You Cannot Afford To Offend My Woman ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ! - ตอนที่ 159
GG:บทที่ 159 – คนวัยลุง
ถังเว่ยที่นั่งอยู่ในรถยนต์คันหลัง หันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง
“ถังเว่ย เมื่อคืนนี้สำเร็จหรือเปล่า” ไป๋เฉ้าเฉินกระซิบถาม
เฮ้อ…เธอควรจะตอบอย่างไรดี
ถังเว่ยส่ายศีรษะแล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ไม่รู้ว่าเธอควรจะขำหรือควรจะโกรธพฤติกรรมของลุงเว่ยเมื่อคืนนี้ดี
ชิงชิงที่นั่งอยู่บนเบาะหน้ารถ หันหน้ามามองด้วยความสนใจ ก่อนที่จะพูดพร้อมรอยยิ้มว่า “เสี่ยวถัง เธอออกจะเซ็กซี่ขนาดนี้ แต่ลุงเว่ยไม่หือไม่อืออะไรบ้างเลยเหรอ? ฉันว่าเรื่องแบบนี้เธอน่าจะลองถามอาเซี่ยดูนะ”
แน่นอนว่าใบหน้าของอาเซี่ยกลายเป็นสีแดงทันทีในขณะที่ขับรถต่อไป ส่วนไป๋เฉ้าเฉินพูดออกมาว่า “พอเถอะ ไม่ต้องพูดแล้ว”
“ดูหน้าพวกเธอสองคนสิ อิอิ” ชิงชิงพูดไปก็ยิ้มไป
ถังเว่ยถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ทำไมคนอื่นถึงมีความสุขขนาดนี้นะ แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว นอกจากปล่อยให้มันเป็นไปเท่านั้น
สองชั่วโมงต่อมา ในที่สุดรถยนต์ทั้งสองคันก็ลงจากทางด่วนและแล่นเข้าสู่หมู่บ้านเล็กๆ เย่ฮัวยังคงยึดตามหลักการเดิมคือ เลือกหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลผู้คนที่สุด
“ถึงแล้วเหรอ?” ชิงหยาเงยหน้าขึ้นจากอ้อมแขนของผู้เป็นสามี และทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่างรถ
เย่ฮัวพยักหน้า พวกเขามาถึงจุดนัดพบแล้ว แต่ยังไม่พบเห็นเย่จีจี้แม้แต่เงา อย่าบอกนะว่าเด็กหญิงจะเล่นลูกไม้อะไรกับเขาอีก
“ฉันหิวอีกแล้ว…” ชิงหยายกมือลูบท้องตนเองและพูดออกมาด้วยความเขินอาย
คนท้องก็แบบนี้ มักจะหิวบ่อยเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว และที่สำคัญก็คือ ผู้เป็นแม่กินเยอะเท่าไหร่ เด็กในท้องก็จะยิ่งได้รับสารอาหารเยอะขึ้นเท่านั้น
“คุณผู้หญิงครับ ตรงนั้นมีร้านอาหารเล็กๆ อยู่นะครับ” เว่ยชางพูดขึ้นหลังจากทอดสายตาสำรวจนอกรถ
ดวงตาของชิงหยาเป็นประกายขึ้นทันที “มีร้านอาหารอยู่ด้วยใช่ไหม? เราไปที่นั่นกันเถอะ”
เย่ฮัวตรวจสอบข้อมูลล่วงหน้ามาแล้ว ร้านอาหารร้านนี้ถึงจะมีขนาดเล็ก แต่ก็จัดได้ว่ามีรสชาติอร่อยเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น การแวะไปชิมสักหน่อยก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องเสียหายอะไร
“ได้สิ ไปกินมื้อกลางวันที่นั่นก็ได้” เย่ฮัวอนุมัติ
รถยนต์สุดหรูทั้งสองคันที่ปรากฏขึ้นในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้ สร้างความสงสัยให้กับชาวบ้านในหมู่บ้านที่อยู่สองข้างทางจำนวนมาก พวกเขาต่างก็อยากทราบว่าผู้ที่อยู่ในรถนั้นเป็นคนแบบไหนกัน
และเมื่อชาวบ้านได้เห็นคนที่ก้าวเท้าลงมาจากรถ โดยเฉพาะรถยนต์คันหลัง ผู้ชายทุกคนก็แทบจะเลือดกำเดาไหลออกมาทันที
สาวรับใช้ทั้ง 4 คนลุกขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้าตั้งแต่เช้าตรู่ ในขณะนี้พวกเธอสวมใส่ชุดที่ดึงดูดสายตา ลักษณะของพวกเธอกำลังพูดคุยกันสนุกสนาน เหมือนมีความตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ได้มาท่องเที่ยวที่นี่
ถ้าความสวยงามของหญิงสาวจากรถยนต์คันหลัง ทำให้บุรุษทุกคนเลือดกำเดาไหลแล้ว หญิงสาวที่ก้าวลงมาจากรถยนต์คันหน้า ก็เป็นเสมือนยาห้ามเลือดให้กับพวกเขา เธอมีความสวยงามที่ให้ความรู้สึกถึงความศักดิ์สิทธิ์ของเทพธิดาบนสวรรค์ เธอสวยเกินกว่าจะเป็นมนุษย์จริงๆ แต่ที่น่าเสียดายก็คือ เอวคอดกิ่วของเธอกลับมีชายหนุ่มผู้หนึ่งเกี่ยวแขนกอดเอาไว้แล้ว!
สิ่งที่ทุกคนไม่เข้าใจก็คือ ดูเหมือนว่าชายหนุ่มผู้นี้จะเป็นจุดศูนย์กลางของคนทั้งกลุ่ม เขาได้รับความเคารพเป็นอย่างมาก ทั้งๆ ที่ดูจากหน้าตาแล้ว อายุก็ไม่น่าจะเยอะสักเท่าไหร่
เมื่อถึงตอนนี้ เย่ฮัวก็แอบติดต่อไปหาเย่จีจี้ เด็กหญิงขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ ก่อนที่บอกว่าจะรีบมาถึงให้เร็วที่สุด
ขณะนี้ ในร้านอาหารขนาดเล็กไม่มีคนอื่นอยู่เลย เจ้าของร้านกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ที่โต๊ะ เบื้องหน้ามีเกี๊ยวเนื้อชามหนึ่งวางทิ้งไว้จนเย็นชืด
เมื่อได้ยินเสียงประตูร้านถูกเปิดเข้ามา ชายผู้เป็นเจ้าของร้านก็เงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะรีบลุกขึ้นต้อนรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า “รับอะไรดีครับ คุณลูกค้า”
ชิงหยามองเมนูอาหารที่ติดอยู่บนผนังร้าน แล้วพูดออกมาเสียงเบาว่า “เอาเกี๊ยวซ่าก็แล้วกัน เย่ฮัว คุณอยากกินอะไร”
“ผัดซีอิ้ว พิเศษใส่ไข่” เย่ฮัวตอบออกมาเสียงเรียบ
เลี่ยกู่แลบลิ้นเลียริมฝีปาก “ผมขอบะหมี่ก็แล้วกัน”
เว่ยชางหันไปถามถังเว่ย “เสี่ยวถัง อยากกินอะไรไหมจ๊ะ?”
“อะไรก็ได้ค่ะ” ดูเหมือนว่าถังเว่ยจะอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติถ้าดูจากเมื่อคืนนี้ที่เธอให้ท่าแทบตาย แต่ลุงเว่ยกลับไม่ได้ตอบสนองอะไรเลยสักนิด
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ถังเว่ยก็นึกประหลาดใจ คนวัยลุงไม่เห็นดีอย่างที่ใครเขาว่ากันเลย! แล้วถังเว่ยก็อับอายเกินไปที่จะพูดออกมาว่าเขาไม่เก่งเรื่องพวกนี้ หรือว่าลุงเว่ยจะมีบาดแผลในใจอะไรหรือเปล่านะ? แต่ถังเว่ยไม่คิดแบบนั้น เธอคิดว่าน่าจะยังพอมีหนทางเร้าอารมณ์ลุงเว่ยได้อยู่ เห็นทีคงต้องไปถามหมอยาโบราณแล้วว่า มียาอะไรที่จะช่วยรักษานกเขาของลุงเว่ยได้บ้าง
เว่ยชางยังคงจ้องมองเมนูบนผนังร้าน ถังเว่ยที่ยืนอยู่ข้างหลังสะกิดให้เขารีบสั่งอะไรก็ได้มาสักอย่าง
“เอาเป็นไก่ตุ๋นโสมมาก็ได้” เว่ยชางสั่งอาหารในที่สุด
ถังเว่ยชอบใจอยู่ไม่น้อย เห็นได้ชัดว่าลุงเว่ยก็พยายามเพิ่มกำลังวังชาให้ตนเองอยู่เช่นกัน ถังเว่ยยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่าเขามีอาการนกเขาไม่ขัน แบบที่คนสูงอายุจะต้องเป็นกันแน่ๆ เอาไว้เดี๋ยวเธอจะดูแลเขาให้ดีเอง ถังเว่ยจะไม่ยอมให้ลุงเว่ยต้องเจ็บใจอีกแล้ว เมื่อคิดถึงสภาพจิตใจของลุงเว่ยเมื่อคืนนี้ เขาคงเศร้ามากเลยสินะ…
และเมื่อคืนนี้ เว่ยชางก็เศร้ามากจริงๆ
พวกเขาแยกกันนั่งโต๊ะละ 4 คน เกี๊ยวซ่าเป็นเมนูแรกที่มาเสิร์ฟก่อน ชิงหยารับประทานหมดไปอย่างรวดเร็ว
“เย่ฮัว น้องสาวคุณอยู่หมู่บ้านนี้จริงๆ เหรอ?” ชิงหยาถามออกมาด้วยความสงสัย
“เอ่อ… ถูกต้อง เธอแค่อยากจะออกไปเห็นโลกกว้างบ้างน่ะ” เย่ฮัวสามารถตอบได้เพียงเท่านี้จริงๆ
ชิงหยาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เด็กผู้หญิงก็ควรได้เห็นโลกกว้างถูกต้องแล้ว จะได้ไม่ต้องถูกผู้ชายเลวๆ หลอกได้ง่ายๆ ไงล่ะ”
นี่คือถ้อยคำแดกดันบุรุษเพศอย่างร้ายกาจ
เว่ยชางกับเลี่ยกู่อยากเปลี่ยนโต๊ะทันที พลังแห่งถ้อยคำถากถางของสตรี เป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขาพูดไม่ออกเลยจริงๆ
“งั้นคุณก็คงเห็นโลกมาเยอะแล้วสินะ” เย่ฮัวไม่ยอมเสียหน้าง่ายๆ
ชิงหยาส่งเสียงฮึ่มฮั่มในลำคอ ถึงเธอไม่ตอบ ก็เหมือนตอบออกมาแล้ว
กรุ๊งกริ๊ง
จังหวะนั้น เสียงกระดิ่งดังขึ้นเมื่อประตูร้านถูกเปิดเข้ามา ทุกคนหันหน้าไปมอง เจ้าของร้านที่กำลังทำอาหารอยู่เหลียวหน้ามอง ตะบวยที่อยู่ในมือร่วงหล่นไปทันที เพราะว่าความน่ารักของเด็กหญิงที่เดินเข้ามาในร้านนั้น มีอานุภาพมากพอที่จะฆ่าคนได้เลยทีเดียว
ในวันนี้ เย่จีจี้แต่งกายอยู่ด้วยชุดเจ้าหญิงเปิดไหล่ ความน่ารักของเธอเบ่งบานสะพรั่ง ทำให้ผู้จ้องมองอยากจะคุกเข่าลงไปถวายชีวิตให้ ไม่ว่าจะเป็นลวดลายลูกไม้ที่อยู่บนกระโปรง หรือหมวกปีกกว้างที่สวมใส่อยู่บนศีรษะ ต่างก็ช่วยส่งเสริมให้เธอดูสูงศักดิ์มากยิ่งขึ้น ผมหางม้าทั้งสองข้างที่กวัดแกว่งอยู่ด้านหลังเมื่อวานนี้ ขณะนี้มันได้หายไปแล้ว เด็กหญิงรวบผมเป็นมวยอยู่ด้านหลัง ดูน่ารักน่าชังเป็นอย่างยิ่ง
มือทั้งสองข้างของเย่จีจี้สวมใส่ถุงมือยาว เธอถือร่มกันแดดลวดลายน่ารักมาด้วยคันหนึ่ง มองไปแล้วเหมือนเด็กน้อยที่หลุดมาจากโลกต่างมิติก็ไม่ปาน
เมื่อเห็นเย่จีจี้แต่งตัวในสภาพนี้ ก็ช่วยไม่ได้ที่เย่ฮัวจะรู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที
“นี่เหรอคะน้องสาวคุณ?” ชิงหยาพึมพำออกมา
เย่ฮัวพยักหน้า
“ฉันว่าน้องสาวคุณน่าจะเห็นโลกกว้างมามากกว่าฉันอีกนะ” ชิงหยาคิดว่าเด็กหญิงผู้นี้มีลักษณะเหมือนเจ้าหญิงตัวน้อยจากราชวงศ์ในยุโรป ดูจากชุดที่แต่งกายแล้ว เหมือนเธอกำลังจะไปงานรื่นเริงของผู้สูงศักดิ์คนสำคัญไม่มีผิด
เย่จีจี้เองก็คิดเช่นนั้นจริงๆ นี่คือครั้งแรกที่เธอจะได้เผชิญหน้ากับภรรยาของนายเหนือหัว แน่นอนว่าด้วยความตื่นเต้น จึงทำให้เย่จีจี้ลืมคำสั่งของเย่ฮัวไปเกือบหมดสิ้น
“พี่ชายขา” เย่จีจี้โบกมือให้พวกเขาพร้อมกับส่งเสียงอ่อนหวาน ทุกสายตาจับจ้องมองเธอเป็นจุดเดียว
ถ้าเลือกได้ เย่ฮัวไม่อยากจะพูดคำต่อไปนี้เลยจริงๆ
“มานี่สิ”
“สวัสดีจ้ะ หนูชื่อเย่จีจี้” เด็กหญิงวิ่งตรงเข้ามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าชิงหยาและโปรยเสน่ห์ความน่ารักใส่เธอรัวๆ
อันที่จริงแล้ว ชิงหยาไม่เคยเจอเด็กหญิงคนนี้มาก่อน แต่ทำไมถึงได้รู้สึกคุ้นหน้าแบบนี้นะ? ดูเหมือนเธอจะเคยเจอเด็กหญิงในความฝันเมื่อคืนนี้
แน่นอนว่าชิงหยาเคยเห็นเย่จีจี้ตอนที่เด็กหญิงนอนอยู่ในโลงศพ แต่เย่ฮัวยืนยันว่านั่นเป็นสิ่งที่ภรรยาของเขาฝันไปเอง
ถ้าเธอจะมีลูกสาวสักคน ชิงหยาก็อยากจับลูกตัวเองแต่งตัวแบบนี้เหมือนกัน ความน่ารักของเด็กหญิงสามารถทำให้หัวใจคนมองวายตายได้ไม่ยากเลย
“เย่จีจี้ ทำไมหนูน่ารักจังเลย” รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชิงหยา ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งสำหรับคนแปลกหน้า
“อิอิ พี่สาวคะ ขอจีจี้กอดพี่หน่อยได้ไหม?”
ดวงตาของเย่ฮัวส่งประกายเย็นเยียบออกมาทันที!