You Cannot Afford To Offend My Woman ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ! - ตอนที่ 190
บทที่ 190 พร้อมหน้า
เปิดหน้าต่างออกไป เย่ฮั่วมองตรงไปยังทะเลที่ถูกความมืดเข้าปกคลุม จากจุดที่เขาอยู่ มันทำให้รู้สึกว่าสิ่งมีชีวิตต่างๆบนโลกได้หายไปหมดแล้ว ช่างเงียบสงบเหลือเกิน เขาพยายามมองหาบางสิ่งบางอย่าง บางสิ่งบางอย่างที่พอจะทำให้รู้สึกว่ามันยังมีคนมากมายอยู่บนโลกนี้
หลังจากที่คิดถึงเรื่องนี้ได้ครู่หนึ่ง เย่ฮั่วก็ตัดสินใจเรียกเว่ยชางและเลี่ยกูออกมาเพื่อประชุม เขาเดินไปยังห้องน้ำ ปิดประตูสนิท และเริ่มอัญเชิญทาสผู้ซื่อสัตย์ทั้งสองออกมา
เว่ยชางและเลี่ยกูโผล่มาแทบจะทันที
“สดุดีท่านผู้สูงส่ง!”
“สดุดีท่านผู้สูงส่ง!”
เย่ฮั่วพูดอย่างไม่แคร์อะไร “ช่างหัวเรื่องนั้นเถอะ พื้นมันสกปรก”
เว่ยชางและเลี่ยกูค่อยๆผ่อนคลาย
“ขอบพระคุณขอรับ”
“ขอบพระคุณขอรับ”
เมื่อทั้งคู่มองไปยังผู้เป็นนาย พวกเขาก็ต่างพากันสับสนมึนงง ท่านผู้สูงส่งนั้นอยู่ในความมืด แถมยังทำตัวน่าอึดอัดอีก
“เทวทูตผู้นี้กำลังคิดถึงปัญหาอะไรนิดหน่อย และต้องการความคิดเห็นของพวกนายทั้งคู่” เย่ฮั่วดึงบุหรี่ออกมาแย่างไม่แยแสอะไร
หา! นี่ต้องมาทำแบบทดสอบสติปัญญากลางดึกอีกเหรอเนี่ย!?
เว่ยชางและเลี่ยกูอยู่นิ่งๆและสดับฟัง
“เรื่องลูกชายน่ะ อยากได้มาเป็นกองกำลัง เทวทูตผู้นี้อยากหาโอกาสที่ทำให้เขายอมรับเรื่องนี้ พวกนายคิดว่าไง?” เย่ฮั่วมองทั้งคู่ด้วยสายตาที่ดูเงียบสงัด
เลี่ยกูเหล่ดูเว่ยชาง ตัวเขาเองไม่ได้หัวดีเรื่องนี้เลย
“ข้าผู้น้อยคิดว่า…” เว่ยชางนั้นเตรียมจะพูดแล้วแต่เย่ฮั่วพูดตัดก่อน “ให้เลี่ยกูพูด”
เลี่ยกู : “…..”
ท่านผู้สูงส่ง…ท่านรู้เหรอว่าข้าผู้น้อยคิดอะไรไม่ออก…ยิ่งตอนนี้ด้วยแล้วคิดออกแต่อะไรต่ำๆเต็มไปหมดเลย
แต่ไหนๆก็มาแบบนี้แล้ว คงต้องเดิมพัน เลี่ยกูไอเบาๆก่อนจะตอบ “ท่านผู้สูงส่ง ข้าคิดว่าความคิดนั้นประเสริฐยอดเยี่ยมไปเลยครับ!”
เรียบร้อย
“ไม่เหรอ?” เย่ฮั่วถามอย่างจริงจัง
“อ่ะ เอ่อ…มันก็มีบ้าง…แบบว่า…” เลี่ยกูเลิ่กลั่ก
“พูดมา!”
“ฮว้ากกกก! ข-ข้าผู้น้อยคิดว่า เอ่อ…อะไรนะ…เอ่อ…”
เว่ยชางกระซิบ “ต้องเตรียมตัวรับมือกับฝน”
“อ๊ะ ใช่แล้ว! ไม่ไกลจากนี้มีฝนตก ตอนนี้ถ้ายังไงคงต้องเพิ่มฟ่างมาในทัพหลักของเราก่อน เพราะนอกจากเธอแล้วเราก็ไม่มีใครเลย ถ้าท่านเห็นด้วย ข้าว่ามันต้องเป็นแผนที่ดีแน่ๆ” เลี่ยกูพร้อมที่จะโดนบ่นแล้ว
เย่ฮั่วชะงัก ก่อนจะพูดอย่างจริงจัง “ไม่เลวนี่ ความคืบหน้าช่วงนี้ก็ยิ่งช้าๆอยู่แล้วด้วย ถ้าพลังของเธอจะเป็นผลดีกับฉัน มันก็นับว่าสะดวกดี”
“ท่านผู้สูงส่งช่างชาญฉลาด!”
“ท่านผู้สูงส่งช่างชาญฉลาด!”
“ถ้าพวกนายอยากจะเอาชนะ ทีมของเราก็ต้องเป็นอะไรที่ทำให้คนอื่นต้องตกตะลึง” เย่ฮั่วไปถึงช่วงเวลาที่เหล่า 7 บาปยังอยู่ ตอนนั้นมีกันอยู่ 8 คน ช่างเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่เอาเสียมากๆ
เว่ยชางและเลี่ยกูนั้นคิดย้อนกลับไปถึงช่วงนั้น มันก็จริงที่ตอนนี้พวกเขามีคนน้อยมาก
เว่ยชางขยับตัวและเอ่ยเพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้ “ ข้าสามารถเรียกถังน้อยและสาวๆทั้งสามของเลี่ยกูได้เหมือนกับเรียกเหล่าน้องๆของข้าเลย ดังนั้นแล้วข้าสามารถทำให้ภาพแบบนั้นกลับมาได้อีกครั้งครับ”
“เรียกผู้หญิงมาเติมเต็ม?” เย่ฮั่วดูไม่พอใจกับความคิดนี้นิดหน่อย
เว่ยชางรีบอธิบาย “เมื่อครั้งที่ไปเที่ยวกัน พวกเธอได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเคารพในพลังของท่านผู้สูงส่ง และถ้าท่านแสดงพลังออกมาให้เห็นมากกว่านี้ พวกเธอต้องกลายเป็นคมดาบที่แข็งแกร่งให้ท่านได้แน่ๆ ดาบที่พร้อมจะทลวงข้าศึกไม่ใช่เพียงแค่ทำให้พวกเขาตกตะลึง แต่ต้องทำให้ตราตรึงไปทั้งหมด!”
“เรื่องที่นายพูดมันก็ฟังดูมีเหตุผลอยู่นิดหน่อย มันก็จริงที่พลังของฉันนั้นไม่ได้ถูกใช้ทัง้หมด ทั้งนี้ทัง้นั้นก็ยังกั๊กพลังไว้อีกหลายส่วน เอาเป็นว่าคืนนี้จะแสดงให้เห็นถึงฝันร้ายของมวลมนุษยชาติที่แท้จริงละกัน!”
เว่ยชางและเลี่ยกูไม่ได้สนใจแล้วว่าพื้นจะสกปรกหรือเปล่า พวกเขาหมอบลงและพูดพร้อมกับ “รับทราบครับท่านผู้สูงส่ง!”
“รวมพล ให้เวลา 5 นาที!”
“ครับ!”
“ครับ!”
เย่ฮั่วถอนหายใจอย่างโล่งอก และบังเกิดความตื่นเต้นที่อธิบายไม่ได้ขึ้นภายใน ราวกับได้ย้อนกลับไปยังอดีต ช่างรู้สึกดียิ่งนัก!
เขากลับไปยังห้องแต่งตัวของชิงหยา
“เย่ฮั่ว เกิดอะไรขึ้น? ไม่ต้องกังวลนะ ทุกอย่างจะเป็นไปได้ด้วยดี” ชิงหยาพูดและหัวเราะเบาๆ
เย่ฮั่วตอบกลับแบบไม่ใส่ใจ “บุหรี่หมดน่ะ จะออกไปซื้อใหม่หน่อย”
“เข้าใจแล้วล่ะ ถ้างั้นจะรอที่นี่ละกัน ระวังรถราบนท้องถนนด้วยล่ะ” ชิงหยาเตือน
ยั่วฮั่วยิ้มน้อยๆแล้วก็หยิกจมูกของเธอเบาๆ ระวังรถเนี่ยนะ ให้มันชนมาเลยเถอะ หึๆๆ
เขากลับไปยังห้องน้ำอีกครั้ง เงาดำของเย่ฮั่วปรากฏขึ้นบนชายทะเล เขาสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะหาบุหรี่มาจุดสูบได้ในที่สุด
ณ โรงแรมในเมืองหยูหย่า ผู้วิเศษแห่งความตายและซุนฟ่างนั้นกลิ้งเล่นเกมอยู่บนเตียง มันไม่มีอะไรทำจนตอนนี้ทั้งคู่อยากจะวิ่งออกไปทำนู่นทำนี่บ้างแล้ว
ขณะที่กำลังเอาจริงเอาจังกับเกมที่เล่นอยู่นั้น จู่ๆผู้วิเศษแห่งความตายก็ได้รับคำสั่งจากผู้เป็นนายของเขา และเหนือกว่าคำสั่งนั่นก็คือการที่เขารับรู้ได้ว่า ท่านผู้สูงส่งนั้นกำลังจะทำการใหญ่!
แม่เจ้าโว้ย!! งานใหญ่! งานใหญ่มาแล้ว!! มันต้องเป็นการละเลงเลือดให้ท่วมแม่น้ำแน่ๆ! อยากจะยืดแข้งยืดขาให้ไกลสุดลูกหูลูกตาไปเลย มีงานทำแล้ว!
ฮะ!ต้องเอายัยผู้หญิงนี่ไปด้วย! ห้ามลืมด้วยงั้นเหรอ!!
เวลานั้นกระชั้นชิดและทำให้เขาไม่สามารถคิดหาอะไรมาตุกติกได้ เขาตัดสินใจหันไปแตะไหล่ฟ่างพร้อมส่งสำเนียง เคี๊ยะ เคี๊ยะ ออกไป
แปลอย่างเป็นทางการได้ว่า “เร็วเข้า เปลี่ยนชุด ห้ามใส่ชุดนอน จะพาไปหาท่านผู้สูงส่ง!”
มันเป็นอะไรที่เข้าใจได้ยากมากสำหรับฟ่าง เธอขมวดคิ้วแล้วถามกลับ “จะทำอะไรน่ะ มันเจ็บนะ!”
ผู้วิเศษแห่งความตายรีบหยิบโทรศัพท์มาพิมพ์
ท่าที่ที่ดูรุกรี้รุกรนของเขานั้นทำเอาเธอประหลาดใจไม่น้อยเลย อะไรกันนะที่ทำให้เจ้าตายด้านนี่เร่งรีบได้ขนาดนี้
เขาหันโทรศัพท์ให้เธออ่าน
“จะพาไปพบนายท่าน เปลี่ยนเสื้อ! ไปใส่ชุดเมดซะ!”
ฟ่างนั้นสับสนไปหมดก่อนจะถามอย่างประหลาดใจ “นายไม่ใช่นายท่านเหรอ?”
เคี๊ยะ เคี๊ยะ เคี๊ยะ…
แปลอย่างเป็นทางการได้ว่า “ใช่ก็บ้าแล้ว เปลี่ยนชุดเร็วเด๊ะ!”
เขารีบจนลืมที่จะพิมพ์แปลภาษาเคี๊ยะให้เธอเลย
ฟ่างเมื่อเห็นเขาดูเร่งรีบก็เกิดสงสัยขึ้นมาว่า ถ้าพวกนี้เป็นคนไม่ดี แล้วเขาเองก็ไม่ใช่นายท่านงั้นเหรอ? แต่เขาเป็นน้องชายของ….
ฮึ่ม ใครเป็นายของตานี่กันนะ?
ฟ่างนั้นรีบไปสวมเสื้อโดยมีบริกรคอยช่วยก่อนจะวิ่งกลับมาอย่างรวดเร็ว
ผู้วิเศษแห่งความตายจับร่างของเธอไว้ก่อนจะก้าวเข้าไปในช่องว่างแห่งความมืด
ทางฝั่งทะเล เย่ฮั่วนั้นสูบบุหรี่เสร็จแล้ว
เขามองเว่ยชางที่เข้ามาก่อน ซึ่งแน่นอนว่ามาพร้อมกับถังเว่ยในชุดเมดสีดำ แต่กระนั้นถังเว่ยเองก็ยังกระโตกกระตากอยู่ เธอรู้สึกหวาดกลัวไปหมด
“สดุดีท่านผู้สูงส่ง!” เว่ยชางพูดด้วยเสียงอันดังกึกก้อง
ถังเว่ยนั้นสะดุ้งและรับตอบรับทันที “ส-สดุดีท่านผู้สูงส่ง!”
เย่ฮั่วไม่ได้พูดอะไร พวกเขาเองก็ยังไม่ยืนขึ้นมา
ไม่นานนักเลี่ยกูก็มาพร้อมกับสาวๆอีก 3 คน ซึ่งก็คือยี่หราน อาเซี่ยและไป๋เสี่ยวเฉิน เช่นเดิม พวกเธอยังมาในชุดเมดสุดเร่าร้อนไม่เปลี่ยน
ทั้ง 4 ย่อตัวลงและพูดด้วยเสียงดัง “สดุดีท่านผู้สูงส่ง!”
ทั้งสามสาวไม่กล้าที่จะหายใจ รู้ๆกันอยู่ว่าตัวตนของท่านผู้สูงส่งตรงหน้านั้นอัดแน่นไปด้วยความน่ากลัวจนเปี่ยมล้นออกมาจากจิตวิญญาณ
ปิดท้ายด้วยผู้วิเศษแห่งความตารยที่มาพร้อมกับฟ่างด้านหลังสุด
“ตามบัญชาขอรับ ท่านผู้สูงส่ง!”
ฟ่างนั้นยังอยู่ในอาการง่วงนิดหน่อย เธอยืนมองเหล่าคนอื่นที่กำลังหมอบอยู่บนพื้นแบบงุนงง
ผู้วิเศษแห่งความตายรีบดึงให้เธอออกจากการยืนโง่ๆและทำความเคารพคนตรงหน้า
เธอรับรู้ได้ว่าการกระทำนั้นของเขาหมายความว่าอย่างไร เพราะงั้นจึงรีบปรับตัวอย่างรวดเร็ว “ด้วยความเคารพ ท่านผู้สูงส่ง!”
เย่ฮั่วพ่นบุหรี่ออกและพูดอย่างใจเย็นท่ามกลางความวุ่นวาย “ลุกขึ้นเถอะ”
ทั้ง 8 ที่ยืนอยู่ด้านหลังลุงขึ้นยืนตามคำสั่ง
เลี่ยกูและเว่ยชางนั้นอยู่ด้านหลังเย่ฮั่ว และด้านหลังพวกเขาก็คือเหล่าแฟนสาวที่ยืนเรียงหน้ากันและปิดท้ายด้วยผู้วิเศษแห่งความตายกับฟ่าง ตำแหน่งที่ยืนกันนี่เหมือนกับทรงของพัดเลย
ขอเถอะ!!!