Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน - ตอนที่ 2050 ดำ ขาว ทอง!
พอหวังหลินลืมตาขึ้นมาในห้องลับ ร่างที่ปกคลุมด้วยสายหมอกบนยอดเขากุ้ยต้าวพลันถอนหายใจ
“เหลือ…สี่ร้อยปี…”
ณ เผ่าเทพ วิญญาณ 72 ดวงสงบลงหลังจากวิงวอนไปยังท้องฟ้า เพียงแต่มีแค่มหาชั้นฟ้าจิ่วตี้ที่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น จิตใจกระวนกระวาย เขามองท้องฟ้าด้วยความหวาดกลัวอยู่สักพัก
ทั้งชีวิตเขาใฝ่หาขอบเขตในตำนานนั้น แต่ก็ยังไม่สามารถข้ามไปถึงได้
‘ที่มหาชั้นฟ้ากุ้ยต้าวเป็นมหาชั้นฟ้าที่แข็งแกร่งที่สุดต้องเป็นเพราะเขาก้าวไปถึงขั้นนั้น!! ข้าไม่รู้ว่าเมื่อใดข้าจะไปถึงขั้นนั้นได้บ้าง…’ จิ่วตี้สงบเงียบและมีสีหน้าซับซ้อนก่อนจะถอนหายใจยาว
บนภูเขาจักรพรรดิ ไฮ่จื่อยืนอยู่บนยอดเขาด้วยชุดราตรีสีขาว เสื้อผ้าเริงระบำไปกับสายลม แววตาเกิดความลังเลและสับสน
ระหว่างการทำนายที่ผ่านมา นางสัมผัสได้ถึงความคุ้นเคย นางไม่ได้บอกจี้ตูเรื่องนี้แม้จะรู้สึกว่าเป็นแค่ภาพมายา
ในเผ่าโบราณ บนภูเขาต้นกำเนิด ด้านนอกเมืองหลวงอาณาเขตฉี มหาชั้นฟ้าซ่งเทียนมีใบหน้าซีดเผือด เขามองออกไปไกลด้วยสายตาซับซ้อนและไม่รู้ว่ากำลังคิดสิ่งใดอยู่
“อา…อาจารย์…” ฉีหมานมีน้ำเสียงลังเลอยู่ข้างหลัง
“หุบปาก!” ซ่งเทียนไม่ได้หันกลับมาและขัดคำพูดของฉีหมาน ตอนนี้เขาไม่ต้องการฟังอะไรทั้งนั้น เขาต้องคิดว่าความปั่นป่วนใน 36 แคว้นที่เกี่ยวข้องกับหวังหลินมันเป็นเรื่องอะไร
แม้ไม่คิดว่าจะมีความเกี่ยวข้องกันแต่ก็มีโอกาสเล็กน้อยที่จะเป็นหวังหลิน หากเป็นเช่นนั้นเขาคงต้องเปลี่ยนวิธีการคิดเสียใหม่
‘ช่างมันเถอะ ข้าจะไปเจอเขาและรู้ให้ได้!’ นาทีต่อมาซ่งเทียนมีแววตาเป็นประกายและยกแขนขวาขึ้นชี้ไปบนท้องฟ้า ส่งเสียงดังสนั่นกึกก้อง พลังรวมตัวจากทุกทิศทาง เมื่อก้อนเมฆแตกสลายจึงมีรอยแยกขนาดใหญ่เปิดขึ้นในท้องฟ้า
ศีรษะขนาดใหญ่ข้างหนึ่งโผล่ออกมาจากรอยแยก มันเป็นสีเขียวและมีสองเขา มันคือมารโบราณ!
ควันสีดำจำนวนมากห่อหุ้มรอบมารโบราณและมันส่งเสียงคำราม กรงเล็บสองข้างโผล่ออกมาจากรอยแยกเพื่อฉีกเปิดรอยแยกให้กว้างขึ้นเพื่อให้ทั้งร่างก้าวออกมา
ร่างกายของมันสูงหนึ่งแสนฟุต หลังจากก้าวออกมาจึงส่งเสียงคำรามก่อนจะคุกเข่าลงเบื้องหน้าซ่งเทียน
ซ่งเทียนจ้องมองมารโบราณเบื้องหน้าด้วยแววตาเปล่งประกาย ยกแขนซ้ายขึ้นสัมผัสกับหน้าผากตัวเองและยิงลำแสงสีเขียวสายหนึ่งเข้าไปยังมารโบราณ แสงสีเขียวหายวับไปตรงกลางหน้าผากของมัน
ซ่งเทียนหลับตานั่งลงแต่ดวงตาของมารโบราณเผยแสงมหึมา มันมีท่าทีมืดมนพลางกลับเข้าไปในรอยแยกและเลือนหายไป
จังหวะที่มารโบราณหายไป หวังหลินปล่อยหายใจยาวอยู่ในแคว้นหลัวจู้ ดวงตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น หลังจากตรวจสอบระดับบ่มเพาะของร่างกาย เขาจึงขมวดคิ้วในเวลาต่อมา
หวังหลินบอกไม่ได้ว่าตัวเขาในตอนนี้มีระดับบ่มเพาะอะไร เขาข้ามผ่านวิบากดับสูญระดับสูงสุดไปแล้วแต่ยังไม่ใช่มหาชั้นฟ้า เขารู้สึกเหมือนมหาชั้นฟ้าอยู่ห่างจากเขาเพียงครึ่งขั้น
ครึ่งขั้นนี้ดูเหมือนสั้นแต่ความจริงเป็นช่องว่างขนาดใหญ่ที่ข้ามผ่านได้ยากมาก
‘ครึ่งทางสู่ย่ำสวรรค์…’ หวังหลินลูบคางและมองดูวิญญาณจักรพรรดิเทพที่กำลังหลอมอยู่ในเพลิงวิญญาณของเขามาร้อยปีแล้ว คำสาปบรรพชนยังคงอยู่แต่เขาพบว่าถ้าหลอมด้วยระดับบ่มเพาะก่อนหน้านี้คงเป็นไปได้ยาก
นาทีนี้หวังหลินแววตาส่องสว่าง ยกแขนขวาขึ้นมายื่นจับไปที่วิญญาณจักรพรรดิเทพ เพลิงวิญญาณหายไป เหลือทิ้งไว้แค่วิญญาณ
หวังหลินมองดวงวิญญาณด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด เขาเกิดภาพเลือนลางว่าไม่ต้องใช้ความพยายามมากนักก็สามารถลบล้างคำสาปบรรพชนไปได้ง่ายๆ
ซึ่งเป็นเพราะไม่ได้มีคำสาปเหลืออยู่มากนักและยังถูกแบ่งไปให้จิ่วตี้กับคนอื่นไปด้วย อีกทั้งหวังหลินหลอมด้วยเพลิงวิญญาณมาร้อยปี ทว่าหากเป็นก่อนหน้านี้เขาคงต้องใช้เวลาอีกร้อยปีเพื่อขับไล่มันออกไปได้อย่างสมบูรณ์
ด้วยสายตาประหลาดของหวังหลิน นิ้วชี้ซ้ายได้แทงใส่วิญญาณและสัมผัสกับควันสีเทาข้างใน
หวังหลินกระซิบเบาๆ “สลาย”
เพียงเอ่ยคำเดียว ภายในห้องลับเกิดการบิดเบือนและมีเส้นนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นรอบนิ้วชี้ของหวังหลิน เส้นมากมายได้เข้าสู่ควันสีเทาที่อยู่ในวิญญาณจักรพรรดิเทพ
กลุ่มก้อนสีเทาเกิดอาการสั่นเทาและจากนั้นสูญสลายไปอย่างรวดเร็วจนกระทั่งไม่มีอะไรเหลืออยู่
หลังจากถอนคำสาปบรรพชนส่วนเล็กๆ ไปได้อย่างง่ายดาย หวังหลินมีแววตาเจิดจ้ายิ่งขึ้น ตอนนี้คำสาปได้หายไปแล้ว เปลือกตาของจักรพรรดิเทพกำลังสั่นเทาราวกับกำลังลืมตาตื่น
หวังหลินไม่ได้ทำอะไรนักแต่เฝ้าดูวิญญาณจักรพรรดิลืมตาขึ้นมา หลังจากเกิดความสับสนไปชั่วครู่ สายตาพลันเปลี่ยนเป็นมีสติและความเกลียดชัง
“หวังหลิน!” สัมผัสวิญญาณหนึ่งพุ่งเข้าหาหวังหลิน แต่สำหรับหวังหลินแล้วสัมผัสวิญญาณนี้ช่างเล็กน้อยเหลือเกิน
พอเห็นว่าหวังหลินไม่ได้รับผลกระทบเลย จักรพรรดิเทพจึงตกตะลึง หวังหลินบีบมือขวาในทันที
เพียงเท่านี้พลังอันแข็งแกร่งพุ่งเข้าสู่วิญญาณจักรพรรดิเทพและจากนั้นเกิดเสียงดังปัง จักรพรรดิเทพตายอย่างสมบูรณ์ วิญญาณเปลี่ยนกลายเป็นกลุ่มก้อนและกำลังสูญสลาย แววตาหวังหลินเปล่งประกายและยื่นแขนซ้ายออกไปในอากาศ ศีรษะขนาดยักษ์หนึ่งพลันปรากฏขึ้นมาในห้องลับ
มันคือศีรษะบรรพชนเทพและมีแสงสีทองหนาแน่นกระจัดกระจายทำให้ทั่วบริเวณเปลี่ยนสีสันและมีพลังปราณสวรรค์เต็มไปทั่วห้อง
“ใช้วิญญาณเป็นเครื่องนำทาง ผสาน!” หวังหลินสะบัดแขนเสื้อ วิญญาณจักรพรรดิเทพแบ่งออกเป็นเจ็ดสายทะยานเข้าสู่ศีรษะของบรรพชนเทพ
ทั้งเจ็ดสายเข้าสู่รูทวารทั้งเจ็ดแห่ง!
หวังหลินพลันยืนขึ้นและก้าวเดินออกจากห้องลับเป็นครั้งแรกในรอบร้อยปี เขายืนอยู่บนศีรษะบรรพชนเทพและสะบัดใส่ท้องฟ้า
ปรากฏดวงอาทิตย์ขนาดยักษ์ขึ้นด้านหลังศีรษะบรรพชนเทพ ดวงอาทิตย์เป็นสีขาวและดำ มันเป็นเพียงเค้าโครงที่ค่อนข้างเป็นรูปร่างเหมือนตะวันมหาชั้นฟ้าจริงๆ
‘ด้วยระดับบ่มเพาะของข้าก่อนหน้านี้ ข้าไม่สามารถทำเช่นนี้ได้ แต่ตอนนี้ข้าน่าจะทำได้ ยิ่งมีวิญญาณของเหลียนต้าวเจินเป็นเครื่องนำทาง ข้าสามารถผสานศีรษะบรรพชนเทพเข้ากับดวงตะวันมหาชั้นฟ้าของข้าได้ ด้วยสิ่งนี้ดวงตะวันของข้าก็จะก่อเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์!’ หวังหลินมีแววตาเปล่งประกายและใช้ฝ่ามือสร้างผนึก แสงสีเขียวตามเส้นวิญญาณเจ็ดสายเข้าไปในรูขุมขนทั้งเจ็ดของบรรพชนเทพ ทำให้ศีรษะเกิดการสั่นสะเทือน
นาทีนี้ท้องฟ้ามืดมน แรงกดดันทรงพลังทุ่มลงมาห่อหุ้มทั่วบริเวณ แม้จะดูห่างไกลแต่กลับรู้สึกชัดเจน
หวังหลินสร้างผนึกต่อไป ศีรษะบรรพชนเทพสั่นเทาอย่างรุนแรงและเกิดรอยแตกร้าวละเอียดแผ่กระจายไปทั่วศีรษะ ทว่ามันกลับไม่มีสัญญาณการพังทลายหรือการหล่อหลอม
หวังหลินอ้าปากพ่นเพลิงสีเขียวออกมาหนึ่งคำ เปลวเพลิงเผาไหม้ศีรษะบรรพชนเทพ จากนั้นในที่สุดศีรษะก็เผยสัญญาณการละลาย
วินาทีที่มันเริ่มละลาย ดวงตะวันสีขาวและดำด้านหลังหวังหลินจึงห่อหุ้มศีรษะ มันส่องสว่างเจิดจ้าและเริ่มดูดซับอย่างรวดเร็ว
ทว่าความเร็วของการละลายยังช้ามาก เพียงเวลาผ่านไปมันก็มีทีท่าว่ากำลังหยุด
“สมควรแล้วที่เป็นบรรพชนเทพผู้ก้าวข้ามผ่านสะพานย่ำสวรรค์แห่งที่แปด แม้จะตายไปนานแล้วแต่ศีรษะก็ยังหลอมได้ยากยิ่ง…” หวังหลินพึมพำ เขาคิดใคร่ครวญว่าใครเป็นคนสังหารบรรพชนเทพแต่ก็ไม่พบเบาะแส
“แต่ท้ายที่สุด นี่เป็นเพียงแค่ศีรษะ” หวังหลินยกแขนขึ้นมายื่นออกไปในความว่างเปล่า ท้องฟ้ามืดมนเปลี่ยนสีสันและมีเส้นเบาบางปรากฏขึ้นนับไม่ถ้วน คนอื่นไม่สามารถมองเห็นได้ แม้จะเป็นมหาชั้นฟ้าก็ยังสัมผัสได้เลือนลาง
มีเพียงคนที่ได้ก้าวเข้าสู่สะพานย่ำสวรรค์แห่งแรกเท่านั้นจึงจะสามารถแยกพวกมันออกมาจากโลกและใช้งานได้
หวังหลินมีแววตาส่องสว่างและพึมพำกับตัวเอง “มิน่าเล่าที่มีข่าวลือว่ามหาชั้นฟ้ากุ้ยต้าวสามารถสังหารมหาชั้นฟ้าคนอื่นได้และมีมหาชั้นฟ้าหลายคนตายในมือเขาในมหาสงครามหลายหมื่นปีก่อน…”
“ด้วยพลังในการควบคุมโลกเช่นนี้ การสังหารมหาชั้นฟ้าไม่น่าจะเป็นเรื่องยาก!”
‘บรรพชนเทพเป็นคนที่ก้าวข้ามผ่านสะพานที่แปดไปได้จริงๆ หลังจากศีรษะผสานเข้ากับตะวันมหาชั้นฟ้าของเขา มันก็จะกลายเป็นเครื่องมือและสมบัติที่ทรงพลัง!’
วินาทีนี้มีเสียงดังสนั่นกึกก้องในท้องฟ้าและปรากฏรอยแตกขนาดใหญ่ขึ้นมา ควันสีดำจำนวนมากรั่วไหลและมีมารโบราณตัวยักษ์ก้าวเดินออกมาจากรอยแตก
ทว่าขณะที่มารโบราณก้าวออกมามันถึงกับตกตะลึง สัมผัสวิญญาณของซ่งเทียนอยู่ในเจ้ามารโบราณและเมื่อเขาสัมผัสถึงความแปลกประหลาดที่นี่ได้จึงมีสีหน้าเปลี่ยนไป เขาเห็นหวังหลินที่อยู่ห่างไกล หวังหลินเมินเฉยเขาอย่างสิ้นเชิงและดูเหมือนกำลังคว้าจับเส้นเบาบางนับไม่ถ้วนในมือ เส้นทั้งหมดนั้นถูกหุ้มรอบศีรษะ จากนั้นหวังหลินกัดปลายลิ้นพ่นโลหิตไปบนเส้นบางๆ และศีรษะ
เวลานี้ศีรษะบรรพชนเทพเริ่มหลอมละลายอย่างรวดเร็วและถูกดวงตะวันมหาชั้นฟ้าของหวังหลินดูดซับไปเร็วขึ้นเช่นกัน ยิ่งดวงตะวันมหาชั้นฟ้าควบแน่นรวดเร็ว สีที่สาม สีทองจึงปรากฏ!
‘ควบคุมกฎแห่งโลก!! นี่…นี่มัน…’ มารโบราณที่เพิ่งปรากฏตัวออกมาถึงกับร้องเสียงหลง
………………………………………………