You Cannot Afford To Offend My Woman ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ! - ตอนที่ 189
GG: บทที่ 189 – ลูกพี่ลูกน้องคนโตกำลังจะมาแล้ว!
พายุฝุ่นยืดตัวเต็มความสูงอย่างช้า ๆ แววตาของมันไม่ได้สิ้นหวังอีกต่อไป แต่มันต้องการทำให้คนอื่นหมดหวัง ให้คนอื่นได้รับความอัปยศนี้แทน!
โฮก!
พายุฝุ่นไต่ขึ้นบันไดเหมือนเครื่องจักร หินนับไม่ถ้วนกลิ้งตกลงมา ถ้ำทั้งหมดสั่นราวกับกำลังจะพังลง
ชิงหยูตงปลดผนึกออก จุดประสงค์ของเธอนั้นง่ายมากเอาพายุฝุ่นออกไปเล่น การถูกขังไว้นาน ๆ จะทำให้ปัญญาอ่อน
“พี่สาวชิงเราขึ้นไปเล่นกันเถอะ”
“ได้สิ”
ทั้งสองจับมือกันและตามหลังพายุฝุ่นไป เสียงหัวเราะอันไพเราะของเย่จีจี้ดังสะท้อนออกมาแต่เสียงหัวเราะนั้นกลับฝังดูน่าขนลุก
ในตอนนี้เจ้าบ้านและคนตระกูลหยิงกำลังนั่งอยู่ในห้องโถงเพื่อพูดคุยกันเรื่องว่าที่เจ้าบ้านคนต่อไป ในใจหยิงจิงซานโกรธมาก ลูกชายของเขาเพิ่งจะตายไป แต่พวกเขากลับรอไม่ไหวที่จะเป็นว่าที่เจ้าบ้านคนต่อไป!
ทันใดนั้นเอง!
ทั้งห้องโถงเริ่มสั่นสะเทือน ทั้งตระกูลหยิงตกตะลึง ลมหายใจนี้ …
“พายุฝุ่น!” หยิงชางตะโกนขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อ พายุฝุ่นจะออกมาได้อย่างไร!
ทั้งเกาะสั่นสะเทือนเหมือนเกิดแผ่นดินไหว กลิ่นอายกดดันอันน่ากลัวที่กระจายออกมาจากพายุฝุ่นทำให้รู้สึกหายใจไม่ออก
หยิงจิงซานตะโกนขึ้นอย่างไม่ลังเล “ใช้สิ่งประดิษฐ์โบราณทั้งหมดของตระกูลหยิง! ให้แน่ใจว่าปิดผนึกพายุฝุ่นได้ อย่าปล่อยให้มันออกมา!”
เมื่อเผชิญกับวิกฤติตระกูลหยิงก็ยังคงเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขาจะกลายมาเป็นหนึ่งในสามยักษ์ใหญ่ได้อย่างไร
เมื่อพายุฝุ่นโผล่ออกมาจากถ้ำทันใดนั้นมันก็คำรามขึ้น ราวกับกำลังบอกให้โลกรู้ว่าความตายของคุณมาถึงแล้วฉันจะบดขยี้คุณด้วยกรงเล็บสีแดง!
ทุกครั้งที่มันก้าวขาออกมา อาคารที่หรูหราของตระกูลหยิงกลายเป็นโอรีโอ ไม่รู้ว่ามีใครอยู่ที่ใต้เท้าข้างนั้นหรือไม่!
ชิงหยูตงกับเย่จีจี้ตามออกมาอย่างช้า ๆ พวกเธอมองดูดวงจันทร์บนท้องฟ้าและยืดเอวขี้เกียจเล็กน้อย
“พี่สาวชิง อุ้มหน่อย เหนื่อย ~” เย่จีจี้ยื่นมือออกมาแล้วพูดว่าเธอไม่อยากขยับตัวแล้ว
ชิงหยูตงอุ้มเย่จีจี้ขึ้น “ไปดูสัตว์ประหลาดตัวใหญ่สู้กับอุลตราแมนกัน”
“โอ้ ตอนนี้กี่โมงแล้ว? ถ้าลูกพี่ลูกน้องใหญ่ถ่ายภาพแต่งงานเสร็จและพบว่าเราไม่ได้อยู่ที่นั่น”
ชิงหยูตงมองไปที่ท้องฟ้า “ฉันไม่ได้เอาโทรศัพท์มือถือมาด้วย มองท้องฟ้าตอนนี้มันคงจะค่ำแล้ว”
“พี่สาวชิง คุณพูดเรื่องนี้นะ ~ “
“เด็กน้อย รู้จักโยนหม้อนะ” ชิงหยูตงบีบจมูกเล็กของเย่จีจี้ที่กำลังหัวเราะ
ตอนนี้พายุฝุ่นราวกับเครื่องจักรสงคราม ครึ่งหนึ่งของอาคารตระกูลหยิงทั้งหมดถูกทำลายราบเป็นหน้ากลอง ตระกุลหยิงทุกคนเริ่มโจมตีพายุฝุ่นอาวุธในมือของพวกเขาส่องแสงเป็นสีต่าง ๆ คุณสามารถรู้ว่าพวกมันเป็นสินค้าราคาถูกได้ตั้งแต่แวบแรกที่เห็น
“พี่ใหญ่! พายุฝุ่นตัวนี้แปลกมากมันดูหงุดหงิดมาก!” หยิงชางถือหอกอยู่ในมือของเขา หอกสีดำล้อมรอบด้วยสายฟ้า! อาวุธศักดิ์สิทธิ์โบราณ!
ในเวลานี้หยิงเจียงก็บินมาด้วย ในมือของเขาถือมีดขนาดใหญ่เหมือนชิงหลงเหยี่ยนเยว่เตา แต่ว่าใบมีดเป็นสีเหลืองและมันเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์โบราณ
(“ชิงหลงเหยี่ยนเยว่เตา 青龙偃月刀” หรือ ง้าวมังกรเขียว* อาวุธคู่กายของกวนอู)
สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับยักษ์ทั้งสามคืออาวุธศักดิ์สิทธิ์โบราณ
“พี่ใหญ่ กรงเล็บหนักของพายุฝุ่นตัวนี้เปลี่ยนเป็นสีแดงได้อย่างไร … มันดูแปลก ๆ ไปหน่อยนะ”
หยิงจิงซานรู้สึกประหลาดใจเช่นกัน พวกมันเหมือนถูกเคลือบด้วยน้ำยาทาเล็บ!
“เอาล่ะ ไม่ต้องพูดอะไรมากแล้ว ปราบพายุฝุ่นแล้วปิดผนึกมันอีกครั้งก่อน!”
“ได้!”
“ได้!”
คำสั่งของเจ้าบ้านไม่สามารถฝ่าฝืน กฎก็คือกฎ ไม่มีใครสามารถแทนที่กฎของตระกูลหยิงได้!
เย่จีจี้ที่อยู่ในอ้อมแขนของชิงหยูตงเบ้ปาก “เด็กน้อยนี่ดูเหมือนจะไม่สามารถสู้ได้เลย”
“เอาล่ะ อาวุธในมือของพวกเขามันยากมากที่จะรับมือ” ชิงหยูตงกล่าว
ทั้งสองซ่อนตัวในสถานที่ห่างไกลเพื่อดูการต่อสู้ พวกเธอไม่ได้คาดหวังว่าตระกูลหยิงจะแข็งแกร่งมากขนาดนี้ ให้เวลากับพวกเขาอีกสักพักพายุฝุ่นก็คงจะถูกผนึกอีกครั้งแล้ว
ทั้งสองเฝ้าดูอยู่อีกสิบนาทีพายุฝุ่นก็ล้มลง เผชิญหน้ากับการระเบิดพลังของตระกูลหยิงพายุฝุ่นไม่สามารถต้านมันได้
“พวกเขารังแกกันเกินไป คนเป็นพัน ๆ คนรุมตีคนเดียว” ชิงหยูตงเกลียดคนเหล่านี้จริง ๆ พูดตามจริงหยิงฮาวนั้นยังดูเป็นลูกผู้ชายมากกว่าเสียอีก ส่วนคนพวกนี้ … ช่างมันเถอะ
เย่จีจี้กล่าว “พี่สาวชิง เรามาช่วยสัตว์ประหลาดตัวน้อยกันเถอะ มันน่าสงสารมากไป … “
“โอเค ให้พวกเขาเห็นว่าสิ้นหวังที่แท้จริงมันหมายถึงอะไร” ชิงหยูตงบิดคลายกล้ามเนื้อของเธอ เตรียมพร้อมที่จะลงไปสู้
ขณะที่ทั้งสองกำลังเตรียมจะเข้าสู่สนามรบ สีหน้าของเย่จีจี้ก็เปลี่ยนไปในทันที
“พี่สาวชิง! เดี๋ยว! อย่าไป!!!” เย่จีจี้ที่ปกติจะเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ตะโกนอย่างจริงจัง
ชิงหยูตงหันหลังกลับและถามอย่างสงสัย “เกิดอะไรขึ้นเหรอ จีจี้?”
“ลูกพี่ลูกน้องกำลังจะมา … ” ใบหน้าของเย่จีจี้บิดเล็กน้อย เธอกำลังคิดว่าจะซ่อนตัวที่ไหนดี
“อ้า! พี่เขยกำลังจะมา !!!” ชิงหยูตงก็ตกใจและรู้สึกเจ็บที่ก้นเล็กน้อย
ซ่อน …
ทั้งสองเข้าใจในสายตาของกันและกัน แล้วไปซ่อนตัวในทันที
ครึ่งชั่วโมงที่แล้ว
ในอาคารจัดงานแต่งงาน เย่ฮัวรู้สึกเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจ ไปเล่นกับเย่จีจี้ยังดีกว่า เมื่อคิดว่ายังต้องถ่ายทำในวันพรุ่งนี้อีกวันหนึ่ง เย่ฮัวก็รู้สึกราวกับว่าวันนั้นจบสิ้นแล้วและได้เข้าใจว่าความรู้สึกของความไร้กำลัง มันเป็นอย่างไร
บางครั้งเขาก็อยากกลับไปยังอดีต กลับไปเป็นโครงกระดูกตัวเล็ก ๆ ที่น่ากลัว โอ้ …
ชิงหยาเดินเข้ามาในชุดแต่งงานสีขาวและมองเย่ฮัวที่ทำหน้ามุ่ย หัวเราะในใจ “โอเค อย่าโกรธเลย กลับไปแล้วฉันจะนวดให้นะ”
“อย่าคิดว่าแค่คุณพูดอะไรดี ๆ แล้วฉันจะไม่โกรธนะ” เย่ฮัวพูด เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างน้อยสิบชุดในวันนี้และตอนนี้เขากำลังสวมสูทสีแดงสด แม้แต่รองเท้าและถุงเท้าก็เป็นสีแดงอย่างกับมาทาดอร์!
ชิงหยาเดินไปหาเย่ฮัว เธอโน้มตัวลงและจูบที่แก้มของเย่ฮัวเบา ๆ “มาเถอะ”
ชายหนุ่มที่ลากชุดแต่งงานยาวด้านหลังราวกับถูกบังคับมา ผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าของเขานั้นสวยงามมากจนเขาปลื้มและอยากจะจูบเธอ ไม่จำเป็นต้องพูดว่าผู้ชายคนนี้มีเหมืองที่บ้านและมีจำนวนมาก
เย่ฮัวไล่ตามริมฝีปากของเธอแล้วชิงหยาก็เริ่มตอบรับ ผลจากการฝึกของเธอก็ค่อนข้างดี
“เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วกลับ” เย่ฮัวพูดด้วยความหงุดหงิด
ชิงหยาเหยียดนิ้วชี้ของเธอออกมาแล้วเกาคางของเย่ฮัว เธอกระพริบตาปิ๊ง ๆ แล้วกล่าวว่า “ที่รัก รอฉันด้วยนะ ~”
เย่ฮัวจ้องมองอย่างว่างเปล่าไปทางชิงหยาที่เดินจากไป ผู้หญิงคนนี้จริง ๆ เลย … เธอปล่อยให้เทพของเธอ … เย่ฮัวไม่รู้ว่าจะอธิบายอารมณ์ในขณะนี้อย่างไร เธอกล้าที่จะหยอกล้อกับเทพของเธอ!
รอให้กลับไปและรอดูว่าเทพจะลงโทษคุณอย่างไร ไม่สนทั้งกฎหมายและศีลธรรม
แม้ว่าจะกล่าวเช่นนั้น แต่ปากของเย่ฮัวค่อนข้างซื่อตรง มุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย
ทันใดนั้น …
เย่ฮัวเหมือนจะได้ยินเสียงคำรามเล็กน้อย ซึ่งทำให้เย่ฮัวอยากรู้อยากเห็นมาก ใครกันแอบมาเดินสัตว์ร้ายกลางคืน
มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่เย่ฮัวจะได้ยินเสียงคำรามของพายุฝุ่น ยังไงซะมันก็ไม่ได้อยู่ไกลมากนัก เมื่อรวมกับความตื่นเต้นของพายุฝุ่นที่ได้ขึ้นมาบนพื้นดิน เสียงของมันดังมากและผ่านเข้ามาในหูของเย่ฮัว
แน่นอนว่าไม่มีใครอื่นได้ยิน แม้ว่าเสี่ยวยี่จะถูกเรียกมา เขาก็ไม่สามารถได้ยินได้
นี่เป็นลมหายใจชนิดหนึ่ง ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่สามารถสัมผัสได้ บวกกับข่ายมนตราที่ขวางกั้นอยู่ มันยิ่งยากที่จะได้ยินยิ่งขึ้น