Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน - ตอนที่ 2025 เต็มไปด้วยความโกรธแค้น (4)
เมืองหลวงแห่งอาณาเขตเต๋า เมืองลอยฟ้า พื้นที่ส่วนใหญ่ยังเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา เสียงเพลงขับขานต่อไปราวกับเป็นวันสิริมงคล
เรื่องที่เกิดขึ้นรอบอารามเต๋าไม่ได้แผ่กระจายออกไปไกลเนื่องจากเมืองหลวงมีขนาดใหญ่และอารามเต๋าก็เป็นสถานที่พิเศษ
ไม่มีใครสังเกตว่าคืนก่อนพิธีอภิเษกสมรสของจักรพรรดิเต๋า มีเหตุการณ์ใหญ่ที่ไม่เพียงแค่สั่นคลอนอาณาเขตเต๋าเท่านั้น แต่มันกระทั่งสั่นคลอนทั้งเผ่าโบราณ!
ผู้คนนับไม่ถ้วนของทั้งสามอาณาเขตยังคงร้องเพลงและยกจอกเหล้าของตัวเองขึ้นดื่ม ทว่าพวกเขากลับได้ยินเสียงอึกทึกจนต้องขมวดคิ้ว จากนั้นจึงได้มองขึ้นไปบนท้องฟ้า คนที่มองไปต่างรู้สึกจิตใจสั่นไหวและลุกขึ้นทันที
เสียงเพลงหยุดลงจากเสียงอึกทึกที่ดังออกมาไกล
ในท้องฟ้ามีลำแสงคล้ายอุกกาบาตเกิดเป็นเสียงคำรามสั่นสะเทือนไปทั้งโลก เพียงแค่มันลอยผ่าน เสียงสายฟ้ากลับทำให้พื้นปฐพีสั่นสะท้านและเกิดระลอกคลื่นบนท้องฟ้า ราวกับมัจฉากำลังแหวกว่ายผ่านท้องนภาและแบ่งฟ้าให้กลายเป้นสองส่วน
จิตสังหารอันเหลือล้นเกินบรรยายท่วมลงมาจากท้องฟ้า ใครก็ตามที่ถูกจิตสังหารนี้เข้าแทรกซึมจะเกิดอาการสั่นเทา สายตาหวาดกลัวเกินซ่อนไหว!
พวกเขารู้สึกเลือนลางว่ามีเรื่องใหญ่กำลังจะเกิดขึ้นในเมืองหลวงอาณาเขตเต๋า!!
หวังหลินเห็นพระราชวังในท้องฟ้าที่มีชีวิตชีวา การมุ่งหน้าจากอารามเต๋าเข้าไปในวังแห่งนี้เขาใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่ลมหายใจเท่านั้น ความเร็วนี้เทียบได้กับวิชาบิดมิติ กระนั้นพระราชวังได้มีเขตอาคมล้อมรอบเอาไว้จึงไม่สามารถเข้าไปข้างในได้ตรงๆ
หวังหลินมองพระราชวัง ร่างของลี่มู่หวานปรากฏขึ้นในแววตา ร่างนี้ทำให้หวังหลินรู้สึกเหมือนหัวใจกำลังบาดลึกและเลือดไหล เขาร้องคำรามและพุ่งเข้าหาวังหลวงราวกับคนบ้าจริงๆ
กระนั้นพออยู่ในระยะร้อยลี้ ร่างเงานับร้อยปรากฏขึ้นมาเผยตัวเองเป็นองครักษ์สวมเกราะ!
เพียงชั่วเวลาสั้นๆ เมฆก้อนหนึ่งพวยพุ่งขึ้นดุจกองทัพอาชาและปรากฏองครักษ์นับหมื่นคน ทั้งยังมีทิศอื่นอีกหลายพันคน กลายเป็นกรงขังป้องกันหวังหลิน!
“เป็นท่านหวังหลินนี่เอง” ร่างหนึ่งก้าวเดินออกจากท้องฟ้า และเมื่อเขาเห็นหวังหลิน ดวงตาจึงเปล่งประกาย สีหน้าท่าทางมืดมน
“ไม่ใช่ว่าท่านจากไปแล้วหรือ? ทำไมถึงทะลวงเข้ามาที่นี่ ท่านรู้หรือไม่ว่านี่เป็น…” ก่อนที่เขาจะพูดจบ หวังหลินร้องคำราม
“ไปซะ!! ใครที่ขวางทางข้าจะต้องตายให้หมด!!” หวังหลินก้าวออกไปดุจสัตว์ร้าย โยนกำปั้นออกไปทำให้พื้นที่ทั่วบริเวณสั่นสะเทือน ผู้คนนับสิบเบื้องหน้าเกิดอาการสั่นสะท้าน ร่างกายระเบิดออก!
การเข่นฆ่าได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว การสังหารรอบแรกเป็นแค่การโหมโรง!!
ยังมีลำแสงเก้าสายตามมาถึงด้านหลังหวังหลิน พวกเขาคือเก้าคนที่ติดตามซวนลั่ว พอเห็นหวังหลินลงมือสังหาร สีหน้าแต่ละคนจึงซีดขาว
“รีบไปบอกจักรพรรดิ หวังหลิน…เขาต้องการสังหารจักรพรรดิ!!” แม้ชายชราที่มีระดับบ่มเพาะสูงที่สุดเลือกติดตามซวนลั่ว ความจงรักภักดีต่อราชวงศ์ได้ทำให้เขาขัดคำสั่งของซวนลั่ว
เพียงประโยคนี้เอ่ยออกมา เหล่าองครักษ์นับหมื่นคนล้วนมีสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมหาศาล พวกเขาตกตะลึงกับกำปั้นของหวังหลินแต่ถัดมาได้สติจากประโยคนั้น
แต่นี่สายเกินไปแล้ว เสียงดังสนั่นกึกก้องและเกิดเสียงกรีดร้องโหยหวน หวังหลินก้าวเดินต่อไป ใครที่ขวางทางเขาล้วนตายอย่างโหยหวน
ทั้งเก้าคนใต้อำนาจซวนลั่วถึงกับกัดฟันและพุ่งเข้าหาหวังหลิน พวกเขาใช้วิชาบางอย่างปรากฏเบื้องหน้าหวังหลินและเลือกที่จะโจมตีทันที!
ทั้งเก้าคน หากต้องเลือกระหว่างซวนลั่วและราชวงศ์ พวกเขาเลือกราชวงศ์อย่างไม่ลังเล!!
“พวกเจ้ารนหาที่ตาย!” เดิมทีหวังหลินไม่ได้ต้องการฆ่าทั้งเก้าคน แต่กลับโดนขัดขวางหลายครั้ง เมื่อมาปรากฏตัวเบื้องหน้าหวังหลิน แววตาจึงเป็นประกายจิตสังหาร หวังหลินสะบัดแขนขวาปรากฏประทับฝ่ามือยักษ์ ซึ่งคือวิชาประทับวิญญาณสงคราม!!
ชั่วจังหวะนั้นปรากฏภาพติดตาเป็นฝ่ามือขึ้นมา 99 ข้าง จากนั้นปรากฏขึ้นมาอีกรวมทั้งสิ้นได้ 121 ข้าง พวกมันผสานเข้าด้วยกันก่อเกิดนิ้วที่หก นิ้วที่เจ็ด นิ้วที่แปด นิ้วที่เก้า…จนกระทั่งนิ้วที่สิบ!!
ฝ่ามือที่มีสิบนิ้วพุ่งเข้าหาพวกเขา เหล่าทั้งเก้าคนกัดฟันและระเบิดพลังโบราณเข้าต่อต้าน เกิดเสียงดังอึกทึกเบื้องหน้าพระราชวัง
ทว่าทั้งเก้าคนต่างกรีดร้องและไม่สามารถต้านทานได้เลย นาทีที่สัมผัสกับฝ่ามือ ร่างกายแต่ละคนแตกสลายและตายทั้งหมด!
ฝ่ามือมุ่งหน้าต่อไป ใครที่ขวางทางฝ่ามือต่างก็ตกตายกันสิ้น พื้นที่บริเวณนี้เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดทันที
หากอยู่ในเมืองหลวงของเผ่าเทพ ทุกคนที่เห็นคงแตกกระจายกันออกไปแล้ว พวกเขาคงไม่รีบไปตายถ้ารู้ว่าระดับความแข็งแกร่งแตกต่างกันมากมายเช่นนี้
อย่างไรก็ตามที่นี่คือเผ่าโบราณ ซึ่งอำนาจแห่งราชวงศ์อยู่ในจุดสูงสุด เหล่าองครักษ์ที่เหลือต่างก็พุ่งออกมาอย่างบ้าคลั่งและมอบชีวิตตัวเองเพื่อหยุดยั้งฝ่ามือนี้
พระราชวังที่ห่างออกไปร้อยลี้ยังคงมีชีวิตชีวาเช่นก่อน เหล่าคนนับไม่ถ้วนกำลังเข้ามาดื่มและยินดีกับจักรพรรดิเต๋า
จักรพรรดิเต๋ายังคงยิ้มและบางครั้งก็หัวเราะเสียงดัง ซ่งจื่อนั่งก้มหน้าอยู่ข้างๆ อย่างเงียบๆ ครุ่นคิดถึงบางสิ่งบางอย่าง
ทว่าจักรพรรดิเต๋ามักจะมองซ่งจื่อด้วยรอยยิ้มทีเล่นทีจริง ตอนนี้เขามีความสุขมาก นานแล้วที่ไม่ได้มีความสุขขนาดนี้
เขามั่นใจถึงเก้าในสิบส่วนว่าหวังหลินและวิญญาณข้างในตัวนางต่างก็รู้จักกัน จากลักษณะของหวังหลินแล้วความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ได้ห่างเหิน ราวกับเป็นคนรักกัน
ทุกครั้งที่เขาคิดเช่นนี้ก็จะเริ่มหัวเราะและดื่มสุราไปหนึ่งจอก เขาชอบความรู้สึกแบบนี้ จากนั้นเมื่อถึงเวลาเขาเล่นสนุกกับจักรพรรดินี เขาก็จะคิดถึงสีหน้าเจ็บปวดของหวังหลินไปด้วย
‘เจ้ามีสิทธิ์อะไรถึงได้โลหิตวิญญาณ ข้าเป็นลูกหลานของบรรพชนโบราณ! เจ้ามีสิทธิ์อะไรถึงได้กลายเป็นศิษย์ของซวนลั่วทั้งที่ข้าได้ขอร้องอ้อนวอนแต่ก็ยังถูกปฏิเสธ?’
‘เจ้ามีสิทธิ์อะไร!? เจ้ามันก็แค่มดปลวกจากโลกถ้ำ เป็นแค่คนเถื่อน เจ้ากล้าเทียบกับอัจฉริยะเช่นข้าได้อย่างไร!! ตอนนี้เจ้ามาที่อาณาเขตเต๋าของข้าแล้วและยังกล้าไม่คุกเข่าต่อหน้าข้าอีก? หวังหลิน เจ้าถือตัวดีนัก เจ้าไม่ถือว่าข้าสำคัญเลย ข้าไม่สนใจว่าเจ้ามีระดับบ่มเพาะอยู่ระดับไหน ในเผ่าเทพ เมื่อเจ้าเจอข้าจะต้องคุกเข่า!!’
‘หากเจ้าไม่คุกเข่า เช่นนั้นก็ดี หลังจากงานพิธีของวันพรุ่งนี้ ข้าจะไปเล่นสนุกกับจักรพรรดินีของข้า ดูซิว่าผู้หญิงของเจ้ามีรสชาติเช่นไร!!’
‘จากท่าทีของมัน มันกำลังค้นหาอยู่แต่ไม่รู้ว่าผู้หญิงที่ค้นหาอยู่ข้างกายข้าและเป็นจักรพรรดินีของข้า!!’ เมื่อจักรพรรดิเต๋าคิดเช่นนี้ เขายกจอกขึ้นมาและเริ่มหัวเราะ
พอเห็นจักรพรรดิเต๋าหัวเราะโดยไม่มีเหตุผล ผู้คนบนแท่นลอยฟ้าเองก็ยกของตัวเองขึ้นพร้อมรอยยิ้ม
แต่ก่อนที่จะดื่มจอกของตัวเองและเสียงหัวเราะของจักรพรรดิเต๋ายังไม่จบดี ทุกคนต่างได้ยินเสียงอึกทึกดังออกมาจากด้านนอกวัง!!
เสียงจอแจของที่นี่พลันหยุดลง ทุกคนมองไปทางต้นตอของเสียง
ทว่าเพราะมีเขตอาคมห่อหุ้มพระราชวังเอาไว้ พวกเขาจึงได้แต่เห็นเพียงภาพเลือนลาง สิ่งสำคัญไปกว่านั้นคือมีกลิ่นอายบ้าคลั่งกำลังขวางกั้นสัมผัสวิญญาณที่อยู่ข้างนอกจนแม้แต่จักรพรรดิเต๋าก็มองไม่เห็นอะไรเช่นกัน
“ไม่มีอันตราย!” จักรพรรดิเต๋าพูดขึ้น เขาจ่อสุราไว้ใกล้ปากและดื่มไปหนึ่งจิบ
ท่าทีสงบนิ่งของเขาทำให้คนบนลานและบนแท่นลอยฟ้าสงบลง พวกเขาไม่กังวลเนื่องจากที่นี่คือวังหลวง ใจกลางของอาณาเขตเต๋า การป้องกันของที่นี่ทรงพลัง จึงไม่เชื่อว่าจะมีใครสามารถทะลวงเข้ามาและมีชีวิตรอดได้
ลานกว้างกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งและเกิดเสียงยินดีปรีดาขึ้นอีกครา
ทว่าเมื่อเสียงจากด้านนอกยิ่งดังขึ้น ทุกคนก็กลับมาเงียบลงอีก ไม่มีใครสังเกตว่ามือของจักรพรรดิเต๋ากำลังสั่นเทาเล็กน้อย
เขาขมวดคิ้วและจ้องมองออกไป
จักรพรรดิเต๋าพูดขึ้น “ทหารอยู่ไหน?!”
108 ทหารต้องห้ามต่างยืนขึ้นและคุกเข่าลงเบื้องหน้าจักรพรรดิเต๋า
“ออกไปสังหารผู้ที่ก่อกวน นำศีรษะมันมาให้ข้า!”
“น้อมรับคำสั่ง!” เหล่าทหารพูดอย่างพร้อมเพรียง เสียงสอดประสานกันเป็นคลื่นเสียงและปลดปล่อยจิตสังหารมหึมา
พวกเขาเปลี่ยนกลายเป็นลำแสง 107 สายและมุ่งหน้าออกไปนอกวัง!
“ส่งจักรพรรดินีไปพักผ่อน!” ร่างเงาสองร่างปรากฏขึ้นด้านหลังซ่งจื่อและโค้งคำนับให้นาง
ซ่งจื่อยืนขึ้นและสายตาสับสนมากกว่าเดิม นางมองออกไปยังที่ที่มีเสียงดังออกมา คำว่า “หวานเอ๋อร์” ยังคงส่งเสียงกึกก้องในใจ
“ยังไม่กลับไปอีก?” จักรพรรดิเต๋าขมวดคิ้ว มองซ่งจื่อด้วยสายตาเย็นเยียบและไร้หัวใจ
ซ่งจื่อดูหวาดกลัวมาก ร่างกายสั่นเทาและก้มศีรษะ นางกำลังจะติดตามร่างเงาทั้งสองไปแต่มีเสียงคำรามดังสนั่นอีกครั้ง มันอยู่ใกล้มากราวกับอยู่ด้านขวาของลานกว้าง!
จักรพรรดิเต๋าพลันมองเข้าไปและสีหน้าเปลี่ยนทันที!
เขาเห็นร่างของเหล่า 108 ทหารต้องห้ามกระเด็นกลับมาและกระอักโลหิต ร่างกายระเบิดอยู่ในท้องฟ้าและเหลือคนเดียวที่ไม่ตาย เขาตกลงมาบนพื้น คุกเข่าเบื้องหน้าจักรพรรดิ กระอักโลหิตพลางส่งเสียงคำรามดังกึกก้องไปทั่วลานกว้าง
“เป็นหวังหลิน!! เขาอยากสังหารท่านจักรพรรดิ!!!”
…………………………………………………..