You Cannot Afford To Offend My Woman ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ! - ตอนที่ 216
บทที่ 216 ไปด้วยกันทั้งหมดนั่นแหละ
ได้ยินที่เธอพูดเย่ฮัวก็ลดค่าของเขาและพยายามเชิญชวนเธอใหม่
“พูดอะไรอย่างนั้น! ดูอย่างพวกผู้ชายในครอบครัวใหญ่สิ เสี่ยวยี่งี้ ถังวู่เชิงงี้! พวกนี้ต่างก็มีเมียมากมายเป็นโหลกันทั้งนั้น แต่ฉันมีแค่ 2 เองนะ!” เขาพยายามจะโน้มน้าวเธอ ในเมื่อคนอื่นยังมีหลายได้ แต่เทวทูตอย่างเขากลับมีแค่สองแล้วยังมาโดนเธอทำแบบนี้ใส่อีก
ชิงหยาหน้าแหย “แค่สอง? นี่นายยังคิดจะขยายพันธุ์เพิ่มอีกงั้นเหรอ?”
“บ้าเหรอ! ฉันพูดแบบนั้นตอนไหน? ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นยังไงเธอก็เป็นผู้หญิงคนเดียวในชีวิตฉันอยู่ดีนั่นแหละ!”
ชิงหยายังคงไม่หันกลับไปมองเขา “เย่ฮัว ฉันไม่อยากเชื่อนายอีกแล้ว เรื่องนี้ช่างมันไปเถอะ ยังไงซะมันก็ไม่ได้เกิดขึ้นเร็วๆนี้ ไปได้แล้วฉันจะพักผ่อน”
เย่ฮัวโกรธมากๆ ไม่คิดเลยว่าชิงหยาจะทำแบบนี้ใส่ ได้ ในเมื่อเธอต้องการแบบนี้เองนะ
“ก็ได้ชิงหยา แต่ฉันจะบอกเธออีกรอบนะ ว่าเธอเป็นฝ่ายที่อยากให้ฉันออกไปจากชีวิตเธอเองนะ!” เขาพูดทิ้งท้ายก่อนจะออกไป
“เย่ฮัว! นายมันงี่เง่า! คนโกหก!”
อ่า…เจ้าตัวข้างล่างนี่ยังไม่หมดฤทธิ์อีกแฮะ
น้ำเสียงที่แว่วขึ้นมานั้นทั้งดังและแฝงไปด้วยความเจ็บปวด รู้สึกข้างล่างนี่จะเป็นแหล่งรวมเสียงรบกวนทุกอย่างเลยแฮะ เย่ฮัวถอนหายใจยาว คงต้องไปหาเสี่ยวยี่เพื่อเรียนรู้วิธีทำให้สองสาวรวมเป็นหนึ่งได้จากเขาแล้วมั้ย?ในคัมภีร์จะมีสอนไหมเนี่ย?
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็ลืมไปเลยว่าคนดีๆอย่างเทวทูตเช่นเขาเนี่ยต้องไปขอให้คนอื่นช่วยบ้างซะแล้ว ดูเหมือนมันจะเป็นทางออกเดียวที่เห็นแล้วคุ้มค่าที่สุด
เขาเดินไปยังห้องของชิงยูตงและเปิดประตูเข้าไปมองภายในนั้น
1 ร่างใหญ่และ 1 แผ่นหลังของร่างเล็กนั้นดูร้อนแรงไม่น้อยเลย และดูเหมือนว่าหลานตัวน้อยของเขาจะยังโอเคอยู่ ในเวลาแบบนี้เธอเองก็คงไม่อยากจะเล่นเกมหรอกจริงมั้ย?
“พี่เขย อยากจะเล่นเกมด้วยเหรอ?” ชิงยูตงตะโกนกลับมาถาม
เย่ฮัวที่อยู่ในอารมณ์ไม่ดีเดินเข้าห้องไปและปิดประตูก่อนจะเปิดเครื่องเกมขึ้นมา
ชิวยูตงยิ้มเยาะออกมา “พี่เขย ฉันรู้นะว่าพี่เขยไม่ได้เก่งเรื่องอะไรพวกนี้น่ะ”
“เฮ้ ครั้งนี้ไม่ใช่แค่หย่านะ เจ้าหล่อนน่ะบอกจะเอาเด็กไปด้วยซ้ำ!” เย่ฮัวพูดเบาๆ
เย่จีจี้ยิ้ม “พี่ชาย พี่สะใภ้น่ะแค่หึงแหละค่ะ เพราะงั้นไม่เป็นไรหรอก”
“จีจี้พูดถูกแล้ว พี่สาวฉันแค่ขี้หึงเอง ยิ่งไปกว่านั้นพวกพี่ก็แต่งงานกันแล้ว นี่เป็นอะไรที่พี่ภาคภูมิใจสุดๆเลยนะ”
ชิงยูตงเริ่มที่จะพูดถึงเส้นทางชีวิตของพี่สาวเธออีกครั้ง
“โอ้? ถ้ามันเป็นอย่างที่ยูตงพูดแสดงว่าถ้ามันได้ผลจริงๆ พี่ชายก็จะได้รางวัลสินะ!“
เมื่อได้ยินว่ามีการพูดถึงรางวัล ยูตงก็ขยี้เข้าไปอีก
“พี่เขย พี่ก็แค่ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่ต้องไปไยดีพี่สาวซัก 2-3 วัน หลังจากทำให้พี่หิวโหยแล้วพี่ก็หาโอกาสนี้เข้าไปตีก้นเธอซะเลย! แต่พี่ต้องทำให้ชัวร์ก่อนนะว่ามันได้ผลน่ะ!” ชิงยูตงรู้สึกว่าตนเองอยากจะผลักพี่สาวของเธอลงในหลุมที่เธอวางไว้บ้าง ความรู้สึกนี้มีไม่น้อยเลย เพราะในเมื่อเธอเองยังแพ้ให้กับเย่ฮัว พี่สาวก็ต้งแพ้ด้วย!
“ลูกในท้องก็คงอยากให้คุณอาทำแบบนี้ เพราะงั้นเชื่อพวกเราเถอะ…พวกเราน่ะ…เป็นผู้หญิงนะ~”
เย่ฮัวพยักหน้ารับ “เปิดเกมก่อนละกัน”
ถึงแม้ว่าเขาจะเล่นเกมอยู่แต่ในหัวก็ยังพิจารณาเรื่องที่ทั้งสองพูดไปด้วย บางทีเขาควรจะลองทำตามดู แต่มันจะได้ผลจริงๆใช่มั้ยเนี่ย?
หลังจากเล่นเกมเสร็จเย่ฮัวก็กลับไปยังห้องนอนของเขาเอง มองไปยังเด็กสาวที่กำลังหลับอยู่บนที่นอนนั้น มีแค่อาหลี่เท่านั้นที่ไม่ว่าจะเมื่อไหร่เขาก็รู้สึกเหมือนโดนห่อหุ้มด้วยแจ็คเก็ตสำลี มันสบายเนื้อสบายตัวมากๆส่วนคนอื่นๆนั้นอยู่ด้วยทีไรหงุดหงิดตลอด
เขาไปอาบน้ำและกลับมานอนกอดลูกสาวเอาไว้
ในฝันของอาหลี่เองก็ยังฝันว่าได้กอดพ่อของเธอ มุมปากน้อยๆนั้นมีรอยยิ้มเกิดขึ้นมา แล้วยิ่งไปกว่านั้นลิ้นเล็กๆของเธอยังออกมาเลียปากเบาๆด้วยเหมือนได้กินอะไรอร่อยๆมาเลย
ชิงหยานั้นสมบูรณ์แบบในด้านของความเป็นแม่ ส่วนตงฮวงไป่ลี่นั้น ถ้าเธอได้ซักครึ่งหนึ่งของชิงหยาล่ะก็…เธอคงจะมาร่วมเตียงนี้ได้
ไม่งั้นแล้วมันคงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะชวนเธอมาร่วมเตียง เปล่าประโยชน์ด้วยถ้าจะมาขอร้องเทวทูตเช่นเขา
เช้าวันต่อมา เช้าแบบเช้ามากๆ
“ป๊ป๋า~ ป๊ะป๋า~ ตื่นนนนน~”
เย่ฮัวที่กำลังหลับไหลได้ยินเสียงเรียกของลูกสาวก็ค่อยๆพะงาบๆปากออกมาแล้วพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ขอนอนต่ออีกหน่อยได้มั้ย?”
“นี่มันเช้าแล้วน้าา อาหลี่ต้องเรียนรู้ ป๊ะป๋าไม่อยากสอนอาหลี่เหรอ?”
เย่ฮัวอมยิ้ม “งั้นจะสอนออกกำลังกายทีหลังละกันนะ”
“เย่~ ดีเลย อาหลี่ชอบมันมากที่สุด” เธอดีใจพร้อมกับหอมเข้าไปที่แก้มของเย่ฮัวและหัวเราะออกมาเสียงดัง นี่สินะความรู้สึกของสายสัมพันธุ์ แม้แต่เทวทูตเช่นเขาเองก็ยังมีความสุขมากๆ!
“ไปกินแพนเค้กผลไม้กันดีกว่า!” เย่ฮัวอุ้มร่างเล็กขึ้นและลุกออกจากเตียงไป
อาหลี่สงสัยอย่างมาก “อะไรคือแพนเค้กผลไม้เหรอคะ?”
“ฮ่าๆๆ เธอจะรู้ก็ต่อเมื่อได้เห็นมันนะ แต่ว่าตอนนี้ขอล้างหน้าก่อน”
“ดีเลย อาหลี่ก็จะแปรงฟันแล้วก็ล้างหน้าด้วย! อ๊ะ เดี๋ยวอาหลี่บีบยาสีฟันให้ป๊ะป๋าเอง”
ในตอนนั้น หัวใจของเย่ฮัวหลุดออกจากความหนาวเหน็จแทบจะทันที
หลังจากที่พ่อลูกอาบน้ำเสร็จ พวกเขาก็หาเสื้อใส่และเดินออกจากประตูไป
“โอ้ อาหลี่ลืมถามไปเลย หม่าม๊าไปไหนเหรอคะ?” อาหลี่นั้นตื่นเต้นเล็กน้อยและตัวเขาเองก็เกือบลืมไปแล้วด้วยซ้ำ…
เย่ฮัวพูดด้วยเสียงค่อย “เธอไม่อยากนอนข้างบนน่ะ เลยลงมานอนข้างล่าง”
“อ๋าาาา ทำไมหม่าม๊าทำแบบนี้ล่า~? หม่าม๊าต้องไปนอนด้วยกันสิ”
อาหลี่ยังคงอ่อนไหวง่ายอยู่
เมื่อพวกเขาเดินมาถึงชั้นล่าง เย่ฮัวก็มองบรรยากาศข้างล่างที่เละเทะไปหมด ไม่มีเก้าอี้ตัวไหนในโถงนั้นที่อยู่สภาพดี ภาพวาดทั้งหลายบนกำแพงทำฉีกจนเสียหายและลงมากองอยู่บนพื้น
ถ้าเว่ยชางมาเห็นภาพนี้คงได้ระเบิดลงแหงๆ เพราะภาพพวกนี้น่ะเจ้าตัวเก็บสะสมมาถึง 5 ปีเลยนะ
ร่างของตงฮวงไป่หลี่นั้นหลับไหลอยู่บนพื้น
อาหลี่ปล่อยมือจากเย่ฮัวและวิ่งเข้าหาแม่ของเธอที่นอนอยู่บนพื้น “หม่าม๊า~ตื่น~~”
เปลือกตาระบมของตงฮวงไป่ลี่ค่อยๆเปิดขึ้นมาพร้อมกับสอดสายตาไปมองภาพเบื้องหน้าอย่างรวดเร็ว “อาหลี่…”
“หม่าม๊า ทำไมถึงมานอนที่นี่ล่ะคะ ทำไมไม่ไปนอนกับปะป๊า?” อาหลี่เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง มันทำให้ตงฮวงไป่กลี่เองก็คลายความกังวลด้วย
เธอมองไปยังลูกสาวของเธอและพูดเสียงอ่อน “เพราะว่าพ่อหนูไม่ชอบคนขี้หวงน่ะจ้ะ เพราะงั้นเราถึงนอนด้วยกันไม่ได้”
“ถ้าไม่นอนด้วยกันแล้วหม่าม๊ากับป๊ะป๊าให้กำเนิดหนูกันยังไงคะ?”
จริงๆมันก็ไม่ได้ผิดอะไรหรอก… เพราะงั้นเลยทำให้เย่ฮัวหลุดหัวเราะออกมา แต่กลับกันตงฮวงไป๋หลี่เองที่เป็นฝ่ายหน้าบึ้ง
“อาหลี่ ต้องเรียกแม่ว่า ท่านแม่สิ เรียกหม่าม๊าไม่ได้นะ”
“ไม่ อาหลี่จะเรียก หม่าม๊า หม่าม๊านี่ดีนี่สุดแล้ว~” เมื่อได้ยินอาหลี่บอกแบบนั้น ตัวเธอเองก็ยังคงคิดว่ามันไม่เหมาะกับเธอ
เย่ฮัวก็เช่นกัน เพราะงั้นเขาจึงกระซิบเบาๆ “อาหลี่ ไปกินข้าวเช้ากันเถอะ”
อาหลี่นั้นแทบจะลอยเข้าใส่เย่ฮัวเมื่อได้ยินแบบนั้น มันยิ่งทำให้ตงฮวงไป่หลี่รู้สึกไร้ค่าขึ้นไปอีก แม้แต่ลูกสาวของเธอเองก็ยังกลายเป็นศัตรูกับเธอไปแล้ว…
“หม่าม๊า ไปกินข้าวเช้ากันเถอะค่ะ!” อาหลี่ตะโกนเรียกผู้เป็นแม่
ตงฮวงไป่หลี่ไม่ได้ตอบอะไร นั่นเพราะรู้ว่ายังไงเย่ฮัวก็ไม่ให้เธอออกไปไหนอยู่แล้ว
“ก็ไปด้วยกันทั้งหมดนั่นแหละ” เย่ฮัวพูดเบาๆ
หลังจากนั้นเขาก็พาอาหลี่ไปก่อน ตงฮวงไป่ลี่รับรู้ได้ว่ากำแพงลมนั้นหายไปแล้ว เพราะงั้นตอนนี้เธอแค่ต้องพาตัวลูกสาวมาและหนีไปให้ได้
อย่างไรก็ตาม ถึงเธอจะหนีได้ แต่อีกไม่กี่ก้าวก็คงโดนจับได้อยู่ดี…
เพราะงั้นแล้วเธอจึงได้แต่ถอนหายใจและยอมตามทั้งสองออกไปในที่สุด
ณ ตอนนั้นเอง จากมุมมองหน้าต่างที่ชั้นสอง ชิงหยาไม่ได้นอนทั้งคืน เธอยืนอยู่ที่หน้าต่างและมองออกไปบนท้องนภากว้าง
และทันใดนั้น เมื่อได้เห็นทั้งสามที่ด้านล่าง น้ำตามันก็ไหลออกมา นายมันขี้โกหก! คนหลอกลวง! ฉันจะไม่มีวันให้อภัยนายไปตลอดชีวิต!
เย่ฮัวนั้นรู้อยู่แล้วว่าชิงหยาต้องมองอยู่บนนั้น นี่คือสิ่งที่เย่จีจี้พูด ทั้งหลานทั้งน้องสะใภ้ดูท่ามันจะได้ผลแฮะ!
แล้วถ้าเป็นอย่างงี้แล้ว ตงฮวงไป่ลี่จะทำยังไงต่อ? ขัดขืนเหรอ?
ดี กับผู้หญิงที่สวยแบบนี้ ก็คงแอบสงสัยสินะว่าเธอจะโดนบังคับให้ออกมา ณ จุดนี้เย่ฮัวแค่อยากจะยืนยันสิ่งนั้น เรื่องที่ว่าภายนอกของตงฮวงไป่หลี่นั้นยังคงดูหยิ่งยโสเหมือนเดิม มันมากกว่าที่ชิงหยามีอีก แต่ในทางกลับกัน เธอนั้นไม่มีความอ่อนโยนแบบชิงหยาเลย