Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน - ตอนที่ 2037 ทะลวง!
ภูเขารกร้างที่เปลี่ยนกลายเป็นค่ายกลขนาดใหญ่ได้เผยตัวตนออกมาเพียงแค่สายหมอกเลือนหายไป ใจกลางของค่ายกลสิบสีมีร่างหนึ่งกำลังนั่งอยู่ตรงกลาง หวังหลินมองเห็นรูปร่างของร่างนี้ได้ชัดเจน
เป็นชายชรา และดูคล้ายกับเทียนหยุนอย่างมาก!
ทว่าพอหวังหลินมองดูใกล้ๆ ไม่เพียงแต่จะคล้ายกับเทียนหยุนเท่านั้นแต่ยังคล้ายกับอีกคนด้วย!
“หวังหลิน เราได้เจอกันอีกแล้ว” ชายชรายิ้มมองหวังหลินอย่างสงบนิ่งเป็นอย่างยิ่ง รอยยิ้มของเขายากจะเข้าใจและดูเหมือนมีความโลภและความทรงจำบางอย่าง แต่ลึกเข้าไปภายในแววตา มีความหวาดกลัวแฝงเอาไว้
หวังหลินที่มีขนาดร่างกายสูงเจ็ดถึงแปดพันฟุตกำลังจ้องมองชายชรา เขาเอ่ยขึ้น “ข้าควรเรียกเจ้าว่า ‘เทียนหยุน’ หรือ ‘ราชันย์เทพสีรุ้ง’ ? ”
รูปร่างของคนผู้นี้ทับซ้อนกับเทียนหยุนและราชันย์เทพสีรุ้ง
“ข้ามีหลายชื่อ แต่ตอนนี้ข้าชอบถูกเรียกว่า ‘เทียนหยุน’ ซะมากกว่า” ชายชรายิ้มและประทับมือขวาไปบนค่ายกล
ค่ายกลขนาดยักษ์เปิดใช้งานอีกครั้งเปล่งแสงอันแปลกประหลาด แสงนี้ห่อหุ้มบริเวณและดึงดูดพลังงานของโลกเข้ามา ก่อเกิดเป็นคลื่นกระแทกจนแม้แต่ร่างหวังหลินยังต้องถอยไปหลายก้าว
‘เคลื่อนย้าย!!’ หวังหลินมีดวงตาเป็นประกาย ด้วยความเข้าใจด้านเขตอาคม เขาจึงบอกได้ทันทีว่าค่ายกลด้านล่างเทียนหยุนคือค่ายกลเคลื่อนย้าย!
“น่าเสียดายที่เจ้าไม่ได้สังหารมากพอ…” ชายชราถอนหายใจ
หวังหลินไม่ได้พูดอะไร เขามีความสงสัยหลายอย่างแต่ไม่ได้พูดออกมา จากนั้นยกแขนขวาขึ้นมากระแทกลงใส่ค่ายกล ร่างกายอันทรงพลังและกำปั้นอันแข็งแกร่งของหวังหลินกระแทกเข้าไปแต่เขากลับถูกพลังสะท้อนกลับอย่างรุนแรงทันที
ร่างกายส่งเสียงดังปะทุขึ้นและแขนขวากระเด็นกลับ หวังหลินมองเข้าไปแต่กลับพบว่าค่ายกลนั้นไม่ได้รับความเสียหายเลย
“เจ้าไม่สามารถทำลายค่ายกลนี้ได้…เจ้าไม่สามารถหยุดยั้งแผนการของข้าได้ ข้ารอวันนี้มานานเกินไป…” ชายชราส่ายศีรษะและมองดูหวังหลิน แววตาเผยความแปลกประหลาด แฝงทั้งอารมณ์ความรู้สึกอันซับซ้อน ความโลภและความหวาดกลัว
หวังหลินเคยเห็นสายตาแบบนี้จากเทียนหยุนมาก่อน แต่ไม่เคยชัดเจนเท่าวันนี้ ซึ่งนี่เกี่ยวข้องกับระดับบ่มเพาะของเขาที่มาถึงขั้นมหาชั้นฟ้า
“เทียนหยุนตายไปแล้วและราชันย์เทพสีรุ้งก็ตายไปเช่นกัน เจ้าเป็นใคร!?” หวังหลินคำราม ร่างกายขยายขนาดออกไปอีกครั้งจนสูงมากกว่าหมื่นฟุต ส่งเสียงคำรามคล้ายพายุพัดรุนแรง เท้าขวาเหยียบเข้าใส่ค่ายกลด้านล่าง
เกิดเสียงดังสนั่นกึกก้องแต่เท้าหวังหลินกลับสั่นเทาและได้รับพลังตีกลับมาอีกครั้ง
“ข้าเป็นใคร…” ชายชราขบคิดชั่วขณะและหัวเราะ
“ข้าเป็นใคร? นอกจากตัวข้าเอง มีแค่คนเดียวเท่านั้นที่รู้ และเจ้าจะรู้ในอีกไม่นาน!” ค่ายกลรอบชายชราส่องประกายอย่างรุนแรงและเริ่มส่งเสียงอื้อ ขณะที่ค่ายกลเปิดใช้งาน พื้นดินจึงเริ่มสั่นสะเทือนไปด้วย
‘ค่ายกลเคลื่อนย้ายแบบไหนกันถึงทำให้พื้นดินสั่นสะเทือนได้เช่นนี้?’ แววตาหวังหลินเป็นประกายเย็นเยียบ ไม่ว่าคนผู้นี้คือเทียนหยุนหรือราชันย์เทพสีรุ้ง เขาก็คือราชครูที่ได้ดึงเศษวิญญาณของหวานเอ๋อร์มา เขาเป็นคนที่หวังหลินต้องสังหาร!
พอเห็นค่ายกลรุนแรงยิ่งขึ้น หวังหลินสูดหายใจลึก เสียงดังสนั่นออกมาจากร่างกาย เส้นโลหิตสีฟ้าบนร่างและบนใบหน้ากำลังบวมเป่ง ทำให้เขาดูน่าหวาดกลัวอย่างยิ่ง
หวังหลินร้องคำราม ร่างกายขยายขนาดอีกครั้ง จากไม่กี่หมื่นฟุตจนเกือบถึงแสนฟุต
ร่างใหญ่ยักษ์เช่นนี้ถึงกับทำให้โลกเปลี่ยนสีสัน ค่ายกลด้านล่างเทียบกับเขาแล้วคล้ายกับมดแมลง หวังหลินมีแววตาสีเงินเจิดจ้าพลางโยนกำปั้นเข้าใส่ค่ายกลอีกครั้ง
เพียงกำปั้นตกลงมา พลังงานภายในระยะห้าลี้ ห้าสิบลี้ ห้าร้อยลี้ ห้าหมื่นลี้และแม้แต่หลายแสนลี้ถูกดึงเข้ามาข้างใน ราวกับกำปั้นของหวังหลินกลายเป็นหลุมดำและดูดกลืนพลังทั้งหมดลงมากระแทกใส่โลกตรงจุดนั้น
ชายชราที่อยู่ในค่ายกลมองขึ้นไปด้วยสีหน้าประหลาดใจแต่ไม่ตื่นตระหนกเลย พอกำปั้นปะทะเข้าใส่ แสงจากค่ายกลกะพริบรุนแรงและแตกสลายทันที จากนั้นกำปั้นเข้ามาใกล้ชายชราในฉับพลัน
พริบตาเดียวก็เข้าแตะร่างของชายชราแต่มันทะลุร่างไป ทะลุค่ายกลและร่อนลงใส่พื้นดิน พื้นดินสั่นไหวอย่างรุนแรงและเกิดคลื่นแผ่กระจายออกไปทั่วสารทิศ ภูเขาระเบิดกลายเป็นหลุมยักษ์
ทว่าหวังหลินมีสีหน้ามืดมนเพราะชายชราและค่ายกลยังอยู่โดยไม่ได้รับความเสียหาย!
ราวกับชายชราและค่ายกลไม่ได้อยู่ที่นี่และทุกสิ่งทุกอย่างเป็นแค่ภาพมายา ชายชราและค่ายกลคล้ายกับอยู่คนละมิติที่แตกต่างจากหวังหลินอย่างสิ้นเชิง!
“เสียพลังงานไปอย่างเปล่าประโยชน์…” ชายชรายิ้มพลางส่ายศีรษะและถอนหายใจ
หวังหลินขบคิดและพูดขึ้นมา “หลังจากนี้อีกสักพัก เจ้าก็ยังไม่ได้เคลื่อนย้ายออกไป นี่ไม่ใช่แค่ค่ายกลเคลื่อนย้าย” พอสิ่งที่หวังหลินพูดดังเข้าหูของชายชรา ชายชราจึงมีแววตาส่องสว่าง
หวังหลินหลับตา ร่างกายหดลงและร่างขนาดยักษ์หายวับทันที กลายเป็นหวังหลินชุดขาวขนาดปกติขึ้นมาแทน
เพราะเขาหดตัวรวดเร็วเกินไป ร่างขนาดยักษ์จึงหายไปคล้ายกับเป็นภาพมายา
หลังจากกลับคืนสู่ขนาดปกติ หวังหลินก้าวเข้ามาเบื้องหน้าค่ายกล มองเข้าไปดูชายชราที่ดูคล้ายคลึงกับเทียนหยุนและราชันย์เทพสีรุ้ง เขาสะบัดแขนให้ร่างแก่นแท้ทั้งสองกลับคืนสู่ร่างกาย
ชายชราเอ่ยขึ้นช้าๆ “ค่ายกลนี้ไม่ใช่แค่ค่ายกลเคลื่อนย้ายจริงๆ…ผลลัพธ์จริงๆ คือการเปิดประตูโบราณ…น่าเสียดายที่การสังหารของเจ้าไม่ได้ทรงพลังมากพอ…”
“เจ้าไม่สามารถทำลายค่ายกลนี้ได้และไม่สามารถหยุดมันได้ นั่งลงและพูดคุยกับข้าในช่วงเวลาอันแสนสั้นนี้เสียดีกว่า บางทีข้าอาจจะช่วยเจ้าขจัดข้อสงสัยให้ได้บางส่วน” ชายชรามองหวังหลินด้วยรอยยิ้ม
หวังหลินขบคิดและส่ายศีรษะ เขาก้าวเข้าไปข้างหน้า ปรากฏดวงตะวันขนาดยักษ์ขึ้นด้านหลัง ดวงตะวันเปล่งประกายแสงสีขาวและดำ คล้ายกับเป็นสิ่งแปลกประหลาดในโลกนี้
“ข้าไม่ค่อยชินกับการพูดคุยกับคนผ่านค่ายกล” หวังหลินพูดขึ้นอย่างสงบนิ่งและเดินเข้าหาตรงสุดขอบของค่ายกล หวังหลินก้าวเดินเข้าไปข้างในพร้อมกับระลอกคลื่นดังสนั่นกึกก้อง
แม้จะเดินทะลุผ่านค่ายกลมาได้ ราวกับเขาได้ยืนอยู่คนละมิติ
ชายชรามองหวังหลินที่อยู่ห่างไปไม่กี่ร้อยฟุต เผยท่าทีสงสาร แต่ลมหายใจต่อมากลับหรี่สายตาแคบลง
ขณะที่หวังหลินยืนอยู่ตรงนั้น ระดับบ่มเพาะกลับเพิ่มพูนขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดวงตะวันมหาชั้นฟ้าด้านหลังเปล่งประกายเจิดจ้าและขยายขนาดเพิ่มขึ้นมากกว่าสิบเท่าจากก่อนหน้านี้เพียงแค่ชั่วพริบตา!
ดวงตะวันมหาชั้นฟ้าขนาดยักษ์เปล่งแสงเจิดจ้ายิ่งขึ้นแต่ไม่หยุดการขยายขนาด มองไกลๆ ราวกับก้อนทรงกลมกำลังใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
“เจ้ากำลังทำอะไร!?” ชายชราจ้องมองดวงตะวันมหาชั้นฟ้าด้วยสีหน้ามืดมน เขายกแขนขวาขึ้นมาอย่างไม่ลังเล เจ้าแมลงวันตัวยักษ์หมุนรอบตัวเขาเริ่มส่งเสียงร้องดัง มันเผยสายตาดุดันและพุ่งทะยานเข้าหาหวังหลิน
แต่พอเจ้าแมลงวันเข้ามาใกล้หวังหลินในระยะสิบฟุต มันกลับไม่สามารถเข้าใกล้ได้มากกว่านี้ ราวกับมีม่านที่มองไม่เห็นกำลังหยุดมันเอาไว้
เสียงดังสนั่นกึกก้องดังออกมาจากเจ้าแมลงวันที่กำลังกระแทกใส่ม่านที่มองไม่เห็นด้วยความโกรธเกรี้ยว หวังหลินยื่นมืออกไปเบื้องหน้าและปรากฏวิญญาณดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณของจักรพรรดิเทพ!
หวังหลินถือวิญญาณดวงนี้เอาไว้ หลับตาลงและระดับบ่มเพาะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง! เขาเทพลังทั้งหมดเข้าไปในวิญญาณทำให้วิญญาณจักรพรรดิเทพลืมตาขึ้นมาปลดปล่อยแสงสีทองแพรวพราว ทว่าดวงตาคู่นี้กลับไม่มีสติและเต็มไปด้วยความสับสน หวังหลินสะบัดแขนและส่งวิญญาณเข้าไปในดวงตะวันมหาชั้นฟ้าด้านหลังทันที
ภายในดวงตะวันมหาชั้นฟ้ามีศีรษะอันเลือนลางซ่อนอยู่ นั่นคือศีรษะของบรรพชนเทพที่หวังหลินหยิบกลับมาจากในวังหลวง จากนั้นเก็บใส่เข้าไปในตะวันมหาชั้นฟ้าของตัวเอง
พอวิญญาณของจักรพรรดิเทพเข้าไปในตะวันมหาชั้นฟ้า ดวงตะวันมหาชั้นฟ้าจึงขยายขนาดขึ้นอีกร้อยเท่าจากขนาดดั้งเดิม!
ร่างกายหวังหลินสั่นเทาและส่งเสียงคำรามออกมา ดวงตะวันมหาชั้นฟ้าขยายขึ้นไปอีกหลายเท่าก่อนที่เขาจะลืมตาขึ้นทันที
“จุดชนวน ตะวันมหาชั้นฟ้า!” ดวงตะวันมหาชั้นฟ้าเริ่มเผาไหม้ มองไกลๆ ราวกับก้อนเปลวเพลิงสีขาวและดำ มีทะเลเพลิงพรั่งพรูไปทั่วฟ้า!
ชายชรามีสีหน้าเปลี่ยนไป จากนั้นมองขึ้นและร้องคำราม “เจ้าไม่ต้องการชุบชีวิตลี่มู่หวานให้ได้จริงๆ ?”
…………………………………………………