Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน - ตอนที่ 1994 คำสาปบรรพชน!
จิ่วตี้มองจักรพรรดิเทพและอธิบายต้นกำเนิดของเรื่องทั้งหมด “แผนการนี้คิดโดยอัจฉริยะของเผ่าพันธุ์ต้าวหวัง และมีการเคลื่อนไหวมาหลายรุ่น เขาเสนอเงื่อนไขคือช่วยข้าให้กลายเป็นมหาชั้นฟ้า”
“ตอนที่จักรพรรดิเทพคนก่อนตายและก่อนที่เจ้าจะได้ครองบัลลังก์ ราชครูคนก่อนได้พบข้า ตามแผนแล้วเราจะได้แต่งงานกันและให้กำเนิดทารกหญิงขึ้นมา”
“ทารกหญิงคนนี้ควรจะมีร่างกายจากแผ่นดินเซียนดาราแต่วิญญาณเป็นเผ่าพันธุ์ต้าวหวัง…เดิมทีเรื่องนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ด้วยผนึกของบรรพชนเทพเพราะว่าพลังจากผนึกมีมากมายมหาศาลเกินไป!”
“แต่ตอนนั้นบรรพชนเทพได้ตายมาหลายปีแล้วและผนึกก็อ่อนแอลง อัจฉริยะของเผ่าต้าวหวังเข้ามาพร้อมกับแผนการนี้ และเพื่อทำให้สำเร็จลุล่วงจึงต้องใช้ทั้งเผ่าพันธุ์สังเวยวิญญาณตัวเองเข้าต่อสู้กับพลังของผนึก”
“นับตั้งแต่นั้น จำนวนคนของเผ่าต้าวหวังก็ลดลงไป จนกระทั่งในรุ่นนี้เหลือเพียงแค่สองคนเท่านั้น…สมาชิกเผ่าต้าวหวังที่ตายได้ใช้วิธีพิเศษของตัวเองเพื่อเก็บวิญญาณเข้าไปในร่างไฮ่จื่อและปกป้องวิญญาณของนาง”
“ที่นางสามารถออกไปจากเมืองหลวงโดยไม่ตายได้เป็นเพราะส่วนหนึ่งคือร่างของนางและส่วนหนึ่งมีวิญญาณของสมาชิกเผ่าต้าวหวังทั้งหมดคอยปกป้อง…”
“ทั้งเผ่าต้าวหวังใช้เวลานานหลายปีบนร่างไฮ่จื่อและนางก็เป็นคนเดียวที่สามารถทำให้แผนสำเร็จได้” จิ่วตี้มองจักรพรรดิเทพอย่างสงบนิ่งพลางอธิบายเรื่องทั้งหมด
“เพราะนางคือลูกสาวเจ้า เจ้าจึงสามารถช่วยนางได้โดยไม่ต้องยั้งมือ! เจ้ากระทั่งได้กลายเป็นผู้เลี้ยงดูเผ่าต้าวหวังและได้รับเพลิงนรกานต์เฉพาะของบรรพชนเทพ…เผ่าต้าวหวังยอมสูญเสียขนาดนี้เพื่อปลดปล่อยผนึก…” จักรพรรดิเทพถอนหายใจและเผยท่าทีอันซับซ้อน
“นอกจากไฮ่จื่อแล้ว คนสุดท้ายของเผ่าต้าวหวังคือราชครูที่เพิ่งตายไป…ความจริงเจ้าไม่ต้องปลดปล่อยผนึกของเผ่าต้าวหวังก็ได้ แต่บรรพชนของเผ่าต้าวหวังได้ทำนายการกระทำของเจ้าไปแล้ว เขารู้ว่าเจ้าปรารถนามรดกของบรรพชนเทพและเมื่อเผชิญหน้ากับแรงกดดันของมหาชั้นฟ้าสี่คน เจ้าคงไม่ยอมแพ้แต่เลือกที่จะสู้!”
“กุญแจสำคัญของแผนการนี้คือพลังผนึกเผ่าพันธุ์ต้าวหวังที่อยู่ในศีรษะบรรพชนเทพ คนที่สามารถสืบทอดได้จะต้องดูดซับอยู่ในศีรษะบรรพชนเทพ”
“ดังนั้น หวังหลินคือตัวแปรสำคัญ!”
จักรพรรดิเทพขบคิดเงียบๆ ไปชั่วขณะ เขามองจิ่วตี้และไฮ่จื่ออย่างขมขื่นก่อนจะเอ่ยปาก
“หากข้าไม่ดื้อดึงที่จะปลดปล่อยผนึกแต่คืนศีรษะบรรพชนเทพไปและล้มเลิกการสืบทอด แผนการของเจ้าก็คงสูญเปล่าใช่หรือไม่?”
“ข้ายังคงชนะ!” คนที่พูดขึ้นไม่ใช่จิ่วตี้แต่เป็นไฮ่จื่อ ตอนนี้ไฮ่จื่อแตกต่างจากเมื่อก่อนอย่างสิ้นเชิง นางเปล่งกลิ่นอายลึกลับและมองจักรพรรดิเทพอย่างสงบนิ่ง
“หากเจ้าไม่ยอมล้มเลิกการสืบทอดพลังของบรรพชนเทพ เมื่อนั้นเผ่าพันธุ์ต้าวหวังจะเริ่มแผนที่เตรียมการเอาไว้! วิญญาณที่จองจำทุกดวงทั่วทั้ง 72 แคว้นล้วนเชื่อฟังเผ่าพันธุ์ข้า!”
“อารามวิญญาณทุกแห่งพร้อมตื่นจากผนึกและสั่นคลอนศีรษะบรรพชนเทพ ถึงตอนนั้นมีเพียงแค่บรรพชนเทพเท่านั้นที่สามารถผนึกมันได้ เจ้าอยากสืบทอดพลังของบรรพชนเทพแต่ทั้งเผ่าเทพคงต้องตกอยู่ในความโกลาหล! เมื่อเจ้าพยายามจะสืบทอดพลังของบรรพชนเทพ เจ้าคงต้องปลดปล่อยผนึกของเผ่าพันธุ์ข้า” ไฮ่จื่อพูดขึ้น
“เหมือนกับอารามแมงป่องเขียว…” จักรพรรดิเทพหรี่ตา
ไฮ่จื่อพยักหน้า
“ต้าวยี่ หวู่เฟิง ข้าคิดว่าเจ้าสองคนก็รู้เรื่องนี้ด้วยใช่หรือไม่?” จักรพรรดิเทพเลื่อนสายตาไปที่ต้าวยี่และหวู่เฟิง
ต้าวยี่พยักหน้าและเอ่ยตอบ “มหาชั้นฟ้าจิ่วตี้มาหาข้าและบอกข้าเรื่องแผนการของเผ่าต้าวหวัง แต่ข้าไม่รู้ว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับหวังหลิน ข้าเพิ่งมารู้ว่าหวังหลินคือส่วนสำคัญของแผนการนี้เท่านั้น!”
หวู่เฟิงขบคิดเงียบๆ และพยักหน้า
จักรพรรดิเทพเริ่มหัวเราะทันที เสียงหัวเราะเต็มไปด้วยความขมขื่นยิ่ง เขามองมหาชั้นฟ้าชวงจื่อ
“แล้วเจ้าล่ะ ชวงจื่อ? เจ้ารู้แผนการนี้ด้วยใช่หรือไม่?”
มหาชั้นฟ้าชวงจื่อยังคงสงบนิ่งราวกับนางไม่มีความสนใจอะไร นางมองจักรพรรดิเทพและเอ่ยตอบ
“ข้าไม่รู้และไม่ต้องการรู้ ข้ามาเพื่อพาหวังหลินกลับไปเท่านั้น! ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหรือจิ่วตี้ ใครที่กล้าหยุดข้าคือศัตรูของข้า!”
จักรพรรดิเทพมีแววตาเปล่งประกาย “หวังหลิน…หวังหลิน…ในเมื่อราชครูสามารถครอบครองร่างเขาได้สำเร็จ เช่นนั้นเขาก็ตายแล้ว! ข้าเชื่อว่าที่พวกเจ้าสังเกตได้ว่าเป็นเขาคือตอนที่เขาอยู่ในโลกถ้ำ!”
จิ่วตี้ส่ายศีรษะ “บรรพชนของเผ่าต้าวหวังทำนายช่วงเวลาคร่าวๆ ได้เท่านั้นว่าจะมีคนออกมาจากโลกถ้ำ เขาไม่สามารถทำนายได้ว่าคนนี้เป็นใครหรือถ้ำแห่งไหน เราทำได้แค่รอเท่านั้น”
“อัจฉริยะของเผ่าต้าวหวังได้สร้างสำนักมหาวิญญาณขึ้นมาบนแคว้นกระทิงสวรรค์เพราะมันถูกทำนายว่าหวังหลินจะปรากฏตัวขึ้นที่นั่น มันคือขั้นแรกของแผนในการสร้างความสัมพันธ์กับหวังหลิน!” จักรพรรดิเทพเป็นคนฉลาดและชี้จุดสำคัญออกได้ทันที
จักรพรรดิเทพมองขึ้นไป น้ำเสียงดังกึกก้องดุจสายฟ้า “แต่ข้าสงสัยว่า บรรพชนของสำนักมหาวิญญาณรู้ได้อย่างไรว่าหวังหลินจะตายในวังต้องห้ามเพื่อเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนในการปลดปล่อยผนึกของเผ่าต้าวหวัง”
“จิ่วตี้ เจ้าใช้หวังหลินเพื่อล่อมหาชั้นฟ้าชวงจื่อมาที่นี่ ไม่เช่นนั้นเพียงแค่เจ้าสามคนคงไม่มีพลังพอในการบังคับให้ข้าต้องลองฝืนดูดซับพลังของบรรพชนเทพหรอก!”
“เจ้ายังใช้เมิ่งต้าว ต้าวเฟย ข้าและวิญญาณที่ปิดผนึก 72 ดวง! ข้าไม่เชื่อว่าพวกเจ้าทั้งหมดทำเรื่องเหล่านี้เพื่อเผ่าต้าวหวัง แม้นางจะเป็นลูกสาวเจ้าก็ตาม!”
“และเจ้าสองคน ต้าวเฟยและหวู่เฟิง การที่เจ้าสองคนมาที่นี่ จิ่วตี้ต้องสัญญาด้วยผลประโยชน์มหาศาลเอาไว้ เจ้ามาเพื่อให้ตัวเองได้ประโยชน์!”
“เหตุผลที่เจ้ากำลังบอกความจริงกับข้าก็เพื่อให้ข้าตระหนักสถานการณ์ที่กำลังเผชิญ พวกเจ้าต้องการให้ข้าร่วมมือทำบางอย่าง!”
“มีเพียงชวงจื่อที่ไม่ได้อะไรและถูกจิ่วตี้และเผ่าต้าวหวังใช้งาน!” จักรพรรดิเทพยังคงต่อสู้เพื่อพยายามได้รับความช่วยเหลือจากชวงจื่อ!
ชวงจื่อขบคิด หลังจากผสานร่างแล้วนางจะมองไม่ออกได้อย่างไร?
“จักรพรรดิเทพ เราไม่ได้ต้องการสังหารเจ้า เจ้าแค่ต้องใช้พลังสายโลหิตของตัวเองเพื่อตัดการเปิดศีรษะบรรพชน เจ้ายังเป็นจักรพรรดิเทพ เจ้ายังเป็นมหาชั้นฟ้า!”
“หากเจ้าไม่ยอม อย่ากล่าวหาที่ข้าจะสังหารเจ้า จากนั้นดึงพลังโลหิตของเจ้าเพื่อทำให้ทุกอย่างจบสิ้น!” จิ่วตี้พูดอย่างไร้จิตสังหาร แต่คำพูดเย็นเยียบเป็นอย่างยิ่ง
“ชวงจื่อ หากเจ้าดูดซับดวงตาของบรรพชนเทพเข้าไปในร่างกาย มันจะย้อนคืนความผิดพลาดระหว่างการเกิดใหม่ของเจ้าได้และยังเพิ่มพลังอำนาจได้อีก! มันยังทำให้เจ้าแยกร่างและผสานกันได้ทุกเมื่อแทนที่จะเผาผลาญพลังหยางของเจ้าเพื่อประคองสภาพนี้!”
“หวู่เฟิง ข้ายืนยันได้ว่าส่วนหูของบรรพชนเทพสามารถได้ยินเสียงเต๋าและตามรอยกฎแห่งแผ่นดินเซียนดาราได้ ข้าสัญญาว่าจะมอบให้เจ้า ผสานมันเข้ากับเต๋าและเจ้าจะสามารถรู้แจ้งเต๋าการต่อสู้อันสูงสุด!”
“ต้าวยี่ กะโหลกของบรรพชนเทพถือกำเนิดขึ้นจากมิติว่าง ตลอดหลายปีที่ผ่านมาแก่นแท้ของพลังงานได้รวมกันตรงจุดนี้ ข้าสัญญาว่าจะมอบมันให้เจ้า เพียงแค่มีมันวิญญาณและร่างกายของเจ้าจะสามารถกลายเป็นหนึ่ง!”
“ข้าแค่ต้องการสมองของบรรพชนเทพ มันเป็นประโยชน์มหาศาลกับข้า ส่วนศีรษะบรรพชนเทพ เราทุกคน…แบ่งมันเท่ากัน!” จิ่วตี้มองบรรพชนเทพ
“เช่นนั้นเจ้าก็รู้เรื่องคำสาปที่บรรพชนเทพทิ้งไว้ก่อนตาย!” จิ่วตี้พูดขึ้น
“ข้าได้ค้นคว้ามาหลายปีและในที่สุดก็พบเบาะแสหนึ่งไม่นานมานี้ ข้ามั่นใจว่าตำนานนั้นเป็นความจริง หากบรรพชนเทพตาย ใครที่พยายามทำลายร่างเขาก็จะตายไปด้วย…”
“เว้นเสียแต่จะเป็นผู้สืบทอดที่มีสายโลหิตเดียวกัน ผู้สืบทอดสามารถใช้สายโลหิตของตัวเองเข้าต้านทานพลังของคำสาปได้จนสายโลหิตนั้นถูกตัดขาด ต่อจากนั้นจะไม่มีสายโลหิตบรรพชนเทพอีกต่อไปและคำสาปก็จะถูกปลดปล่อย! บรรพชนเทพ ตอนนี้เจ้าไม่มีทางเลือกแต่ต้องอดทนต่อกับคำสาป เจ้าจะไม่ตายแต่ตำแหน่งแปดสุดขั้วจะจบลงไปพร้อมกับรุ่นเจ้า ทว่าบรรพชนเทพที่ตายมานานหลายปีและอำนาจยังคงปกคลุมไปทั่วเผ่าเทพแห่งนี้ มันถึงเวลาเปลี่ยนแล้ว!”
“หากเจ้าไม่ยอม เจ้าจะต้องตายแน่นอน! ถ้าไม่ใช่เพราะข้ากังวลเรื่องสถานการณ์ของเผ่าโบราณหลังจากเจ้าตาย ข้าคงไม่เสียเวลามาถกเถียงกับเจ้าหรอก”
จิ่วตี้มองจักรพรรดิเทพ น้ำเสียงเย็นเยียบ “เลือกซะ!”
จักรพรรดิเทพขบคิดเงียบๆ
บนพื้นดินในดวงตาข้างขวาของศีรษะบรรพชนเทพ หวังหลินมีแววตาเปล่งประกายและซ่อนกลิ่นอายของตัวเอง เขาได้ยินทุกอย่างที่เกิดขึ้นด้านนอก การเดินทางมาวังแห่งนี้เต็มไปด้วยสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา หวังหลินคาดเดาบางอย่างได้ก่อนแล้วแต่ก็ไม่ใช่ทุกอย่าง
‘บรรพชนกระทิงเขียวแห่งสำนักมหาวิญญาณบอกข้าว่าอีกสามร้อยปีให้กลับมาเพื่อไปชั้นบนสุด…ผู้ก่อตั้งสำนักมหาวิญญาณได้ทิ้งบางอย่างให้ข้า…’
‘บรรพชนแห่งสำนักมหาวิญญาณ อัจฉริยะของเผ่าต้าวหวัง หลังจากใช้ข้าเพื่อปลดปล่อยผนึกแล้ว เขาทิ้งอะไรไว้ให้ข้ากัน…’ หวังหลินมีท่าทีอันซับซ้อน
‘เขาปรากฏตัวในแคว้นกระทิงสวรรค์และก่อตั้งสำนักมหาวิญญาณขึ้นมาเพื่อรอข้า…หรือข้าควรจะตายในแผนการนี้…แต่หากเขาทำนายว่าข้าจะตายในวัง ทำไมถึงทิ้งบางอย่างไว้ในตำหนัก และทำไมถึงสามร้อยปี?’
‘เจ้าหลอกใช้ข้าและวางแผนทุกย่างก้าว…คำนวณการมาถึงของข้า ดังนั้นข้ายังคิดว่าเจ้าคาดคำนวณนิสัยของข้าไว้ด้วย ข้าจะปล่อยเรื่องนี้ไปได้อย่างไร!?’ หวังหลินขบคิดและถอนหายใจ เกิดพลังอันแข็งแกร่งจากด้านนอกศีรษะได้ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า
จักรพรรดิเทพดูเหมือนตัดสินใจได้แล้ว แขนขวายื่นเข้าหาพื้นดินและยกศีรษะบรรพชนเทพขึ้น!
…………………………………………………