You Cannot Afford To Offend My Woman ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ! - ตอนที่ 197
บทที่ 197 เธอเป็นใคร!!
พี่ใหญ่ทำสัญลักษณ์เป็นเชิงให้วิ่งได้เลย ดังนั้นทั้งหมดจึงออกวิ่งอีกครั้ง!
นี่อาจจะเป็นความได้เปรียบของเจ้าถิ่น พวกเขารู้เส้นทางทั้งหมด
เขาอุ้มอาหลี่ไว้และวิ่งเข้าไปในซอย แต่เมื่อเข้าไปได้ถึงกลางทาง เส้นทางทั้งหมดก็ถูกปิด
พี่ใหญ่ผมเขียวหัวเสีย “ไหนบอกทางโค้งพวกนี้จะทำให้รอดไง!”
“พี่ใหญ่ ฉันไม่รู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ พวกเราเจอทางคดเคี้ยวมากมายแต่อันนี้อาจจะไม่โค้งเยอะเหมือนซอยอื่นก็ได้…” ในครั้งนี้นั้นน้องเล็กพลาดสุดๆ แต่ก็ไม่น่าแปลกใจนี่?
อาหลี่พูดด้วยเสียงเล็กเสียงน้อยของเธอ “คุณลุง ยอมแพ้เถอะ นี่เป็นทางเดียวแล้วนะ”
ยอมแพ้? เป็นไปไม่ได้หรอก เป็นไปไม่ได้ในชีวิตของฉันด้วย!
พี่ใหญ่มองรอบๆตัวและพบว่ามันมีบาร์อยู่ที่นี่ บาร์? ในที่แบบนี้เนี่ยนะ… ไม่กลัวล้มละลายเลยรึไง… ชิงบาร์เหรอ? ชื่อน่าเกลียดชะมัด “ไปหลบตรงนั้นก่อน!”
“เยี่ยมเลย!”
ใจจริงทั้งสองก็ไม่ได้อยากเปิดประตูบ้านใครก็ไม่รู้เพื่อเข้าไปหลบหรอก แต่ว่าเท่าที่เห็นพวกแก๊งค์นั้นก็ไม่ได้ตามเข้าไปในบ้านหรืออะไรพวกนี้ด้วย เพราะงั้นนี่จึงเป็นทางออกสุดท้าย
“พี่ใหญ่ ทำยังไงต่อดี?”
“มีอะไรต้องคิดอีกเล่า ไป!”
ทั้ง 3 รวมกันเป็นก้อนก่อนจะตัดสินใจวิ่งเข้าไปในบาร์แห่งนั้น
ในความจริงแล้ว ภายในเมืองหลงอันแห่งนี้ ไม่มีบาร์ไหนที่อยากจะเริ่มตอแยกับที่นี่ซักเท่าไหร่ เอาจริงๆก็ไม่ได้กลัวแต่ไม่อยากทำให้ขุ่นเคืองกันมากกว่า
นั่นก็เพราะว่าบาร์นี้น่ะ…
คือชิงบาร์ไงล่ะ
สองพี่น้องหมอบอยู่ตรงประตูและเฝ้าสังเกตุการณ์อย่างใกล้ชิด ทำไมพวกนั้นถึงวิ่งออกไปล่ะ?
“คุณลุง พวกเขาไปแล้ว…” อาหลี่นั้นดูสับสนและนี่เป็นสิ่งที่ให้เหตุผลไม่ได้
ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นจากด้านหลังพวกเขา
“แย่หน่อยนะ ซึ่งแปลได้ว่า ร้านยังปิดอยู่” เว่ยชางพูดด้วยความสุภาพราวกับสุภาพบุรุษ
สองพี่น้องผมเขียวผมแดงหันไปมองก่อนจะยิ้มแทนคำขอโทษ “อ่า…ไปกันเถอะ”
อาหลี่เองก็หันมามองก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงบอบบาง “ขอโทษด้วยค่ะ…”
เมื่อเว่ยชางได้เห็นใบหน้าน้อยๆของอาหลี่ นัยน์ตาของเขาก็ดูสับสนขึ้นมา ทำไมเด็กนี่ถึงคล้ายท่านผู้สูงส่งยิ่งนัก!? แล้วไหนจะกลิ่นกายที่ออกมาจากตัวเธอ ไหนจะลมหายใจ….
“เดี๋ยวก่อน!” เว่ยชางเปลี่ยนท่าทีจากสุภาพเป็นตะกุกตะกัก
ท่าทีแบบนี้แม้แต่ถังเว่ยที่เข้ามาเห้นยังตกใจ ใครกันนะที่อยู่ตรงนั้น … “ลุงเว่ย เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?”
เว่ยชางค่อยๆเดินเข้าไปหาอาหลี่
สองพี่น้องผมเขียวผมแดงรีบวิ่งเข้ามาดักหน้าของอาหลี่ไว้ ท่าทีที่หมดหวังของเขานั่นก็เพราะว่าพวกเขาเพิ่งจะหลุดมาจากถ้ำเสื้อแท้ๆ ยังต้องมาเจอกับจระเข้อีกเหรอ?
แต่ ณ เวลานั้น เว่ยชางตื่นเต้นเอาเสียมากๆ แม้แต่ถังเหว่ยเองก็ไม่เคยเห็นท่าทีนี้ของเขา
ตู้ม!
ภาพตรงหน้าคือร่างของพี่น้องผมเขียวผมแดงกระเด็นลอยไปติดกำแพง
“ลุงผมแดง ลุงผมเขียว!” อาหลี่ตะโกนเสียงดังและพยายามจะวิ่งเข้าไปดูอาการของทั้งสองลุงหากแต่ว่าร่างของเธอก็เด้งออกมาราวกับมีแรงที่มองไม่เห็นคอยผลักอยู่
อาหลี่หันกลับมาจ้องมองยังเว่ยจางและพูดด้วยเสียงเด็กน้อย “คุณลุงนิสัยไม่ดี! ปล่อยอาหลี่ไปนะ! คุณมันคนเลว!”
“ลุงเว่ย…” ถังเว่ยรู้สึกกังวลใจ
เว่ยจางไม่ได้สนใจมันเลย เขาเพียงแค่จ้องมองอาหลี่ มันมีความเป็นไปได้มากมายเกิดขึ้นมาในหัวของเขา
“ปล่อยอาหลี่!!!” อาหลี่เริ่มจะโกรธขึ้นมาแล้ว นัยน์ตาคู่เดิมเปล่งแสงจ้าเป็นสีแดง ลมหายใจอันแข็งแกร่งถูกปลดปล่อยออกมาราวกับเธอตั้งใจจะหักกระดูเว่ยชางออกเป็นเสี่ยงๆ หมัดเล็กๆพุ่งตรงไปหาเป้าหมาย
และตอนนั้นเองที่เว่ยชางก็ต้องรู้สึกตื่นเต้นหนักขึ้นมาอีก บรรยากาศโดยรอบของเด็กคนนี้คล้ายกับท่านผู้สูงส่งมากๆ! เพราะงั้นแล้วเธอเป็นใครกันน่ะ!!
ที่สำคัญเด็กคนนี้สามารถทำลายพันธนาการของเว่ยชางได้ด้วยตัวเธอเอง เป็นไปไม่ได้!
เว่ยชางเหยียดนิ้วชี้ออกไปและยหยุดหมัดเล็กๆนั้นไว้
ความเจ็บปวดวิ่งพล่านไปทั่วจนเว่ยชางต้องข่มความเจ็บปวดนั้นๆที่ปะทุขึ้นมาแบบเร็วพลัน ไม่งั้นแล้วต้องเผลอพลั้งมือฆ่าเธอแน่ๆ
อาหลี่ผู้ที่เหวี่ยงหมัดไปต่อยดูเหมือนจะใช้พลังมากๆกับหมัดนั้นๆ เพราะงั้นดวงตาของเธอจึงค่อยๆหลับลงไปและเว่ยชางเองที่เข้าไปประคองร่างที่กำลังจะล้มไปกับพื้นนั้นไว้
“ลุงเว่ย…เธอคือ..?” ถังเว่ยถามอย่างสับสน
“ถังน้อย วันนี้น่ะ ลุงเว่ยคงจะไม่ได้ไปส่งเธอกลับบ้านนะ เพราะดูท่าว่าจะมีงานใหญ่เข้ามาแล้ว!” เว่ยชางจับมือเล็กๆของอาหลี่ไว้และสัมผัสได้ถึงลมหายใจของเธอที่แผ่วเบาๆ ใช่แล้ว! บรรยากาศแบบนี้มันเป็นแบบเดียวกับท่านผู้สูงส่งเลย! ช่างบริสุทธิ์ยิ่งนัก!
ถังเว่ยขมวดคิ้วด้วยความจริงจัง “ลุงเว่ย ถ้างั้นแล้วหนูก็จะอยู่ที่นี่กับคุณค่ะ!”
เว่ยชางพยักหน้ารับและติดต่อไปทางท่านผู้สูงส่งทันที และเหตุการณ์นี้ทำให้เขากังวลว่าวันหยุดฤดูร้อนของท่านผู้สูงส่งจะหมดเร็วกว่าที่คิดเสียแล้ว
เย่ฮั่วผู้ที่เคยห่างไกลจากชิงหยามานาน บัดนี้เขาได้รับการเติมเต็มแล้ว ทุกๆฉากทุกๆตอนที่ได้กระทำกันวันนั้น ทุกสิ่งที่เลี่ยนจนมดขึ้น จนแม้แต่ชิงยูตงเองก็ทนดูไม่ได้
จริงๆแล้วมันเหมือนกับว่าชิงหยาตอบสนองเย่ฮั่วมากขึ้นเสียมากกว่า เมื่อไหร่ที่เย่ฮั่วเริ่มจะดีด เธอเองก็จะเริ่มด้วย ซึ่งนี่ทำให้เย่ฮั่วรู้สึกมีความสุขมากๆ
จากแต่ก่อนที่ทั้งคู่นั้นไม่รู้สึกถึงความสุข รวมถึงไม่รู้สึกอะไรด้วย ในตอนนี้มันแสดงให้เห็นแล้วว่าความรู้สึกของทั้งชิงหยาและเย่ฮั่ว ค่อยๆกลับมาแล้ว และมันเพิ่มขึ้นมากในระดับหนึ่งเลย
แต่ก่อนชิงหยาจะเป็นฝ่ายจำยอมหากเย่ฮั่วแกล้งอะไรก็ตาม แต่ในตอนนี้มันไม่จำเป็นแล้ว
ตัวอย่างเช่นตอนนี้ เย่ฮั่วประกบริมฝีปากเข้าไปหาชิงหยา และเธอเองก็ไม่ขัดข้องพร้อมทั้งยกแขนทั้งสองข้างโอบเย่ฮั่วไว้ด้วย
หลังจากที่อยู่อย่างนั้นมาพักใหญ่ๆ ทั้งคู่จึงค่อยๆแยกออกจากกัน
“ปากบวมหมดแล้วเห็นไหมมม~” ชิงหยาเลียริมฝีปากตนเองเบาๆ พ่อหนุ่มอารมณ์พุ่งพล่านนี่เหมือนเด็กเข้าไปทุกที
เย่ฮั่วดึงชิงหยาเข้ามากอดไว้ก่อนจะค่อยๆเลื่อนลงไปลูบบริเวณหน้าท้องส่วนล่างของเธออย่างอ่อนโยน ความรู้สึกหลงไหลนี่มันช่างบริสุทธิ์ยิ่งนัก…
“เย่ฮั่ว จะตั้งชื่อลูกของพวกเราว่าอะไรดี?” ชิงหยาถามซอกแซกขณะซบอกเย่ฮั่วอยู่
เย่ฮั่วตอบแบบไม่ใส่ใจ “ต้องเป็นชื่อที่ดังที่สุดไปเลย”
“หมายถึง เย่หลาวเหลียง หรือเปล่า?”
เย่ฮั่วเคาะหน้าผากชิงหยาไปทีนึง จะตั้งแบบนั้นไม่ได้นะ…
“อ๋าาาา นายเคาะหน้าผากฉัน แสดงว่านายกำลังคิดไม่ออกสินะ” ชิงหยาร้องออกมาก่อนจะหันไปมองเย่ฮั่วด้วยความสงสาร
เขามองกลับไปยังหญิงสาวแล้วบรรจงจูบลงไปอีกทีเสียเลย
มันช่างนุ่มและหวานยิ่งนัก
“ท่านผู้สูงส่ง! ท่านผู้สูงส่ง!”
ขณะที่เย่ฮั่วกำลังมื่นชื่นอยู่กับริมฝีปากของภรรยาสาวนั้นเอง เว่ยชางก็ติดต่อเข้ามาทางกระแสจิต
แน่นอนว่าเขาไม่ยอมละปากออกจากชิงหยาแน่แต่ก็ตอบกลับไปด้วยวิธีเดียวกัน “อย่ารบกวนเด่ะ ออกไป๊!”
“ท่านผู้สูงส่ง มีงานใหญ่เข้ามาครับ!”
เย่ฮั่วขมวดคิ้ว เว่ยชางไม่เคยบอกว่ามีงานใหญ่เข้ามาก่อนแม้แต่ครั้งเดียว และเพราะเว่ยชางไม่เคยพูดมันจึงทำให้เขารุ้สึกเอะใจจนถอนจูบจากชิงหยาก่อน
“เย่ฮั่ว เกิดอะไรขึ้นเหรอ?” ชิงหยาถาม
เขาส่ายหัวก่อนจะเดินออกไปที่ระเบียงและหยิบบุหรี่มาจุดสูบ
“เกิดอะไรขึ้น?”
“ท่านผู้สูงส่ง ท่านต้องกลับมาให้เร็วที่สุดแล้ว! มีเรื่องที่อธิบายไม่ได้อยู่ที่นี่”
“แล้วมันคืออะไรเล่า!” เย่ฮั่วถามอย่างเยือกเย็น ไอ้สิ่งที่เรียกว่าเรื่องใหญ่นี่มันอะไรกันน่ะ?
“มีคนๆนึงที่อย่างให้เจอครับ ท่านผู้สูงส่ง ข้าผู้น้อยไม่เลอะเทอะแน่นอน!”
เย่ฮั่วกลับเข้าไปในบ้านโดยไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติมและก็ไม่ได้กระวนกระวายอะไร เขาพูดกับชิงหยาเชิงคำถามว่า “ชิงหยา จองตั๋วบินกลับเร็วที่สุดของวันพรุ่งนี้ เราต้องกลับแล้ว”
“เกิดอะไรขึ้น?” ชิงหยาถามด้วยความกังวล
เย่ฮั่วยิ้ม “เหมือนว่าจะเกิดอะไรขึ้นเล็กน้อย”
“ไม่ต้องมาโม้เลย เรื่องไม่เล็กแล้วมังแบบนี้ เรื่องใหญ่เหรอ?”
เย่ฮั่วยื่นมือไปหยิกแก้มชิงหยาและกล่าวตัดบท “สำหรับฉัน เธอต่างหากที่เรื่องใหญ่!”
“เย่ฮั่ว! นายเปลี่ยนไป!!” ชิงหยาร้องออกมาด้วยความตกใจ
“เอ่อ…”
“นายกลายเป็นคนเจ้าเล่ห์ไปแล้ว! คายเย่ฮั่วเวอร์ชั่นปกติออกมานะ!! นายมันร้ายเกินไป~ กดดาวน์เกรดตรงไหนน่ะ!!”
“แย่หน่อยนะที่เธอจะโดนหนักขึ้นๆไปอีกน่ะ!” เย่ฮั่วพูดแล้วก็พรมจูบลงไปอีก ครั้งหนึ่งฉันเคยคิดว่าคนที่อยู่สูงอย่างฉันคงไม่มาไกลกับยัยนี่ขนาดนี้ แต่ตอนนี้เริ่มอยากจะทำให้มันเป็นเรื่องจริงซะแล้ว
เช้าวันรุ่งขึ้น ทั้ง 4 บินกลับหลงอันด้วยเที่ยวบินที่เช้าที่สุด เย่ฮั่วปณิธานไว้ชัดเจนว่าถ้าเกิดไอ้เรื่องที่บอกว่าใหญ่ของเว่ยชางมันไม่จริงล่ะก็ จะสั่งให้เลิกกับถังเว่ยจริงๆด้วย!