Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน - ตอนที่ 2051 ตะวันดวงที่สิบ!
มหาชั้นฟ้าสามารถสำรวจปลายขอบของกฎแห่งโลกได้ ด้วยพลังแห่งศรัทธาจึงสามารถหยิบยืมกฎเหล่านี้มาสร้างวัตถุที่มีรูปร่าง จึงเป็นการเรียกว่า “สร้างสิ่งของจากความว่างเปล่า”
ทว่ามันเป็นการเปลี่ยนภาพมายาให้เป็นของจริงอย่างง่ายๆ พวกเขาไม่สามารถคว้าจับกฎและใช้ได้อย่างที่ต้องการเหมือนหวังหลิน นี่ไม่ใช่การหยิบยืมแต่เป็นการจัดการระดับที่สูงกว่ากฎแห่งโลก!
ซ่งเทียนเองก็ทำไม่ได้ ในความทรงจำของเขา ตอนที่เขาได้เข้าไปเจอมหาชั้นฟ้ากุ้ยต้าว เขาก็เห็นสิ่งที่คล้ายกันแบบนี้
‘นี่มันเป็นไปไม่ได้!!’ มารโบราณมีสัมผัสวิญญาณของซ่งเทียนแฝงเอาไว้ได้เผยอาการไม่เชื่อ เขาไม่เชื่อว่าสิ่งที่กำลังเห็นทั้งหมดนั้น หวังหลินผู้ที่เขาไม่นำมาใส่ใจ กลับสามารถควบคุมกฎแห่งโลกได้หลังจากออกมาจากปิดด่านบ่มเพาะ
ชั่วจังหวะที่มารโบราณของเขาก้าวเดินออกมาจากรอยแยก เขาตกตะลึงอย่างสิ้นเชิง ความคิดว่างเปล่าและไม่คิดว่าจะมีคนอื่นสามารถยื่นมือเข้าสู่ท้องฟ้าและรวบรวมกฎมาได้
หวังหลินไม่กังวลเรื่องการปรากฏตัวของมารโบราณและไม่แม้แต่จะหันมามอง เขาเพ่งสมาธิไปที่ศีรษะบรรพชนเทพเบื้องหน้า จากการที่เขาใช้โลหิตและกฎแห่งโลกออกไป ศีรษะส่วนใหญ่ได้หลอมละลายไปแล้ว
ส่วนที่หลอมละลายไปถูกตะวันมหาชั้นฟ้าดูดซับไปอย่างสมบูรณ์ แสงสีทองส่องสว่างขึ้นเรื่อยๆ และมีดวงตะวันมหาชั้นฟ้าสามสีปลดปล่อยแสงประหลาดออกมา
ศีรษะบรรพชนเทพหดเล็กลงจากแสงสีทองที่ทะลุออกมา ชั่วขณะหนึ่งเหลือศีรษะเพียงแค่เล็กน้อย มันดูไม่เหมือนศีรษะอีกแล้วแต่เป็นกลุ่มก้อนแสงสีทอง
ยิ่งมันเล็กลงเรื่อยๆ ดวงตะวันมหาชั้นฟ้าสามสีของหวังหลินก็ยิ่งเจิดจ้าและคงรูปร่างยิ่งขึ้น หากเมื่อศีรษะหลอมละลายอย่างสมบูรณ์และดวงตะวันมหาชั้นฟ้าของหวังหลินดูดซับไปหมด มันคงจะกลายเป็นตะวันมหาชั้นฟ้าของจริงและหวังหลินจะได้กลายเป็นมหาชั้นฟ้าจริงๆ!
เขาจะกลายเป็นมหาชั้นฟ้าที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นอันดับสองรองจากมหาชั้นฟ้ากุ้ยต้าว!!
ห่างออกไปไกลมากขึ้น มารโบราณที่มีสัมผัสวิญญาณของซ่งเทียนถึงกับอ้าปากค้างและรู้สึกตัว เขาไม่อยากเชื่อว่าตัวเองกำลังเห็นอะไร แต่ความจริงปรากฏอยู่ตรงหน้า ดังนั้นจึงต้องเชื่อ วินาทีนี้จิตใจเขาสั่นเทาและถอยอย่างช้าๆ โดยไม่ลังเล
เมื่อเห็นว่าหวังหลินเมินเฉย เขาจึงถอยกลับไปในรอยแยกให้เร็วที่สุด
ในฐานะมหาชั้นฟ้า เขายากนักที่เขาจะทำตัวแบบนี้ เขารู้สึกใจเสาะก่อนที่จะทันได้สู้เสียอีก เทียบกับความโอหังที่เมื่อเขามาถึงเมื่อครู่ ร่างที่กำลังหนีกลับดูต่างกันอย่างสิ้นเชิง
กระนั้นในขณะที่มารโบราณเข้าใกล้รอยแยกและกำลังเข้าไป น้ำเสียงเย็นเยียบดังขึ้นมา
“เจ้าจะจากไปแบบนี้หรือ?”
เสียงนี้ทำให้สัมผัสวิญญาณของซ่งเทียนถึงกับตกตะลึงและใช้ความเร็วสูงสุดราวกับเป็นบ้าไปแล้ว
ทว่าเพียงน้ำเสียงเย็นเยียบดังกึกก้อง สายตาหวังหลินจับไปที่มารโบราณ เส้นเบาบางปรากฏขึ้นรอบมารโบราณและห่อหุ้มรอบตัวมัน เจ้ามารโบราณสั่นเทาและนิ่งงันราวกับถูกแช่แข็ง
หวังหลินคาดเดามานานแล้วว่าวิชายับยั้งเกี่ยวข้องกับกฎแห่งโลก ด้วยระดับบ่มเพาะของเขาในตอนนี้จึงไม่จำเป็นต้องสร้างผนึกอีกต่อไป แค่สายตาก็ทำให้ใช้วิชาขึ้นมาได้แล้ว
สิ่งที่ถูกหยุดด้วยสายตาหวังหลินไม่ใช่เพียงแค่มารโบราณแต่ยังรวมถึงสัมผัสวิญญาณของซ่งเทียนด้วย สัมผัสวิญญาณเกิดอาการสั่นเทาและไม่สามารถขยับไปได้แม้แต่นิ้วเดียว
ขณะเดียวกันห่างออกไปไกลบนภูเขาต้นกำเนิด ซ่งเทียนนั่งอยู่ตรงนั้นและลืมตาขึ้นมา ใบหน้าซีดเผือดและแฝงความหวาดกลัว สัมผัสวิญญาณของเขาถูกแช่แข็งและแทบส่งผลกระทบต่อวิญญาณดั้งเดิม
“เปิดค่ายกลต้นกำเนิด!!” ซ่งเทียนคำรามออกมาโดยไม่ลังเล ผู้คนทรงพลังทั้งหมดที่ติดตามซ่งเทียนถึงกับตกตะลึงและรีบทะยานออกมาตั้งค่ายกล
“อาจารย์…” ฉีหมานไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอเห็นสีหน้าท่าทางมืดมนของอาจารย์ เขารู้สึกถึงแรงกดดันและรู้ว่ามีบางสิ่งแย่ๆ กำลังเกิดขึ้น
“หุบปาก ข้าไม่ต้องการถูกรบกวนตอนนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องบัลลังก์ของเจ้า ข้าจะเปิดค่ายกลต้นกำเนิดขึ้นมาทำไม?” ซ่งเทียนหันกลับมาและจับจ้องไปที่ฉีหมานด้วยสายตาเย็นเยียบ
“ข้าทำดีที่สุดแล้ว หากข้าล้มเหลว เมื่อนั้นเจ้าจะไม่ใช่จักรพรรดิโบราณในอีกร้อยปี แต่จะเป็นจี้ตู!” ซ่งเทียนรู้สึกโกรธไปด้วย หลังจากกล่าวจบเขาทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าและยื่นมือลงมา ภูเขาต้นกำเนิดสั่นเทาและมีลำแสงหนึ่งพุ่งออกมาเป็นขวานสงครามขนาดยักษ์!
ขวานสงครามเต็มไปด้วยสนิมและไม่สวยงาม แต่เมื่อซ่งเทียนจับเอาไว้ เสียงคำรามหนึ่งดังออกมาจากขวานและมีวิญญาณสีเขียวลอยออกมาอย่างไม่มีสิ้นสุด ห่อหุ้มซ่งเทียนด้วยแสงสีเขียวทำให้เขาดูแปลกประหลาดยิ่ง
ขณะที่ซ่งเทียนเตรียมจะทุ่มสุดตัว ด้านแคว้นหลัวจู่ หวังหลินส่งเสียงร้องยาวสู่ท้องฟ้า
สิ้นเสียงร้อง ท้องฟ้าเปลี่ยนสีสัน ศีรษะบรรพชนเทพได้หลอมละลายไปเกือบหมดแล้วและเปลี่ยนกลายเป็นก้อนแสงสีทองส่องสว่างเริ่มสู่ขั้นตอนสุดท้ายของการหลอม
มันเล็กลงเรื่อยๆ ชั่วครู่ต่อมาเหลือขนาดเพียงแค่กำปั้น ตะวันมหาชั้นฟ้าเป็นรูปร่างยิ่งขึ้นมากกว่าของเหล่ามหาชั้นฟ้าทั่วไป
เมื่อจ้องมองแสงสีทองขนาดเท่ากำปั้น ดวงตาหวังหลินยิ่งเปล่งประกายเจิดจ้า ยกแขนขวาขึ้นมาและยื่นมือเข้าใส่วังด้านล่าง แก่นแท้แห่งชีวิตและความตาย เวรกรรม และจริงเท็จได้ลอยออกมาจากห้องลับเข้าสู่ร่างหวังหลิน
เมื่อแก่นแท้ทั้งหมดกลับคืนมา เสียงดังกึกก้องขึ้นในร่างกาย เส้นผมพริ้วไหวโดยไม่มีแรงลมและปลดปล่อยกลิ่นอายน่าตกตะลึง หวังหลินมองดูศีรษะบรรพชนเทพที่กำลังละลายและปลดปล่อยกลิ่นอายแก่นแท้ออกมา
กลิ่นอายนี้มองไม่เห็นและมีเพียงหวังหลินที่สัมผัสมันได้ เมื่อกลิ่นอายเข้าสัมผัสกับศีรษะ ศีรษะจึงสั่นเทาและละลายไปทั้งหมด!!
มันละลายอย่างสมบูรณ์และถูกดวงตะวันสามสีของหวังหลินดูดซับไปอย่างหมดจด หลังจากนั้นดวงตะวันก็กลายเป็นวัตถุที่มีรูปร่าง!!
หวังหลินผสานตะวันมหาชั้นฟ้าอย่างสสมบูรณ์และส่งมันขึ้นสู่ท้องฟ้าของแผ่นดินเซียนดาราเพื่อกลายเป็นตะวันดวงที่สิบ นี่คือสัญลักษณ์ของเขาในการเป็นมหาชั้นฟ้าอย่างแท้จริง!
วินาทีที่ตะวันมหาชั้นฟ้าของหวังหลินถือกำเนิดขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ หวังหลินเงยศีรษะขึ้นมามองดูท้องฟ้า ดวงตะวันมหาชั้นฟ้าสามสีของเขาคล้ายกับถูกยกขึ้นและลอยสู่ท้องฟ้าอย่างช้าๆ
หวังหลินมองดูดวงตะวันมหาชั้นฟ้าของตัวเองทะยานเข้าสู่ตำแหน่งสูงที่สุดในท้องฟ้า หวังหลินพลันนึกย้อนไปถึงตอนที่สัมผัสวิญญาณของเขาเข้ามาในแผ่นดินเซียนดาราและเห็นภาพดวงอาทิตย์ทั้งเก้าในท้องฟ้าด้วยความประหลาดใจ
“มหาชั้นฟ้า…” หวังหลินพึมพำพลางมองดวงตะวันของตัวเองระเบิดแสงสามสีอันทรงพลังออกมา
วินาทีนี้เมื่อหวังหลินได้ยกดวงตะวันของตัวเองขึ้นสู่ท้องฟ้า มันจึงส่งผลต่อตะวันมหาชั้นฟ้าทั้งหมดของมหาชั้นฟ้าคนอื่น!
ในเผ่าเทพ สำนักต้าวยี่ แคว้นทิศเหนือ สำนักตะวันม่วงและภูเขาจักรพรรดิ ดวงตะวันมหาชั้นฟ้าได้ลอยขึ้นและเปล่งแสงเจิดจ้า
หลังจากนั้นไม่นานในเมืองหลวง ดวงอาทิตย์สีทองปรากฏก่อตัวเป็นดวงอาทิตย์ดวงที่ห้าของเผ่าเทพ!
ขณะเดียวกันในเผ่าโบราณ ดวงตะวันมหาชั้นฟ้าของซวนลั่วปรากฏขึ้นตรงจุดที่เขาปิดด่านบ่มเพาะ ในอาณาเขตจวี่ มหาชั้นฟ้าผู้ลึกลับซึ่งอยู่ตรงนั้นได้มีดวงตะวันมหาชั้นฟ้าปรากฏขึ้นในท้องฟ้าด้วยเช่นกัน!
ส่วนตะวันมหาชั้นฟ้าของซ่งเทียนปรากฏขึ้นมาโดยไม่ได้ควบคุมและลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า
ดวงสุดท้ายที่ปรากฏคือตะวันมหาชั้นฟ้าของมหาชั้นฟ้ากุ้ยต้าว ยามนี้ดวงอาทิตย์สิบดวงปรากฏขึ้นเหนือแผ่นดินเซียนดารา!!
ตะวันมหาชั้นฟ้าทั้งเก้าดวงที่เหลืออยู่ไม่ได้ปรากฏขึ้นมาเพราะเจ้าของต้องการ พวกมันได้รับการดึงดูดจากดวงตะวันมหาชั้นฟ้าของหวังหลิน
ไม่มีมหาชั้นฟ้าคนใดประหลาดใจกับเรื่องนี้ นอกจากจักรพรรดิเทพที่ได้สืบทอดพลังมหาชั้นฟ้าเอง นี่คือสัญญาณแห่งสวรรค์ที่ปรากฏขึ้นมาเมื่อมีใครสักคนกลายเป็นมหาชั้นฟ้า!
และตอนนี้เพราะดวงตะวันมหาชั้นฟ้าทั้งหมดอยู่ในท้องฟ้า พลังงานในแผ่นดินเซียนดาราพรั่งพรู จึงทำให้มหาชั้นฟ้าคนอื่นสัมผัสถึงกลิ่นอายของมหาชั้นฟ้าคนใหม่ได้อย่างชัดเจน!
ทั้งสิบดวงมีขนาดที่แตกต่างกันชัดเจน ดวงใหญ่ที่สุดเป็นของมหาชั้นฟ้ากุ้ยต้าว ดวงตะวันของเขาเกือบเทียบเท่ากับอีกแปดดวงทั้งหมดรวมกันยกเว้นดวงตะวันสามสีของหวังหลิน
ดวงที่ใหญ่เป็นอันดับสองคือดวงตะวันสามสีของหวังหลิน แม้จะไม่เท่ากับของมหาชั้นฟ้ากุ้ยต้าว แต่มันมีขนาดเกือบครึ่ง! รัศมีแสงของมันไม่อ่อนด้อยไปกว่าดวงตะวันมหาชั้นฟ้าของกุ้ยต้าวเลย
“พ่อบุญธรรม…มหาชั้นฟ้า…” ในแคว้นหลัวจู่ องค์ชายจี้ตูเผยอาการตื่นเต้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนและหัวเราะไม่หยุด
…………………………………………………..