You Cannot Afford To Offend My Woman ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ! - ตอนที่ 147
บทที่ 147 ผู้หญิงคนนี้ช่างร้ายกาจ!
นักธุรกิจผู้ร่ำรวยแห่งหลงอัน หยูหยูซี่ พูด “ท่านเจ้าแห่งท้องทะเล ท่านเห็นมันหรือเปล่า?”
“หยู่ซี่ นายเอาสมบัติพวกนี้ไปก่อนเถอะ” ไฮ่ไต่ซี่มองไปยังหยกสีขาวราวกับเขาได้เทพบรรพกาลชิ้นนี้มาครอบครองแล้ว โลกแห่งพลังนั้นยังไงก็ยังต้องยำเกรงโลกแห่งวัฒนธรรมอยู่ดีนั่นแหละ!
ไฮ่ไต่ซี่ดูเหมือนว่าตั้งใจจะเป็นใหญ่ในโลกแห่งพลัง
และ หยู่หยู่ซี่ก็รีบออกไปพร้อมกับเหล่านักธุรกิจที่ร่ำรวยคนอื่นอีกนิดหน่อย ที่นี่นั้นมีไว้เพื่อต่อสู้และคนธรรมดาควรรีบออกไปแต่โดยเร็ว
พวกเขาควรรีบที่จะยอมแพ้และหนีแต่ในเวลานี้มันมีคนจำวนมากไม่ว่าจะเป็นบนพื้นหรือในอากาศ พวกเขายืนอยู่ด้านหลังเจ้านายของพวกเขาเอง และยังมีคนอีกนับหมื่นที่ล้อมรอบหยกขาวนั้นไว้ ดูท่าว่าสงครามเริ่มจะประทุขึ้นมาทุกทีแล้ว!
หวังต้าเป่ายืนมองด้วยรอยยิ้ม “เราจะแบ่งพลังของเทพบรรพกาลชิ้นนี้ยังไงดีล่ะ?”
“แน่นอนว่าฉันตัดมันไม่ได้นะ” โจวทิ้งความหวังโดยไม่แคร์อะไร
เจ้าแห่งพาวิลเลี่ยนหัวเราะเสียงดัง “ถ้าจะไม่ใช้กรรไกรตัดหินพวกนายก็ต้องไปวิจัยเพิ่มแล้วล่ะ”
“หึๆ ทำตัวเป็นเด็กน่า ฉันเข้าใจวิธีเล่นแลนลอร์ดแล้ว ซึ่งมันจะทำให้เราได้มาซึ่งชัยชนะง่ายๆเลย แต่เกรงว่าจะต้องเสียเลือดกันลงแม่น้ำเปล่าๆเนี่ยซี้” เจ้อซวนตะโกน
เจ้าสำนักเมฆาคนใหม่รีบปราม “อย่าใจร้อนน่า เป็นถึงเจ้าสำนักก็ควรจะรู้อยู่แล้วว่าเทพบรรพกาลน่ะเลือกผู้ใช้เอง เพราะงั้นแล้วคนที่ไม่มีสิทธิ์ก็คือไม่มีสิทธิ์นั่นแหละ”
เหล่าผู้สนับสนุนที่ยืนอยู่ตามพงหญ้าเยาะเย้ย “แล้วผู้หญิงที่หลับนอนกับผู้อาวุโสแทบทุกคนนี่มีคุณค่าขนาดไหนกันนะ”
ซินจ่าวหันไปหาพวกเขาและปรามอีก “สงบปากสงบคำเสียบ้าง!”
ผู้อาวุโสแห่งกวงเจี่ย กวนเทียนหลู่ พูดแบบไม่ใส่ใจ “ไม่มีเตียงของผู้อาวุโสแล้วก็ยังตื่นเช้าได้อีกเหรอ? เก่งจริงๆนะ”
“หยาบคาย! ท่านเจ้าสำนักท่านนี้ใช่ว่าจะพูดจาลามกใส่ได้นะ!“ เหล่าลูกศิษย์ของสำนักเมฆาต่างพากันตะโกนและชักดาบ
ซินจ่าวยี่ชูเผยร้อยยิ้มน้อยๆ “หากเป็นเมื่อ 2 เดือนก่อนคงพูดอะไรไม่ได้ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเหล่าสำนักเมฆาเองก็มีความคิดเป็นของตนเองแล้วเหมือนกัน ทุกคนต่างไว้วางใจฉันแล้ว!”
หวังตาเป่าสะบัดมือ “มานี่ โจมตีตรงนี้ครั้งหนึ่ง ถ้าสำเร็จสิ่งนี้ก็เป็นของเธอ”
เธอพยักหน้าก่อนจะโจมตีเข้าไปที่หยกสีขาวนั่นเพื่อจะได้มาซึ่งพลังของเทพบรรพกาล หากแต่มันก็ยังไม่แตกออกมา!
เมื่อเห็นดังนั้นกลุ่มอื่นก็เตรียมพร้อมที่จะเป็นฝ่ายเริ่มเกมบ้างเลย แต่ทันใดนั้นจู่ๆตรงพื้นที่ดังกล่าวก็เกิดมวลความมืดอันดำสนิทขึ้นมาก่อนที่จะปรากฏร่างของผู้วิเศษแห่งความตายขึ้นมา เขามาพร้อมเคียวและซิการ์ในปากพร้อมๆกับหญิงสาวที่กำลังเกาะอยู่บนตัวเขา
คนที่เห็นภาพนั้นต่างพากันตกใจและช็อคไปตามๆกัน
เธอที่พยายามจะฆ่าเขาให้ได้นั้นดูจะรุกรี้รุกรนมากๆเลย
1 นาทีก่อนหน้า
ณ ห้องเช่า
ผู้วิเศษแห่งความตายชาร์จโทรศัพท์เต็มแล้ว ในกรณีนี้ชาร์จให้ตายก็เต็มได้แค่แบตแต่เงินก็ยังร่อยหรอเหมือนเดิม ซิการ์พร้อมแล้ว อยู่ไปก็ไม่ได้อะไร ได้เวลาไปแล้ว!
แต่ก่อนจะไป คงต้องหาคำตอบก่อนว่าจะทำยังไงให้ยัยผู้หญิงบ้าคนนี้ตกหลุ่มร่างโครงกระดูกเดินไปเดินมาแบบนี้กันน่ะ
แต่ยังไงก็เถอะ…
ยังไม่ได้ลองหาด้วยตัวเองเลยแฮะ…
ไอ้วิธีที่จะเปลี่ยนร่างกระดูกนี่ให้กลายเป็นมนุษย์น่ะ…
อ่า นั่นคงไม่พอหรอก ยังมีอีกหลายปัญหาให้คิด และผู้วิเศษแห่งความตายก็ไม่ได้คิดว่ามันเหมาะกับเขาเสียเท่าไหร่ที่จะต้องมีเนื้อหนังนั่น
ฮีโร่ที่ช่วยสาวงามงั้นเหรอ? ไม่หรอก เธอน่าเกลียดเกินไป…
ไม่ต้องตััดสินใจให้ยุ่งยากเลย
“เคี๊ยะ เคี๊ยะ เคี๊ยะ…”
แปลอย่างเป็นทางการได้ว่า “ยัยผู้หญิงน่าเกลียด ลากสังขารขึ้นมาทำตัวหยิ่งยโสแบบปกติได้แล้ว”
ฟ่างที่ร้องไห้จนหลับไปลืมตาแดงตื่นขึ้นและลุกพรวดเข้าโจมตีเขาทันที
ผู้ใช้ลมปราณไม่ใช่ศัตรูของผู้วิเศษแห่งความตาย เพราะงั้นปล่อยไปดีกว่า
เขาไม่สนใจเธอและเรียกความมืดออกมาปกคลุมตนทันที
นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อนาทีก่อน
สาวงามแห่งฟากใต้กำลังนอนอยู่บนตัวของโครงกระดูกปากกล้า และมือของเธอยังทุบอกเขาอยู่ด้วย ภาพแบบนี้เกิดขึ้นมาได้ยังไงนะ
เหล่าคนทั้งพันที่อยู่ในพื้นที่ต่างพากันซุบซิบทันที
“ซิบๆๆๆ นั่นมันเจ้าสำนักเมฆาคนก่อนนี่ ทำเรื่องบัดสีบัดเถลิงอยู่ไม่ใช่รึไง ล้มลงไปนอนบนตัวเจ้าโครงกระดูกนั่นด้วยล่ะ”
“นั่นเหรอเจ้ากระดูก? ดูผู้หญิงที่กำลังร้องไห้นั่นสิ”
“อ๋า เจ้ใหญ่โดนเจ้ากระดูกเปิดฉากไปแล้วเหรอเนี่ย แถมน้องเล็กก็ยังโดนพวกผู้อาวุโสจัดการอีก สำนักเมฆาที่รังตัณหาหรือไงกันน่ะ”
“ใช่ๆ นั่นแหละเจ้าสำนักคนก่อน ได้ยินว่าถูกเผาไปแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะเป็นแบบนี้”
“ฮึ่ม นายรู้อะไรหรือเปล่า นี่น่ะเรียกว่า ผอมจนเหลือแต่กระดูกของจริงเลยนะ รู้มั้ยว่าเจ้าผ้าคลุมดำนั่นเป็นใคร? เจ้านั่นน่ะ คนที่อยู่ในศึกเสี่ยวเย่เลยนะ คิดเหรอว่าฟ่างจะคณามือมันน่ะ!”
“บ้าเอ้ย ถ้าเป็นเจ้านั่นล่ะก็ ผู้หญิงคนนี้ทำอะไรไม่ได้หรอก จะให้เป็นนักแสวงบุญสาวต่อไปก็คงไม่ได้ด้วย ซุบซิบซุบซิบ”
ใบหน้าสวยของฟ่างจากที่แก้มแดงระเรื่อค่อยๆจางลงกลายเป็นซีด แม้พวกเขาจะพูดเบาๆแต่เสียงก็ยังเข้าหูของฟ่างได้อยู่ดี
ยี่ซูเดินเข้าไปหาผู้เป็นพี่ด้วยรอยยิ้ม “ท่านพี่ ทำไมถึงปรากฏตัวได้กัน เกิดอะไรขึ้น? ทั้งๆที่ไม่น่าเป็นไปได้แล้วแน่ๆ นี่ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม?”
คู่หูร่างใหญ่ที่แอบรักฟ่างอยู่นั้นได้ตายจากไปแล้วหลังจากฉากนั้น เทพธิดาแห่งฟากใต้ถูกเจ้าร่างกระดูกนั้นยึดไปแล้ว
เฮ้! เดี๋ยวนะ นี่มันมีอะไรเปลี่ยนไปหรือเปล่า!
ยี่ซูพูดอย่างจริงจัง “พี่ฟ่าง พวกเจ้าสำนักต้องเข้าใจผิดเกี่ยวกับพี่แน่ๆ ฉันไม่คิดหรอกว่าพี่จะไปเป็นทาสของเจ้ากระดูกนั่นน่ะ!”
เจ้าสำนักเซน พูดอย่างไม่แคร์ “ ‘ฟ่างฟ่างไม่ได้มองหาผู้ชาย’ ที่แท้ก็มองหาเจ้ากระดูกเดินได้นั่นอยู่นี่เอง”
เมื่อเขาพูดออกมาคนนับพันก็พากันหัวเราะร่า
ฟ่างรู้สึกสับสนมากๆ เธอผลักผู้วิเศษแห่งความตายออกเลยก้าวออกไปด้านหน้านิดหน่อย
“พวกนายเข้าใจผิดแล้ว ไม่ใช่อย่างที่คิดนะ” ฟ่างตะโกนเสียงดัง ทำไมทุกคนถึงเข้าใจผิดเกี่ยวกับเธอได้ ทำไมต้องเป็นกับเจ้าโครงกระดูกนี่ ทั้งๆที่เธอพยายามจะแก้แค้น
เหล่าผู้คนรอบๆต่างพูดอย่างไม่ใยดีเธอ “ฟ่าง เธอทำให้ฉันตกต่ำ ไม่คิดเลยว่าเธอจะเป็นผู้หญิงแบบนั้น ในฐานะที่เป็นคนจากโลกแห่งอารยธรรมแล้วฉันเสียหน้ามากๆเลย!”
“เจ้าสำนักฟ่าง กลับไปยังอ้อมกอดของโครงกระดูกที่เธอชอบซะ”
“นิ้วของเจ้ากระดูกนั่นก็ยาวนะแต่ผอมไป เธออยากจะลองของฉันไหม?”
เหล่าลูกศิษย์ต่างพากันทับถมเธอกันแทบทั้งสิ้น ฟ่างกำหมัดแน่นและเป็นจังหวะที่ผู้วิเศษแห่งความตายคลายผนึกพลังของฟ่างออกพอดี
ตู้ม!
แสงสว่างกระจายตัวออกจากร่างที่น่าทะนุถนอมนั้น ลำแสงเหล่านั้นกระจายตัวไปทั่วพื้นที่โดยรอบ
ทุกคนต่างพากันตกตะลึงก่อนจะแตกตื่นกันในเวลาต่อมา!
ดาบสีม่วงพุ่งทยานเข้ามาในมือเพรียว และทันใดนั้นมันก็ส่องแสง
“ทำไมพวกนายถึงไม่เชื่อฉัน! ทำไม!” ฟ่างคำรามพร้อมกับตวัดดาบในมืออย่างรุนแรง
ดาบเสี้ยวพระจันทร์สีม่วงปล่อยปราณออกมาพร้อมกับซักคลื่นการโจมตีระลอกแรกเข้าใส่ฝูงชน ปราณของดาบนั้นสร้างรอนบากลึกลงไปบนผืนดิน แถมมันยังแพร่กระจายไปยังเหล่าคนที่เพิ่งจะหัวเราเยาะเธอไปด้วย
ผู้วิเศษแห่งความตายเปล่งประกายตาสีแดงขึ้นมา ผู้หญิงคนนี้ช่างร้ายกาจยิ่งนัก! ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมท่านผู้สูงส่งถึงบอกให้ทำให้เธอตกหลุมรัก พวกเราสามารถใช้เธอได้ ท่านผู้สูงส่งช่างวิเศษจริงๆ!
ยี่ซูตกใจมากๆและตะโกนเสียงดัง “ท่านพี่กลายเป็นส่วนหนึ่งของปีศาจไปแล้ว ฆ่าเธอซะ!”
แน่นอนว่าเมื่อได้ยินเสียงของผู้เป็นน้องสาวของฟ่าง เหล่าสาวกของสำนักเมฆาก็เข้าโจมตีเจ้าสำนักคนก่อนอย่างฟ่างทันที
ฟ่างค่อยๆปล่อยตัวปล่อยใจ เธอทิ้งดาบลงไปและหลับตาลง นัยน์ตาสวยมองเห็นเพียงความว่างเปล่า สำหรับเธอแล้วความตายคงเป็นทางออกที่ดีที่สุด
หลังจากที่รอมาเนิ่นนาน ความตายที่หวนหาก็ไม่บังเกิดเสียที เธอจึงลืมตาขึ้นมาใหม่ ภาพตรงหน้าคือผ้าคลุมสีดำที่โบกสะบัดอยู่ บนมือของเขามีเคียวแหลมคมและผู้คนที่เคยจะวิ่งเข้ามาหาเธอต่างชะงักไป
ทำไม! ทำไมศัตรูถึงเข้ามาช่วยเธอในตอนนี้! วันรวมญาติรึไงฮะ!
ผู้วิเศษแห่งความตายไม่มีเวลาคิดมากนัก เขาจับเธอและหายไปในความมืด เพราะหลังจากที่ใช้เวทย์แล้ว คงจะถูกไม่พอใจในทีหลังแน่ๆ นี่น่ะ พลังแบบกองโจรเลยนะ…