Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน - ตอนที่ 2072 หากหัวใจหยุดเต้น เป็นเพียงลืมความรู้สึก
- Home
- Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน
- ตอนที่ 2072 หากหัวใจหยุดเต้น เป็นเพียงลืมความรู้สึก
ภายในม่านสายฝน เสียงสายฝนเบาๆ ราวกับเสียงพึมพำ ขณะที่สายน้ำแตกกระจาย เสียงสายลมสอดแทรกเข้ามาและก่อเกิดเป็นความฝันตื่นหนึ่งจากชาติที่แล้ว
ผีเสื้อร่อนลงในมือฉิงฮวงและนางให้ที่พักพิงผีเสื้อตัวน้อยจากสายลมและสายฝน ราวกับนางคือผีเสื้อสีชาดแต่ไม่รู้ว่าใครในโลกนี้จะสามารถให้นางได้พักพิงจากสายลมและสายฝนแบบเดียวกันได้บ้าง
นางหันกลับมาเป็นคนแปลกหน้าในชุดขาวอยู่ใต้ร่มผ้าเคลือบน้ำมัน
“ผีเสื้อสีชาด…ชื่อนั้นช่างงดงาม” ฉิงฮวงมองดูชายหนุ่มผมขาวและยิ้มออกมา รอยยิ้มราวกับดอกกุหลาบบานสะพรั่งอย่างโดดเดี่ยว
“หากเจ้าชอบ เจ้าก็สามารถกลายเป็นผีเสื้อสีชาดได้” หวังหลินมองสตรีตรงหน้า เรื่องราวที่เกิดบนดาวซูวาคุปรากฏขึ้นในสายตา
นางยิ้มเล็กน้อยแต่ไม่พูดอะไร สายตามองหวังหลินและสบสายตากันอยู่นาน
ฉิงฮวงมองหวังหลินและเอ่ยขึ้นเบาๆ “ตอนที่ข้ากลายเป็นเซียนขั้นที่สาม ข้าเจอท่านในความฝัน”
“เจ้าเชื่อเรื่องการเกิดใหม่หรือไม่?” หวังหลินเลื่อนสายตาออกจากนางไปที่สายฝนด้านนอก
“ท่านเชื่อมันหรือไม่?” นางถามกลับ
“ข้า…” หวังหลินหยุดเสียง จากนั้นสักพักจึงพยักหน้า
“ข้าเชื่อ”
นางหันกลับมามองสายฝนและพูดขึ้นเบาๆ “แม้กระทั่งผู้สูงส่งชั้นเทวะผมขาวยังเชื่อ ข้าก็เชื่อเช่นกัน”
“ข้ารู้สึกมาเสมอว่าข้ากำลังรอคนที่ให้คำตอบกับข้า…ตอนที่ข้าบรรลุขั้นที่สาม ข้าจึงรู้ว่าคนที่ข้ารอคอยคือท่าน”
“การเกิดใหม่ ข้าสงสัยมาตลอดว่าข้ามีชีวิตที่แล้วหรือไม่ ไม่เช่นนั้นทำไมข้าถึงชอบสีแดงและผีเสื้อ? ข้าคิดว่าทำไมข้าถึงชอบบางอย่าง มันไม่ได้มาจากอากาศที่ว่างเปล่าและมันไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตนี้ มันมาจากชีวิตที่แล้ว”
“ในชาติก่อนข้าถูกเรียกว่า ‘ผีเสื้อสีชาด’ ถูกหรือไม่?” นางไม่ได้หันกลับมาและพูดเสียงสงบนิ่ง
“แต่ในความฝันของข้าในชีวิตที่แล้ว มีอีกชีวิตก่อนหน้านี้…ในชีวิตนั้น ข้าก็เห็นท่านด้วย”
หวังหลินตกตะลึง
ฉิงฮวงมองไปยังเส้นขอบฟ้าพลางเอ่ยขึ้น “ในชั่วชีวิตนั้น ข้าจำได้ว่าท่านกำลังถามคำถามกับข้า เป็นคำถามที่ข้าได้รับคำตอบจนถึงตอนนี้ ท่านอยากฟังหรือไม่?”
หวังหลินขบคิดชั่วขณะและเอ่ยตอบ “ข้าถามเจ้าว่าอะไร?”
“เจ้าต้องการเก็บความทรงจำในชีวิตนี้หรือฟื้นคืนความทรงจำของชีวิตที่แล้ว?” ฉิงฮวงหันกลับมาและมองหวังหลิน ในแววตาอันงดงามของนางมีประกายแสงที่หวังหลินก็มิอาจมองเห็น
ฉิงฮวงพูดขึ้นเบาๆ ด้วยความรู้สึก “ชีวิตที่ผ่านมาและชีวิตปัจจุบันสามารถอยู่ร่วมกันได้ แต่เมื่อความทรงจำในอดีตฟื้นคืนกลับมา ชีวิตปัจจุบันจะแบกภาระมากมาย หากไม่ฟื้นคืนมา ข้าก็ไม่รู้และหากข้ารู้ ข้าก็ไม่ลืม นั่นคือความเข้าใจของข้า”
หวังหลินมองสตรีตรงหน้าด้วยสายตาเต็มไปด้วยความสับสนและเอ่ยถาม “ตอนนั้นเจ้าตอบคำถามข้าว่าอย่างไร?”
ฉิงฮวงมีสีหน้าซับซ้อนพลางกระซิบ “ลืมเรื่องอดีตและจดจำปัจจุบันเท่านั้น หากข้าระลึกอดีตไปเรื่อยๆ มันจะนำพาความเจ็บปวดและความสับสนเข้ามา”
“ข้าเข้าใจ” หวังหลินถอนหายใจ เขารู้ว่าผีเสื้อสีชาดจำบางอย่างได้ แต่สิ่งที่นางพูดเรื่องชีวิตก่อนหน้านี้ได้ทำให้จิตใจหวังหลินสั่นเทา เขาคิดเรื่องเต๋าแห่งความฝันบนดาวซูซาคุ ถึงตอนที่สตรีคนหนึ่งปรากฏขึ้นท่ามกลางสายฝนและอุ้มทารกเพศหญิงมาเบื้องหน้าเขา
ท่ามกลางสายฝนนั้นมีผีเสื้อสีแดงอยู่ตัวหนึ่ง มันกำลังหาที่หลบฝนก่อนจะจากไป ขณะที่นางกำลังครุ่นคิดถึงชื่อของทารก หวังหลินก็พึมพำออกมาว่า “ผีเสื้อสีชาด”
หวังหลินขบคิดอยู่อย่างเงียบงันพลางหันกลับมาและเดินออกไป
“ข้าลืมเรื่องชีวิตนั้นไปเยอะแล้ว ข้าจำได้แต่ท่านและคำถามนี้…และอีกอย่าง…เขาบอกบางอย่างกับท่าน”
“ข้ายังจำประโยคนั้นได้” ฉิงฮวงหลับตาและพูดน้ำเสียงแผ่วเบา
“ประโยคอะไร?” หวังหลินก้าวเดินออกไปโดยไม่หยุดชะงัก
“หากหัวใจหยุดเต้น เป็นเพียงลืมความรู้สึก…”
ร่างหวังหลินสั่นเทาอยู่ในสายฝนและหันกลับมา เขาเกิดความตกตะลึงออกมาจากดวงวิญญาณ ร่มในมือร่วงลงบนพื้นและชุ่มไปในสายฝน
“โม่จื่อ” ดาวซูซาคุปรากฏขึ้นในสายตาหวังหลิน ตอนที่เขาเป็นเซียนระดับต่ำต้อย มีคืนหนึ่งเขาพบเจอกับชายหัวล้านท่ามกลางสายฝนซึ่งมีสายตาสับสน เขามองหวังหลินและพูดออกมาหนึ่งประโยค
“สายฝนนี้เกิดอยู่ในท้องฟ้าและตายอยู่บนพื้นดิน กระบวนการอยู่ระหว่างชีวิต…”
“หัวใจหยุดเต้น เป็นเพียงลืมความรู้สึก…”
ประโยคเหล่านี้ดังกึกก้องในใจหวังหลิน สายตาของชายหัวล้านปรากฏขึ้นในใจเขาอย่างเด่นชัด หวังหลินไม่เข้าใจมันก่อนหน้านี้แต่พอมองย้อนกลับไป เขาสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดและความเศร้าอย่างชัดเจน
หวังหลินจากไปพร้อมกับความสับสนและคำถามที่เขาไม่อยากคิดหาคำตอบ
ฉิงฮวงมองจุดที่หวังหลินจากไปและยืนอยู่ตรงนั้นอีกนาน จนกระทั่งสายฝนหายไปนางจึงแผ่ฝ่ามือออก ผีเสื้อบินวนรอบตัวนางสองสามครั้งก่อนจะเหินออกไปไกล
“เมื่อใดที่เจ้าลืม…บางทีคงไม่มีวันเลือกหนทางนี้” ฉิงฮวงก้มหน้าและเดินเข้าไปในถ้ำอย่างโดดเดี่ยว
หวังหลินขบคิดอย่างเงียบๆ
‘การเกิดใหม่ ตอนที่ข้าปลดปล่อยความทรงจำของคนที่มาเกิดใหม่ ข้าไม่สงสัยเลยว่าข้าเองก็อยู่ในการเกิดใหม่ไปด้วย…หากข้าอยู่ในวัฏจักรแห่งการเกิดใหม่จริงๆ เช่นนั้นใครเป็นคนปลดปล่อยความทรงจำของข้า?’ พอหวังหลินคิดเช่นนี้ เขาก็หัวเราะจนมีน้ำตาไหลออกมา
‘การเกิดใหม่ นี่คือการเกิดใหม่!! แม้แต่ข้าเองก็อยู่ในวัฏจักรนี้ ข้าจะไม่มีวันเลือกที่จะลืม ไม่มีวัน!!’ หวังหลินหัวเราะ เขาพลันคิดถึงร่างที่กำลังร้องคำรามใส่ท้องฟ้าตอนที่เขาเห็นระหว่างหายนะแยกสามวิญญาณเต๋าโบราณ
คำพูดจากร่างนั้นดังกึกก้องอีกครั้ง
“ฟ้าดิน!!”
“อยู่บนจุดสูงสุดแห่งฟ้าดินจะมีค่าอะไร!?”
“ถูกทุกคนนับถือจะมีค่าอะไร!?!”
“หากโลกเป็นแบบนี้ ทำไมไม่ทำลายมันเสีย!?!”
“หากชีวิตเป็นแบบนี้ ทำไมไม่หายไปซะ!?!”
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ข้าจะใช้วิธีของตัวเองทำให้ฟ้าหลับตา ทำให้ปฐพีนิทรา ทำให้แม่น้ำในนรกไหลย้อนกลับ ทำให้วัฏจักรเกิดใหม่หยุดชะงัก ทำให้โลก…ไม่มีอยู่อีกต่อไป!!!”
หวังหลินพึมพำคำพูดที่ดังกึกก้องในหู น้ำเสียงดังขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งท้องฟ้าสั่นไหว พื้นดินสั่นสะเทือน เกิดเป็นพายุขึ้นบนแผ่นดินเซียนดารา
ณ แผ่นดินทิศตะวันออกของเผ่าเทพ ด้านทิศใต้ของแคว้นหลินฮัวมีเมืองใหญ่อยู่แห่งหนึ่ง เมืองแห่งนี้ดูเหมือนสัตว์ขนาดยักษ์กำลังนอนอยู่และเปล่งกลิ่นอายอันทรงเกียรติ
ห่างจากเมืองไปไกลมีร้านตีเหล็กอยู่หนึ่งร้าน การทำธุรกิจที่นี่ดำเนินไปได้ด้วยดีพอให้ครอบครัวได้มีชีวิตสุขสบาย และด้วยเจ้าของร้านดูแลงานตัวเองอย่างละเอียดจึงมีชื่อเสียงที่ดีหลายปี
เจ้าของร้านเป็นชายร่างกำยำดูเหมือนอายุราวสามสิบปี เขาแข็งแกร่งมากและเปลือยท่อนบนพลางถือค้อนตีเหล็กส่งเสียงดังออกมาจากร้าน
สนามหลังร้านเป็นที่ที่เขาให้ครอบครัวใช้ชีวิตอยู่ ชายร่างกำยำมีภรรยางดงามและมีลูกสาวอายุแปดขวบ สาวน้อยอยู่ในร่างและไม่สนใจเรื่องความร้อน นางมักจะนำผ้าขนหนูมาเช็ดเหงื่อให้พ่ออยู่บ่อยครั้ง
ซึ่งเมื่อเป็นแบบนั้น ชายร่างกำยำมักจะเผยรอยยิ้มอย่างเป็นสุข
เขาพอใจกับชีวิตตอนนี้เป็นอย่างยิ่ง แม้จะเรียบง่ายแต่ก็หวงแหนลูกสาวและชีวิตนี้เป็นอย่างดี เขาต้องการทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเพื่อครอบครัว เพื่อให้ชีวิตดีขึ้นและให้อนาคตของลูกสาวดียิ่งกว่านี้
เพื่อบรรลุเป้าหมายนั้น เขาจึงทำงานเป็นช่างตีเหล็กอย่างหนักและทำทุกอย่างด้วยความปราณีต
ชีวิตของเขาเรียบง่ายแต่ก็มีความอบอุ่นที่เขาหวงแหน เขาเกิดในเมืองนี้และมีเพื่อนเล่นที่เติบโตมาด้วยกัน แม้ทุกคนต่างก็แยกย้ายกันไปมีครอบครัว กระนั้นก็มักดื่มด้วยกันบ่อยครั้ง หัวเราะและพูดถึงอดีตด้วยกัน
ในคืนนั้นยามที่กำลังหลับใหล เขาเกิดความฝันหนึ่ง ในความฝันนั้นเขาตระเวณไปทั่วโลก ราวกับได้เป็นจักรพรรดิเทพที่นำพาผู้คนเข้าต่อสู้กับศัตรู
ในความฝันมีการแตกแยก โลหิตและความโศกเศร้า เขายังมีลูกสาวชื่อชวง…ชื่อเดียวกับลูกสาวของเขาตอนนี้
แต่ความฝันนี้ไม่ใช่เรื่องจริง เมื่อใดที่เขาตื่นขึ้นมาจากความฝัน เขาดูเหมือนหลงทางและมองออกไปนอกหน้าต่าง จิตใจยังคงเหมือนในความฝันแต่เมื่อเขามองภรรยาและลูกสาวที่ไม่กล้านอนคนเดียว เขาก็จะยิ้มและลืมทุกอย่างเกี่ยวกับความฝันนั้น
หากเลือกได้ เขาคงเลือกครอบครัวของตัวเองและไม่ใช้ชีวิตในความฝัน
เขาไม่รู้ว่ามีใครอีกคนกำลังมองเขาและครอบครัวมาจากท้องฟ้า
หวังหลินมองครอบครัวของช่างตีเหล็กคนนี้ เขาสัมผัสได้ถึงความสุขและความพอใจของฉิงหลิน ฉิงหลินคือจักรพรรดิเทพในโลกถ้ำและตอนนี้มาเกิดใหม่เป็นคนธรรมดาแต่ก็ได้รับความสุขและความอบอุ่น
หวังหลินมองฉิงหลินอย่างอิจฉา จากนั้นสักพักเขาก็จากไป
“เหมือนผีเสื้อสีชาด เขาเลือกที่จะลืม…ลืมอดีต ลืมชีวิตที่ผ่านมาและจมอยู่กับชีวิตในปัจจุบัน ผ่านวัฏจักรซ้ำแล้วซ้ำเล่าและหวงแหนปัจจุบัน”
“ทางเลือกของแต่ละคนคือสิ่งที่ถูกต้อง…ทางเลือกของข้าก็ถูกต้องด้วยเช่นกัน!” หวังหลินพึมพำกับตัวเอง
……………………………………………………..