You Cannot Afford To Offend My Woman ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ! - ตอนที่ 127
บทที่ 127 ภูเขามันน่ากลัวเกินไป
ชิงหยานั่งอยู่บนม้านั่งพร้อมกระดกน้ำอุ่นไปพลางๆ ในความจริงแล้วเธอคิดหลายเรื่องมากๆ ครั้งแรกที่เธอมานั่งที่นี่ก็คือตอนที่เธอได้พบกับเย่ฮัว อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่นั้นมาเส้นทางชีวิตเธอก็เปลี่ยนไป แม้ว่าเขาจะเยือกเย็นแค่ไหน หัวเราะยากขนาดไหน แต่วันเหล่านั้นก็ดีกับฉันจริงๆ
น้องสาวบอกว่าเขาไม่มีเหตุผล คนอย่างเขาน่ะ ต้องตาย ไม่ใช่ โค้งให้ บางทีเขาอาจจะโกรธตัวเองเมื่อคืนก็ได้ ใช่ ต้องเป็นอย่างงั้นอยู่แล้ว
แต่ถึงแม้ว่านายจะโกรธ นายก็ไม่ควรจะทำแบบนั้นนะ ไม่พูดไม่อธิบายอะไรเลย
ทันใดนั้น เสียงฝีเท้ามั่นคงก็ค่อยๆเดินลงมาจากด้านบน ชิงหยารีบจัดท่าทางของเธอให้ดูแข็งกร้าวเข้าไว้ ในครานี้ เขาคงจะไม่อ่อนโยนแน่ๆหรือไม่ก็คงจะไปเหยียบย่ำเธอทีหลัง
เย่ฮัวเดินช้าๆผ่านไปแล้วมองไปยังชิงหยาผู้หยิ่งยะโส เขาหัวเราะภายในใจ เจ้าคงจะยังไม่รู้สินะ ว่าน้องสาวของเจ้านั้น ขายเจ้าให้ฉันแล้ว ดูสิ ยังคงทำขึงขังอยู่อีกแน่ะ มันไม่ใช่ความผิดเจ้าหรอกถ้าจะตกหลุมรักคนอย่างฉัน ท้ายสุดแล้ว เทวทูตนั้นคือสิ่งมีชีวิตที่ล้ำเลิศสุดๆในโลกนี้ ซึ่งเจ้าหาให้ตายก็หาอะไรที่ดีกว่าฉันไม่ได้หรอก
มองเย่ฮัวยืนเงียบๆ ชิงหยาก็เลียริมฝีปากเบาๆ มองเมื่อคุณสามารถมองได้ รักฉันแล้วก็พูดมันออกมา จะอายอะไรนักหนา ไม่เห็นมีอะไรน่าแปลกเลย ปัจจุบันจะได้สวยงามซักที แต่ตอนนี้เย่ฮัวกำลังลำบากใจ ชายผู้ที่ต้องการจะเผชิญหน้า ดูซิยังจะเก่งกล้าอยู่มั้ย!
เฮ้ ผู้หญิงคนนี้ก็เป็นแค่มนุษย์คนหนึ่ง และรักของเจ้านั้นอยู่เหนือความเป็นความตาย เจ้าเพิ่งจะตัดสินใจฆ่าตัวตาย และตอนนี้หัวใจของฉันก็กำลังผลิบาน นี่คือเวลาเก็บเกี่ยวของฉันแล้วสินะ!
ต้องใช้คนกว่า 10 คนเพื่อใช้เวลา 10 นาที และท้ายสุดแล้วฝ่ายชิงหยาเองก็รู้สึกว่ามันช่วยอะไรไม่ได้เลย
“ฉันจะไปโรงพยาบาล”
ปากของเย่ฮัวเผยอนิดหน่อย นี่มันดีมากๆเลยไม่ใช่เหรอ? ยังไม่ตกอยู่ในมนต์สะกดของเทวทูตเหมือนเดิมเลยนะ
ด้วยมือเพียงข้างเดียว บาเรียแสงสีฟ้าก็แตกไปเหมือนฟองอากาศ
ชิงยาเลียริมฝีปากเธอเองเบาๆ ไม่อึดอัดบ้างเหรอ? นี่ไม่ใช่คนประเภทที่จะยอมเสมอได้ นิ่งไว้ตัวฉัน รักฉันไม่ใช่แค่พูดมันออกมา ไม่ใช่แค่บอกฉันรักเธอ…
เมื่อหยิบกระเป๋าเสร็จ ชิงหยาก็เดินออกไปเลย แน่นอนว่าคราวนี้ เย่ฮัวเดินตามไปแทบจะติดๆ เมื่อเขาเดินไปถึงด้านหน้าก็หันมาตะโกนขึ้นไปข้างบน “ยูตง ลงมารักษาตัวข้างล่าง”
ด้านบน ชิงยูตงเกือบจะร้องไห้แล้ว ไม่ใช่เพียงเพราะต้องเป็นเด็กดี แต่ยังต้องเป็นเด็กเสิร์ฟด้วยตอนพี่เขยในอารมณ์บูดๆ แล้วไหนจะเรื่องที่เกิดกับก้นน้อยๆนี่อีก นี่มัน น้องสะใภ้ที่โชคร้ายที่สุดในโลกแล้วนะ
ออดี้ A8 วิ่งลงถนน ชิงหยาเป็นคนขับ และ เย่ฮัว เป็นเจ้านาย
เมื่อเซ็ตเส้นทางเรียบร้อย ชิงหยาก็สตาร์ทรถแล้วมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลเลย
ภายในรถ ไม่มีใครพูดอะไรทั้งสิ้น ในความจริงแล้ว พวกเขาก็แค่รอให้ใครซักคนเปิดปากที่จะพูดก่อน และเมื่อไม่มีใครพูด นี่จึงดูเป็นอะไรที่อึดอัดเอาเสียมากๆ
เอาเข้าจริง เย่ฮั่วก็ไม่ได้คาดคิดหรอกว่าคนอย่างชิงหยาจะมีความคิดที่จะฆ่าตัวตาย ความคิดพวกนั้นก็อยู่แค่ในผู้หญิงโง่ๆเท่านั้นแหละ ทำไมถึงเกิดขึ้นกับคนขยันอย่างเธอได้นะ?
ชิงหยาเองก็ไม่ได้คาดคิดเหมือนกันว่าเย่ฮั่วจะเอาเรื่องพวกนี้ไปฟ้องน้องสาวของเธอ นายมันพวกอารมณ์ร้อนแล้วก็ชอบคิดเองเออเอง ทำตัวอวดรู้!
ตลอดทางไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยจนกระทั่งพวกเขาถึงโรงพยาบาล ชิงหยาเตรียมการไว้หมดทุกอย่างแล้วเพียงแค่รอการตรวจอย่างเดียว ส่วนเย่ฮัว แน่นอนว่าแค่มาเป็นเพื่อนยัยบื้อนี่เฉยๆ
ฉันไม่รู้หรอกนะว่าจะมีผู้ชายซักกี่คนบนท้องถนนนี้ที่อิจฉาฉัน แต่พวกเจ้าคงไม่รู้หรอกว่ายัยนี่น่ะเพิ่งจะตัดสินใจที่จะฆ่าตัวตายเพื่อฉันเชียวนะ ในตอนนี้เย่ฮั่วทำหน้านิ่งแต่ใจจริงกำลังรู้สึกสนุกสุดๆอยู่
ทางฝั่งชิงหยาเองก็เห็นเหล่าสาวๆมองมายังเย่ฮัวอย่างกับเป็นบ้า เธออยากจะบอกสาวๆมากๆว่าอย่ามองที่หมอนี่ เขากำลังตกหลุมรักฉันอยู่ แต่ตัวเองก็ทึ่มเกินไปที่จะบอก
มองชิงหยาที่กำลังไปตรวจ เย่ฮัวไม่ได้ตามเข้าไปด้วย แต่ก็ไม่ได้ไม่ชอบโรงพยาบาลหรอก แค่กลิ่นมันไม่พึงประสงค์เฉยๆ
เขาเดินออกไปจากตึกด้วยท่าทีผ่อนคลาย หันมองไปรอบตัวด้วยอารมณ์ที่ไม่ได้บูดอะไร
มีคนเฒ่าคนแก่มากมายอยู่ที่นี่ พวกนี้เนี่ย จะมองเป็นเพศได้หรือเปล่านะ…เพศคนแก่ไรงี้
“พ่อหนุ่มหล่อนี่ ยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อหรือเปล่า หา? ยังไม่ไปอีก ชีวิตแต่งงานไม่ดีหรือไง? คาดหวังในอนาคตหน่อยสิ”
“น้องชาย ฉันมีชีวิตดีอยู่แล้วและฉันจะไม่เทลูกบอลที่นี่แล้วคืนนี้ฉันสัญญาว่าจะร้องเพลง ”
นี่คือการหลอกลวงของพวกมนุษญ์ที่น่าเบื่อ และพวกมันก็มักจะใช้วิธีแบบนี้เพื่อหลอกลวงเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเองที่มีนิสัยแบบเดียวกัน
“ขายยา! ขายยา! พวกนี้คือยาแห่งจิตวิญญาณและยามหัศจรรย์! 5 หยวนต่อ 1 เม็ด กินเข้าไปแล้วจะอายุยืนยาว ถ้าไม่เห็นผลยินดีคืนเงินเลย ซื้อสองเม็ดแถมลูกอมฟรีด้วย เอ้า” ฉันเห็นเจ้าพระหัวโล้นนี่พูดเสียงดังและนั่นทำให้พวกแผงลอยรอบๆกว่าครึ่งพากันหมั่นไส้ แต่เจ้าพระนั่นก็ไม่ได้สนใจอะไร
เย่ฮัวคิดว่าพระน้อยนั้นน่าสนใจไม่น้อยเลย ยาที่อยู่บนเสื้อนั้นปล่อยกลิ่นออกมาและแน่นอนว่าต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ
“มาเร็วพี่สาว พระตัวเล็กสุดน่ารักอยู่นั่น!”
“เธอช้าไปแล้วนะ”
เด็กสาวน่ารักสองคนวิ่งมาจากหลังของเย่ฮัวและตรงไปยังซุ้มขายของของพระองคนั้น พระน้อยเมื่อเห็นสองสาววิ่งเข้าไป ดวงตาเล็กๆก็เปล่งแสงขึ้นมา
เย่ฮั่่วเดินอย่างช้าๆ และแน่นอนว่าไม่ได้เดินไปซุ้มนั้น ยาพวกนั้นไม่เพียงพอ แต่เหนือสิ่งอื่นใด นั่นเป็นหนทางเดียว
พระน้อยขมวดคิ้ว มองสองพี่น้องตรงห้นา ความรู้สึกของแววตาแห่งความบาปหนาของบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ควรมีมันแพร่กระจายออกมาชวนให้เย่ฮัวต้องเดินตรงเข้ามา กลิ่นของความชั่วร้ายจางๆถูกปล่อยออกมาจากชายคนนี้!
ไม่ได้คาดคิดหรอกว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อเจอปีศาจ ความโชคดีก็ไม่ได้ดีเสมอไป การเป็นนักล่าอสูรเป็นจุดมุ่งหมายของอาจารย์ และแน่นอน เป็นจุดมุ่งหมายของฉันด้วย
มาดูกันดีกว่าว่าฉันกำลังเห็นปีศาจอะไร!
นัยน์ตาของพระน้อยเปลี่ยนเป็นสีทอง และคนทั่วไปจะไม่เห็นอาการเหล่านี้
My X โชว์ให้เห็นถึงร่างกระดูกที่มีความผิดปกตินั้น! พ่อคนดี มีเลือดอยู่ในกระดูกพวกนั้น ราวกับว่าทั้งตัวไม่มีเลือด มีแค่ในกระดูก ไม่แน่ใจว่าในนั้นจะเป็นไขกระดูกหรือเปล่า
เย่ฮัวรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของพระน้อยนั่น เขารู้สึกประหลาดใจมากๆที่ปีศาจพระตนนี้มีเวทย์มนต์ที่ลึกล้ำเช่นนี้ มันเอามาจากไหนกันน่ะ?
“กลับมา!” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลังเย่ฮัว และเมื่อเข้าหันกลับไปก็พบว่าชิงหยาเดินมาแล้ว ยัยทึ่มนี่ไม่ได้สนใจอะไรเลย
แต่ถึงอย่างงั้น พระน้อยที่เห็นชิงหยาก็กรีดร้องออกมาก่อนจะวิ่งหนีไป เหมือนโชคจะยังดีที่พวกเขาขี้เกียจไล่ตาม
“พี่สาว พระตัวเล็กที่น่ารักๆวิ่งหนีทำไมอ่ะ?”
“ใครจะไปรู้ บางทีเขาอาจจะเป็นนักต้มตุ๋นที่กลัวเราจับได้ก็ได้ ขอโทษที่ดึงมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้นะ”
“งั้นเราไปกันดีกว่าพี่สาว”
พระตัวน้อยที่กำลังวิ่งอยู่นั้น หัวใจของเขากู่ร้องออกมา ภูเขานั้นน่ากลัวเกินไป หรือว่าจริงๆแล้วภูเขานั้นเป็นที่ปลอดภัย เมื่อเขากลับไป เหล่าสาวกคงจะได้รับรู้ถึงความลับอันยิ่งใหญ่
ดวงตาของพระน้อยมองเย่ฮั่วในตอนแรก แต่เมื่อชิงหยาตะโกน เป้าสายตาของเขาก็เปลี่ยนไป ความกลัวว่าดวงวิญญาณจะถูกทำลายมันโผล่ขึ้นมาทันที นั่นทำให้เขาวิ่งออกมาตั้งแต่ที่เห็น มีเพียงพระน้อยเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้
ใบหน้าของชิงหยานั้นเย็นชา เพียงแค่มาตรวจ ทั้งๆที่ยังไม่เคยเห็นเจ้าสิ่งนั้นด้วยซ้ำ เธอเอาแต่พูดว่าเด็กนั้นสำคัญ ส่วนคนที่วิ่งหนีไปเธอก็ไม่รู้ว่าไปไหน
แต่ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไม ชิงหยาแค่รู้สึกว่าเย่ฮัวกำลังเดินเล่นอยู่ด้านนอกประตู และเมื่อเธอออกมาดูก็พบว่าเย่ฮัวอยู่จริงๆ
พวกเขาทั้งสองต่างเป็นพวกที่รับรู้ได้ด้วยตนเอง และดวงความรู้สึกแบบนี้เลยทำให้เกือบจะไปเปิดสำนักดูดวงบ่อยครั้งแล้ว
“ผลเป็นยังไงบ้าง?” เย่ฮัวถามแบบไม่แยแสนัก
“ปกติ” ชิงหยาก็เพียงแค่ตอบ ไม่รู้ว่าเพราะต่างคนต่างคิดว่าเกลียดกันอยู่หรือเปล่า
“บอกแล้วเมื่อคืน”
ชิงหยาไม่ได้ตอบอะไรก่อนจะมุ่งหน้ากลับบ้านอีกครั้ง
บนถนนนั้น มีพระน้อยกำลังวิ่งอย่างสุดกำลังด้วยท่าทีที่เหมือนกลัวอะไรซักอย่างอยู่