You Cannot Afford To Offend My Woman ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ! - ตอนที่ 146
บทที่ 146 เทพบรรพกาลปรากฏแล้ว!
ณ ด้านของน้ำตก
เลี่ยกูก็ยังไม่กลับมา…
เย่ฮั่วและชิงหยานั้นต่างคนต่างหน้าแดง ทั้งคู่พากันเดินออกจากเต้นท์ ชิงหยามองไปยังเหล่าใบหน้าสวยๆของเขาแล้วก็ต้องตกใจ
เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้วไม่ใช่หรือไง ทำไมเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นอย่างนี้นะ?
“ร่างกายนี่มันแย่ขึ้นเรื่อยๆเลยแฮะ” เย่ฮั่วพูดพร้อมรอยยิ้มก่อนจะตรงไปตกปลา
ชิงหยาคิดจะแกล้งเย่ฮั่ว เธออาจจะต้องตกน้ำก็ได้แต่ก็หวังว่าพระเจ้าคงจะบั่นทอนกำลังเขาไว้บ้าง เพราะงั้นแหละ จะเตะก้นให้รู้แล้วรู้รอดเลยว่าฉันเองก็แข็งแกร่งนะ!
มองไปยังท่านผู้สูงส่ง เว่ยชางเองก็มีความสุขมากๆ นั่นก็เพราะว่าท่านผู้สูงส่งนั้นเข้าใกล้ความเป็นมนุษย์ขึ้นเรื่อยๆแล้ว
“ท่านผู้สูงส่ง ได้ใจเธอแล้วสินะครับ”
“ก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรนี่” เย่ฮั่วหยิบเบ็ดยกปลาขึ้นมาแล้วพูดแนวๆว่าชิงหยาก็ไม่ได้ยากอะไร
“อะไรไม่ยากนะ?” ชิงหยาเอ่ยถาม เว่ยชางหันหน้ากลับไปส่ายหน้าไปมาพลางบอกว่าตนไม่รู้เรื่อง
เย่ฮั่วที่กำลังง่วนกับการจัดการเบ็ดตกปลาก็เอ่ยขึ้นอย่างเบาๆ “ตกปลาเนี่ย ไม่ยาก”
ชิงหยาเหลือบมองไปยังถังใส่ปลาข้างๆเย่ฮั่ว “ไม่ยากจริงเหรอ?”
แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าไม่มีปลาติดเบ็ดมาเลย!
ไม่ใช่เพียงเลี่ยกูที่จับอะไรไม่ได้ แต่เย่ฮั่วผู้เป็นนายเหนือหัวเองก็จับอะไรไม่ได้เลยเช่นกัน สมแล้วที่เป็นลูกน้อง ยังดีที่เว่ยชางดูจะไว้ใจได้บาง เขามีปลาเยอะจนนับไม่ถ้วนแล้วก็ยังมีปลาใหญ่อยู่บ้างให้เห็นประปราย
“เอาปลามานี่” ชิงหยากล่าว
เย่ฮั่วยังคงง่วนกับการตกปลาอยู่ เขาตรวจดูเบ็ดอีกครั้ง
ทักษะการห้อยเหยื่อนั้นต่อให้ปลาตาบอดก็ยังรู้ว่ามันเป็นเหยื่อ
“ดูซิว่าฉันเห็นอะไร พ่อหนุ่มที่ไม่เคยตกปลา” ชิงหยาหรี่ตามองเย่ฮั่ว
“หนักหัวเธอรึไง?”
“สู้ป่ะล่ะ มาพนันกันเลย!” ชิงหยานั้นมั่นใจในตัวเองมากๆ
“พูดแล้วนะ”
“ใช่! ใครก็ตามที่แพ้ จะต้องซื้ออาหารเช้าให้ 1 อาทิตย์!” ชิงหยาตั้งข้อตกลงและยิ้มแก้มปริ ความมั่นใจล้นไปหมด
“ย่อมได้!”
ยัยโง่นี่คงคิดว่าจะชนะสินะ หึ ไม่รู้ซะแล้วว่าถ้าเทวทูตอยากจะชนะบ้าง มันไม่ใช่เรื่องยากเลย เพียงแค่ขยับมือและเท้านิดหน่อยก็พอ
เว่ยชางอ้าปากเหวอ ท่านผู้สูงส่งต้องกำลังพยายามจะโกงนายหญิงแน่ๆ และเขาคงจะชนะแน่นอน เพราะงั้นแล้วก็รู้เลยว่าใครจะต้องเป็นคนซื้ออาหารเช้า
ท่านผู้สูงส่งช่างชาญฉลาด ทุกการกระทำย่อมโกยผลประโยชน์เข้าตัวเองได้มากมายไปหมด ทุกประโยคที่พูดไปนั้นมีหลักการและเหตุผลสุดๆ ดูท่าจะแกร่งขึ้นอีกแล้วสินะครับ!
หลังจากผ่านไปพักใหญ่
“ไม่ได้ปลาเลย! นายโกงฉัน!!” ชิงหยาหันมาโวยวาย
“ถ้าเธอแพ้ก็คือเธอแพ้” เย่ฮั่วพูดแบบไม่ใส่ใจ
ดูท่าทีเขาแล้วชิงหยาก็พูดแบบไม่ได้โกรธอะไร “ก็ไม่อยากจะชี้โพรงให้กระรอกหรอกนะ แต่ถ้าจะโกงครั้งต่อไปก็ช่วยหัดดูความพอดิบพอดีบ้างได้มั้ย!”
“พอดิบพอดี?”
“เออสิยะ! แหกตาดูถังของนายด้วย เช้านี้ยังตกไม่ได้อะไรแท้ๆ แล้วนี่พอฉักตกปลามาซักครึ่งชั่วโมงก็มีปลามาซะงั้น! จะโกงชัดเจนไปแล้วนะ ควบคุมจำนวนด้วย ถ้านายโกงแค่นิดๆหน่อยๆให้จำนวนมันต่างกันเล็กน้อยก็ไม่มีใครจับได้หรอก ตาทึ่ม!” ชิงหยายกมือเขกหน้าผากเย่ฮั่วแรง
เย่ฮั่วเริ่มกังวลขึ้นมาแล้ว นั่นเพราะว่าปัญหานี้เคยเกิดมาตั้งแต่ยุคของพวก 7 บาปแล้ว แต่ก็คิดแก้ไม่ตก แต่มันกลับโดนมองออกและชี้ทางแก้ได้โดยชิงหยา
นี่มันนับเป็นพฤติกรรมของพวกขี้ขลาดที่คนฉลาดไม่ควรจะทำอีก
เขายื่นมือออกไปและหยิกแก้มน้อยๆของชิงหยา “ก็ได้ เดี๋ยวฉันเป็นฝ่ายซื้อให้”
“หืม…โอ้ แล้วก็นี่ด้วย คลายเวทย์มนต์ซะ ฉันต้องตกปลา” ชิงหยาฮัมเพลงด้วยรอยยิ้ม เธอรู้สึกว่าอย่างน้อยๆเย่ฮั่วก็ดีขึ้นมาบ้างแล้ว
หลังจากผ่านมาอีกพักใหญ่ๆ เย่ฮั่วค่อยเอ่ยขึ้นอีก “บางทีความพยายามก็ไม่ได้ทำให้ผลมันเปลี่ยนไปจากเดิมหรอกนะ”
“นาย! นายโกงฉันอีกแล้วใช่มั้ย!!”
“ขอเหตุผลด้วย” เย่ฮั่วจุดบุหรี่สูบแบบไม่แคร์
ชิงหยาค่อยๆหายใจ “นายกำลังเล่นตลกอะไรอยู่ฮะ”
“ไม่ได้เบื่อจะเล่นตลกอะไร”
เย่ฮั่วชี้นิ้วลงไปที่น้ำก่อนจะขยับนิดหน่อยเจ้าปลาน้อยใหญ่ก็พากันว่ายน้ำต่อ
โอเค เย่ฮั่วของฉัน ฉันล่ะเบื่อนายจริงๆ
เว่ยชางผู้ดูอยู่ข้างๆตลอด เขาจดจำทุกการกระทำของท่านผู้สูงส่งไว้ทั้งหมด เขาอยากจะเซอร์ไพรส์และเข้าใจมนุษย์ให้มากขึ้น รู้สึกได้เลยว่าถ้าทำตามท่านผู้สูงส่ง เขาและถังน้อยจะต้องประพฤติตนในทางที่ถูกต้องแน่ๆ
“นายท่าน ข้ากลับมาแล้ว~”
เลี่ยกูเดินออกมาจากป่าพร้อมกับอาเซี่ยที่ไม่ได้สติก่อนจะพาเธอไปในเตนท์และวิ่งออกมาหาปลา
หลังจากนั่งอยู่พักใหญ่ เลี่ยกูก็รู้สึกได้ว่าบรรยากาศรอบๆตัวมันแปลกไปจึงได้ถามออกมา “เกิดอะไรขึ้นอ่ะ?”
“เจ้าหายไปอยู่ไหนมาหลายชั่วโมง?” เว่ยชางเอ่ยถาม
“ก้ไม่ได้ไปนานนี่ ไม่กี่ชั่วโมงเอง” เลี่ยกูตอบอย่างไม่สนใจอะไรราวกับหายไปแปปเดียวจริงๆ
เย่ฮั่วหันไปมองทางชิงหยาและชิงหยาเองก็เหมือนจะรู้ว่าเย่ฮั่วคิดอะไร เธอกำหมัดแน่นและต่อยเข้าไปทันที
ไป๋ เสี่ยวเฉินตามเข้าไปในเตนท์และดูอาการบาดเจ็บของอาเซี่ย ในขณะที่ยี่หรานส่งสายตาให้ถังเว่ย
“ถังน้อย ดูนี่ไว้ก่อนนะ เดี๋ยวฉันกลับมา” ยี่หรานพูดอย่างหนักแน่น
“โอเคค่ะพี่ยี่หราน”
ยี่หรานหายไปตามที่เธอพูด นั่นก็เพราะว่ารู้สึกว่ามีปลาบางตัวที่กำลังรบกวนการพักผ่อนของนายท่านอยู่
หลังจากผ่านไปไม่นานยี่หรานก็กลับมาและผมของเธอก็ดูแปลกตาไปนิดหน่อย
เย่ฮั่วและคนอื่นๆส่งรู้สึกถึงเลี่ยกูและเว่ยชาง “ทำออกมาได้แย่เอาการเลยนะ”
“ขอบคุณสำหรับคำติชมครับ”
“ขอบคุณสำหรับคำติชมครับ”
ชิงหยารู้สึกสับสน เธอไม่เข้าใจว่าพวกเขากำลังพูดอะไร กระซิบอยู่เหรอ?
ท้องฟ้าค่อยๆย่างเข้าสู่ยามเย็น ทุกคนต่างพากันนั่งและเริ่มรับประทานอาหารของตนก่อนที่เย่ฮั่วจะยืนขึ้นและยกแก้วขึ้นตาม
ไม่มีใครกล้าที่จะเมินเฉย ทันใดนั้นพวกเขาก็ลุกแน่นอนว่ารวมถึง 4 เมดส์สาวด้วย โดยเฉพาะอาเซี่ยที่ดูจะอายๆอยู่ไม่น้อย ใบหน้าแดงๆนั้นดูชัดเจนดีจังเลย
เย่ฮั่วพูดแบบเรื่อยเปื่อย “ฉันไม่ได้ออกมาข้างนอกนานแล้ว และฉันมีความสุขมากๆในตอนนี้ เชียร์!”
“ความสุขของนายท่านคือความสุขของพวกเรา!” นอกจากชิงหยาแล้วทุกคนก็ตะโกนเป็นเสียงเดียวกัน
ฉันทำให้ชิงหยารู้สึกเป็นคนนอกหรือเปล่านะ
หลังจากที่นั่งลง เย่ฮั่วก็พูดกับชิงหยา “เธอไม่กระตือรือร้นอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับสิ่งที่เรียกว่าโลกแห่งวัฒนธรรมหน่อยเหรอ? แสดงออกมาให้เห็นหน่อยซี่”
ระหว่างรอชิงหยาตอบ เย่ฮั่วก็โบกมือก่อนจะเกิดแสงสีฟ้าขึ้นมาเหนือโต๊ะ มันเป็นภาพเหมือนโฮโลแกรม ที่ซึ่งมีผู้คนมากมายอยู่ในนั้น คนเหล่านั้นล้วนอยู่ในท่าทีตื่นเต้น
เย่ฮั่วพูด “ทุกคน กินแล้วก็ดูไปด้วย”
ชิงหยามองไปที่สิ่งนั้นจนลืมกินไปเลย
เย่ฮั่วเองก็ไม่ได้หยุดมัน นี่คือช่วงเวลาที่ชิงหยาจะได้เรียนรู้ แต่เหมือนจะมาช้าไปหรือเปล่า กลัวว่าเธอจะยอมรับไม่ได้จังเลย
แต่อย่างไรก็ตาม นอกจากชิงหยาแล้วทั้งถังเว่ยเองก็ดูจะให้ความสนใจมันอยู่ อีก 3 สาวเองก็ด้วย พวกเธอกินไปดูไปโดยไม่ขัดข้องเลย
ทั้งสามหน่อ เย่ฮั่ว เว่ยชาง และเลี่ยกูนั้นไม่ได้กังวลอยู่แล้ว บางทีเจ้ากระดูกทั้งสามนี่อาจจะปรากฏตัวเพื่อให้ทั้งสามคนนี้ได้ดูมันก็ได้
ไกลจากที่ๆพวกเขาอยู่กว่า 20 กิโลเมตร จุดที่ภูเขานั้นราบเรียบ มันเต็มไปด้วยการขุดค้นมากมาย และหลุมที่ใหญ่ที่สุดก็มีเส้นผ่าศูนย์กลางไม่ต่ำกว่า 20 เมตร มันถูกขุดทิ้งไว้อยู่ตรงกลาง บนพื้นดินนั้นเตรียมเครื่องมือสำหรับลงจอดเต็มไปหมด มีสมบัติมากมายถูกแพ็คขึ้นมาจากด้านล่าง
เหล่าผู้ที่ยืนอยู่รอบๆปากหลุมขนาดใหญ่นั้นประกอบด้วย หวังต้าเป่า , โจว ซิงหราน, เซี่ยนเซิน, กวนเทียนโรด ส่วนคนอื่นๆก็มีไฮ ไต้ซี่, เจ้อชี่ซวน, หยางเชา, ไกเจิง, และเจ้าสำนักเมฆาคนใหม่ น้องสาวผู้ตามหาพี่สาวนั่นเอง
พวกเขาทั้งหมดต่างต้องการพลังของเทพบรรพกาล และไม่ได้สนใจสมบัติเหล่านั้นซักเท่าไหร่
“ออกมาๆ ออกมาเร็ว!”
เหล่าคนในถ้ำต่างได้แต่เชียร์ หัวใจของพวกเขาทุกคนต่างเบิกบานและตื่นเต้นพร้อมๆกันในเวลานี้ เทพบรรพกาลคราวนี้จะเป็นอะไรนะ! ดาบเหรอ? หรือว่าเกราะ? หรือว่าจะเป็นอุปกรณ์เวทย์มนต์?
เมื่อพวกเขาเห็นหยกสีขาวที่ถูกผนึกไว้ ทุกคนต่างพากันกังวลเพราะมันทรงพลังมาก ลมปราณมันซัดรุนแรงอยู่ภายในนั้น แน่นอนว่าเทพบรรพกาลต้องอยู่ด้านในแน่ๆ!