You Cannot Afford To Offend My Woman ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ! - ตอนที่ 139
บทที่ 139 นายท่าน และภรรยาของนายท่าน
ผู้วิเศษแห่งความตายหิ้วปีกหญิงสาวในอ้อมแขนเขาไว้ อยากตายเสียเหลือเกิน เขากระซิบกับผู้เป็นนาย “นายท่าน…”
“ท่านผู้สูงส่งพูดไปแล้ว เจ้าต้องดูแลมนุษย์คนนี้” เว่ยชางพูดก่อนจะหายไปในความมืด
เลี่ยกูยิ้มและตบไหล่ของผู้วิเศษแห่งความตาย “อย่ายกมาให้ข้าล่ะ”
เขายืดมือทั้งสองออกและโอบร่างของเธอให้กระชับขึ้น
ส่วนที่ยืดออกมานั้นทำให้เลี่ยกูประหลาดใจนิดหน่อย ท่านผู้สูงส่งเองก็เป็นเผ่าพันธุ์อันเดดเหมือนกัน ช่างเป็นเผ่าพันธุ์ที่ประหลาดกันจริงๆนั่นแหละ
“เด็กน้อย เจ้าต้องรับผิดชอบตัวเองด้วยตัวเจ้าเอง ” เลี่ยกูหายตัวไปหลังจากนั้นนิดหน่อย โดยปล่อยให้ผู้วิเศษแห่งความตายมองอยู่แบบนั้น
มองดูหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาเอง ดวงตาของเธอยังคงชุ่มชื้นอยู่ ถึงจะเพิ่งดื่มหนักจนเมาเป็นหมาแบบนี้แต่ขนตาก็ยังเนี้ยบอยู่อีกนะ
ผู้วิเศษแห่งความตายถอนหายใจหนัก “ก็คิดไว้อยู่แล้วแหละว่าจะต้องเป็นแบบนี้ ไม่ควรจะเอาฉายาทาสสาวออกจากเธอจริงๆ ได้ฟังท่านผู้สูงส่งพูดแล้ว ข้าคงต้องดูแลเธอดีๆ…ทำไมตอนนั้นข้าถึงเอาเธอมาเป็นเดิมพันนะ นี่มันเรื่องตลกชัด…”
ผู้วิเศษแห่งความตายค่อยๆหายตัวไปจากเคลียร์บาร์ และสำหรับที่ๆเขาจะไป ก็คือใต้สะพานที่เดิม
ต่างจากเดิมคือครั้งนี้เขาหิ้วสาวสวยขณะเล่นพนันไปด้วย คนไร้บ้านรอบๆดูน่าอนาถไปเลย
วันต่อมา เย่ฮั่วตื่นเช้ามากๆ ไปดูสภาพอากาศด้านนอก ลมและแดดที่ไม่โหดร้ายเกินไปนั้นช่างเหมาะแก่การไปเที่ยวเสียจริง และพอคิดถึงแผนการที่วางไว้ เขาก็เผลอยกยิ้มขึ้นมาที่มุมปากโดยไม่รู้ตัว
หลังจากอาบน้ำเสร็จ เย่ฮั่วก็ไปเรียกชิงหยา ผู้ที่ซึ่งนอนอยู่กับน้องสะใภ้ในห้อง และชิงยูตงเองก็ดูท่าจะเป็นเด็กดีให้ชิงหยาสามารถไว้วางใจได้
ชิงหยานั้นเตรียมพร้อมสำหรับบางชุดอยู่แล้ว เธอสวมหมวกปีกใหญ่ไว้บังแดด มองรวมๆแล้วช่างดูสบายๆเหลือเกิน ตอนนี้ แม้แต่ชุดที่ไม่ได้แพงล้ำมันก็สามารถโชว์ความโอ่อ่าของเธอออกมาได้ เย่ฮั่วรู้สึกดีไม่น้อยที่ชิงหยาดูเปลี่ยนไปขนาดนี้ สมกับเป็นคุณหญิงผู้สูงส่งเสียจริง ก็คงมาจากนิสัยด้วยล่ะนะ
“เย่ ฮั่ว เราจะไปไหนกันน่ะ?” ชิงหยาพูดเรื่อยเปื่อย โทนเสียงนั้นยังเหมือนเดิม ไม่อบอุ่นเลย
เย่ฮั่วตอบ “ถึงก็รู้เองแหละ”
ผู้ชายคนนี้ คงจะอยากเซอร์ไพรส์ล่ะสิถึงได้ทำตัวลับๆล่อๆแบบนี้ นี่ยังแคร์เรื่องนี้อยู่อีกเหรอ ไม่เห็นรู้เลย? ดูท่าว่าน้องสาวของฉันจะขายฉันให้นายแล้วสินะ
ในครั้งนี้ เว่ยชางและเลี่ยกูนั้นยืนรออยู่ด้านล่าง และถัดจากพวกเขาก็มีสี่สาวในชุดเมดยืนต้อนรับอยู่ ดูท่าพวกเธอจะเป็นสาวเสิร์ฟประจำทริปนี้ ประกอบด้วย ถังเหว่ย แฟนสาวของเว่ยชางและ 3 สาวของเลี่ยกูที่มีดีกรีระดับดาราไม่ว่าจะเป็นอาเซี่ยหรือไป๋ เสี่ยวเฉิน!
ไม่อยากจะพูดเลยว่าทั้งเว่ยชางและเลี่ยกูนั้นมีสายตาที่ดีมากในการเลือกสาวๆ พวกเธอทั้งสีจัดว่าเป็นชนชั้นที่หาตัวจับได้ยากมากๆ โดยเฉพาะหลังจากได้กินกระเรียนทอง นอกจากนั้นหน้าตาก็จัดว่าสวยงามหาได้ยากตามท้องถนนกันหมด
มองไปยังสาวบ้านนอกข้างๆเขา เย่ฮั่วไม่สามารถช่วยอะไรได้นอกจากพยักหน้าและเปิดประตูออกไป ไม่ว่าจะต้องเผชิญหน้าหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับปรังปรุงตัวของพวกเขาแล้ว
ชิงหยามองไปยังสาวๆเหล่านี้ก็เกิดความเคอะเขินขึ้นมานิดหน่อย ทั้งหมดสวมชุดเมดที่เป็นผ้าไหมสีดำประดับด้วยชายลายลูกไม้ พวกเธอดูเร้าอารมณ์ไม่น้อยเลยถึงแม้จะทำไปด้วยความเคารพก็ตาม ยังไงก็ไม่สามารถทำให้เธอหายรู้สึกแปลกได้หรอก… แม้แต่ถังน้อยเองก็อยู่ในก๊วนนี้ด้วย แล้วทั้งสามสาวนั่น ทำไมด้วยสวยขนาดนี้…
“นายท่าน และภรรยาของนายท่าน” ทั้งสามสาวเอ่ยพร้อมกัน
เย่ฮั่วยอมรับการโดนเรียกแบบนั้นด้วยความรู้สึกปิติล้น ถึงแม้ชิงหยาจะตื่นเต้นอยู่นิดหน่อยแต่ก็ยอมรับเหมือนกัน
“ทั้งสามเป็นผู้หญิงของพวกลูกน้อยฉันเอง” เย่ฮั่วพูดเสริม ดูท่าจะสุขใจเหลือเกินนะพ่อคุณ
ชิงหยาถอนหายใจอย่างนุ่มนวล
“วันนี้เป็นโอกาสที่หาได้ยาก พวกเราไม่ได้ไปด้วยกันมานานแล้ว เพราะงั้นนี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเธอถึงได้ถูกพามาด้วย พวกเขาเองก็มีเดตเหมือนกัน” เย่ฮั่วพูดแบบไม่ได้สนใจ
ชิงหยาไม่เชื่อในสิ่งนั้น “เรื่องจริงเหรอผู้ฝึกฝนตนของนายออกมาด้วยนะ?”
“เธอคิดว่าพวกเขาจะเป็นไฟส่องสว่างหรือไง? ถ้าต้องการจะพาไปโลกที่มีแต่คู่รักสุดหวานก็ได้นะ” เย่ฮั่วกระซิบข้างหูชิงหยา
เธอทั้งตบตีทั้งหยิกผิวเย่ฮั่วด้วยความเกรี้ยวกราดก่อนจะหันหนีไปทางอื่น
เย่ฮั่วยิ้มเยาะขณะคิดว่าผู้หญิงคนนี้ช่างหยิ่งเสียจริง
ทั้ง 4 สาวที่ปัจจุบันเป็นเมดอยู่รีบนำกล่องเล็กๆในมือของชิงหยาไปและแสดงออกถึงความเคารพ
เย่ฮั่ว เว่ยชาง และเลี่ยกูเองก็เดินตามอยู่ด้านหลัง
“ผู้หญิงพวกนี้ไม่ธรรมดาเลยนี่” เย่ฮั่วถามแบบไม่ใส่ใจ
“ท่านผู้สูงส่ง โปรดจงวางใจว่าพวกเธอสามารถสู้กับพลังงานลบที่ถูกปล่อยออกมาได้” เลี่ยกูพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
เว่ยชางหัวเราะเบาๆ “ถังน้อยยังไม่ขนาดที่สามารถควบคุมพลังได้ แต่เธอก็พยายามฝึกอยู่เพื่อให้เป็นผู้เก่งกาจในอนาคต”
“พวกนายทำได้ไม่เลว แน่นอนเลยว่าในอนาคตต้องมีคนพึ่งพาพลังนี้แน่ เพราะฉะนั้นก็ฝึกฝนให้ดีล่ะ”
“ขอรับ!”
รถคาเยนรุ่นท็อป 2 คันจอดอยู่ด้านนอก แน่นอนว่าชิงหยาไม่ได้เป็นคนขับ เธอนั่งอยู่ด้านหลังกับเย่ฮั่ว เว่ยชางเป็นคนขับส่วนเลี่ยกูเป็นผู้ช่วยอีกที และเมดสาวทั้งส 4 คนนั้นอยู่ที่รถคันแรก เป็นการแบ่งงานกันที่พอจะยอมรับได้ล่ะมั้ง
เลี่ยกูส่งข้อความไปหาสาวๆของเขาหลังจากที่ขึ้นรถกันหมดแล้ว เพื่อให้พวกเธอไปถึงก่อนและทำความสะอาดที่พักซะ งานนี้จะต้องไม่ทำให้ท่านผู้สูงส่งเกิดความวุ่นวายเด็ดขาด
หลังจากที่ได้รับข้อความ พวกเธอก็บอกต่อกันเอง “โบนโบนบอกให้พวกเราไปก่อนแล้วก็ฝากจัดการพื้นที่ให้ด้วยน่ะ”
ฮาเซี่ยนั้นคือผู้หญิงผมสั้นคนเดียวในหมู่สาวๆทั้ง 4 นี้ เธอดูเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณที่กล้าหาญ และนั่นทำให้เธอดูหล่อเหลา เธอนับเป็นผู้หญิงหล่อที่มีร่างกายสุดฮ็อตเลยก็ว่าได้ เลี่ยกูนี่ดีจริงๆ ที่สามารถหาผู้หญิงเช่นนี้ได้
นั่งอยู่ด้านหลังของเชียวเซี่ยคือ ไป๋เสี่ยวเฉิน สตรีผู้เป็นหนึ่งเรื่องความน่ารักและความงาม ใบหน้าทรงไข่หงดูแล้วสบายตาสุดๆ ท่าทีที่เหมือนเขินอายหน่อยๆตลอดเวลาของเธอทำให้คนหลงไหล ถ้าเทียบกับถังเว่ยแล้วไม่ต้องพูดเลย เธอนั้นยังเป็นสาวบริสุทธิ์ อาจจะเป็นเพราะเธอไม่ค่อยคุ้นเคยกับเหตุการณ์แบบนี้ก็ได้ การที่ได้เห็น 3 ดาราดังเข้ามามันเลยทำให้เธอเกิดอาการประหม่าเล็กน้อย
“ทำความสะอาดพื้นที่เหรอ!” อาเซี่ยขึ้นเสียงก่อนที่เท้าจะบรรเหยียบคันแร่งลงไป คาเยนคันแรกพุ่งตัวออกไปราวกับหัวศรที่มีจุดหมาย
ถังเว่ยรีบหาที่จับในทันที เธอรู้สึกหวาดกลัวเพราะคนเหล่านี้ไม่เห็นเหมือนในทีวีเลย…
ในตอนแรกเธอนั้นกังวลมากๆ ลุงเว่ยบอกให้เธอไปเป็นเด็กเสิร์ฟให้นายท่าน แต่กระนั้นเธอก็ยังแฝงด้วยความรู้สึกเปี่ยมสุข ถึงจะต้องโดดเดี่ยวนิดหน่อย นั่นทำให้เธอเกิดกังวล กังวลว่าจะทำอะไรผิดพลาด
หลังจากได้ยินว่าจะมีมาอีก 3 คนมันก็ทำให้เธอคลายกังวลได้นิดหน่อย แต่เมื่อเจอทั้ง 3 คนเมื่อเช้านี้แล้ว ถังเว่ยนั้นเซอร์ไพรส์สุดๆเลย นี่มันไม่ธรรมดาแล้วค๊าาาาาา!
ฉันแอบถามลุงเว่ยไว้ ว่าทั้งสามเป็นใคร และคำตอบก็คือ ทั้งสามเป็นเพื่อนของเพื่อนลุงเว่ยอีกที ฟังดูน่าปวดหัวจริงๆ
แต่ดูท่าทีของทั้งสามแล้ว ดูท่าว่าพวกเธอจะหงุดหงิดตัวเองมากกว่าที่เธอเป็นซะอีก…
“สวัสดี ฉันชื่อ ไป๋ เสี่ยวเฉิน ยินดีที่ได้รู้จักนะจ้ะ”
เมื่อกำลังคิดจะแนะนำตัว ไป๋ เสี่ยวเฉินที่อยู่รอบตัวก็เป็นฝ่ายชิงทักทายก่อนด้วยความเขินอายน้อยๆบนใบหน้าของเธอ
ถังเว่ยร้องออกมาด้วยความเซอร์ไพรส์และรีบตอบรับไป๋ในทันที “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อถังเว่ย”
“โบนนี่บอกว่าเธอเป็นแฟนของลุงเว่ยสินะ?” ไป๋ เสี่ยวเฉินพูดด้วยโทนต่ำลงนิดหน่อย ถึงแม้จะพูดกับเด็กสาว เธอก็ยังพูดด้วยความเขินอายและโค้งหัวให้ตลอด
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะวงการบันเทิงนั้นแหละ มีคนมากมายนับไม่ถ้วน เมื่อต้องพบกับแฟนคลับผู้ชาย เธอต้องแสดงให้เห็นถึงด้านที่ดูน่ารักน่ากอด เพื่อที่จะให้เขายอมเททั้งเงินทั้งใจให้เธอในทันที
เลี่ยกูเองก็ชอบแบบนี้เช่นกัน ถึงตายก็ยอม