You Cannot Afford To Offend My Woman ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ! - ตอนที่ 174
GG: บทที่ 174 – ดุร้ายที่สุดเป็นอันดับ 1 ในประวัติศาสตร์
จิ่วเย่อยากจะร้องไห้แบบไร้น้ำตา
ชิงหยูตงงุนงงเป็นอย่างมาก จิ่วเย่กำลังทำอะไรอยู่กัน? เขามาแอบทำหน้าที่เหมือนพนักงานเสิร์ฟไปทำไมดูเหมือนว่าเขาจะเสียสติไปนิดหน่อยนะ
“เล่นลูกเต๋ากันไหม?” ชิงหยูตงเสนอ
“คนงามคุณพูดถึงอะไรงั้นเหรอ” หยิงคังซีกล่าวด้วยรอยยิ้ม เขากำลังนึกถึงการได้สัมผัสหางม้าที่ยอดเยี่ยมนั้นอยู่พักหนึ่ง
ชิงหยูตงหัวเราะเบา ๆ “ก็เพียงแค่เบื่อคนบ้างคนเท่านั้น”
หลิวปี้ที่อยู่ด้านข้างกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ผมจะจัดการให้เอง”
“คุณไม่ต้องเรียกใช้เขาแล้ว” นิ้วชี้ที่ละเอียดอ่อนของชิงหยูตงชี้ไปที่จิ่วเย่
จิ่วเย่ทรุดตัวลง … เขาอยากร้องไห้จริง ๆ แต่พนักงานเสิร์ฟอีกคนอยากร้องไห้มากกว่า พวกคุณสั่งคนชราไม่ใช่คนหนุ่ม … รสนิยมสาวงามตอนนี้เปลี่ยนไปแล้วเหรอ?
จิ่วเย่จะเห็นด้วยได้อย่างไร เขาพูดอย่างเร่งรีบ “คุณผู้ชายครับ ผมยังต้องทำงาน”
หลิวปี้ส่งมัดแบงก์สีแดงให้เขาตรง ๆ และกล่าวว่า “ฉันรู้จักกับบอสของที่นี่”
จิ่วเย่ก็กลัวเกินกว่าที่จะปฏิเสธอย่างต่อเนื่องและอาจจะทำให้แผนการของเขาถูกเปิดเผย “โอเค”
แต่ที่นี่มีอย่างน้อยหกสิบขวดมีสองขวดในนี้ฉันผสมยาไว้! บัดซบ! ผู้หญิงคนนี้มันเป็นปีศาจ ไม่มีเรื่องดีเกิดขึ้นเลยเวลาได้เจอเธอ!
“ขวดหันไปชี้ตรงใครคนนั้นแพ้” ชิงหยูตงพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
หยิงคังซียกนิ้วให้ “คนงามช่างกล้าหาญ หนึ่งรอบต่อหนึ่งขวด”
เย่จีจี้เปิดขวดและเริ่มดื่มไปก่อนแล้ว
ฮึก ~
เกือบทุกคนหันมามองดูเย่จีจี้ที่กำลังเรออกมาเบา ๆ หยิงคังซีแทบจะอดใจรอไว้ไม่ไหว โลลี่ที่รักของฉัน ~
ห้าคนเล่นลูกเต๋าและก็ดื่มกันแบบขวดต่อขวด เครื่องดื่มหายไปครึ่งหนึ่งแล้วจิ่วเย่ดื่มไปประมาณสิบขวด เขาไม่รู้ว่าเขาได้ดื่มพิษไปหรือไม่ เขารู้สึกไม่ดีไปหมด
ต้องโทษพวกเธอที่ไม่มีอะไรทำจนต้องวิ่งมาที่นี่เพื่อดื่ม ถ้าพวกเธอไม่มาเป้าหมายนี้ก็คงจะเมาด้วยไวน์สองขวดที่ฉันเอามาให้ไปแล้ว
แม้ว่าไวน์นี้จะดื่มแล้วไม่เป็นไรแต่ตราบใดคาถาถูกร่ายก็สามารถตายได้ในทันที หากปรมาจารย์เหล่านั้นใช้คาถาในตอนนี้ ต้องมีใครสักคนตายอย่างแน่นอน!
ขวดสองขวดนั้นอยู่ไหนกัน?
เนื่องจากความกลัวขวดไวน์พิษ จิ่วเย่จึงไม่ได้ตั้งใจเล่นเกมทำให้เขาเกิดโอกาสแพ้สูงขึ้นเขาจึงต้องดื่มมากขึ้น
ไม่นานก่อนที่ขวดบนโต๊ะจะว่างเปล่า ใครเป็นดื่มทั้งสองขวดนั้นจิ่วเย่ไม่รู้ แต่เขารู้ว่ามีโอกาสเป็นเขาค่อนข้างมาก …
“ไวน์นี้น่าเบื่อแล้ว เอาไวน์ขาวมา!” ชิงหยูตงตะคอกอย่างอ่อนโยน
หยิงคังซีไม่สามารถเมาได้ เมื่อมาถึงระดับสูงสุดอย่างไวน์ขาว แน่นอนว่าไม่ใช่ขวดต่อขวดแต่ดื่มจิบเล็ก ๆ ในแก้วเล็ก ๆ
นอกจากจิ่วเย่แล้ว ก็มีแต่สัตว์ประหลาดเก่าแก่หรือระบบกำลังนั่งอยู่ ผู้น่าสงสารจิ่วเย่อาจจะต้องไปร้องไห้และเป็นลมในห้องน้ำ ราวกับว่าไวน์อมตะเรียกมนุษย์ผู้นี้มาเพียงเพื่อแค่ร่วมสนุก
เย่จีจี้รู้สึกค่อนข้างเบื่อ มันไม่ดีเท่าฉันแทงคุณคุณแทงฉัน เล่นกับหยิงคังซีแล้วหันไปเล่นไฟแช็กZippo เธอเบื่อมาก
จิ่วเย่ไม่สามารถทนได้อีกต่อไปเขาล้มลงไปก่อนใคร ส่วนคนอื่น ๆ ก็ทำเหมือนกับดื่มน้ำเปล่า
หลังจากเมาฟุบลงไปแล้วจิ่วเย่ก็ยิ้มอย่างความสุขและคงจะฝันว่าเขาทำภารกิจเสร็จแล้วอย่างแน่นอน
“คนงาม คุณแพ้อีกแล้ว” หยิงคังซีพูดด้วยรอยยิ้ม แต่มันก็แปลก ๆ ผู้หญิงคนนี้ดื่มไปมากแต่เธอก็ยังไม่เมา
ชิงหยูตงฮัมเพลงพลางมองมองดูเย่จีจี้เล่นไฟแช็ก “ชายรูปงามคนนี้ช่างโชคดี”
ชิงหยูตงยืนขึ้นและเติมแก้วให้ตัวเองกับหยิงคังซีจนเต็มอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามในเวลานี้ชิงหยูตงมือของดูเหมือนจะไม่มั่นคงเล็กน้อยและไวน์ขาวก็ถูกเทรดลงตรงเป้ากางเกงของหยิงคังซี
เย่จีจี้ก็ตกตะลึงและไฟแช็กในมือก็หลุดกระเด็นไปตกลงบนเป้ากางเกงของหยิงคังซี “ พี่สาวชิง คุณเมาเหรอ?”
“ไฟ! ไฟ! ไฟ!” หยิงคังซีอับอายเล็กน้อย ใครจะไม่กังวลเกี่ยวกับเป้าของพวกเขากัน!
ทันใดนั้นเป้าของเขาก็ถูกกระแทกอย่างกะทันหัน
เย่จีจี้ตกใจ “อย่าตกใจฉันจะช่วยคุณเอง!”
เย่จีจี้หยิบไวน์ขาวขึ้นมาบนโต๊ะแล้วก็เท
ฟู่!
ไฟนั้นรุนแรงขึ้น หลิวปี้ก็รีบที่จะเข้ามาช่วยเหลือ แต่ชิงหยูตงผลักเขาออกมาและตะโกนอย่างว่า “ให้ฉันเอง!”
รองเท้าส้นสูงสิบเซนติเมตรพุ่งตรงไปที่กองไฟแล้วทุบ!
“ไม่!!! อ้า!!!” หยิงคังซีส่งเสียงร้องที่น่ากลัวออกมา แต่ถูกเสียงเพลงกลบและมุมนี่จะมีใครมองมากัน?
“จีจี้ มาช่วยฉันที” ชิงหยูตงเหยียบอย่างหนัก หลิวปี้ล้มลงบนโซฟาและไม่สามารถขยับเขยื้อน ได้แต่มองดูนายน้อยถูกทำร้าย
ตัวเย่จีจี้ค่อนข้างเล็กดังนั้นเธอจึงยืนบนโซฟาและเหยียบลงบนกองไฟ
หยิงคังซีที่หมดสติไปแล้วนั้นถูกปลุกให้ตื่นด้วยความเจ็บปวด เพียงแค่มองดูขาของเย่จีจี้ที่พุ่งตรงลงมาดวงตาของเขาก็หมดหวัง
“ไม่ … ” หยิงคังซีรู้สึกว่าในกางเกงที่ว่างเปล่ามีบางอย่างขาดหายไป…
“ไม่ต้องพูดแล้ว จีจี้กำลังช่วยชีวิตคุณ” หลังจากพูดเย่จีจี้ก็เหยียบลงไปทันทีส่วนหยิงคังซีก็หมดสติไปในทันทีเช่นกัน คุณมีความบาดหมางอะไรกับเป้าของฉันกันและคุณก็ไม่ได้กำลังช่วยชีวิต คุณกำลังฆ่าฉันอยู่!
การช่วยเหลือก็ยังดำเนินต่อไป หลังจากนั้นประมาณห้านาทีแห่งการเหยียบดับไฟก็จบลง ชิงหยูตงเช็ดเหงื่อบนหน้าผากของเธอ “โชคดีที่มันไม่ได้เผาคน”
เย่จีจี้พ่นลมหายใจออกมา “เขาประมาทเกินไป ถ้าไม่ใช่เราสองคนช่วย เขาคงจะถูกไฟคลอกตาย”
หลิวปี้รู้สึกว่าร่างกายสามารถควบคุมได้อีกครั้งและรีบเข้าไปหานายน้อยของเขา “นายน้อย! นายน้อย! ตื่นขึ้นมาสิครับ!”
“พาเขาไปโรงพยาบาลเถอะ เราช่วยได้แค่นี้เท่านั้น จีจี้ ไปกันเถอะ ” หลังจากพูดจบชิงหยูตงก็ดึงพาเย่จีจี้จากไป
เมื่อออกไปนอกบาร์ทั้งสองก็ยักคิ้วส่งให้กันก่อนจะตีมือไฮไฟต์แล้วก็กระโดดกลับไปนอน
ฮืม ~ กล้าที่จะเล่นกับแม่คนนี้ งั้นฉันก็จะเหยียบคุณเอง ~
ในบาร์หลิวปี้มองไปที่เป้าของนายน้อยมันเป็นสีแดงเลือด คาดว่าด้านในเนื้อและเลือดคงจะเต็มไปหมด ไม่นะ! ไม่! ต้องรีบกลับไปรักษา!
หลิวปี้อุ้มหยิงคังซีขึ้นมาและจากไปอย่างรวดเร็ว จิ่วเย่ที่เมาฟุบไปแล้วลืมตาขึ้นมาทันที หากเขาไม่ได้แกล้งทำเป็นเมาเขาอาจต้องดื่มมากเกินไป
แต่เพียงแค่เหล่มองและเห็นความรุนแรงของพวกเธอ เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเย็นวาบที่เป้าของเขา มันโหดร้ายเกินไป! พวกเขาทำลายคนที่มีชีวิต …
ทันทีที่ฉันนึกถึงส้นสูงสิบเซนติเมตรโผล่ขึ้นมาในหัว ความเจ็บปวดนั้น … คงมีเพียงเป้าหมายของเขาเท่านั้นที่สามารถเข้าใจมันได้อย่างแท้จริง
ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาครุ่นคิดเรื่องนี้ ต้องรายงานเจ้านายไม่ให้พวกเขาร่ายคาถา……
หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วจิ่วเย่ก็กลับมาที่ห้องทันทีและส่งข้อความถึงเจ้านายคนหนึ่ง “นายท่าน…ดูเหมือนว่า…ผมจะดื่มพิษไปแล้ว…”
หลังจากรอเป็นเวลานานปรมาจารย์ก็ตอบกลับในที่สุด
“ …… “
จิ่วเย่ค่อนข้างหงุดหงิดใจ คุณไม่เข้าใจความหมายหกคำนี้เหรอ?
แต่ไม่ว่าอะไรฉันก็ยังคงต้องรายงาน
“นายท่านแม้ว่าเป้าหมายจะไม่ตาย แต่เขาก็ไข่ระเบิดไปแล้ว”
เห็นได้ชัดว่าเจ้านายของจิ่วเย่ไม่ตอบสนอง เขายังคงสงสัยว่าไข่ระเบิดหมายความว่าอย่างไร หลังจากนั้นสักพักเขาก็ตอบกลับ “คุณหมายถึงอะไร”
จิ่วเย่ต้องให้คำจำกัดความใหม่แก่เจ้านายท่านนี้ที่ดูจะยังไม่เข้าใจ … จะต้องไม่พูดแบบเดิม
“ เป้าหมายอาจกลายเป็นขันที”
หลังจากพูดจบจิ่วเย่ก็รอคำตอบ ตราบใดที่คุณไม่ด่าว่าฉันและให้ยาแก้พิษมาก็เพียงพอแล้ว
“เสี่ยวจิ่วทำได้ดีมาก!”
เมื่อได้ยินคำตอบกลับจิ่วเย่งุนงงมาก สถานการณ์นี้มันคืออะไร?
“คุณต้องการอะไรบอกฉันมาได้เลย! อะไรก็ได้ทั้งนั้น!”
จิ่วเย่ตกตะลึง นี่อาจเป็นพรจากความโชคร้าย!
หลังจากนั้นเขาก็ติดต่อเจ้านายอีกคนเขาไม่คิดว่าปฏิกิริยาของพวกเขาจะเหมือนกัน ช่างน่ากลัวจริง ๆ พวกเขาการรู้สึกว่าการทีคนอื่นได้เป็นขันทีนั้นน่ายินดีกว่าความตาย พวกคุณมันเป็นพวกนิสัยเสียฉันไม่อยากยุ่งด้วยแล้ว!