You Cannot Afford To Offend My Woman ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ! - ตอนที่ 144
บทที่ 144 แม้แต่ความตายก็ยังจะเอารัดเอาเปรียบฉันงั้นเหรอ!
“เคี๊ยะ เคี๊ยะ เคี๊ยะ…”
แปลอย่างเป็นทางการได้ว่า “เจ้าต้องชดใช้กับสิ่งนี้”
ผู้วิเศษแห่งความตายหยิบมือถือขึ้นมาและแตะไปที่จอ ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าเงินในบัญชีนั้นไม่พอแล้ว
ฟ่างผู้ที่ถูกจับตัวมานั้นให้เงินเขาไป 500 ตั้งแต่ 2 ชั่วโมงก่อน ไอ้ผีกินเงินอย่างแกน่ะ รีบๆตายไปซักที!
ในเวลานี้ฉันทิ้งสำนักและไม่ได้พกเงินมาเลย นั่นเพราะเคียดแค้น แต่ก็ยังดีที่มีติดตัวมาบ้างนิดหน่อย
เขามองหญิงสาวบนโซฟาที่ไม่ได้ตอบสนองอะไรจึงพิมพ์ลงไปในมือถือ
“ข้าไม่ไปไหนถ้าไม่มีเงิน”
นี่มันภัยคุกคามระดับร้ายแรงแล้วนะ!
เธอปฏิเสธผู้มีความสามารถหนุ่มมากๆ หนำซ้ำยังไม่แคร์พวกเขาเสียด้วยซ้ำ แต่นี่เธอต้องขอร้องให้เจ้ากระดูกนี่อยู่กับเธอ นี่มันผลกรรมอะไรเนี่ย!
เธอวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะและตะโกนอย่างเยือกเย็น “ให้เร็วเลย!”
ผู้วิเศษแห่งความตายนั้นไม่ใช่คนสุภาพมาตั้งแต่ต้นแล้ว เขาหยิบโทรศัพท์มาจัดการโอนเงินด้วยตนเอง จากนั้นก็ทำท่าเหมือนจะไป แต่ไม่ไป และไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ฟ่างนั้นโกรธจัดมากๆ เธอหยิบดาบของตนและพุ่งเข้าโจมตีที่หัวของผู้วิเศษแห่งความตายจังๆ ถึงมันจะมีกระอักเลือดออกมานิดหน่อยหากแต่ไม่มีอะไรถูกตัดขาดทั้งสิ้น แม้แต่ผ้าคลุมดำด้วย
เขาส่งโทรศัพท์กลับมาให้เธอ
และเมื่อเธอเช็คเงินที่เหลือในบัตรก็พบว่ามันเหลือเพียงแค่ 1 ในเวลาอันรวดเร็ว!!
ฟ่างหยิบโทรศัพท์ของผู้วิเศษแห่งความตายขึ้นมาทันทีและเห็นเหรียญทอง 1 โหลเท่านั้น เร็วอะไรขนาดนี้เนี่ย!!
ฟ่างดันหน้าผากของเขาไว้ไม่ให้นั่งที่โซฟาก่อนจะฟาดดาบลงไปไม่ยั้งเลย “เจ้าบ้า! ยัยแก่นี่มันแฮ็คข้อมูลของนายอยู่ นี่เอาเงินฉันไปเล่นแล้วยังหมดขนาดนี้อีก! ถึงนายจะไม่ต้องกินแต่ฉันต้องกินต้องอยู่นะ!! ไปตายซะ ฮ้ากกกกกกกกกกกกก!!”
ปิ้วปิ้วปิ้ว…
ฟ่าง “…”
มองซิการ์ที่อยู่บนโต๊ะด้วยหางตา เธอหยิบ 1 อันแล้วเดินเข้าไปในตัว จากนั้นก็หยิบเอาขวดสีฟ้าออกมาจากกระเป๋าหลัง
ปิติสุดๆ!!
นี่คือยาพิษในรูปแบบผง มันสามารถใส่ลงไปในน้ำดื่มหรือไม่ก็เผาให้เกิดเป็นควันในอาการ เป็นสิ่งที่ควรมีเวลาจะใช้ฆ่าคน มันเป็นความภาคภูมิใจขั้นสูงสุด ไม่ใช่สิ่งที่สูญเปล่าสำหรับเธอจริงๆ และไม่มีวันเป็นด้วย!!!
เธอใส่มันเข้าไปในซิการ์
ดูดมันให้ชุ่มปอดเน่าๆไปเลยเจ้าโง่!!!
หลังจากเสร็จแล้วเธอก็สูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะเดินออกจากห้องครัว
ภาพตรงหน้าของเธอคือผู้วิเศษแห่งความตายที่กำลังเล่นเกมอยู่ เธอเดินเข้าไปช้าๆและยื่นซิการ์ให้
เขาไม่ได้มองและหยิบเอาซิการ์จากมือของเธอไป
ผู้วิเศษแห่งความตายทำท่าเหมือนจะหาไฟจุดนั่นทำให้ฟ่างถอนหายใจอย่างโล่งอกและใจเย็นลง
เธอหยิบไฟแช็คและจุดให้เขา
หญิงแห่งฟากใต้คนนี้แหละจะเผาร่างกระดูกของแกเอง! ในเมื่อฉันจะตาย ฉันก็จะต้องตายให้ได้ และแกก็จะต้องตายด้วย!!!
ผู้วิเศษแห่งความตายสูดหายใจเข้าไปเต็มปอด
ไม่มีควันใดๆออกมาจากปากเพราะมันออกมาจากลำตัวหมดแล้ว
สายตามองควันที่ลอยขึ้นสูง ฟ่างก็คิดอะไรได้ก่อนจะปิดจมูกแล้ววิ่งไปที่หน้าต่าง เธอเปิดหน้าต่างออกกว้างและสูดหายใจเข้าลึกๆและนั่นทำให้เขาแปลกใจนิดหน่อย
“เคี๊ยะ เคี๊ยะ เคี๊ยะ…”
แปลอย่างเป็นทางการได้ว่า “กลิ่นหอมที่แท้จริง”
แค่ก แค่ก แค่ก!! ฟ่างที่อยู่บริเวณหน้าต่างนั้นรับผลของพิษไปบ้างแล้ว เธอรีบหันกลับมามองไปยังเขา
ร่างกระดูกนั้นดูไม่ได้เป็นอะไรทั้งสิ้น เขายังคงนั่งเล่นเกมอยู่แต่กลับกันคนที่เป็นกลับเป็นเธอ
ลืมคิดไปเลยว่าอีกฝ่ายเป็นกระดูกทั้งร่าง… ผลลัพธ์นั้นคือเธอกำลังจะตายต่อหน้าศัตรูของเธอ พิษนั้นแรงขึ้นเรื่อยๆแล้ว เธอ…วางยาพิษตนเอง!!!
พระเจ้า นี่ฉันทำอะไรผิดพลาดอีกเนี่ย ทำไมเรื่องแบบนี้ถึงต้องเกิดกับฉันนะ
ผู้วิเศาแห่งความตายเหลือบมองไปยังหญิงสาวที่อยู่บริเวณหน้าต่างก่อนจะคิดว่าทำไมเธอช่างขี้เหนียวขนาดนี้ ใช้เงินนิดใช้เงินหน่อยก็จะขู่ฆ่าตัวตายแล้วเหรอ
ฟ่างนั้นกำลังจะตายจริงๆขณะที่ได้แต่มองเขา และต่อให้เธอตาย เธอก็จะต้องฆ่าเขาให้ได้แม้จะเป็นผีก็ตาม!!
เขาหายใจอย่างไร้พลังก่อนที่จะยิงหมอกสีดำเข้าไปยังร่างนั้น
ฟ่างเยาะเย้ยด้วยนัยน์ตาเย้ยหยั่น ไม่ต้องทำแบบนี้ฉันก็ตาย! จำไว้ซะว่าคนอย่างฉัน ต่อให้ตัวตายแต่วิญญาณจะไม่ปล่อยนายไปแน่!!
ในจังหวะที่เธอคิดว่าต้องตายไปแล้ว ฟ่างรู้สึกได้ว่าเธอหายใจง่ายขึ้น เท้าก็ไม่ได้ชาแล้ว มือก็กลับมาปกติ ทุกๆอย่างกลับมาเป็นปกติ
ทำไม!
ทำไมแม้แต่ความตายก็ยังเอาเปรียบฉัน!!
ฟ่างกระโจนขึ้นไปบนโซฟาพร้อมทั้งร้องไห้ออกมา มันดูน่าสงสารและช่วยอะไรไม่ได้เลย
ปิ้วปิ้วปิ้ว…
ดูท่าว่าสำหรับเขา บนโลกนี้ไม่มีอะไรสำคัญกว่าการพนันนี่แล้ว
มุมหนึ่งของน้ำตก
เลี่ยกูก็ยังไม่กลับมา
ชิงหยาที่หน้าแดงนั้นนั่งโยนหินลงน้ำอยู่อย่างนั้น ซึ่งมันทำให้ปลาน้อยใหญ่ต่างพากันตกใจ ยัยตัวปัญหานี่…
ความจริงแล้วเธอมักจะมองเย่ฮั่วตลอด หัวใจของเธอมันเต้นแรง เจ้าบ้านั่นชอบที่จะใช้คำพูดหลอกลวง ตอนนี้ก็ด้วย สาบานเลย!
อ๊ะ! จริงสิ ทำไมไม่ถามเจ้าตัวไปเลยล่ะ…ไม่ ฉันต้องถามให้ชัดเจน ฉันจะวิ่งหนีไม่ได้
ชิงหยาที่หน้าแดงนั้นเดินกลับไปและดึงเย่ฮั่วกลับไปใกล้ๆเต้นท์
ผู้คนที่มองอยู่ด้านนอกนั้นต่างพากันงุนงง ดูท่าภรรยาบอสจะไม่ดีเอาซะแล้ว
เย่ฮั่วดูชิงหยาที่เหมือนจะเร่งเร้ามากๆ เขาค่อยๆคลี่ยิ้มอ่อนๆออกมา “เป็นอะไรไป? รอถึงตอนเย็นก่อนไม่ได้รึไง?”
“อยากจะถามอะไรหน่อย” ชิงหยาพูดอย่างจริงจัง
“เข้ามาในอ้อมแขนนี่ก่อน”
“จริงจังหน่อยสิ!”
“อยากจะกอดความรู้สึกของเธอไว้”
ชิงหยาไม่ได้เปิดใจให้ชายคนนี้ ณ ตอนนี้ เขาจะรู้ตัวหรือเปล่าว่าอะไรทำให้มีความสุข
แต่พอได้ยินเย่ฮั่วพูดแบบนั้น ชิงหยาก็รู้สึกดีขึ้นมา เธอเคลื่อนตัวเข้าไปซบเขาในอ้อมกอดนั้น
และเย่ฮั่วเองก็จับพิรุธหญิงสาวในอ้อมแขนได้นิดหน่อยก่อนจะลูบผมเธอเบาๆจากโคนจรดปลาย ช่างนุ่มสบายเหลือเกิน
“ไม่อยากถ่ายรูปแต่งงานแล้วเหรอ? เลือกวันมา” เย่ฮั่วพูดแบบไม่ใส่ใจ
ชิงหยายิ้มและเป็นยิ้มที่สวยเป็นพิเศษด้วย เธอพูดเสียงหวาน “แล้วก็อย่ามาเสียใจทีหลังล่ะ”
“หน้าฉันเหมือนคนที่จะเสียใจกับอะไรแบบนี้เหรอ?”
“อวดเก่งอีกแล้ว”
เย่ฮั่วดีดหน้าผากชิงหยาไปทีนึง
“แล้วจะแกล้งฉันทำไมอีกเนี่ย?”
“ชอบ”
ชิงหยาลูบหน้าผากตัวเองเบาๆก่อนจะถามจริงจังอีก “ถามอะไรหน่อยได้มั้ย?”
“พูดมา”
“นายกำลังหนีอะไรอยู่หรือเปล่า?” ชิงหยาถามด้วยความกังวลขณะมองหน้าเย่ฮั่ว
เย่ฮั่วที่ถูกถามคำถามโดยชิงหยาก็เกิดขำขึ้นมาในใจ เทวทูตถูกตามล่า? ตลกไปใหญ่แล้ว
แต่ดูชิงหยากังวลเขาก็ตัดสินใจแกล้งเธอเสียหน่อย
ทันใดนั้นเย่ฮั่วก็มองต่ำลง ชิงหยารับรู้ได้ว่าความรู้สึกของเย่ฮั่วนั้นเปลี่ยนไป อ่า ท่าทางเธอจะคิดถูกสินะ
“เย่ฮั่ว อย่าทำให้ฉันกลัวสิ”
เย่ฮั่วถอนหายใจหนัก “ชิงหยา ยังมีเวลาที่จะหนีนะ”
เมื่อได้ยินเย่ฮั่วพูดแบบนั้น นัยน์ตางามของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดงโดยพลัด เธอกอดเอวของเขาไว้ “ฉันไม่ไป”
เคี๊ยะ เคี๊ยะ เคี๊ยะ… เทวทูตรู้ว่าหัวใจของเธอน่ะอ่อนไหวต่อวิธีการแบบนี้
“ให้กำเนิดเด็ก” เย่ฮั่วพูดย้ำ
ชิงหยานั้นเริ่มร้องไห้แล้ว “เย่ฮัว หนีกันเถอะ ฉันจะขายบริษัท จากนั้นเราน่าจะมีเงินมากพอที่จะใช้ด้วยกันนะ”
เย่ฮั่วตกตลึงมากเพราะเขารู้ว่าบริษัทของชิงหยานั้นสำคัญต่อเธอขนาดไหน แล้วตอนนี้เธอบอกจะขายเพื่อเขาเนี่ยนะ!
เขากอดเธอไว้และพูดอย่างไม่แคร์ “แล้วพวกเราจะไปไหน?”
“ที่ไหนก็ได้ที่นายไป”
“ศัตรูของฉันคงยากที่จะรับมือ และพวกมันจะเจอเราในไม่ช้านะ” เย่ฮั่วยังคงไม่หายตกตะลึง เป็นผู้หญิงที่บ้าบิ่นจริงๆนั่นแหละ