You Cannot Afford To Offend My Woman ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ! - ตอนที่ 151
GG:บทที่ 151 – เย่จีจี้
ฝ่ามือของฉางตี้ยื่นออกไปข้างหน้า ฝุ่นดินที่ตลบคลุ้งจางหายไป สภาพพื้นดินเบื้องหน้าเขาเกิดรอยแยกขนาดใหญ่ คล้ายกับว่ามีเครื่องเจาะขนาดยักษ์มาขุดแยกเอาไว้
แววตาที่เยือกเย็นของฉางตี้พลันปรากฏความประหลาดใจ แล้วลงเอยด้วยประกายแห่งความหวาดหวั่น
เมื่อมองไปที่ร่างซึ่งยืนอยู่ตรงหน้า ฉางตี้แทบไม่อยากเชื่อเลยว่าพลัง “ฝ่ามือแยกแผ่นดิน” ของเขาที่ไม่มีใครต้านทานได้ กลับไม่สามารถทำอะไรเด็กหญิงตัวน้อยได้เลย ร่างของเธอลอยอยู่เหนือพื้นเล็กน้อย ผมหางม้าสองข้างปลิวไสวในสายลม
เด็กหญิงกำลังยกมือปิดปากพลางหัวเราะในลำคอ “หึๆ มีฝีมือเหมือนกันนี่นา!”
คนรับใช้ทั้ง 4 ของเย่ฮัวเห็นการต่อสู้ที่เกิดขึ้นแล้ว ก็ได้แต่ตกตะลึงว่าเด็กหญิงคนนี้เป็นใครกันแน่?!
แต่ในเวลาเดียวกันนั้น เย่ฮัวกลับมีสีหน้าเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง
ฉางตี้ตกตะลึงจนแทบหายใจไม่ออก เด็กหญิงคนนี้ไม่ได้เป็นเด็กอย่างที่เห็น แต่เธอคือปีศาจ! แน่นอนว่าผู้พิทักษ์อาวุธโบราณต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่คิดจริงๆ
ถ้าสู้ไปก็มีแต่พ่ายแพ้ ตอนนี้การขโมยอาวุธโบราณสำคัญกว่า!
ฉางตี้หันหลังกลับ วิ่งหนีออกมาโดยไม่ลังเลสักนิด
เขาไม่สนใจรักษาหน้าของตัวเองอีกแล้ว พลังที่ฉางตี้เชื่อว่าเป็นท่าไม้ตายของตนเอง กลับไม่ระคายผิวของปีศาจน้อยตนนี้แม้แต่นิดเดียว เรื่องนี้ปล่อยให้พวกตระกูลชิงจัดการกันเองดีกว่า นี่แหละคือวิธีการที่เรียกว่ายืมดาบฆ่าคน
เด็กหญิงตัวน้อยยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย “กระต่ายน้อยวิ่งหนีไปแล้ว น่ารักจังเลย”
ผมหางม้าทั้งสองข้างของเธอพุ่งออกมาข้างหน้า ฉางตี้พยายามวิ่งให้เร็วที่สุดในชีวิต แต่ก็ถูกผมหางม้าข้างหนึ่งของเด็กหญิงรัดพันข้อเท้าเข้าจนได้
ฉางตี้เสกดาบยาวมาถือในมือ และตวัดดาบลงตัดเส้นผมที่ข้อเท้า
เช้ง!
เหลือเชื่อ!
เสียงการแตกหักของเหล็กดังขึ้น ฉางตี้จ้องมองดาบที่หักคามือด้วยสายตาหวาดกลัว นี่มันเป็นไปไม่ได้!
ผมหางม้าของเด็กหญิงเลื้อยวนเหมือนกับงูพิษ มันรัดพันขึ้นมาบนขาของฉางตี้แนบแน่น แล้วกระชาก
โครม!
ฉางตี้ล้มลงกระแทกพื้น และถูกผมหางม้าจับฟาดขึ้นฟาดลงอย่างต่อเนื่องแทบกระอักเลือดตาย
หลังจากนั้น ฉางตี้ก็ตกอยู่ภายใต้ความหวาดกลัวสุดชีวิต เมื่อร่างกายของเขาถูกผมหางม้าของเด็กหญิงรัดพันทั้งตัว ไม่ว่าพยายามดิ้นเท่าไหร่ ก็ดิ้นไม่หลุด!
ในขณะนั้น ผมหางม้าอีกข้างหนึ่งก็ค่อยๆ เลื้อยตรงเข้ามา ฉางตี้มองดูเส้นผมของเด็กหญิงด้วยความพรั่นพรึง ความรู้สึกหวาดกลัวของเขาพุ่งถึงขีดสุดเกินจะบรรยายได้อีกแล้ว
ปลายผมหางม้าของเธอ มีปากเล็กๆ พร้อมด้วยฟันอันแหลมคม!
“ไม่นะ ไม่ อย่าเข้ามา!” ฉางตี้ได้แต่ร้องด้วยความหมดหวัง แต่ไม่มีผู้ใดสามารถช่วยเหลือเขาได้อีกแล้ว
ผมหางม้าเส้นนั้นเลื้อยเข้าไปในปากของฉางตี้ทันที ก่อนที่จะจัดการดูดกินเลือดของเขาจนหมดตัวอย่างเอร็ดอร่อย
ร่างของฉางตี้แห้งไปในพริบตาเดียว ไม่เกินสิบวินาที ก็เหลือเพียงโครงกระดูกกับชั้นผิวหนังบางๆ เท่านั้น ไม่มีใครจะสามารถจำรูปลักษณ์เดิมของเขาได้อีกแล้ว ว่าร่างๆ นี้เคยเป็นฉางตี้สุดหล่อผู้โด่งดังมาก่อน!
แม้แต่ตอนที่ฉางตี้สิ้นใจไป เขาก็ยังไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เด็กหญิงเลียริมฝีปากสีแดงสดของเธอแผล็บๆ “อร่อยจังเลย ดีกว่าพวกเมื่อกี้ตั้งหลายเท่า”
หลังจากที่ผมหางม้าของเธอเลื้อยกลับมาอยู่บนศีรษะแล้ว เด็กหญิงก็หันมายิ้มให้กับเย่ฮัว “คนพวกนั้นเป็นกระต่ายน้อย แต่นายคือพี่เสือใหญ่ ห้ามวิ่งหนีแบบกระต่ายน้อยนะ ไม่งั้นฉันจะโกรธ”
เย่ฮัวโอบกอดชิงหยาในอ้อมแขน หันมามองหน้าเด็กน้อยที่ยืนอยู่ไม่ไกลและถามออกมาเสียงแผ่วเบาว่า “เธอชื่ออะไร?”
เด็กหญิงกัดริมฝีปากและยกมือขึ้นจับคางตัวเองอย่างครุ่นคิด ผ่านไปอึดใจใหญ่ เธอก็ตอบว่า “อืม ฉันไม่บอกดีกว่า”
“เย่จีจี้!” เย่ฮัวพูดออกมาทันที
ดวงตาของเด็กหญิงเบิกกว้างในขณะที่ผงะถอยหลังไปเล็กน้อยด้วยความตกใจ ใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มพลันแปรเปลี่ยนกลายเป็นเยือกเย็น เธอถามออกมาว่า “นายเป็นใคร! รู้จักชื่อฉันได้ยังไง?”
เย่ฮัวเฝ้าสังเกตทุกอิริยาบถของเด็กหญิง รวมถึงสีหน้าของเธอด้วย ก่อนที่เขาจะตอบ “เย่จีจี้ ถ้าสู้กับฉัน มันจะเป็นจุดจบของเธอ!”
เด็กหญิงยิ้มกว้างแล้วสะบัดผมหางม้าทั้งสองข้าง “ฉันก็ไม่รู้นะว่านายรู้จักฉันได้ยังไง แต่ท่าทางนายน่าอร่อยจริงๆ”
“ใจเย็นก่อน นายท่าน!”
เว่ยชางและเลี่ยกู่ตะโกนขึ้นพร้อมกันในขณะที่รู้สึกเย็นเฉียบไปทั่วกาย
เด็กหญิงตัวน้อยยื่นมือออกมาข้างหน้าพร้อมกับมีสีหน้าขุ่นมัว หลังจากนั้นจึงเสกกระจกขึ้นมา เพื่อส่องดูว่าทรงผมยังเรียบร้อยดีอยู่หรือไม่
เว่ยชางและเลี่ยกู่รับรู้ได้ว่าผู้เป็นนายเหนือหัวเริ่มมีอารมณ์ฉุนโกรธขึ้นมาจริงๆ แล้ว พวกเขารีบพูดทันทีว่า “นายท่านครับ ให้พวกข้าน้อยจัดการเถอะ”
เย่ฮัวทราบดีว่าเว่ยชางและเลี่ยกู่กำลังคิดอะไรอยู่ สองคนนี้อยากจะปกป้องเย่จีจี้!
ใช่แล้ว เว่ยชางกับเลี่ยกู่อยากปกป้องเด็กผู้หญิงคนนี้ เนื่องจากรู้ดีว่า ถ้าให้ผู้เป็นนายเหนือหัวลงมือ โอกาสที่เด็กน้อยจะต้องตายก็มีสูงมาก!
จะอย่างไรพวกเขาก็เคยเป็นคนรู้จักกันมาก่อน แต่ที่คิดไม่ถึงก็คือ เมื่อเจอหน้ากันแล้วกลับจำกันไม่ได้ เว่ยชางและเลี่ยกู่เคยเป็นเพื่อนเล่นกับเด็กผู้หญิงคนนี้ในกลุ่ม 7 บาป แต่สถานการณ์ที่เป็นอยู่ในตอนนี้ มันไม่แตกต่างจากการที่เย่จีจี้กำลังทรยศพวกเขาอยู่เลย!
ถึงแม้ว่าเด็กหญิงจะเป็นตัวแสบสำหรับทุกคน แต่เธอก็เป็นน้องน้อยที่คอยตั้งฉายาให้กับคนในกลุ่ม 7 บาปเสมอ และมีเพียงแต่เธอผู้เดียวเท่านั้นที่กล้าเรียกเย่ฮัวด้วยฉายาว่า “พี่ชายกระดูกใหญ่” แต่เย่จีจี้ที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าพวกเขาในตอนนี้ มีนิสัยที่แตกต่างไปจากเย่จีจี้ที่เคยอยู่ร่วมกับพวกเขาอย่างสิ้นเชิง
แต่ถึงอย่างนั้น เว่ยชางและเลี่ยกู่ก็ยังไม่อยากเชื่อสิ่งที่กำลังเห็นอยู่ตรงหน้านี้อยู่ดี
เย่ฮัวสูดหายใจลึกๆ และคิดอะไรบางอย่างอยู่ครู่หนึ่ง
เท่าที่เขาจำได้ เย่จีจี้ตัวเล็กน่ารักเหมือนกับตุ๊กตาตัวน้อย
ในตอนนั้น เย่ฮัวปลอมตัวลงมาเป็นมนุษย์ เพื่อสังหารมนุษย์ และพวกเขาก็ควรสังหารเย่จีจี้ แต่สมาชิกคนหนึ่งใน 7 บาปกลับดูออกว่าเธอไม่ใช่มนุษย์ เย่ฮัวก็เลยช่วยชีวิตเย่จีจี้เอาไว้
เย่ฮัวยังจำได้อีกเช่นกันว่า ดวงตาสีแดงของเธอในตอนนั้น เต็มไปด้วยความหมองเศร้า
แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า เย่จีจี้ก็เริ่มปรับตัวเข้ากับ 7 บาปได้เป็นอย่างดี แต่ถึงอย่างนั้น เว่ยชางมักจะเป็นคนเดียวที่ออกล่ามนุษย์ เย่จีจี้ไม่ยอมทำอะไรเลย เธอขี้เกียจมากเกินไป ถ้าได้ล้มตัวนอนเมื่อไหร่ เธอก็จะไม่ลุกขึ้นอีกเลย
ไม่รู้ว่าไปเอาแบบอย่างมาจากไหนเหมือนกัน
ดูเหมือนนิสัยในส่วนนี้ของเธอยังไม่เปลี่ยนไป สังเกตได้จากเหตุการณ์ในวันนี้ เย่จีจี้ไม่ชอบออกล่าเหยื่อทีละคน เธอจึงใช้อาวุธโบราณเป็นเหยื่อล่อให้มนุษย์เข้ามาหาเธอเอง เพื่อที่เธอจะได้ฆ่าพวกนั้นโดยไม่ต้องเปลืองแรงเดินทางไกล
เย่ฮัวมองใบหน้าของเด็กน้อยที่คุ้นเคย ภาพความทรงจำสุดท้ายผุดขึ้นมา เย่จีจี้ถูกยอดฝีมือสามคนรุมเล่นงาน สุดท้ายก็กลับมาอยู่ในอ้อมอกเขาด้วยสภาพปางตาย สิ่งที่เด็กน้อยพูดกับเขาในวันนั้น ยังกึกก้องอยู่ในใจเขามาจนถึงวันนี้
ชายหนุ่มจำได้ไม่เคยลืมว่าในตอนที่เย่จีจี้กระอักเลือดออกมาเต็มปาก ไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะยกมือขึ้น แต่แววตาของเธอยังบอกชัดว่าไม่ยอมแพ้
“พี่ชายคะ จีจี้ยังไม่อยากตาย จีจี้ยังอยากเล่นกับพี่ จีจี้ยังอยากแข่งขันกับพวกปีศาจ จีจี้อยากขี่มังกรโครงกระดูก จีจี้อยากอยู่กับพี่ พี่ชายกระดูกใหญ่…จีจี้หนาว…หนาวเหลือเกิน…”
ในวันนั้น เย่จีจี้สิ้นใจไปในอ้อมแขนของเขา และเป็นครั้งแรกที่เย่ฮัวได้ทราบถึงความรู้สึกเจ็บปวดของมนุษย์ เวลาที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปในศึกสงคราม
เย่จีจี้เป็นสมาชิกคนแรกใน 7 บาปที่เสียชีวิต ตอนนั้นทุกคนเสียใจจนบ้าคลั่ง แม้จะต้องบาดเจ็บเจียนตาย แต่พวกเขาก็สังหารยอดฝีมือทั้งสามคนนั้นได้สำเร็จ
ในปัจจุบัน เย่จีจี้ยังคงเป็นคนเดิม ทุกอย่างยังดูเหมือนเดิม แต่นั่นเป็นเพียงรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น ดูเหมือนว่าจิตใจของเธอจะเปลี่ยนไปแล้ว เย่ฮัวไม่สามารถปล่อยให้ผู้อื่นมาแตะต้องเธอได้จริงๆ
เมื่อสูดหายใจลึกอีกครั้ง เย่ฮัวก็พูดออกมาว่า “ข้าจะจัดการเอง!”