Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน - ตอนที่ 2065 เก้าบทเพลงและสามสัญญาณที่สมบูรณ์!
ด้วยการก้าวครั้งนี้ ความโกรธเกรี้ยวของหวังหลินปะทุออกมาผ่านเท้าขวาและกระหน่ำเข้าใส่โลก วินาทีนี้เองหวังหลินบรรลุระดับที่มิอาจจินตนาการถึงขณะที่เขาย่ำไปบนสวรรค์
ทั้งโลกคล้ายอยู่ใต้ฝ่าเท้า ทุกชีวิตต้องอยู่ใต้ฝ่าเท้า ไม่ว่าจะเป็นกฎเกณ์อันใด ทุกอย่างต้องถูกทำลายด้วยการเหยียบย่ำครั้งนี้
รอยแตกร้าวจำนวนมากปรากฏขึ้นในท้องฟ้าและกลายเป็นเศษเสี้ยวแตกกระจายนับไม่ถ้วนจนทำให้ท้องฟ้าหายไป!
ท้องฟ้าพังทลาย!
เพียงเท้าขวาหวังหลินเหยียบลงไปและเงยหน้าขึ้นมา พื้นดินจึงแตกสลาย!
ดวงตะวันและดวงจันทร์หายไป แม่น้ำและท้องทะเลจางหาย ท้องฟ้าและพื้นดินที่สร้างจากภิภพโบราณล้วนพังทลาย
กุ้ยต้าวร่างสั่นเทาและกระอักโลหิต เขาเซถอยหลังไปร้อยก้าวก่อนจะหยุดลงได้ ใบหน้าซีดเผือดเป็นครั้งแรก
‘ขั้นย่ำสวรรค์!! นี่มันขั้นย่ำสวรรค์ที่สมบูรณ์!!’ เขามองหวังหลินด้วยความตกตะลึง ราวกับพลังอันน่าหวาดกลัวกำลังตื่นขึ้น
เพียงหวังหลินยืนอยู่ตรงนั้น ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเหมือนเป็นภาพมายา เขาหลับตาอยู่นานก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้น ความโศกเศร้ายังคงเหลืออยู่ สายตามองท้องฟ้าอยู่นาน
ผ่านไปหนึ่งก้านธูป กุ้ยต้าวมองหวังหลินด้วยสายตาอันซับซ้อนและเอ่ยถามขึ้น “เจ้าข้ามผ่านสะพานแห่งใด?”
“สะพานที่เจ็ด จากนั้นข้าก็ล้มเหลวในสะพานที่แปด” หวังหลินหลับตาลงราวกับต้องการเก็บความเศร้าเอาไว้
“สะพานที่เจ็ด…” กุ้ยต้าวยิ้มอย่างขมขื่นและมองหวังหลินอย่างล้ำลึก เห็นได้ชัดว่าในการก้าวครั้งนั้นเขาสัมผัสได้ถึงเจตนาแห่งการย่ำสวรรค์ ซึ่งเจตนานี้แสดงออกถึงศรัทธาขั้นสูงสุด
ด้วยระดับบ่มเพาะในปัจจุบันของหวังหลินจึงไม่สามารถใช้ก้าวนั้นได้
“บางทีข้าอาจจะไม่สามารถทำให้เจ้าอยู่ต่อได้จริงๆ…” กุ้ยต้าวสูดหายใจลึก สายตาที่ซับซ้อนพลันเปลี่ยนไปเป็นความมุ่งมั่น “แต่ข้าไม่ยอมล้มเลิกแบบนี้ ข้าใช้ทั้งชีวิตเพื่อศึกษาพิภพหนึ่งเต๋า!”
“ข้าเรียกมันว่า ‘พิภพหนึ่งเต๋า’ เพราะมันสร้างขึ้นจากความศรัทธาของข้าในเผ่าโบราณ ข้าอาจไม่แข็งแกร่งเท่าบรรพชนโบราณ แต่ศรัทธาของข้าแตกต่างจากเขา!”
“เขาศรัทธาว่าสามารถเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นโลกได้ และเพราะศรัทธานี้ข้าจึงไม่สามารถทิ้งเผ่าโบราณไปได้ บางทีในความคิดของบรรพชนโบราณ แผ่นดินของเหล่าเทพไม่ใช่แผ่นดินที่สร้างขึ้นจากเขา แต่เป็นที่ที่เขาเกลียดชัง”
“ศรัทธาของข้าคือการเชื่อว่าท้องฟ้าไม่สามารถปิดบังดวงตาข้าได้ พื้นดินนั้นไม่สามารถหยุดยั้งร่างกายของข้าได้ ดวงตะวันและดวงจันทร์คู่นั้นและทั่วทั้งแผ่นดินเซียนดาราไม่สามารถหยุดยั้งหัวใจข้าได้!”
“ด้วยพิภพหนึ่งเต๋า หัวใจข้าคือเต๋า เต๋าของข้าเหยียบย่ำสวรรค์ สวรรค์กลายเป็นบันไดให้ปีนขึ้นไป ข้าเหยียบย่ำสวรรค์เพื่อเห็นความจริง!!” หลังจากกุ้ยต้าวพูดออกมา เขาสะบัดแขนใส่ท้องฟ้า
ท้องฟ้าสั่นสะเทือน วังวนยักษ์ห่อหุ้มทะเลอันกว้างใหญ่ราวกับจุดจบของโลก กุ้ยต้าวชี้นิ้วไปที่หวังหลิน
“เจ้าคือสวรรค์!” เสียงกุ้ยต้าวดังกึกก้องดุจสายฟ้าและส่งพลังแห่งศรัทธารุนแรงออกมา เพียงแค่ชี้ออกไปจึงมีระลอกคลื่นเกิดขึ้นรอบตัวหวังหลิน หวังหลินรู้สึกถึงบางอย่างจึงมองขึ้นไปเห็นเท้าขนาดยักษ์ปรากฏออกมาจากวังวนและกำลังเหยียบมาที่เขา!
ผ่านมาสองร้อยปี หวังหลินเผชิญกับวิกฤติความเป็นความตายอีกครั้ง คนที่อยู่ระดับครึ่งก้าวสู่ขั้นย่ำสวรรค์ช่างทรงพลังจนน่าตกตะลึงอยู่แล้ว หวังหลินเข้าใจขั้นย่ำสวรรค์จากร่างที่เขาเห็น ส่วนกุ้ยต้าวใช้ปัญญาอันหลักแหลมของตัวเองและพลังศรัทธาที่มีหลายปีเพื่อรู้แจ้งเต๋าย่ำสวรรค์ของตนเอง!
‘สรรพสิ่งต้องการเหยียบย่ำสวรรค์ สิ่งเหล่านั้นมิอาจสำเร็จโดยไร้ศรัทธา ไร้เจตจำนง…’ นี่คือสิ่งที่สลักเอาไว้เบื้องหน้าสะพานที่แปดและหวังหลินก็ได้เห็นตอนที่เขาเข้าไปในครั้งที่สอง
ขณะนี้ขณะที่มองกุ้ยต้าว ประโยคนี้จึงปรากฏขึ้นในใจ หวังหลินพลันเข้าใจบางอย่างว่าทุกอย่างในโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ แม้แต่จิตวิญญาณ ทุกสิ่งล้วนมีเจตจำนงที่จะย่ำสวรรค์
เหมือนกับตอนที่เขาตอบคำถามสามคำถามของลี่เฉียนเหมยในโลกถ้ำ โลกนั้นเป็นวงกลมและด้านนอกวงกลมก็เป็นวงกลมอีกวง…
“มีเพียงไม่กี่คนที่พิเศษตั้งแต่เกิด…สรรพสิ่งในโลกต่างก็ปรารถนาให้เป็นสิ่งพิเศษ ปรารถนาอิสระเพื่อที่จะไม่ถูกคนอื่นควบคุม กฎในโลกนี้คือวงกลม ในโลกแห่งการบ่มเพาะผู้อ่อนแอเป็นเหยื่อ ผู้แข็งแกร่งก็คือวงกลม และทั้งโลกใบนี้ก็คือกรงที่เหมือนวงกลม…”
“ท้องฟ้าที่สดใสและท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาราก็เป็นวงกลมเช่นกัน!”
“ก้าวเดินออกจากวงกลมของเขา ก้าวเดินออกจากวงกลมอีกวงจนกระทั่งเจ้าย่ำสวรรค์ ก้าวไปท่ามกลางสรรพสิ่งจนไม่มีอะไรปิดบังสายตาเจ้าและไม่สับสนอีกต่อไป…นี่คือความหมายที่แท้จริงของ ‘ก้าวเดินสู่เส้นทางแห่งเต๋าที่แท้จริง’ ที่ปรากฏในแผ่นจารึกเต๋า!!”
หวังหลินพึมพำพร้อมกับมองเท้าขนาดยักษ์ที่กำลังตกลงมาจากท้องฟ้า เขาค่อยๆ เข้าใจ ค่อยๆ เกิดความรู้แจ้ง!
‘ชีวิตและความตาย เวรกรรม จริงเท็จ…’
‘หากชีวิตและความตายเป็นเชือก ชีวิตและความตายมากมายคงเชื่อมต่อกันเป็นวงกลม เหล่าวงกลมมากมายเหล่านี้คงกลายเป็นตาข่ายและตาข่ายนั้นคงเป็นเวรกรรม ตาข่ายเวรกรรมคงใช้จับตัวเองในสายธารแห่งการเกิดใหม่ สายธารแห่งการเกิดใหม่มีจริงและเท็จ มีเพียงดวงตาคู่เดียวที่สามารถมองเห็นความจริงเท็จจนสามารถโยนตาข่ายเพื่อไปค้นหาความจริงออกมาได้’
‘หลังจากข้ารู้แจ้งแก่นแท้จริงเท็จในสำนักตงหลินเมื่อหลายร้อยปีก่อน ข้าสัมผัสได้ถึงแก่นแท้แห่งการเกิดใหม่ แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมาข้ายังไม่เข้าใจว่าการเกิดใหม่คืออะไร…’
‘การเกิดใหม่คืออะไร? เดิมทีข้าคิดว่ามันคือกฎที่ควบคุมชีวิตหลังความตาย จนกระทั่งราชครูอาณาเขตเต๋าปรากฏตัวขึ้นมา ไม่ว่าจะมีเหตุผลอะไร เขาได้เปิดเผยความจริงของการชุบชีวิตหวานเอ๋อร์ ข้าจำเป็นต้องใช้พลังแห่งการเกิดใหม่ในแดนเทพบรรพกาล…’
‘ณ ตอนนั้นข้าสงสัย ว่าพลังแห่งการเกิดใหม่คืออะไร? ข้าคิดว่ามันคือกฎหนึ่งในโลกนี้…’
‘ในที่สุดข้าก็เข้าใจ…การเกิดใหม่คือสวรรค์! ข้าจะใช้มือของข้าเพื่อโยนตาข่ายแห่งเวรกรรมออกไปสู่สวรรค์เพื่อค้นหาตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง!!’
‘นี่คือ…ความหมายใช่หรือไม่…’ ความคิดหวังหลินกำลังสั่นคลอน ความคิดทั้งหมดนี้ปรากฏขึ้นในพริบตาและครอบครองจิตใจเขาทั้งหมด
ตอนนี้หวังหลินเข้าใจแล้ว!
ภายในร่างกาย มีก้อนควันอีกก้อนหนึ่งปรากฏขึ้นข้างๆ กับแก่นแท้นามธรรมทั้งสาม ก้อนควันนี้คือแก่นแท้แห่งการเกิดใหม่ที่เขารู้แจ้ง!
‘เป็นแบบนี้เอง…’ หวังหลินขบคิดพร้อมกับที่เท้าขนาดยักษ์อยู่เหนือศีรษะ ตอนนี้มันห่างจากเขาอยู่เพียงพันฟุต ทว่าจังหวะนั้นมีพลังที่มีเสียงแปลกประหลาดทะลวงเข้ามาและดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ
มันคือเสียงแห่งสายลม!
นับว่าเป็นครั้งแรกของเก้าบทเพลงที่หลังจากปรากฏขึ้นมา เหล่าเพลงทั้งเก้าก็ตามกันมาด้วยนั่นคือท้องฟ้า พื้นดิน สายลม สายฟ้า ก้อนเมฆ สายฝน อวัยวะภายใน ร่างกายและในที่สุดก็โลหิต!
เสียงเพลงดังกึกก้องรุนแรงจากสวรรค์ ดังออกมาจากร่างกายและจากโลกใบนี้
เท้าที่กำลังตกลงมาดูเหมือนเชื่องช้าลงไปเมื่ออยู่ใต้อิทธิพลของเก้าบทเพลง เสียงเพลงอัศจรรย์นี้กำลังดังกึกก้องไปทั่วโลกอย่างที่อธิบายไม่ได้
เพียงเก้าบทเพลงกำลังดำเนินไป สัญญาณหนึ่งปรากฏขึ้นมาในท้องฟ้า
ท้องฟ้าสีทอง ปฐพีสีดำ!
ราวกับเป็นภาพมายาแต่พวกมันปรากฏขึ้นเด่นชัดเบื้องหน้าหวังหลิน จิตใจกุ้ยต้าวสั่นเทาที่เห็นสิ่งนี้
ต่อจากสัญญาณแรกจึงเป็นสายตาหวังหลินที่เผยแสงสีเงิน แสงส่องประกายกว้างไกลและเป็นสัญญาณที่สอง!
เก้าบทเพลงสามสัญญาณที่ปรากฏขึ้นบนร่างหวังหลินตอนที่อยู่บนภูเขากุ้ยต้าวนั้นไม่สมบูรณ์ ขาดหายไปหนึ่งสัญญาณและหนึ่งบทเพลง!
ภายในวังอาณาเขตเต๋า พวกมันปรากฏขึ้นเป็นครั้งที่สอง มีเก้าบทเพลงแต่ขาดสัญญาณไปหนึ่ง
ณ ตอนนี้ใจกลางทะเลกว้างใหญ่ ภายใต้โลกหนึ่งเต๋าของมหาชั้นฟ้ากุ้ยต้าว เก้าบทเพลงสามสัญญาณได้ปรากฏขึ้นเป็นครั้งที่สาม!
ทว่าครั้งที่สามยังมีแค่เก้าบทเพลงและขาดสัญญาณที่สามไป ราวกับมีบางอย่างหายไปและเหมือนเป็นชิ้นส่วนสำคัญ!
หวังหลินเงยศีรษะขึ้นมา สิ่งที่เขามองไม่ใช่ฝ่าเท้ายักษ์ที่เหมือนถูกหยุดห่างออกไปพันฟุต แต่สายตาเขามองทะลุวิชานี้ออกไปและมองไปยังความว่างเปล่าที่อยู่เหนือท้องฟ้า
นาทีนั้นความคิดจึงกระจ่างชัด ราวกับเข้าใจว่าทำอะไรหายไป
“ร่างอวตารมิติว่าง จุติลงมาผสานกับข้า!” สิ่งที่เขาขาดหายไปคือการถือกำเนิดจากมิติว่างและได้รับการยอมรับจากมิติว่างเหมือนบรรพชนเทพและบรรพชนโบราณ
ภายในมิติว่างของแผ่นดินเซียนดาราซึ่งเต็มไปด้วยกฎ มีก้อนหินใหญ่ก้อนหนึ่ง ข้างในมีร่างที่นั่งอยู่ตรงนี้มาแล้วเกือบพันปี
ตอนนี้เขาดูเหมือนได้ยินเสียงเรียกและลืมตาขึ้นมา ดวงตาเปล่งประกายเจิดจ้า รูปลักษณ์หน้าตาเหมือนหวังหลินไม่มีผิดเพี้ยน เขาคือร่างอวตารในมิติว่าง
เพียงลืมตาขึ้นมา ก้อนหินที่เขาอยู่พลันแตกกระจายไปทั่วทิศทางราวกับเศษเปลือกไข่ ร่างนั้นยืนขึ้นและก้าวเท้าก่อนจะเลือนหายไปอย่างไร้ร่องรอย
บนแผ่นดินเซียนดารา ในทะเลอันกว้างใหญ่ใกล้พายุ เพียงเสียงของหวังหลินดังกึกก้อง คนผู้หนึ่งก้าวเดินออกมาจากวังวนในท้องฟ้า
คนผู้นี้ก้าวครั้งที่สาม กุ้ยต้าวมองเขาก้าวเดินไปหาหวังหลินด้วยความตกตะลึง จากนั้นร่างกายทับซ้อนและผสานกัน
วินาทีนี้เองหวังหลินจึงส่งเสียงคำรามใส่ท้องฟ้า เสียงคำรามสั่นสะเทือนสวรรค์ เสียงดังกึกก้องจนเกิดการเปลี่ยนแปลงประหลาดฟังดูเหมือนเสียงทารกกำลังร้องไห้!
เสียงทารกร้องไห้ดังกึกก้องในท้องทะเลและเข้าสู่เผ่าโบราณ แผ่กระจายไปยังเมืองหลวงทั้งสามอาณาเขต รูปปั้นบรรพชนโบราณทั้งสามแห่งเกิดรอยแตกร้าวขึ้นมา
มันแผ่กระจายสู่เผ่าเทพเช่นกันและรูปปั้นบรรพชนเทพในเมืองหลวงเกิดรอยแตกร้าวเช่นกัน
พลังอันไร้ขีดจำกัดระเบิดออกมาจากบนพื้นปฐพีของเผ่าโบราณและเปลี่ยนกลายเป็นร่างหนึ่ง ร่างนี้คือบรรพชนโบราณ!
ภายในเผ่าเทพ พลังมหาศาลระเบิดออกมาจากพื้นดิน ควบแน่นกลายเป็นร่างที่สอง ร่างนี้คือบรรพชนเทพ
ทั้งสองร่างนี้คนทั่วไปไม่อาจมองเห็น มีเพียงมหาชั้นฟ้าที่สัมผัสได้
ภายในท้องทะเลกว้างใหญ่ ร่างที่สามพลันปรากฏขึ้น ร่างนี้เหนือกว่าทั้งบรรพชนโบราณและบรรพชนเทพ พลันพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า!
“เก้าบทเพลงสามสัญญาณ…สัญญาณที่สามคือเสียงร้องทารก…” กุ้ยต้าวพึมพำกับตัวเอง
…………………………………………………..