาย การปรากฏตัวของจิ่วตี้อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่บางอย่าง!
ก่อนที่หวังหลินจะเข้าใจสถานการณ์ได้อย่างเต็มที่ เขาจะไม่ยอมออกมา!
มหาชั้นฟ้าชวงจื่อหน้าซีดพลางมีแสงสีม่วงปกคลุมร่างกายและล่าถอยไปหลายก้าว จิ่วตี้เองก็ถอยร่นไปด้วยเช่นกัน
สิ่งที่พวกเขาเพิ่งเผชิญไม่ใช่จักรพรรดิเทพแต่เป็นบรรพชนเทพ! การโจมตีจากบรรพชนเทพบังคับให้ทั้งสองต้องถอยไปแม้จะร่วมมือผสานพลังกัน!
จิ่วตี้ดวงตาส่องสว่างและเอ่ยขึ้น “มันไม่ใช่พลังสมบูรณ์ นี่แค่ราวหนึ่งในสิบส่วนเท่านั้น!” ภายในร่างเกิดเสียงปะทุ ใบหน้าแก่ชราเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วกลายเป็นชายวัยกลางคน!
เขาดูหล่อเหลาและเปล่งกลิ่นอายแห่งจักรพรรดิ! จิ่วตี้คงสภาพเป็นชายชราตลอดทั้งปีและเมื่อระเบิดระดับบ่มเพาะเท่านั้นจึงจะทำให้รูปร่างหน้าตาเขาเปลี่ยนไปแบบนี้
“พูดก็พูดเถอะ จิ่วตี้นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้เห็นเจ้าสภาพนี้ แต่ว่าเจ้าก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า!” จักรพรรดิเทพยิ้มและนั่งลงบนศีรษะของบรรพชนเทพอย่างเรียบง่าย สองมือกดทับลงบนศีรษะ
“ด้วยโลหิตของข้า ขออัญเชิญจิตวิญญาณบรรพชน!” จักรพรรดิเทพกัดปลายลิ้นและพ่นโลหิตออกไป
วินาทีนั้นศีรษะบรรพชนเทพก็สั่นเทาและปรากฏแสงสีทองมหึมา แสงสีทองควบแน่นเป็นร่างเงาสีทองขนาดยักษ์สวมเสื้อคลุมทรงอำนาจบารมี นั่นคือบรรพชนเทพ!
ศีรษะเป็นของจริง ร่างกายเป็นภาพมายา วินาทีนั้นดวงตาก็เปล่งประกายและยกแขนขวาขึ้นไปในอากาศ ปรากฏกระบี่สีทองขนาดยักษ์ขึ้นมา พร้อมกันนั้นร่างเงาของบรรพชนเทพได้คว้าเอาไว้
กระบี่ของบรรพชนเทพ!
วินาทีที่กระบี่ปรากฏขึ้น หวังหลินได้ยินเสียงบางอย่างกำลังเรียกหา
“ตอนนั้นเพียงหนึ่งกระบี่ วิญญาณต่างแดนหลายดวงถูกฟาดฟัน เหลือเพียงแต่พวกที่มีคุณสมบัติจึงจะถูกผนึกลงไปในแคว้น ตอนนี้เจ้าสองคนท้าทายอำนาจบรรพชนเทพ เจ้ายังไม่ถอยไปเมื่อเผชิญหน้ากับกระบี่เล่มนี้อีกหรือ?!” จักรพรรดิเทพเอ่ยเสียงดังกึกก้องพลางยกกระบี่สีทองขึ้นมาโบกสะบัดใส่มหาชั้นฟ้าจิ่วตี้และชวงจื่อ!
เสียงกระบี่เงียบสงัดแต่โลกเปลี่ยนสีสันทำให้เหมือนอากาศกำลังถูกผ่าครึ่ง มหาชั้นฟ้าจิ่วตี้มีท่าทีเปลี่ยนไป สองมือสร้างผนึกปรากฏดวงอาทิตย์สีขาวขึ้นมาเคียงคู่กับดวงอาทิตย์สีม่วง สุนัขสีขาวพุ่งทะยานออกมาจากดวงอาทิตย์สีขาวและส่งเสียงหอนใส่กระบี่ทอง!
ขณะเดียวกันมหาชั้นฟ้าชวงจื่อก็สร้างผนึกให้แสงสีม่วงปกคลุมทั่วบริเวณ ไม้ไผ่ม่วงปรากฏขึ้นด้านหลังของนางและเปลี่ยนกลายเป็นป่าไผ่สีม่วงทันที ไม้ไผ่ทั้งหมดลอยขึ้นสู่อากาศและพุ่งเข้าหากระบี่ทอง
“ต้าวยี่ หวู่เฟิง หากเจ้าสองคนไม่ลงมือ แล้วจะรอไปถึงเมื่อไร!!” จิ่วตี้ร้องคำรามพลางให้สุนัขขาวพุ่งออกไป ด้านซ้ายและขวาของจักรพรรดิเทพเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น
โลกด้านซ้ายของจักรพรรดิเทพยังคงไม่มีอะไรเคลื่อนไหว ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดลงและมหาชั้นฟ้าต้าวยี่ก้าวเดินออกมา เขายกแขนขวาขึ้นไปที่จักรพรรดิเทพ ทุกสิ่งทุกอย่างดูสงบนิ่งแต่นั่นเป็นตัวแทนเต๋าของต้าวยี่!
เต๋าของเขาคือทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นหนึ่ง เพียงหนึ่งดัชนีก็สามารถปลดปล่อยพลังสูงสุดของเขาได้แล้ว!
ทางด้านขวาของจักรพรรดิเทพ สายลมโหมกระหน่ำ ก้อนเมฆพัดปลิว มหาชั้นฟ้าหวู่เฟิงก้าวเดินออกมา เขาโยนกำปั้นเข้าหาจักรพรรดิเทพโดยไม่ลังเล
มหาชั้นฟ้าหวู่เฟิงเป็นคนที่ผ่านตำหนักระดับสิบหกในบททดสอบชั้นฟ้าได้ เขาเป็นคนที่แสวงหาศิลปะการต่อสู้และบรรลุเต๋าผ่านศาสตร์แขนงนี้ได้อย่างสมบูรณ์ กำปั้นนี้จึงมีพลังแห่งศรัทธาอันสูงสุดของตัวเองด้วย!
มหาชั้นฟ้าทั้งสี่โจมตีพร้อมกัน!!
หวังหลินมองดูภาพทุกอย่างที่เกิดขึ้นในดวงตาขวาของบรรพชนเทพ ความคิดจิตใจสั่นเทา เขาไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นระหว่างทางมาวังหลวง แม้กระทั่งต้าวยี่และหวู่เฟิงก็ยังปรากฏตัว!
เมื่อทั้งสองคนปรากฏตัว หวังหลินจึงเข้าใจว่าทุกอย่างที่นี่เหมือนตารางหมากรุกและเขาเป็นแค่เบี้ยในตารางหมากเท่านั้น แม้แต่เหล่ามหาชั้นฟ้ายังเป็นแค่ตัวหมาก เช่นนั้นแล้วฝั่งหนึ่งที่เป็นจักรพรรดิ กระนั้นอีกฝั่งคือใครกัน?
กระบี่สีทองเข้าปะทะกับชวงจื่อ ต้าวยี่ หวู่เฟิงและจิ่วตี้ เกิดเป็นเสียงดังสนั่นกึกก้อง ต้าวยี่กระเด็นถอยมา หวู่เฟิงถอยกลับด้วยใบหน้าซีดเผือดและมีเสียงดังปะทุขึ้นในร่างกาย
ชวงจื่อและจิ่วตี้มีระดับบ่มเพาะสูงกว่าต้าวยี่และหวู่เฟิง ถึงแบบนั้นก็ยังถูกกระบี่ทองบังคับให้ถอยกลับมา
แม้ทั้งสี่คนจะล่าถอย การผสานพลังโจมตีก็ไม่ใช่ของธรรมดา นอกจากคนผู้นั้นเป็นคนในเผ่าโบราณก็ไม่มีใครสามารถต้านทานพลังของมหาชั้นฟ้าสี่คนพร้อมกันได้!
คงไม่ต้องพูดถึงว่านี่เป็นเพียงภาพมายาที่มีพลังที่แท้จริงของบรรพชนเทพแค่หนึ่งในสิบส่วน กระบี่จึงแตกสลายเปลี่ยนกลายเป็นเศษเสี้ยวนับไม่ถ้วนตกลงสู่พื้นดิน
ขณะเดียวกันร่างเงาของบรรพชนเทพก็หายไปด้วยจนเหลือเพียงแค่ส่วนศีรษะ ร่างกายของจักรพรรดิเทพกำลังสั่นเทาและมีโลหิตไหลจากมุมปาก เขาหันมามองต้าวยี่และหวู่เฟิง!
จิ่วตี้มองจักรพรรดิเทพและพูดขึ้น “หากข้าไม่พอ เช่นนั้นจักรรพรรดิเทพคิดว่าหากเพิ่มต้าวยี่และหวู่เฟิงจะพอหรือไม่!?”
จักรพรรดิเทพมีสีหน้ามืดมนและเอ่ยปาก “พวกเจ้าสี่คนต้องการให้ข้าทำอะไรกันแน่!?”
เป้าหมายของมหาชั้นฟ้าชวงจื่อนั้นชัดเจน นางจ้องมองจักรพรรดิเทพและพูดขึ้น “ปลดปล่อยหวังหลิน! แล้วข้าจะไป!”
จิ่วตี้มองดูศีรษะของบรรพชนเทพและเอ่ยขึ้น “ข้าหวังว่าจักรพรรดิเทพจะปิดผนึกกะโหลกสำหรับข่มวิญญาณ 72 ดวงของเผ่าเทพอีกครั้ง กะโหลกนี้สำคัญต่อเผ่าเทพมากและไม่ใช่สิ่งที่จักรพรรดิเทพควรจะมี!”
“ความคิดข้าเหมือนกับของจิ่วตี้! จักรพรรดิเทพควรรักษาสมดุลพลังอำนาจระหว่างเราทั้งห้าคนเหมือนก่อนหน้านี้ ต้องไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง!” ต้าวยี่มีท่าทีมืดมน เขามองศีรษะบรรพชนเทพที่อยู่ด้านล่างจักรพรรดิเทพด้วยความหวาดหวั่น
หวู่เฟิงขบคิดและพูดขึ้น “ข้าก็ต้องการเช่นนั้น!”
จักรพรรดิเทพเริ่มหัวเราะอย่างเย็นเยียบ เขายกแขนขึ้นมาจนท่าทีของต้าวยี่และหวู่เฟิงเปลี่ยนไป เขาเอามือประทับหน้าอกตัวเอง พ่นโลหิตสีทองออกมาจากปาก ดวงตาของบรรพชนเทพเผยแสงสีทองมหึมาและอ้าปากปลดปล่อยแสงสีทองมากมาย แม้แต่หูและจมูกยังมีแสงสีทองมหาศาล
แสงสีทองแผ่กระจายออกมาจนกลายเป็นคลื่นสีทอง ทำให้มหาชั้นฟ้าทั้งสี่คนมีท่าทีเปลี่ยนไปและล่าถอยกันหมด
ขณะที่ถอยร่น จักรพรรดิเทพเผยสีหน้าดุดัน ถึงตอนนี้เขาไม่ยอมถอยง่ายๆ แล้ว เขาอยากระเบิดพลังของศีรษะบรรพชนเทพให้มากที่สุดเพื่อที่คนอื่นไม่สามารถเข้าใกล้ได้สักพัก จากนั้นก็จะใช้เวลานี้ฝืนดูดซับพลังของบรรพชนเทพ เมื่อเขาทำสำเร็จจะไม่ต้องกลัวใครหน้าไหนแม้แต่การเผชิญหน้ากับมหาชั้นฟ้าทั้งสี่ก็ตาม!
เพียงแสงสีทองส่องสว่าง มหาชั้นฟ้ากดฝ่ามือบนศีรษะและดูดซับ ทว่าเขาไม่สามารถดูดซับแสงอันใดได้ราวกับมีผนึกครอบศีรษะไว้หนึ่งชั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เขาดูดซับพลังของศีรษะ
‘นี่มันผนึกเผ่าพันธุ์ต้าวหวัง ราชครูบัดซบนั่น ตอนที่มันทำให้บรรพชนเทพพูดขึ้นมา ได้ใช้วิญญาณของตัวเองและทิ้งร่องรอยผนึกเผ่าพันธุ์ต้าวหวังเอาไว้!’
‘แต่ผนึกนี้ไม่สามารถหยุดยั้งข้าได้! ข้าเป็นจักรพรรดิเทพ ปกติข้าอาจไม่สามารถปลดปล่อยมันได้ แต่การที่ข้าควบคุมศีรษะของบรรพชนเทพเอาไว้ ข้าจึงทำได้!’
‘แม้ข้าจะปลดปล่อยผนึกของเผ่าพันธุ์ต้าวหวัง มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ราชครูตายไปแล้วและไม่สามารถทำอะไรได้อีก!’ จักรพรรดิเทพกำลังคิดอย่างรวดเร็ว สถานการณ์ตอนนี้ล้วนเร่งรีบและเขาไม่มีเวลาคิดมากเกินไป!
………………………………………………….