Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน - ตอนที่ 2026 เต็มไปด้วยความโกรธแค้น (5)
เสียงคำรามแหลมทำทุกคนบนลานกว้างและบนแท่นลอยฟ้าตกตะลึง สีหน้าแต่ละคนเปลี่ยนไป พวกเขายังไม่เชื่อว่าหวังหลินซึ่งมีอารมณ์ย่ำแย่และเพิ่งจากไป ได้กลับมาในชั่วเวลาสั้นๆ เพื่อสังหารจักรพรรดิเต๋า!
แต่การตายของทหารต้องห้ามทั้ง 107 คนเป็นเครื่องพิสูจน์ความจริงได้แล้ว
ก่อนที่ผู้คนจะตอบสนองต่อเสียงคำราม มีเสียงคำรามทรงพลังดังกึกก้องอีกครั้ง ฝ่ามือขนาดพันฟุตได้มาถึง ฝ่ามือนี้ประหลาดมาก มันมีสิบนิ้ว ยิ่งเข้ามาใกล้จึงเกิดแสงสีเขียวรอบลานกว้างและปะทะกับฝ่ามือ
เสียงดังสนั่นสะเทือนไปทั้งพระราชวัง ประทับฝ่ามือสิบนิ้วแตกสลายไปแต่ม่านแสงสีเขียวสั่นเทาอย่างรุนแรงก่อนจะแตกกลายเป็นเศษละอองนับไม่ถ้วนไปด้วย
คลื่นลมโลหิตโผล่ออกมาจากนอกลานและพัดเข้าสู่ลานกว้างอันเงียบสงัด สายตาทุกคนมองไปยังตำแหน่งที่ประทับฝ่ามือหายไป พวกเขาดูเหมือนกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจ
จักรพรรดิเต๋าหน้าซีด เขากำหมัดพลางจ้องมองตำแหน่งนั้น สายตาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว!
ซ่งจื่อมองไปทิศทางนั้นเช่นกัน แววตายังคงสับสน ขณะเดียวกันจิตใจสั่นเทา รู้สึกว่าความทรงจำกำลังจะตื่นขึ้นมา
เงาทั้งสองที่รับคำสั่งให้พานางไปดูราวกับลืมคำสั่งของจักรพรรดิเต๋าไปเสียสิ้น ทั้งสองหรี่ตาลง จิตใจตกต่ำพร้อมกับมองตำแหน่งที่ฝ่ามือหายไป
หมอกโลหิตหนาแน่นกำลังเคลื่อนไหวอยู่ตรงนั้น กลายเป็นภาพอันน่าตื่นตะลึง เสียงย่ำเท้าดังกึกก้องออกมาจากสายหมอกเข้าหาลานกว้างอันเงียบงัน
เมื่อเสียงก้าวเท้าดังเข้าสู่หูของทุกคนที่นี่ ราวกับมันกำลังก้าวไปบนหัวใจของแต่ละคน ทำให้รู้สึกกดดันและหวาดกลัวจากก้นบึ้งจิตใจ
ผู้คนของสามเผ่าบนแท่นลอยฟ้าต่างก็ถอยร่นโดยไม่รู้ตัว รู้สึกว่าสิ่งที่จะออกมาจากหมอกโลหิตอาจเป็นอสูรร้ายโบราณที่อาจจะกลืนกินโลกใบนี้และสังหารทุกชีวิตไม่มีเหลือ
ในความเงียบขณะนั้น จักรพรรดิเต๋าพูดขึ้นในทันที “สังหารมัน!” เสียงสงบนิ่งไร้ความหวาดกลัวราวกับจักรพรรรดิยังคงสงบนิ่งมาก ทว่าหากมองจากใบหน้าคงอาจจะเป็นว่าเบื้องหลังแววตาโกรธเกรี้ยว ยังเป็นความหวาดกลัวอยู่
หลังจากจักรพรรดิเต๋าเอ่ยปาก ร่างเงาโผล่ออกมาจากวังมากกว่าสิบร่าง จากนั้นพุ่งประชิดเข้าไปหาหมอกโลหิต
แต่ในจังหวะที่เข้าไป พลันเกิดเสียงกรีดร้องดังระงมและยังมีเสียงร้องโหยหวน พวกเขาค่อยๆ หายลับไปทีละคน
แม้เสียงกรีดร้องจะหายไปแล้ว แต่ยังคงมีเสียงดังกึกก้องในใจทุกคน ทำให้จักรพรรดิเต๋ายิ่งมืดมนมากขึ้น
“ทำไมพวกเจ้าไม่พาจักรพรรดินีหนีไป!?” จักรพรรดิหันศีรษะมามองร่างเงาสองคนด้านหลังซ่งจื่อ ทั้งสองตัวสั่นและรีบพยักหน้า เคลื่อนร่างและเปลี่ยนเป็นวังวนห่อหุ้มรอบซ่งจื่อ วังวนพุ่งต่อเข้าหาพระราชวัง
แต่ในจังหวะนั้น เสียงคำรามเย็นเยียบและบ้าคลั่งดังออกมาจากหมอกโลหิต
“เจ้ากล้าดีอย่างไร!?” น้ำเสียงมีพลังทะลุทะลวงและทำให้ทั้งสองคนในวังวนเกิดอาการสั่นเทา จิตใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัวสุดขีดและไม่อาจควบคุมร่างกายตัวเองได้ คล้ายกับว่าหากพวกเขาก้าวไปอีกเพียงก้าวเดียวอาจทำให้เกิดหายนะใหญ่หลวงตามมา!
ทั้งสองหยุดลงและเปลี่ยนร่างกลับเป็นเงา ส่วนตรงหมอกโลหิตปรากฏร่างเลือนลาง เพียงเสียงฝีเท้าดังกึกก้อง ร่างหนึ่งก้าวเดินออกมาจากหมอกโลหิต
สายตาทุกคนรวมมาที่เขาในทันที
แต่ละคนอ้าปากค้าง คนที่เคยเห็นนั้นมีเรือนผมสีขาวและชุดคลุมสีขาว ทว่าตอนนี้เสื้อคลุมสีขาวเปื้อนด้วยโลหิต แววตาบ้าคลั่งและเปลี่ยนเป็นสีแดงโลหิต!
นั่นคือหวังหลิน!
ทุกก้าวเดินได้สังหารผู้คนระหว่างทางมาพระราชวังแห่งนี้ไปจำนวนมาก นี่ถือเป็นครั้งที่สองที่เขามาที่นี่ในวันนี้ ครั้งก่อนเขามาเพื่อมอบของขวัญยินดีจากอาจารย์ แต่ตอนนี้เขามาที่นี่เพื่อพาคนคนหนึ่งกลับไป!
“หวังหลิน เจ้ากำลังจะทำอะไร?!” จักรพรรดิเต๋าจ้องมองหวังหลินผ่านลานกว้างและที่นี่มีคนจากทั้งสามอาณาเขตกว่าแสนคน
หวังหลินก้าวเดินออกจากหมอกโลหิต เขาไม่ได้มองจักรพรรดิเต๋าแต่มองซ่งจื่ออย่างอ่อนโยน นางเต็มไปด้วยสายตาสับสน
“ข้าจะพานางไป!” หวังหลินยกแขนขึ้นมาชี้ไปที่ซ่งจื่อ จากนั้นมองจักรพรรดิเต๋าอย่างเย็นเยียบ
จักรพรรดิเต๋าจิตใจสั่นเทา ใบหน้าซีดจากสายตาหวังหลิน ทว่าได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นความโกรธเกรี้ยวเหนือคำบรรยาย เขาคือจักรพรรดิเต๋า เขาคืออำนาจสูงสุดในอาณาเขตเต๋า เป็นลูกหลานของบรรพชนโบราณ เป็นอัจฉริยะแห่งสรวงสวรรค์!!
เขาได้รับการยอมรับจากมหาชั้นฟ้ากุ้ยต้าว ไม่มีใครสามารถตัดสินได้ว่าเขาจะอยู่หรือตาย เวลานี้เป็นวันก่อนพิธีอภิเษกสมรส กลับมีคนที่เขาถือว่าเป็นมดแมลงและต้องการจักรพรรดินีของเขาด้วยความอิจฉา เรื่องนี้ทำให้เขาหัวเราะด้วยความโกรธ
“หวังหลิน เจ้าเป็นศิษย์ของท่านซวนลั่วและเป็นองครักษ์ในอนาคตของอาณาเขตเต๋า ข้าดูแลเจ้าอย่างดีมาเสมอ เจ้าไม่อยากคุกเข่า เจ้าก็ไม่ต้องคุกเข่า เจ้าไม่อยากเข้าร่วมงานเลี้ยง ข้าจึงอนุญาตให้เจ้าไปได้…”
“ข้าดูแลเจ้าเป็นอย่างดี แต่ตอนนี้เจ้าได้สังหารคนของอาณาเขตเต๋าและทะลวงเข้ามาที่นี่ กระทั่งอยากชิงจักรพรรดินีของข้าต่อหน้าทุกคน!!!”
“หวังหลิน เจ้าทำเกินไปแล้ว! เจ้าจะปกป้องอาณาเขตเต๋าของข้าได้อย่างไร? เห็นได้ชัดว่าเจ้าต้องการทำลายอาณาเขตเต๋าของข้า!! คนชั่วเช่นนี้ ทุกคนต้องรับรู้!!”
จักรพรรดิเต๋าสะบัดแขนและร้องคำราม “เข้ามา สังหารหวังหลินและนำศีรษะมันมาให้ข้า!!” ขณะเดียวกันเขามองไปทางอารามเต๋าด้วยสีหน้ามืดมน
หวังหลินหลับตาเงียบๆ เพื่อทำให้อาจารย์ไม่รู้สึกแย่ ตอนที่เขามาถึงจึงจำเป็นต้องฝืนบังคับตัวเองให้สงบลง เขาได้ให้โอกาสจักรพรรดิเต๋าแล้ว หากจักรพรรดิเต๋ามอบซ่งจื่อมา เช่นนั้นอาจจะมีโอกาสกู้สถานการณ์คืนมาได้ระหว่างเขา อาจารย์และอาณาเขตเต๋า…
แต่ตอนนี้…
หวังหลินลืมตา ความบ้าคลั่งภายในเปล่งประกายขึ้นมา จิตสังหารมหึมาระเบิดขึ้นในทันที
“หากเจ้าไม่ตกลง…ก็จงตายซะ!!” หวังหลินคำรามและก้าวทะยาน เพียงยกเท้าขึ้น เหล่าคนที่พุ่งเข้าหาแม้จะรู้ว่าไม่อาจเทียบได้ แต่ด้วยคำสั่งของจักรพรรดิเต๋า จึงพุ่งออกไปพร้อมกับจิตสังหาร!
ภายในเผ่าโบราณ อำนาจของราชวงศ์ถือเป็นอำนาจสูงสุด คำพูดของจักรพรรดิเต๋าจึงเป็นทุกอย่าง! ในสายตาแต่ละคน หวังหลินกำลังทรยศเผ่าโบราณและต้องสังหาร!
เมื่อเผชิญหน้ากับผู้คนบ้าคลั่งที่กำลังพุ่งเข้ามา หวังหลินก้าวเท้าและเกิดเสียงดังสนั่นกึกก้อง ใครก็ตามที่ขวางทาง ไม่ว่าจะเป็นใครหรือระดับบ่มเพาะอะไร จะต้องแตกสลายเป็นกองเนื้อและโลหิตอยู่เบื้องหน้าเท่านั้น
ชั่วพริบตา ผู้คนตายไปนับไม่ถ้วน แต่ยิ่งมีคนเข้ามามากขึ้น ยิ่งทำให้ผู้คนอีกสองอาณาเขตไม่ยอมพุ่งเข้าหาหวังหลิน
หวังหลินอยู่ห่างจากตำแหน่งจักรพรรดิเต๋าอีกหลายแสนฟุต เขาเข้าไปใกล้วังราวกับพายุ ส่งเสียงดังสนั่นกึกก้องต่อไปเรื่อยๆ
“ใครที่ขวางทางข้าจะต้องตาย!!” หวังหลินร้องคำรามและส่งกำปั้นออกไป ผู้คนอาณาเขตเต๋านับสิบคนเบื้องหน้าตายไปหมดสิ้น
ขณะเดียวกันบนลานกว้าง ร่างเงาขนาดยักษ์ตนหนึ่งปรากฏขึ้นด้านหลังคนของอาณาเขตเต๋าแต่ละคน เป็นเหล่าเทพโบราณ มารโบราณและปิศาจโบราณนับพัน ทุกตนล้วนคำรามและพุ่งหาหวังหลิน
หวังหลินไม่หยุดชะงัก นาทีนั้นมีร่างเงาบัญชาโบราณปรากฏขึ้นด้านหลังหวังหลินเช่นกัน ร่างเงานี้สูงใหญ่ราวกับค้ำจุนโลกแห่งนี้ไว้ หลังจากร่างเงาปรากฏจึงสะบัดแขนออกไป
ร่างเงาใหญ่ยักษ์สะบัดแขนตามหวังหลิน เริ่มทำการกระหน่ำโจมตีเงาทั้งหมดที่กำลังพุ่งหาหวังหลิน
เกิดเสียงดังสนั่นไปทั่วราชวัง บนพื้นดินเกิดรอยแตกร้าวนับไม่ถ้วน แม้แต่ท้องฟ้าคล้ายกับกำลังฉีกขาด ร่างเงาบัญชาโบราณหลายพันร่างแตกสลาย ผู้คนระเบิดตายนับพัน
ร่างหวังหลินสั่นเทา แววตายิ่งบ้าคลั่งรุนแรง เขาก้าวเดินต่อไป พริบตาเดียวจึงอยู่ใจกลางลานกว้าง เข้าใกล้จักรพรรดิเต๋ามากยิ่งขึ้น!
“รัวกลองและเปิดใช้งานค่ายกลเมืองลอยฟ้า เชิญทุกคนเข้าวังเพื่อทำลายมัน!!” จักรพรรดิเต๋าเกิดความหวาดกลัวยิ่งขึ้น เขาถอยร่นและร้องคำราม
เพียงเท่านั้นร่างนับไม่ถ้วนทะยานออกมาจากส่วนลึกของวัง ทุกคนในวังเข้ามาใกล้ขึ้น!
จากนั้นไม่นานเกิดเสียง ปัง ปัง ปัง….เสียงกลองดังกึกก้องทั่วฟ้า ท้องฟ้าเปลี่ยนสีและเกิดเสียงดังทั่วทั้งเมือง
สีหน้าคนในอาณาเขตเต๋าเปลี่ยนไปทุกคน เสียงกลองครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อน มันมีพลังประหลาดและมีความหมายว่าวังหลวงกำลังเผชิญวิกฤติ!
ทุกคนในอาณาเขตเต๋าที่ได้ยินเสียงนี้จะต้องใช้ชีวิตตัวเองเข้าปกป้อง!
ขณะเดียวกันมีลำแสงจากค่ายกลเคลื่อนย้ายปรากฏไปทั่วสถานที่ในเมืองหลายร้อยแห่ง ทุกค่ายกลเคลื่อนย้ายได้นำพาให้ทุกคนเข้ามาในวังด้วยความเร็วสูงสุด
…………………………………………………………