Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน - ตอนที่ 2040 อย่าพูดถึงมัน!
ขณะที่ทั้งแผ่นดินเซียนดาราสลับสับเปลี่ยนระหว่างความมืดและแสงสว่าง ทางด้านภูเขาจักรพรรดิ มหาชั้นฟ้าจิ่วตี้ทะยานออกมาจากการปิดด่านบ่มเพาะ ทอดสายตามองออกไปไกลด้วยสีหน้าเปลี่ยนไป
“นี่มันแดนเทพบรรพกาลจริงๆ…ครั้งนี้มันเปิดขึ้นจากเผ่าโบราณ…และเปิดเร็วก่อนเวลาปกติไปมาก…การเปิดแดนเทพบรรพกาลไม่ควรจะเปิดขึ้นเร็วเช่นนี้ นั่นหมายความว่า…”
“นี่จะเป็นครั้งแรกที่แดนเทพบรรพกาลจะเปิดออกอย่างสมบูรณ์และแตกต่างจากครั้งก่อน” เสียงสตรีนางหนึ่งดังออกมาด้านข้างจิ่วตี้ นางคือไฮ่จื่อผู้สวมชุดคลุมสีขาว มองออกไปไกลด้วยสายตาซับซ้อน
“ข้าไม่สามารถทำนายได้ทั้งหมด นี่เป็นแค่สิ่งที่ข้ามองเห็น ข้าทำนายได้ว่าเราต้องรออีกหลายร้อยปีกว่าแดนเทพบรรพกาลจะเปิดออกจริงๆ”
“เปิดออกอย่างสมบูรณ์!!” จิ่วตี้มีสายตาตื่นเต้น
“หากมันเปิดอย่างสมบูรณ์ เช่นนั้นอาจมีวิธีให้มหาชั้นฟ้าข้ามระดับในปัจจุบันและบรรลุระดับเดียวกับบรรพชนเทพ!”
ณ เผ่าเทพ สำนักต้าวยี่ ตลอดหลายปีที่ผ่านมาสำนักต้าวยี่กลายเป็นดินแดนอันมืดมน ผู้คนทรงพลังนับไม่ถ้วนตายไปและมหาชั้นฟ้าต้าวยี่เอาแต่ปิดด่านบ่มเพาะ ทำให้ประชากรที่นี่เบาบางลงไปมาก
ทว่าในตอนนี้มีเสียงคำรามเสียงหนึ่งดังออกมาจากสำนักต้าวยี่ ภูเขาแห่งหนึ่งพังทลายไป ร่างที่ปกคลุมด้วยควันสีเทาพลันทะยานออกมา ร่างนี้จ้องมองออกไปด้วยท่าทีดุดัน
‘แดนเทพบรรพกาล!! อาจมีวิธีที่จะทำให้ข้าขับไล่คำสาปบรรพชนนี่ออกไปได้หมดและทำให้ระดับบ่มเพาะของข้าเพิ่มขึ้น!’
ภายในสำนักตะวันม่วง สองสาวน้อยน่ารักทั้งสองคนกำลังปิดด่านบ่มเพาะ คั่นกลางระหว่างทั้งสองคือดวงตาของบรรพชนเทพ ดวงตาเปล่งแสงประหลาดเชื่อมต่อกับทั้งสองเอาไว้
นาทีนี้ทั้งสองคนลืมตาขึ้นมาและมองออกไปในทิศทางเดียวกัน สายตาคล้ายกับมองทะลุกำแพงและเห็นโลกด้านนอกได้
มหาชั้นฟ้าหวู่เฟิงเป็นคนแรกในเผ่าเทพที่สังเกตสิ่งนี้ได้ เขายืนอยู่บนธารน้ำแข็งด้วยสายตาคาดหวัง
ขณะเดียวกัน ลึกลงไปใต้วังหลวงในเมืองหลวงของเผ่าเทพ ที่ซึ่งมีมิติทับซ้อนอยู่ ข้างในนั้นมีภูเขาหนึ่งลูกที่มีเหลียนต้าวเฟยหลับอยู่อย่างสงบ
นอกจากผู้คนทรงพลังของเผ่าเทพแล้ว ผู้คนจากเผ่าโบราณเองก็ให้ความสนใจต่อการเปิดแดนเทพบรรพกาลเช่นกัน มหาชั้นฟ้าของอาณาเขตจวี่และอาณาเขตฉีต่างก็มองดูสถานการณ์
ส่วนด้านซวนลั่ว เขาสังเกตเห็นสิ่งผิดปกตินั้นได้อยู่แล้วยามที่หวังหลินเข้าไปในภูเขารกร้างและเกิดปรากฏการณ์ในท้องฟ้า กระทั่งจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ที่ได้กลับเข้าไปใต้วังหลวงก็ยังทะยานออกมาอีกครั้ง นางยืนมองอยู่ข้างซวนลั่วด้วยความตกตะลึง
“แดนเทพบรรพกาลเปิดก่อนเวลา!”
ทั้งสองมองหน้ากันเองและเริ่มขบคิด
ณ พื้นที่ใจกลางระหว่างสามอาณาเขต ร่างหนึ่งยืนอยู่บนยอดหอคอยบนภูเขากุ้ยต้าวและทอดสายตามองดูท้องฟ้า เสียงถอนหายใจดังออกมาจากหอคอย
‘ในที่สุด…มันก็เปิดออกอย่างสมบูรณ์…ตอนที่ข้ารู้เรื่องทุกอย่างในวันนั้น ข้ารู้ว่าข้าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงมันได้…’ ร่างนั้นส่ายศีรษะและเผยความขมขื่นอันหาได้ยาก
‘หลายร้อยปีต่อมา…ทะเลแห่งความทุกข์ทรมาน…’
“วิญญาณทั้งหมดใต้ชะตาสวรรค์จะต้องทนทุกข์กับทัณฑ์สวรรค์…ปลดปล่อยตัวเองจากความเชื่อที่นำทางไปสู่ความพินาศ ก้าวเดินบนเส้นทางแห่งเต๋าที่แท้จริง!” ร่างเลือนลางพึมพำ
หลังจากท้องฟ้าบนแผ่นดินเซียนดาราเปลี่ยนเป็นกลางคืนถึงแปดครั้งและกลับสู่ปกติ วังวนแห่งสุดท้ายเหนือภูเขาก็หายไป ทว่าเสาทั้งแปดตั้งตระหง่านอยู่เหนือทะเลอันกว้างใหญ่ ไม่ว่าคลื่นจะกระแทกสักกี่ครั้ง พวกมันก็ไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย
ภายในวงกลมที่เกิดขึ้นจากเสาทั้งแปด ท้องทะเลค่อยๆ เปลี่ยนกลายเป็นสายหมอก แต่ทะเลด้านนอกเสายังคงเป็นน้ำ
ทางด้านราชครูอาณาเขตเต๋าที่ดูเหมือนเทียนหยุนและราชันย์เทพสีรุ้งกลับมีสีหน้าเคร่งขรึม ฝ่ามือสร้างผนึกอย่างต่อเนื่องพลางกดทับลงค่ายกลและพึมพำด้วยน้ำเสียงแปลกประหลาด
น้ำเสียงของเขาคล้ายกับคนนับไม่ถ้วนกำลังพึมพำ แต่ไม่สามารถได้ยินอะไรได้ชัดเจน ตอนที่หวังหลินได้ยินเสียงนี้ ดวงตากลับเปล่งประกายอย่างไม่อาจตรวจจับได้
“ควบคุมเต๋าแห่งสวรรค์ ดวงวิญญาณทั้งหมดใต้ชะตาสวรรค์จะต้องทนทุกข์กับทัณฑ์สวรรค์ ปลดปล่อยตัวเองจากความเชื่อที่นำทางไปสู่ความพินาศ เผชิญกับสิ่งที่ไม่รู้จักอันไม่มีสิ้นสุด วิญญาณทุกดวงจักต้องขจัดคำถามในชีวิตและทะลวงออกมาจากกลไกแห่งสวรรค์ ได้รับเส้นทางแห่งชีวิต…และเดินบนเส้นทางแห่งเต๋าที่แท้จริง!” เสียงพึมพำมากมายจากราชครูพลันเปลี่ยนมาเป็นประโยคนี้ในทันที
เพียงคำพูดของเขาดังกึกก้องออกไป ค่ายกลปลดปล่อยแสงมหาศาล จากนั้นตาข่ายขนาดใหญ่จำนวนมากได้ปรากฏขึ้นในมิติแห่งนี้!
มันคือตาข่ายที่หวังหลินทะลวงเข้ามาและป้องกันไม่ให้เขาเข้ามาที่นี่ได้! แต่ขณะที่แสงจากค่ายกลกะพริบวาบ พลันปรากฏรอยแตกร้าวขึ้นบนตาข่าย
ราชครูใช้วิธีการบางอย่างเพื่อเคลื่อนย้ายค่ายกลในมิติแห่งนี้ไปสู่แผ่นดินเซียนดารา!
ต้องกล่าวก่อนว่าค่ายกลในภูเขารกร้างเป็นแค่ภาพมายา หวังหลินใช้พลังเต็มที่เพื่อทะลวงเข้าสู่มิติแห่งนี้ ตอนนี้ค่ายกลกลับใช้วิธีเดียวกันเพื่อทะลวงออกมาและกลายเป็นของจริง!
สิ่งที่ออกมาด้วยคือร่างมือสังหารของหวังหลิน!
ยามนี้ร่างมือสังหารจึงอยู่มิติเดียวกับร่างดั้งเดิมของหวังหลิน
ฉากเหตุการณ์นี้ทำให้หวังหลินมีแววตาเปล่งประกาย
ตอนที่ค่ายกลทะลุผ่านเขตแดนไปและมาถึงแผ่นดินเซียนดารา ราชครูพลันส่งเสียงคำราม แสงสิบสีระเบิดออกมาจากค่ายกลและพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า มองไกลๆ ราวกับกลายเป็นเสาแห่งที่เก้า!!
ร่างมือสังหารของหวังหลินถอยร่นกลับมาและผสานกับร่างดั้งเดิม หวังหลินปรากฏตัวใกล้ลำแสงและมองดูแสงนั้น เขาสัมผัสได้ถึงพลังอันน่ากลัวเกินบรรยาย
ราชครูส่งเสียงคำราม “เสาที่เก้า จงเปิดแดนเทพบรรพกาล!!” เสาลำแสงทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าและลอยเข้าหาทะเลที่อยู่คั่นกลางระหว่างสองเผ่าพันธุ์
ณ ทะเลอันกว้างใหญ่นั้น ภายในวงกลมของเสาทั้งแปด มีลำแสงสายหนึ่งทะยานออกมาและปรากฏเสาที่เก้าขึ้นตรงใจกลาง ท้องฟ้าเปลี่ยนสีสัน เกิดระลอกคลื่นดังสนั่นไปทั่วผืนฟ้า ไม่นานท้องฟ้าของแผ่นดินเซียนดาราจึงปกคลุมด้วยระลอกคลื่น
ทั่วท้องทะเลเกิดความปั่นป่วนเนื่องจากเสาที่เก้าตกลงมาใจกลางวงกลม
วินาทีที่เกิดปรากฎการณ์ขึ้น ทุกคนที่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ต่างก็สั่นสะเทือนไปทั้งจิตใจและเต็มไปด้วยสายตาแห่งความไม่เชื่อ
มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ปลดปล่อยเสียงดังสนั่นจนกึกก้องไปทั่วแผ่นดินเซียนดารา จากนั้นท้องทะเลก็ค่อยๆ ยกตัวสูงขึ้น!
ราวกับมีมือยักษ์กำลังใช้วิชาอันทรงพลังเพื่อยกทะเลแห่งนี้ขึ้นอย่างช้าๆ!
ขนาดของทะเลอันกว้างใหญ่ไม่สามารถอธิบายออกมาได้ไม่ใช่สิ่งที่มหาชั้นฟ้าทั่วไปจะทำได้ แม้แต่มหาชั้นฟ้ากุ้ยต้าวก็ทำไม่ได้เช่นกัน
พอทะเลยกสูงขึ้นจึงเกิดเป็นหลุมลึกขึ้นมา หลุมลึกนี้เต็มไปด้วยหลุมอีกนับไม่ถ้วน ทั้งยังไม่สม่ำเสมอ มันถูกซ่อนอยู่ใต้ทะเลและไม่ได้เจอแสงตะวันมาหลายปี!
ท้องทะเลยกตัวขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานก็ได้ข้ามผ่านแผ่นดินของเผ่าเทพและเผ่าโบราณ ท้องทะเลล้ำลึกยิ่งจนไม่อาจคำนวณความใหญ่ของมันได้ในช่วงเวลาสั้นๆ
ยามที่ท้องทะเลลอยอยู่เหนือแผ่นดินและยังสูงขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนที่เห็นจึงเกิดความตกตะลึงและแยกไม่ออกระหว่างท้องฟ้าและท้องทะเล
เสี้ยวพริบตานั้น ท้องทะเลอันกว้างใหญ่เปลี่ยนกลายเป็นครึ่งวงกลม!!
ความลึกของทะเลในตอนนี้เท่ากับความกว้าง ภาพเหตุการณ์ช่างน่าประหลาดเหลือเกิน!
เสาทั้งเก้าต้นในท้องฟ้าอยู่ใจกลางทะเล!
ทะเลอันกว้างใหญ่ราวกับกำแพงที่แบ่งระหว่างเผ่าเทพและเผ่าโบราณ ดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุดและคล้ายกับเป็นภาพมายา
ไม่สามารถบอกได้ว่าแผ่นดินเซียนดาราเองที่เปลี่ยนไปและทะเลอยู่เหมือนเดิม หรือทะเลเคลื่อนตัวแต่แผ่นดินเซียนดาราอยู่ที่เดิม ภาพเหตุการณ์นี้ทำให้คนรู้สึกว่าท้องฟ้าได้กลับตาลปัตร
เสาทั้งเก้าที่อยู่ใจกลางทะเลเริ่มหมุนอย่างช้าๆ ด้วยความเร็วเท่านี้ หากมองไกลๆ จะดูเหมือนพายุที่เชื่อมต่อกับฟ้าดิน
เสาทั้งเก้าต้นข้างในพายุกำลังส่องประกายและเกิดเป็นประตูบานยักษ์อย่างเลือนลาง!
ประตูปิดสนิทและยังไม่เปิด!
“น่าเสียดายที่การเข่นฆ่าของเจ้าไม่มากพอ…ไม่เช่นนั้นประตูบานนี้คงเปิดออกได้ทันที แต่ตอนนี้มันต้องใช้เวลาห้าร้อยปีกว่าจะรวบรวมพลังงานเพื่อเปิดประตูให้ได้…”
“เช่นนั้น หวังหลิน อีกห้าร้อยปีเราจะได้เจอกันอีกครั้งในแผ่นดินเซียนดารา! เมื่อเราได้เจอกัน เราจะได้รู้ความจริง!” ภายในภูเขารกร้างด้านนอกเมืองหลวงอาณาเขตเต๋า ราชครูค่อยๆ เลือนหายไปจากค่ายกลที่กำลังกะพริบวูบวาบ
หวังหลินมองร่างที่กำลังหายไปและพูดขึ้น “สำนักตงหลินถูกเจ้าทำลายล้างใช่หรือไม่”
แต่เขาไม่ได้ตอบกลับมา ค่ายกลหายไปพร้อมกับราชครูที่ส่งเสียงหัวเราะดังสนั่น พื้นที่บริเวณนี้ยังตกอยู่ในซากปรักหักพัง
หวังหลินขบคิดเงียบๆ อยู่นานและจากนั้นจึงหันกลับมา ทะยานเป็นลำแสงขึ้นสู่ท้องฟ้าและหายตัวไป
หวังหลินไม่มีเหตุผลอันใดที่จะอยู่ในอาณาเขตเต๋าอีกแล้ว ทุกอย่างกลายเป็นอดีต แต่ยังมีคนหนึ่งที่นี่ซึ่งเขายังนับถือว่าเป็นอาจารย์ แม้จะตัดขาดความสัมพันธ์ไปแล้วก็ตาม…
อาจารย์ที่เขาไม่สามารถยอมรับว่าเป็นอาจารย์แต่จะคงอยู่ในใจเขาไปชั่วนิรันดร์
…………………………………………