You Cannot Afford To Offend My Woman ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ! - ตอนที่ 136
บทที่ 136 เตนท์ 3 หลังก็เพียงพอ
ในแววตาของเขา เย่ฮั่วรอให้ชิงหยาตะโกนเหมือนเมื่อวาน วันนี้เธอไม่มีตุ๊กตาแล้ว ดูซิว่าจะนอนยังไง!
เขารอจนกระทั่งตี 1 เย่ฮั่วตัดสินใจที่จะไปแอบดูที่ห้องนอนว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ขณะที่ยืนอยู่หน้าประตู ใบหน้าของเขาก็มืดสนิท…ตุ๊กตานั่น…มายังไงฟะ? ไม่ใช่ว่าเผาไปแล้วเหรอ? วันนี้ชิงหยาก็ไม่ได้ออกจากห้องมาอีกแล้ว แถมไม่ส่งผู้ส่งสารมาด้วย ไม่คิดจะบอกกล่าวอะไรกันหน่อยเรอะ!!!
ไม่สนแล้วโว้ย!!
แม่ผู้สูงส่งคนนี้ ในเมื่อเธอกล้าที่จะหลับ ฉันจะทำลายเช้าที่สดในของเธอเอง!
เย่ฮั่วตัดสินใจที่จะรอจนข้ามคืน รอให้ชิงหยาตื่นและไปซื้ออาหารเช้าเหมือนกับเมื่อวาน แต่วันนี้มันต่างไปนิดหน่อย ร่างที่ท้วมๆนั้นขยับไม่ค่อยสะดวกเลย
“เยียวยาจิตใจ”
ฉันร่ายมนต์ให้ตัวเองและนั่นทำให้ฉันกลับมากระปี้กระเป่าได้ ตอนนี้ตัดสินใจได้แล้วว่าจะจัดการมันด้วยกำปั้น!
ค่ำคืืนนั้นผ่านไปอย่างเชื่องช้า เย่ฮั่วที่รอให้ชิงหยาออกไปซื้ออาหารเช้ายืนอยู่ที่หน้าต่างและมองชิงหยาออกไป และทันใดนั้นเขาก็วิ่งเข้าไปในห้องทันที
ใช่ว่าเย่ฮั่วเองจะแผนสูง ชิงหยาเองก็แผนสูงเช่นกัน เธอทำเหมือนจะออกไปซื้อข้าวเช้าหากแต่พอคิดว่าเย่ฮั่วน่าจะกลับไปที่ห้องนอนแล้ว เธอก็ย่องกลับมายังบาร์เลย ฝีเท้าก้าวเบาหวังจะจับให้ได้คาหนังคาเขาเพื่อดูปฏิกริยา วันนี้แหละ ต้องจับให้ได้!
เย่ฮั่วเข้าไปในห้องนอนและมองไปบนเตียง ตุ๊กตาตัวใหญ่ตกเป็นเป้าหมายอีกครั้ง
“เพลิงแห่งอรุณรุ่ง x2!”
“้เพลิงคลั่ง x2!!”
“วิญญาณร้ายจงดับสิ้นx2!!!”
“เพลิงกัลป์แห่งวันสิ้นโลก x2!!!!”
“เพลิงแห่งองค์พระศาสดาx2 !!!!!”
ตุ๊กตาทำได้เพียงตะโกนก้องในใจ “แล้วจะ x2 หาสวรรค์วิมาณอะไรฟะ! x1 ก็เป็นผงธุลีหมดแล้วโว้ย!!”
เสียงฝีเท้าก้าวขึ้นมาใกล้ ร่างของเย่ฮั่วก็ค่อยๆจางหายไปในขณะที่ชิงหยาเปิดประตูเข้ามา
เธอมองหาตุ๊กตาที่อยู่บนเตียงก็พบว่ามันหายไปแล้ว ชิงหยายิ้มก่อนจะพูดขึ้น “เปรี้ยวเหลือเกินนะพ่อคุณ ได้เลย เดี๋ยวจะโดนดี”
อย่างไรก็ตาม เย่ฮั่วนั่นเริ่มอ่านเกมออก เขารู้ว่าชิงหยาต้องซื้อตุ๊กตาบ้านี่ไว้หลายตัวแน่ๆ เพราะงั้นเขาจึงวิ่งแบบเงียบๆเข้าไปในห้องนอนตอนกลางวัน และนั่นก็ทำให้พบว่าในตู้เสื้อผ้ายังมีอีกตัวหนึ่งซ่อนอยู่ เจ้าตุ๊กตาตัวร้ายที่ซ่อนอยู่ในตู้เพื่อรอจะได้นอนกับหญิงสาว!
“เพลิงแห่งอรุณรุ่ง x10!”
“้เพลิงคลั่ง x10!!”
“วิญญาณร้ายจงดับสิ้น x10!!!”
“เพลิงกัลป์แห่งวันสิ้นโลก x10!!!!”
“เพลิงแห่งองค์พระศาสดา x10 !!!!!”
ตุ๊กตา : ….
แต่ถึงกระนั้น เมื่อยามเย็นมาถึง ชิงหยาก็ยังไม่ไปอ้อนวอนเขาเสียที เย่ฮั่วนั้นเริ่มจะเดินไปเดินมาอย่างกระวนกระวายแล้ว ในตอนนี้เขาอยากจะเผาตุ๊กตาให้หมดทั้งโลกเลย
แต่เมื่อเขาเข้าไปยังห้องนอน ก็พบว่าไม่ใช่แค่ชิงหยาที่นอนอยู่ในนั้น ไม่!!!
เธอกำลังนอนกอดน้องสาวของเธออยู่! เกือบจะได้เผาน้องสะใภ้แทนตุ๊กตาแล้วมั้ยล่ะ!
ฉันไม่สามารถทำอะไรได้แน่ๆแบบนี้ ชิงหยา ฉันไม่ยอมหรอก!!
กลับไปที่ออฟฟิศ เย่ฮ่วเรียกเว่ยชางและเลี่ยกูให้เข้ามา
“ท่านผู้สูงส่ง!”
“ท่านผู้สูงส่ง!”
เย่ฮั่วนั่งลงไปบนโซฟาและหยิบบุหรี่มาจุดสูบ “ไปข้างนอกกับฉันซะ!”
เว่ยชางและเลี่ยกูเหลือบมองกันในทันใดก่อนจะพูด “รับบัญชาท่านผู้สูงส่ง”
“พวกนายสองคนไปเตรียมการเรื่องนี้”
เว่ยชางรู้ว่างานนี้น่าจะต้องให้ตัวเขาทำเอง เพราะงั้นจึงพูดด้วยเสียงอันเบาดุจกระซิบ “นายท่าน เราจะไปไหนกัน ข้าจะได้จองโรงแรม”
“ใครบอกนายว่าเราจะไปพักในโรงแรม? เราจะไปตั้งแคมป์กัน! เพราะงั้นไปหาเต๊นท์ซะ!” เย่ฮั่วตะโกนด้วยเสียงอันดัง นั่นทำให้ทั้งสองสมองกลับตาลปัตรนึกย้อนไปในอดีต ถ้าเกิดพักในโรงแรม ที่นั่นจะมีห้องเยอะ และนั่นทำให้เขาไม่ได้นอนกับชิงหยา
เลี่ยกูรู้สึกละอายใจมากๆ เหมือนนอนไปบนปากกระบอกปืนโดยที่ไม่สามารถพูดอะไรได้
“ข้าเข้าใจที่ท่านจะสื่อแล้วนายท่าน”
“เว่ยชางนั้นโง่เง่า ข้าขออภัยสำหรับสิ่งที่เกิดเมื่อครู่ด้วย”
“อะไรล่ะนั่น?”
เว่ยชางกลืนน้ำลายก่อนจะพูด “ท่านผู้สูงส่ง เด็กดีแถวๆนี้เพิ่งจะมีแฟน และค่าใช้จ่ายของแฟนสาวเขานั้นเรียกได้ว่ามากขึ้นๆเรื่อยเลย และตอนนี้ก็เหมือนจอบที่ขุดหลุมให้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆเพื่อฝังตัวเองไม่มีผิด”
เลี่ยกูเหมือนโดนดูถูก สองสิ่งนั้นไม่เห็นจะเหมือนกันตรงไหน ราวกับราชา หญิงสาวระดับ 3 ดาวนี้กำลังเติบโต ช่างเป็นวันที่งดงามอะไรเช่นนี้ ดังนั้นบอกไปเลยว่าเขาหาผู้หญิงเพื่อเงิน จากนั้นก็จะใช้ชีวิตเยี่ยงคุณหนู ชู่ ตัน
มองไปยังท่านผู้สูงส่งที่กำลังมองหาเงิน ในสถานการณ์ที่กุ้งยังเริ่มต้นที่ราคา 10 ปอนด์ แกกล้าดียังไงถึงทำตัวฟุ่มเฟื่อยเช่นนี้! มองกลับไปยังเว่ยชาง เลี่ยกูถอนหายใจ
“จริงเหรอเลี่ยกู?” เย่ฮั่วพูดด้วยเสียงเยือกเย็น
ใบหน้าของเลี่ยกูเหมือนถูกทุบในทันทีก่อนจะพูด “ท่านผู้สูงส่ง ผู้ใต้บังคับบัญชาของท่านช่างยากจน…”
ฟังที่เลี่ยกูพูด เย่ฮั่วและเว่ยชางต่างช่วยไม่ได้แต่ก็คิดตาม ทุกๆครั้งที่ต้องการให้เลี่ยกูจ่ายอะไรให้ เขาก็มักจะถามแบบนี้ แต่เพราะว่าเลี่ยกูมีเงินกองทับถมเป็นภูเขาหรอกถึงได้ขอ และก็เพราะแบบนั้นแหละพอได้ยินว่า ‘เขาช่างยากจน’ แล้วมันน่านัก!
รับรู้ได้ถึงความผิดปกติบนตัวท่านผู้สูงส่ง เลี่ยกูก็รีบเปลี่ยนคำพูด “ต-แต่ข้าว่ามันก็น่าจะยังมีนิดหน่อยแหละครับ…”
“เว่ยชาง ติดตามการใช้เงินของเจ้าหมานี่ไว้ในอนาคต นี่ไม่ใช่วันที่จะมาสะสาง มันมีอย่างอื่นที่จะต้องทำอีก” เย่ฮั่วพูดอย่างไม่แยแส
เว่ยจางเอ่ยถาม “แล้วท่านหญิงล่ะครับ?”
เมื่อบทสนทนาวกกลับมาเรื่องชิงหยา เย่ฮั่วก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลย เขาตะโกนเบาๆ “ข้าไม่อยากใช้เงินของนั่งเบ๊อะนั่นหรอก! หึ! ทำไมเรื่องแค่นี้ถึงคิดด้วยสมองตัวเองไม่ได้ ฮะ!”
“เขาโง่…”
“ใช่แล้ว เขาโง่…”
เย่ฮั่วชะงักก่อนจะย้ำเตือน “พวกนายมีคนที่จะเอาไปด้วยพรุ่งนี้หรือเปล่า?”
“ด้วยความกรุณา จะพาถังน้อยไปด้วยครับ”
“สาวสามดาวที่มักจะมีคนรออยู่ด้านนอกครับ”
เว่ยชางมองเลี่ยกูอย่างไม่น่าเชื่อ นี่ต้องเป็นงานหนักแน่ๆ ไม่เลว!
“ถังน้อยเป็นเด็กเสิร์ฟ เธอน่าจะทำมันได้” เว่ยชางเอ่ยเสริม
เย่ฮั่วพยักหน้า “มีหวานใจกันก็ดีแล้ว เว่ยชาง นายต้องจำเอาไว้ ไม่ต้องซื้อเต้นท์เพิ่ม แค่ 3 ก็พอแล้ว!”
เว่ยชางเซอร์ไพรส์สุดๆ 3 หลังเหรอ!?
ท่านผู้สูงส่งและท่านหญิงอยู่เต้นท์เดียวกันแน่ๆ เล่ยกูกับดาราสาวนั่น แล้วก็เขาและถังน้อย…
ช่างเป็นนายท่านที่ฉลาดเสียนี่กะไร! คิดเผื่อลูกน้องเช่นนี้ด้วย อยากจะร้องไห้เสียจริง…
“ตามบัญชา ท่านผู้สูงส่ง” เว่ยชางตอบด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ในน้ำเสียงนั้นมีอาการสั่นเบาๆอยู่
เย่ฮั่วโบกมือ “กลับไปได้แล้ว”
“ครับ!”
“ครับ!”
เมื่อผู้ติดตามทั้งสองออกไปแล้ว เย่ฮั่วก็ทิ้งตัวลงไปบนโซฟาและห่มคลุมร่างด้วยผ้าห่ม…ทำไมถึงรู้สึกไม่ดีเลยนะ
รอก่อนเถอะ ชิงหยา!
สำหรับชิงยูตงแล้ว เย่ฮั่วตัดสินใจจะไม่เอาไปด้วย เพราะถ้าไปด้วยกัน ชิงหยาก็ต้องนอนกับชิงยูตงอยู่แล้ว แล้วถ้าเป็นแบบนั้นจะเสียเวลาวางแผนทำไมกัน?
ฉันต้องทำให้ชิงยูตงไม่มาขัดขวางแผนการณ์นี้เสียก่อน เนื้อเท่านั้นคือทางออก…ยัยนั้นจะต้องสัญญาอย่างเหี้ยนกระหายเป็นแน่ ล่อนางออกมาด้วยเนื้อและปล่อยนางกินขณะตั้งข้อสัญญากัน
เมื่อกินมื้อเย็นด้วยกัน ชิงยูตงพูดขณะที่ส่งสายตามาที่เขาด้วย “เอ้อ พี่จ๋า พรุ่งนี้ฉันไม่ได้ด้วยนะ ปวดหัวนิดหน่อย”
“เป็นอะไรไปน่ะ?” ชิงหยาถาม
“คงจะเป็นหวัดแหละ”
“บอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าเล่นเกมเยอะ ไม่ยอมฟังกันเลย!” เมื่อคุณคิดจะคุยกับชิงหยา ก็อย่าลืมพกยาไว้ด้วยละกัน อันที่จริงก็ไม่มีอะไรต้องกังวลหรอก
ชิงยูตงส่งไม้ต่อให้เย่ฮั่วด้วยนัยน์ตาเปล่งประกาย เย่หัวเองก็แค่พยักหน้ารับเบาๆ แสดงออกให้เห็นว่าไม่เลว นี่ไม่ได้จะปิดบังอะไรเลยนะ
ถ้าเธอไม่ได้ป่วยจริงและต้องกินยา มันคงยากแน่ๆสำหรับชิงยูตง
“พี่ไว้ใจฉันได้เลย ฉันจะเฝ้าบ้านเอง!” ชิงยูคงพูดด้วยน้ำเสียงบอบบาง เหมือนกำลังจะตาย
เย่ฮั่วเองก็คิดว่ามันเกินไปนิดหน่อย…
แน่นอนว่าชิงหยามองไปยังน้องสาวของเธอและพูดขึ้นต่อ “งั้นพี่ก็อยู่บ้านด้วย จะได้ดูแลเราได้”
หัวใจของเย่ฮั่วไหลลงไปเป็นสายน้ำ
ชิงยูตงคิดไว้แล้วว่าพี่ต้องพูดแบบนี้
เสียงของเธอเปลี่ยนไปนิดหน่อยก่อนจะพูดเสริม “พี่จ๋า ถ้าได้พักผ่อนเพียงพอก็จะเริ่มงานวิทยุกระจายเสียงในอาทิตย์ถัดไปแล้ว ขอให้น้องได้ฝึกเถอะ”
ชิงหยาไม่ได้แตะหน้าผากของน้องสาวเธอเพื่อตรวจดูว่าป่วยจริงหรือเปล่า
“งั้นดูสถานการณ์พรุ่งนี้เช้าอีกทีละกัน”
ถึงแม้ว่าเธอจะร่วมมือกับพี่เขยเพื่อจะหลอกล่อพี่สาวให้ไปตามแผนก็เถอะ แต่นัยน์ตาของผู้เป็นพี่สาวนั้นก็ทำให้ชิงยูตงรู้สึกอุ่นใจจริงๆ
ฉันมองชิงยูตงกอดชิงหยาและพูดด้วยน้ำเสียงบางเบาว่า “พี่จ๋า พี่นั้นแสนดีจริงๆ”
ชิงหยาหัวเราะและลูบไปที่ผมของน้องสาวที่รักก่อนจะมองเย่ฮั่วผู้ที่กินเงียบๆมาตลอด เธอค้นพบว่าตั้งแต่เย่ฮั่วโผล่เข้ามาในชีวิต ความสัมพันธ์ของเธอและน้องสาวก็เพิ่มมากขึ้น ไม่เหมือนเมื่อก่อน
“ไปพักผ่อนเถอะ” เย่ฮั่วพูดแบบไม่แยแสก่อนจะเดินกลับไปที่ออฟฟิศ
ชิงหยาหายใจช้าๆ
ชิงยูตงเองก็ถอนหายใจแบบโล่งอก ชัดเจนเลยว่าสองคนนี้มีความคิดที่สุดติ่งกันจริงๆ แต่กระนั้นก็ไม่ยอมปล่อยให้ใครจากไปเสียที ทำไมทำตัวน่าหงุดหงิดขนาดนี้นะ?
เย่ฮั่วนอนลงไปบนโซฟาด้วยอารมณ์ที่ดีหลังจากได้เห็นท่าทีของชิงหยาที่เหมือนจะยอมแพ้นั้น จากนั้นเดี๋ยวชิงหยาก็ต้องเข้ามาอ้อนวอนเขาด้วยสารพัดวิธีด้วย เพียงแค่คิดก็อดขำไม่ได้แล้ว
ตุ่ง ตุง ตุ้ง
“เข้ามา”
ฉันเห็นเว่ยชางเข้ามาด้วยท่าทีแปลกๆ
“เกิดอะไรขึ้น?”
“ท่านผู้สูงสุด มีผู้หญิงอยู่ที่ด้านล่าง กำลังรอท่านอยู่ครับ รอมาจะคืนนึงแล้ว”