You Cannot Afford To Offend My Woman ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ! - ตอนที่ 148
บทที่ 148 เจดีย์ 9 อสูร
ไม่มีใครคาดคิดว่าเจ้าผ้าคลุมดำจะหายไปง่ายๆแบบนั้นเลย พวกเขาเอาแต่คิดจะจัดการฟ่างให้ได้เท่านั้น
โจวซินหรานนั้นไม่โอเคมากๆ เพราะฟ่างนั้นหันดาบใส่คนของเขา ทั้งๆที่ควรแก้แค้นแต่เธอก็ดันหายไป น่าโมโหชะมัด!
หวังต้าเป่าหัวเราะเบาๆ “โอเค งั้นมาเปิดเจ้านี่กันก่อน”
“ได้! มาดูกันว่าข้างในนั้นคืออะไร มันยังไม่สายที่จะจับเจ้านี่ไว้!” ไฮ่ไต่ซี่ยิ้มกว้าง
อย่างไรก็ตาม ทุกคนต่างพยายามสงบสติอารมณ์ไว้ เทพบรรพกาลตรงหน้านี่จะเป็นอะไรกันนะ!
เจ้าสำนักเมฆาส่งลูกศิษย์ออกไป 4 คน เพื่อเปิด พวกเขานั้นต่างกังวลกันเอาเสียมากๆ เมื่อภาพตรงหน้ามันคือโลงศพ ! ซึ่งนั่นหมายความว่าด้านในต้องมีใครซักคนอยู่แน่ๆ!
เทพบรรพกาลนั้นอยู่ในโลงศพ บางทีอาจจะเป็นของคนที่คอยปกป้องเทพบรรพกาลชิ้นนี้ก็ได้… มันค่อยๆเปิดออกแล้ว!
เหล่าลูกศิษย์ของสำนักเมฆาไม่กล้าที่จะตั้งข้อสงสัย พวกเขายืนอยู่ที่มุมทั้ง 4 ของโลงศพ หายใจเข้าลึกๆและพยายามเข้าไปดู
คิก คิก คิก!!
หยกสีขาวกรีดร้องเสียงแหลมจนทุกคนต่างใจล่วงไปอยู่ที่ตาตุ่ม
เมื่อฝาโลงถูกเปิดออก ทั้ง 4 ก็แทบจะหยุดหายใจ
ภายในนั้นมีเด็กสาวอายุราวๆ 7-8 ขวบอยู่ เธอมาพร้อมกับผมทรงทวินเทลและเดรสราวกับเป็นเจ้าหญิงตัวน้อยที่รอวันตื่น ใบหน้าละมุนยามหลับนั้นชวนให้อยากจะเอามือไปหยิกแก้มยิ่งนัก
แต่ไม่ว่าจะพราวเสน่ห์ขนาดไหนก็ตาม สิ่งสำคัญที่เราจะลืมไม่ได้ นั่นก็คือสิ่งที่อยู่ในมือของเด็กคนนี้!
เทพบรรพกาล!
ลูกศิษย์ของสำนักเมฆานั้นดูหลงไหลและจมดิ่งไปแล้ว
ไฮ่ไต่ซี่ถอนหายใจ และทันใดนั้นเขาก็ใช้เวทย์ลมซัดทั้ง 4 ให้ลอยขึ้นไปบนอากาศก่อนจะลอยหายไปกลายเป็นประกายดาว 4 ดวงเลย
“เป็นแผนที่ดีนี่ยี่ซู” เขาหลับตาลงเพื่อระงับความโกรธ
ยี่ซูเองพยายามไม่สนใจเจ้าพวกนั้นและพูดด้วยรอยยิ้ม “หึ สำนักนี้อาจจะเต็มไปด้วยทรราชแล้วก็ได้”
อีกฟากหนึ่งทางด้านหวัง ต้าเป่า ที่ซึ่งอยู่กับผู้อาวุโสอีก 3 คน พวกเขากำลังปรึกษากัน ไม่ว่าอย่างไร เจ้าสิ่งที่อยู่ในโลงนั้นไม่น่าจะเป็นเรื่องดีแน่ๆ
จี้เจ้อซ่วนเตรียมตั้งรับเมื่อฝาโลงมันเปิดออก
มองไปยังคนและสิ่งของที่อยู่ด้านใน ทุกคนต่างหายใจติดขัดกัน บรรยากาศมันเย็นลง แม้ตรงหน้าจะเป็นสาวน้อยน่ารัก แต่ความน่ารักนั้นก็เทียบไม่ได้กับไอ้สิ่งที่อยู่ในมือของเธอหรอก
“นี่มัน…เจดีย์ปีศาจทั้ง 9 ไม่ใช่เหรอ!” จี้เจ้อซวนบ่นพึมพัมในปาก
ทุกคนรวมไปถึงหวัง ต้าเป่ารู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก
“นี่น่ะเหรอ เจดีย์ปีศาจทั้งเก้านั่นน่ะ!” โจว ซิงหรานมองไปยังหอคอยเล็กๆในมือของเธอ
สมบัติลำค่าในมือเธอนั้นคือหอคอยขนาดเล็กที่ถ้าเทียบแล้วก็ประมาณฝ่ามือผู้ใหญ่คนนึง มันแบ่งเป็น 9 ชั้น หอคอยสีดำสนิทซึ่งถ้ามองดีๆแล้วมันเกิดจากการที่แต่ละชั้นปล่อยหมอกสีดำออกมาจนปกคลุมทุกชั้นไปหมด
หยางเชามองไปยังอสูรน้อยก่อนจะพูดขึ้น “มีเทพบรรพกาลมากมายนับไม่ถ้วนที่อยู่ในมือของเทพรวมไปถึงบางอย่างก็อยู่ในมือของปีศาจเมื่อครั้นมหาสงครามนั้น แต่เทพบรรกาลที่ปรากฏมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนั้น ร้อยทั้งร้อยเป็นตัวแทนของความถูกต้องและยุติธรรม มีครั้งนี้นี่แหละที่ต่างออกไป มันคือความชั่วร้าย! การที่เจดีย์ปีศาจมาปรากฏในที่แบบนี้มันเป็นไปไม่ได้!! ”
“ใช่ที่บอกว่าเป็นหอคอยที่จะคอยหลั่งเลือดลงแม่น้ำหรือเปล่า?” เกราะกำบังถูกยกสูงขึ้นพร้อมกับน้ำเสียงที่พูดกันไปมาที่ซึ่งเปี่ยมด้วยความหวาดกลัว คิดสภาพไม่ออกเลยถ้าโดนเจดีย์นี่จะเป็นยังไง
เสียงหายใจที่เบาบางดังขึ้น “จะเป็นปีศาจหรือเทพ ตราบใดที่มันเป็นเทพบรรพกาล ก็ไม่มีใครหยุดฉันได้ทั้งนั้น!”
หลังจากพูดจบร่างบางก็กระโจนเข้าไปโดยหมายจะขโมยเจ้าสิ่งนั้นออกมา
ไฮ่ไต่ซี่แสยะยิ้มอย่างดูถูกก่อนจะสร้างลูกบอลไฟขนาดใหญ่ขึ้นมาด้วยมือข้างเดียว เขาไม่รอช้าที่จะขว้างมันออกไปใส่เธอ
ยี่ซูชักดาบของเธอขึ้นมา “เคล็ดวิชา คมเขี้ยวจุลชีพ!”
ดาบของเธอสามารถตัดผ่านลูกไฟได้อย่างง่ายดาย แต่ในเวลานี้ลูกไฟไม่ใช่สิ่งที่หมายจะทำร้ายยี่ซู หากแต่เป็นหยางเชาที่โผล่มาจากสีข้างของเธอต่างหาก ยี่ซูรีบตั้งการ์ดแต่หยางเชาก็เตะตัดเข้าไปที่ช่วงเอวของเธอแล้ว โชคยังดีที่เธอไม่ได้บาดเจ็บหรือเสียโฉมอะไมาก
“หยางเชา! นายกล้าโจมตีฉันงั้นเหรอ!” ยี่ซูหรี่ตาและตะโกนถาม
ไฮ่ไต่ซี่และหยางเชาค่อยๆเดินไปตรงกลางอย่างช้าๆ ทั้งคู่พยักหน้าพร้อมกันและพูดขึ้นมา “สิ่งนี้คือสิ่งที่เรายังไม่รู้ว่าคืออะไร มันถูกฝังมานานแล้วและนี่คือทางที่ดีที่สุด!”
กวานเทียนตะโกนเสียงดัง “เจ้าแห่งพันธมิตรโพ้นทะเล! เจ้าสำนักหยาง! รีบๆฝังมันได้แล้ว ไม่งั้นจะถูกกินเอานะ!”
หยางเชาตะโกนกลับไปด้วยน้ำเสียงซีเรียส “ทุกท่าน! เจดีย์ปีศาจนี้จะทำให้เราสับสน และแม้แต่เทพเองก็ถูกโน้มน้าวได้!”
“ใช่แล้ว! เจดีย์เก้าอสูรนั้นกักเก็บพลังของอสูรโบราณเอาไว้ ยิ่งชั้นสูงเท่าไหร่ก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น! มันไม่ใช่ว่าเราจะควบคุมมันได้ แต่เป็นมันต่างหากที่ควบคุมเรา!” เลขาของเขาตะโกนเริม
อย่างไรก็ตาม คำเชื้อเชิญบอกกล่าวนั้นไม่ได้แค่ทำให้ทุกคนตื่นกลัว แต่ก็ทำให้พวกเขาอยากได้เจดีย์นี่ด้วย
หวังต้าเป่าเอ่ยถามด้วยเสียงดัง “ทำไมพวกนายถึงรู้เยอะกันจังเลยล่ะ หืม?“
“หืม ที่นี่ถูกปิดเป็นความลับ แล้วทำไมคนนอกอย่างนายถึงต้องรู้กันล่ะ?” หยางเชาพูดแบบดูถูก
โจวซิงหรานบิดคอไปมา “พวกนายก็แค่จะเก็บมันไว้เองไม่ใช่เหรอ!”
เมื่อสิ้นคำโจวซิงหรานก็เรียกเกราะของเขาลงมา มือขวาถือดาบยาวที่เปล่งลำแสงสีฟ้าออกมา ยามเมื่อสวมเกราะเสร็จสิ้น มันก็ระเบิดลมปราณที่น่าสะพรึงกลัวออกมา
ไม่เพียงแค่โจวซิงหราน หวังต้าเป่าเองก็เรียกอาวุธของเขาลงมาด้วย
เจี้ยนนั้นไม่ได้ใส่เกราะเต็มที่หากแต่ก็หยิบหนังสือขึ้นมา ร่ายมนต์เบาๆในปากและทันใดนั้นก็เกิดอสูรกายแห่งไฟขนาดใหญ่ขึ้นมา
“ลุยเลย!” ยักษ์ไฟคำรามก้องจนสะท้านทั้งสวรรค์และบาดาล ช่างเป็นอะไรที่น่ากลัวยิ่งนัก
กวงเที่ยนหยิบไพ่ขึ้นมา 3 ใบก่อนจะโยนออกไป
การ์ดทั้งสามนั้นเปล่งแสงสีขาวและปล่อยหมาป่าน้ำแข็งออกมา ทุกฝีก้าวของมันที่ย่ำลงไปเกิดเป็นไฟสีฟ้าขึ้น ช่างเป็นอะไรที่น่าประหลาดใจยิ่งนัก!
เป็นอะไรที่หาชมได้ยากนักเมื่อเหล่าเจ้าสำนักทั้ง 4 ออกมาสู้ด้วยตนเองเช่นนี้ มันทำให้ผู้คนในโลกแห่งอารยธรรมตื่นเต้นไม่น้อยเลย
แม้ในกรณีนี้ขณะที่ทั้งสองฝั่งกำลังตะโกนใส่กัน แต่นั่นกลับไม่มีใครกล้าที่จะเปิดก่อน ราวกับว่าศึกครั้งนี้จะต้องหลั่งเลือดลงแม่น้ำเป็นแน่แท้!
ในขณะที่พวกเขากำลังลังเล เจดีย์ 9 อสูรในโลงศพก็ลอยขึ้นไปบนอากาศทันใด
สายตาที่จับจ้องนั้นแทบจะพุ่งออกมาจากเบ้าตาของพวกเขาเอง
ทันใดนั้น!
เจดีย์ 9 อสูรก็พุ่งเข้าไปหายี่ซู ซึ่งนั่นทำให้เธอดีใจมากๆและประกาศกร้าวออกไป “เทพบรรกาลชิ้นนี้เป็นของฉัน!”
หวังต้าเป่าตะโกนในทันควัน “ฆ่าเธอซะ!”
“ฆ่าเลย!”
“ฆ่ามัน!!”
ฉากตรงหน้านั้นกลายเป็นอะไรที่ดูรุนแรงขึ้นมาทันที การต่อสู้กำลังจะเริ่มขึ้น!
ไม่ไกลนัก ฉางตี้มองทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นเบื้องหน้า ใบหน้าของเขาแสดงออกถึงรอยยิ้มที่ดูมีเลศนัย ฆ่ากันเลย หึ หึ หึ แล้วเจดีย์ 9 อสูรก็จะตกเป็นของฉัน!
ในการต่อสู้นี้ ลูกศิษย์ของทั้งสองฝ่ายต่างคุยกันเอง ดูท่าการต่อสู้นี้จะหยุดไม่ได้แล้ว ซึ่งถ้าเกิดพวกเขาสู้กันขึ้นมา คนที่ตายก็น่าจะเป็นลูกศิษย์เนี่ยแหละ เพราะงั้นจะให้สู้ไม่ได้เด็ดขาด
“ไม่รู้สึกแปลกบ้างเหรอ?”
“อะไรแปลก? ซื่อตรงต่อความรู้สึกหน่อย มีแค่จิตสังหารนิดหน่อยเองน่า ที่เหลือก็ไม่มีอะไร”
“ไม่ ดูที่เจ้าตัวเล็กในโลงศพนั่นสิ เทพบรรพกาลน่ะ ถูกฝังมาเป็นพันปีแล้วนะ พันๆปีเลยนะ!”
“แล้วยังไง?”
“ก็เธอคนนี้น่ะ ใส่ชุดกระโปรงปักลายลูกไม้ แถมที่เท้ายังใส่เพชรอีก ไม่คิดว่าไอ้คนที่อยู่ในโลงมาเป็นหมื่นปีจะเร่าร้อนได้ขนาดนี้เป็นเรื่องแปลกบ้างเหรอ?”
“น่าแปลกที่นายรู้สึกถึงเรื่องนี้มากกว่า แต่ก็ยอมรับว่าแปลกแหละ”
ณ ฝั่งของน้ำตก
เว่ยชางและเลี่ยกูมองหน้ากันด้วยความรู้สึกแปลกๆ ในขณะที่เย่ฮั่วนั้นดูเปล่งปลั่งเสียเหลือเกิน
“เด็กสาวในนั้นช่างน่าสงสารเหลือเกิน เธอตายตั้งแต่ยังเด็กเลย” ชิงหยาไม่สามารถอดที่จะพูดได้ เธอรู้แล้วว่าไม่มีสิ่งใดโกหกบนทีวี เพื่อทรัพย์สมบัติแล้ว พวกเขาสามารถฆ่าใครก็ได้
“น่าสงสาร?” เย่ฮั่วยิ้มเยาะ มองไปยังหญิงสาวในนั้น และพยายามคิดว่าเธอนั้นน่าสงสาร