Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน - ตอนที่ 2036 ราชครูอาณาเขตเต๋า
จังหวะที่สัมผัสกับสายหมอก คล้ายกับมันเริ่มเดือดและแผ่กระจายออกมาด้านนอก เสียงอสูรคำรามดังลั่นออกมาจากข้างใน
เสียงคำรามสั่นสะเทือนสวรรค์และแผ่กระจายไปทั่วสารทิศ เมื่ออักขระเต๋าทั้งหกขั้วของหวังหลินเข้าไปในหมอก ราวกับมันกำลังโดนสายหมอกกลืนกิน
หวังหลินแววตาเป็นประกายและไม่ลงมือวู่วาม หากราชครูข้างในเป็นคนที่เขาคิดจริงๆ เมื่อนั้นหมอกนี้คงไม่ใช่ของธรรมดาและคงไม่ยอมให้เขาเข้าไปข้างในได้ง่ายๆ
‘เขาอยู่ที่นี่มานานและถึงกับสร้างค่ายกลขนาดยักษ์เชื่อมต่อกับวังหลวงได้ การวางค่ายกลประหลาดนี้ไว้ในเผ่าโบราณ เป้าหมายของเขาต้องเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่!’
‘ในเมื่อไม่ออกมาและยังห่อหุ้มด้วยหมอกสิบสี นั่นแปลว่าเขาอยู่ในขั้นตอนสำคัญของการใช้วิชา’ หวังหลินจ้องไปในสายหมอก พลางขบคิดและมีเสียงดังสนั่นออกมาจากข้างใน
สายหมอกปั่นป่วนอย่างรวดเร็วและมีสิ่งลี้ลับขนาดยักษ์พุ่งออกมา ร่างกายใหญ่ของมันเปล่งควันสีดำพร้อมกับแรงกดดันทรงพลัง
เพียงเจ้าอสูรตัวนี้ปรากฏ อักขระเต๋าทั้งหกขั้วของหวังหลินจึงเข้าสู่เจ้าอสูร มันส่งเสียงขู่ร้องและพุ่งเข้าหาอักขระจนเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
“เจ้ามีความสามารถอยู่บ้าง หากเป็นเต๋าสุดขั้วทั้งแปดที่สมบูรณ์ของบรรพชนเทพ เจ้าอาจจะทะลวงเข้ามาในหมอกสิบสีของข้าได้จริงๆ แต่เพียงแค่หกขั้ว เจ้าต้องพยายามให้มากกว่านี้” เสียงหัวเราะเบาๆ ดังออกมาจากข้างใน ทั้งเสียงหัวเราะและน้ำเสียงช่างเด่นชัด
หวังหลินมีท่าทีเช่นเดิม เขาสะบัดแขนเสื้อปรากฏร่างแก่นแท้ห้าธาตุทับซ้อนขึ้นมา มันมีหน้าตาเหมือนกับเขา แววตาเย็นเยียบและจากนั้นพุ่งทะยานเข้าหาหมอกสิบสี เขาเข้าไปใกล้อสูรตัวยักษ์และสะบัดแขน ปรากฏธาตุโลหะ ไม้ วารี เพลิงและปฐพีขึ้น
กระบี่สีทองขนาดเล็กนับไม่ถ้วนก่อตัวเป็นพายุกระบี่ กลายเป็นแก่นแท้โลหะอันทรงพลังพุ่งเข้าหาอสูรยักษ์ เจ้าอสูรกำลังต่อต้านแต่เมื่อพลังของแก่นแท้ปฐพีกระแทกใส่ ทั้งพายุกระบี่มาถึงในเวลาไล่เลี่ยกันมันจึงส่งเสียงกรีดร้องโหยหวน
หมอกสิบสีปั่นป่วนอย่างรุนแรงและมีร่างขนาดใหญ่จำนวนสี่ร่างปรากฏขึ้นมา ตัวแรกเป็นอสรพิษยักษ์ ร่างกายใหญ่โตมโหฬารแต่กลับส่งเสียงคล้ายทารก มันอ้าปากและพ่นกลิ่นอายสีแดงจำนวนมากออกมาล้อมรอบร่างแก่นแท้ห้าธาตุ
อสูรยักษ์ตัวที่สองคือกิ้งก่ายักษ์ เจ้ากิ้งก่าลำตัวสีขาวคล้ายหยกขาว มันโจมตีด้วยลิ้น พ่นไอเย็นเยียบเข้าหาร่างแก่นแท้ห้าธาตุ
ส่วนอีกตัวเป็นอสูรตั๊กแตนที่มีหกปีก เป้าหมายของมันไม่ใช่หวังหลินแต่เป็นอักขระเต๋าสุดขั้วทั้งหกแบบที่อยู่ด้านบน
ตัวสุดท้ายเป็นอสูรคล้ายหนอนดูน่าเกลียด ร่างกายปลดปล่อยของเหลวเหนียวหยดลงมา ใกล้ศีรษะมีหนวดอยู่สองข้าง ตรงปลายหนวดเป็นศีรษะของหญิงสาว!
พอเจ้าอสูรตัวนี้ปรากฏ หญิงสาวทั้งสองบนหนวดของมันจึงส่งเสียงกรีดร้องแหลมและมองดูหวังหลิน สายตาของพวกนางเป็นประกายดุร้ายก่อนจะพุ่งออกมาจากหมอกเข้าสู่หวังหลิน
หวังหลินมีท่าทีสงบนิ่งอยู่ตลอด พอเจ้าหนอนประหลาดมาถึงจึงยกแขนขวาขึ้นมาปรากฏร่างเงาบัญชาโบราณขนาดยักษ์ด้านหลัง จากนั้นปรากฏดาวทั้งหมด 27 ดวงพร้อมกับหวังหลินส่งกำปั้นออกไป
ร่างเงาบัญชาโบราณส่งกำปั้นออกไปด้วยเช่นกัน
เสียงดังสนั่นกึกก้องไปทั่ว อสูรที่มีศีรษะหญิงสาวเป็นหนวดถึงกับกระเด็นถอยกลับเข้าไปในหมอก ทว่าเพียงพริบตาเดียวมันปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งและไม่บาดเจ็บเลย
หวังหลินขมวดคิ้ว อสูรสองตัวที่กำลังโจมตีร่างแก่นแท้ห้าธาตุพลันส่งเสียงกรีดร้องโหยหวน ฝ่ามือยักษ์คล้ายต้นไม้ปรากฏขึ้นเหนืออสูรทั้งสองตัว ฝ่ามือกระแทกลงเข้าใส่และเปลี่ยนพวกมันให้กลายเป็นกองเนื้อสาดกระจาย
ส่วนกิ้งก่าสีขาวได้ถูกแก่นแท้เพลิงโอบล้อมด้วยทะเลเพลิง เจ้ากิ้งก่ากรีดร้องและล่าถอยเข้าไปในหมอก
ด้านเจ้าตั๊กแตนหกปีกนั้นทะยานเข้าหาอักขระเต๋าหกแบบ แต่อักขระพลันระเบิดกลายเป็นฝ่ามือยักษ์ คว้าเจ้าตั๊กแตนและบีบอย่างอำมหิตจนมันแตกสลาย
อย่างไรก็ตามเรื่องน่าประหลาดคือมีอสูรตั๊กแตนหกปีกอีกตัวทะยานออกมาจากสายหมอก!
ทว่าตอนที่เจ้าอสูรออกมา มีหยดน้ำขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นรอบตัวมันและแทงทะลุเข้าไปในร่างราวกับกระบี่อันแหลมคม
ขณะเดียวกันเจ้าหนอนยักษ์ซึ่งกระเด็นถอยไปจากกำปั้นหวังหลิน มันกำลังจะพุ่งออกมาอีกครั้งแต่มีก้อนเม็ดทรายปรากฏ นี่คือร่างแก่นแท้ปฐพีของหวังหลิน มันพุ่งเข้าหาเจ้าหนอนในพริบตา จากนั้นหนอนยักษ์ก็กลายเป็นรูปปั้นดิน!
เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว รูปปั้นดินแตกสลายเป็นเศษละออง
ด้วยร่างแก่นแท้ห้าธาตุและเต๋าสุดขั้วหกแบบ แค่นี้ก็มากพอที่จะรับมืออสูรทั้งห้าตัวได้แล้ว หวังหลินมีแววตาเป็นประกาย ยกแขนขวาขึ้นมาชี้ใส่ท้องฟ้า ปรากฏร่างเงาบัญชาโบราณขึ้นมา ร่างเงาก่อเกิดเป็นรูปร่างคล้ายกับคนจริงๆ มันก้าวเดินเข้าหาสายหมอก กำหมัดแน่นและโยนกำปั้นเข้าใส่ใจกลางสายหมอก!
แต่กลับมีสิ่งบางอย่างขวางกั้น อสูรทะเลยักษ์ที่มีแปดหนวดได้โผล่ออกมาจากสายหมอก หนวดทั้งแปดของมันห่อหุ้มรอบแขนร่างเงาบัญชาโบราณและส่งเสียงคำรามแหลม
จากนั้นไม่นานมีอสูรอีกสามตัวปรากฏขึ้นมาจากภาพเงาทีละตัว ตัวหนึ่งเป็นก้อนหิน มันสยายปีกและทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า อีกตัวเป็นนกเพลิงสีม่วงขนาดยักษ์ เมื่อมันปรากฏตัวพลันกระจายแสงสีม่วงออกไปและส่งเสียงร้องดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ
อสูรตัวสุดท้ายเป็นรูปร่างมนุษย์ มันมีสองหัว เอาแขนทุบหน้าอกตัวเองพลางอ้าปากและพุ่งทะยานเข้าหาหวังหลิน
อสูรทั้งสิ้นเก้าตัวที่ปรากฏตัวออกมาจากสายหมอกมีหน้าที่ในการป้องกันไม่ให้หวังหลินเข้าไป!
‘น่าจะยังมีอสูรตัวที่สิบ!’ หวังหลินเยาะเย้ยพลางยกแขนซ้ายขึ้นมาชี้ใส่เจ้าหินที่อยู่ในท้องฟ้า อากาศรอบตัวมันคล้ายแยกออกไปอีกมิติ จากนั้นบีบเข้าหากันในทันที ปลายนิ้วหวังหลินมีแสงกะพริบวาบ นั่นคือวิชาดัชนีบรรพชนโบราณ!
ขณะเดียวกันมีร่างเงาหนึ่งทับซ้อนร่างหวังหลินอีกครั้ง ร่างแก่นแท้สายฟ้าสังหารก้าวเดินออกมา เรือนผมของร่างแก่นแท้เปลี่ยนกลายเป็นสีดำและเปล่งจิตสังหารรุนแรงพร้อมกับรอยยิ้มอำมหิต ดวงตาเย็นเยียบและไร้ปราณี เขาก้าวออกมาและเปลี่ยนกลายเป็นเส้นด้ายสีดำนับไม่ถ้วนแทงทะลุเจ้านกเพลิงสีม่วง เจ้านกเพลิงพลันส่งเสียงกรีดร้องและระเบิดในทันที จากนั้นร่างแก่นแท้สายฟ้าสังหารก้าวออกมา เลียริมฝีปากและพุ่งเข้าหาอสูรอีกตัว
ส่วนเจ้าอสูรตัวที่เก้านั้นอยู่ห่างจากหวังหลินไม่เพียงไม่กี่ร้อยฟุต มันพ่นกลิ่นเหม็นและพุ่งเข้าหาอย่างดุดัน
“รนหาที่ตาย!” หวังหลินมีแววตาเป็นประกายจิตสังหาร แม้ว่าร่างแก่นแท้ห้าธาตุและร่างแก่นแท้สายฟ้าสังหารจะอยู่ห่างออกไป เขาเหลือเพียงแก่นแท้นามธรรมเท่านั้นและไม่ใช่คนที่เจ้าอสูรตัวนี้จะมาก่อกวนได้
หวังหลินยังมีวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าโบราณที่เขาไม่เคยใช้ออกมา ในเผ่าโบราณมันถือว่าเป็นวิชาช่วยชีวิตที่ทรงพลังที่สุดจนน่าตกตะลึง!
เมื่อเจ้าอสูรยักษ์สองหัวเข้าใกล้ หวังหลินร้องคำรามใส่ท้องฟ้า ร่างกายส่งเสียงปะทุและขยายออกไปจากคนธรรมดาสู่ขนาดสูงหลายพันฟุต!
ร่างบัญชาโบราณ!
นี่เป็นครั้งแรกที่หวังหลินเผยร่างบัญชาโบราณ ร่างกายอันทรงพลังของเขาเปล่งกลิ่นอายโบราณ ทั้งยังมีลวดลายสีดำปกคลุมร่างกาย เปล่งความรู้สึกอันลี้ลับ
“ไปซะ!” ในเผ่าโบราณ ผู้คนจะไม่เผยร่างบัญชาโบราณของตัวเองออกมาง่ายๆ เพราะหากร่างนี้ได้รับความเสียหายขึ้นมา มันจะส่งผลกระทบต่อระดับบ่มเพาะมากเกินไปและยังไม่ค่อยสะดวกอีกด้วย เว้นแต่จะอยู่บนสนามรบ
ภายในวังหลวง เหล่าผู้คนอาณาเขตเต๋าและจักรพรรดิไม่ได้มีเวลามากพอที่จะใช้ร่างบัญชาโบราณของตัวเองและถูกหวังหลินทำลายล้างไปเสียก่อน
ร่างขนาดหลายพันฟุตไม่ใช่ขีดจำกัดของหวังหลิน เขาก้าวออกมาและโยนกำปั้นไป เจ้ายักษ์สองหัวเผยความหวาดกลัวและส่งเสียงพลางโยนกำปั้นของมันออกมาเช่นกัน ทว่าเมื่อทั้งสองกำปั้นเข้าปะทะกัน ร่างเจ้ายักษ์กลับเกิดการระเบิดแทน
ไม่อาจมีอะไรต่อต้านได้เลย หวังหลินก้าวเท้าเหยียบเข้าไปในหมอก ร่างกายขยายออกไปอีกครั้งจากเจ็ดพันฟุตไปถึงแปดพันฟุต แต่นั่นยังไม่ใช่ขีดจำกัดของเขา!
กำปั้นขนาดยักษ์ของหวังหลินกระแทกลงใส่สายหมอก ขณะนั้นเองเสียงกระหึ่มดังออกมาจากข้างในหมอก แผ่กระจายออกมาอย่างรุนแรง เจ้าอสูรที่กำลังต่อสู้กับร่างแก่นแท้ห้าธาตุและร่างแก่นแท้สายฟ้าสังหารเกิดการระเบิดในทันที พวกมันเปลี่ยนกลายเป็นหมอกและคืนกลับไป
สายหมอกปั่นป่วนและรวมตัวกันอย่างรวดเร็ว เมื่อกำปั้นหวังหลินร่อนลงไป อสูรยักษ์ตัวหนึ่งที่มีขนาดสูงประมาณเจ็ดถึงแปดพันฟุตได้พุ่งออกมาจากสายหมอกด้วยเช่นกัน!
ปีกขนาดใหญ่ของมันเปิดกว้างและมีดวงตาสองดวง มันคือแมลงวันตัวยักษ์!! พุ่งทะแทกเข้าสู่กำปั้นของหวังหลิน
ปัง!
ร่างหวังหลินสั่นเทา พอเขาก้มศีรษะลงมา แววตาเผยประกายแสงประหลาด ตอนที่เจ้าแมลงวันกระเด็นกลับไป เขาเห็นหมอกแยกออกจากกันเล็กน้อยและเห็นชายชราผู้หนึ่งที่กำลังนั่งอยู่ตรงกลาง!
เขารู้จักชายชราคนนี้!
“เทียนหยุน!! ใช่เจ้าจริงๆ!!”
…………………………………………………….