You Cannot Afford To Offend My Woman ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ! - ตอนที่ 223
บทที่ 223 ควบคุมทางไกล
เมืองหลงอัน ชิงบาร์ เมื่อ 10 นาทีก่อน
เย่ฮัวนั้นนั่งอยู่บนโซฟา ส่วนขาพาดไปบนโต๊ะกาแฟ สูบบุหรี่และพ่นควันออกไปด้วยความเบื่อหน่าย
ความขัดแย้งในครอบครัวเนี่ย ทำเอาเขาหน่ายใจในระดับหนึ่งเลย ส่ายตามองไปยังฝ่ายมือทั้งสองข้างของเขาเขาเองและเริ่มคิดทบทวน เป็นไปไม่ได้… ทำไมถึงมีผู้หญิงที่ทำให้เทวทูตอย่างเขาต้องยอมแพ้โผล่ขึ้นมานะ… ต่อให้เธอตายไปแล้ว เขาคงต้องฉุดเธอขึ้นมาใหม่และเป็นผู้หญิงของเขาต่อเป็นแน่แท้
แต่แม่สองสาวนี่ก็น่าหงุดหงิดไม่น้อยอยู่เหมือนกัน คนหนึ่งก็จะพรากลูกไปเลี้ยงเอง ส่วนอีกคนก็ยอมอะไรเลย บุคลิกพวกนี้มันช่างยากกับการจัดการยิ่งนัก ไม่มีใครที่คิดจะอ่อนโยนกับเขาซักคน
“ท่านผู้สูงส่ง โปรดดูด้านล่างเถิด”
เว่ยชางที่ปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกระทันหันเอ่ยด้วยความเคารพ
“ข้างล่างมีอะไร?” เย่ฮัวถามด้วยเสียงเบา
ฟังดูจากน้ำเสียงของคนข้างล่างก็พอจะรู้ได้ว่าอารมณ์ของเจ้าของเสียงก็คงไม่ดีซักเท่าไหร่แถมยังดูหงอยๆด้วย วันนี้ถังน้อยเมินคนไปหลายคนเลย
จะให้เธอไม่โกรธได้เหรอ? ชัดเจนเลยว่าเธอและเว่ยชางนั้นเคยอยู่กันแค่ 2 คนมาโดยตลอด แต่ตอนนี้กลายเป็นเพิ่มมาจากไหนไม่รู้อีก 2 ยังไงก็ต้องโกรธอยู่แล้ว ทำไมเว่ยชางถึงทำตัวมะเร็งได้ขนาดนี้นะ
เว่ยชางพูดเบาๆ “ด้วยความเคารพ ครั้งสุดท้ายที่ได้ช่วยเสี่ยวยี่ไว้ ข้าได้ทิ้งลมหายใจลงไปในกระบี่เซวียนหยวนด้วย เผื่อไว้ใช้ประโยชน์ในคราวหน้า และดูเหมือนว่านี่จะถึงเวลานั้นแล้ว”
“โอ้ เสี่ยวยี่จะลงไปคุยกับรากมะม่วงอีกแล้วเหรอ?” เย่ฮัวถามอย่างเอือมๆ
“เกรงว่าจะเป็นเช่นนั้นขอรับ แต่อย่างน้อยเรายังพอจะช่วยชีวิตเขาได้”
เย่ฮัวส่ายหัว “เทวทูตอย่างฉันจะดูเสี่ยวยี่เองละกัน เพราะหลายๆคนที่อยู่ในที่นั้นตายไม่ได้…แต่ก็ไม่ใช่ทุกคน”
“ข้ากะไว้แล้วขอรับ อย่างน้อยๆก็อยากให้ท่านผู้สูงส่งได้ผ่านคลายบ้าง เห็นว่าท่านเองก็อารมณ์ไม่ดีมาหลายวันแล้ว การได้กวาดล้างมนุษย์เสียบ้างน่าจะทำให้อารมณ์ดีขึ้น” เว่ยชางโค้งศรีษะให้แล้วหัวเราะเบาๆ หน้าที่ของผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาที่ดีคือต้องทำให้นายท่านมีความสุขและทำงานด้วยความขยัน
ถ้าเว่ยชางชางยังทำตัวแบบนี้ต่อไป ถังเว่ยได้ชิงฆ่าตัวตายไปก่อนแน่ๆ รีบๆกดเธอได้แล้ว เว่ยชาง
เย่ฮัวถอนหายใจ ยังไงก็คงต้องระบายอารมณ์บูดๆนี้ออกแหละ เพราะงั้นก็มาสนุกกันดีกว่า
“เว่ยชาง รู้ดีนักนะ”
“หึ งั้นข้าจะไม่กวนนะขอรับ เช่นนั้นแล้วขอตัวก่อน” หลังจากนั้นเขาก็หายตัวไปอยู่ในห้องนอนแทน
เย่ฮัวยกมือขึ้นและไล่หาลมหายใจที่เว่ยชางทิ้งไว้กับตัวกระบี่ เพียงไม่นานหลังจากนั้นเขาก็จับมันได้
คนแถวๆนั้นมีไม่เยอะเท่าไหร่ จริงๆก็ไม่มีปัญหาด้วยถ้าจะเชือดทิ้ง เสี่ยวยี่เองก็เหมือนปลาน้ำเค็มที่กำลังดิ้นจะเป็นจะตายอยู่บนพื้น น่าผิดหวังเสียจริง
เขายื่นมือออกไปและชูนิ้วชี้ขึ้น และทันทีทันใด นิ้วที่ชี้ออกไปก็เปรียบเสมือนรีโมทควบคุมกระบี่เซวียนหยวนจากทางไกลไปแล้ว
“โฮ่ เป็นแค่กระบี่แต่คิดจะต่อต้านฉันงั้นเหรอ? น่าสนใจ แต่ว่านะ อยู่ต่อหน้าเทวทูตแล้ว เจ้าก็ทำได้แค่นั้นแหละ!”
ไม่ทันไร เย่ฮัวก็เข้าแทรกแซงภายในของกระบี่เซวียนหยวนได้สำเร็จ
ในจังหวะนั้นเอง เย่ฮัวก็ค่อยๆเอนตัวไปบนโซฟาและหลับตาลง นิ้วชี้ที่ชูไว้ขยับช้าๆอย่างเพลิดเพลิน ภาพเหล่านี้ชวนให้นึกถึงจริงๆ ความกลัวของเหล่าผู้คนพวกนี้น่ะ
อีกฟากหนึ่ง
ไฮ่ไต่ซี่มองกระบี่เซวียนหยวนที่ลอยเคว้งคว้างอยู่บนอากาศ หัวใจเขาเต้นไม่เป็นจังหวะก่อนจะพุ่งเข้าไปแย่งมันลงมา “กระบี่เซวียนหยวนน่ะ ต้องเป็นของแดนใต้!”
ไม่มีใครพูดอะไรออกมา เพราะพวกเขากำลังเกรงกลัวในพลังของมันอยู่ เจ้าสิ่งนั้นเพิ่งจะระเบิดมังกรสามหัวของกงเทียนลู่ไป และนั่นก็เป็นสาเหตุให้เขาบาดเจ็บด้วย ทางซุนยี่เองก็กำลังง่วนกับการถอนพิษอยู่ เพราะงั้นจึงไม่มีใครให้ความสนใจกับสิ่งนั้นมากนัก
แต่อย่างน้อยก็ยังมีอยู่ เขาพยายามจะปลุกปั่นให้พลพรรคของเขาเกิดการลุกฮือขึ้นมา แต่ทุกสิ่งทุกอย่างกลับเงียบและมองเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นตรงหน้า
ขณะที่ไฮ่ไต่ซี่กำลังมีความสุขสุดๆอยู่นั้น กระบี่เซวียนหยวนที่อยู่มือขวาของเขาก็หมุนตัวเองแบบ 360 องศา
ฉั๊วะ!!
แขนขวาทั้งแขนของเขาถูกกระบี่สะบั้นจนขาดออก! มันเป็นภาพที่อยากจะเชื่อได้ยาก เสี่ยวยี่ก็กำลังเจ็บหนัก แล้วใครกันที่กำลังควบคุมกระบี่เซวียนหยวน!? ตัวมันเองงั้นเหรอ!? จะเป็นไปได้ยังไงกันน่ะ!!
แขนที่ขาดนั้นลอยไปในอากาศ
นิ้วของเย่ฮัวค่อยๆขยับช้าลง มองภาพเงาจำลองของกระบี่เซวียนหยวนกับแขนที่ขาดออกนั้นอย่างสบายใจ
ทุกคนต่างกลืนลมหายใจอันหนาวเย็นลงไป และตอนนี้ไม่มีใครสามารถเข้าไปหยิบมันได้แน่ๆ
“วิ่ง!” ซ่งฮวงตะโกนเพื่อหลอกล่อ
ฟู่เซียววิ่งด้วยความเร็วสูงสุดและหายวั้บไปในทันที
เย่ฮัวที่เห็นสภาพนั้นก็หัวเราะในลำคอ “เร็วดีนี่”
เขาเคลื่อนดาบนั้นด้วยปลายนิ้วที่ลาดยาวเป็นเส้นตรง 1000 ไมล์ห่างออกไป กระบี่นั้นเปลี่ยนเป็นผงสีทองและเข้าจู่โจมฟู่เซียวทันที!
ฟู่เซียวที่กำลังเร่งรีบหันกลับมามอง ดวงตาของเขาแทบจะถลนออกมา ไม่มีใครหรือแม้แต่ตัวเขาเองที่จะคิดว่ากระบี่นั้นจะเข้าถึงตัวได้ โดยเฉพาะกับตัวเขาเอง!
กระบี่ที่พุ่งเข้ามานั้น ราวกับมันกำลังเยาะเย้ยเขา!
“เป็นไปได้ยังไงกัน!?” ฟู่เซียวไม่อยากจะเชื่อสายตา เพราะแม้แต่เจ้าตระกูลก็ยังไม่มีความสามารถเช่นนี้ แต่นี่จะบอกว่าเทพบรรพกาลกระบี่เซวียนหยวนมีความสามารถแบบนี้งั้นเหรอ!?
ไม่ใช่! นี่น่ะ เป็นฝีมือมนุษย์แน่ๆ!!
กระบี่เซวียนหยวนพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วมากกว่าเดิมและทันใดนั้นมันก็ปาดเข้าที่ท้องเขา!
ฉั๊วะ!!
ฟู่เซียวมองแทบไม่ทัน กระบี่นั้นฟันเข้าหน้าท้องเขาจังๆ ความรู้สึกแบบนี้ ฝันไปรึเปล่าน่ะ!
ในตอนแรก เขาคิดว่าความเร็วของเขากับการป้องกันของซ่งฮวงนั้นจะสมบูรณ์แบบ จริงๆมันก็สมบูรณ์แบบนั่นแหละ หากแต่เจ้ากระบี่นี่ก็ดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบในตัวมันเองด้วยเช่นกัน เพราะตอนนี้มันกำลังแทงคาไว้ที่หน้าท้องของเขา
และมันไม่แทงแล้วนิ่งเปล่าหากแต่ลากฟู่เซียวกลับไปยังที่เดิมที่วิ่งมาด้วย
ณ ที่แห่งนั้น ผู้คนทั้งหมดเห็นว่ากระบี่เซวียนหยวนพุ่งออกไป แต่ไม่ได้คาดคิดเลยว่ามันจะกลับมาพร้อมกับร่างของฟู่เซียวเช่นนี้!
ซ่งฮวงนั้นมึนงงไปหมด เขารู้จักความเร็วของฟู่เซียวดี และมันมีไม่กี่สิ่งที่ชนะความเร็วของฟู่เซียวได้!
อย่างไรก็ตาม การที่เขาถูกกระบี่พากลับมา นี่มัน แสดงว่ากระบี่นี่กำลังรออะไรอยู่หรือเปล่า?
ไม่มีใครกล้าจะผลีผลามทำอะไรแล้ว หลิงเทียนเองก็คอยป้องกันให้เสี่ยวยี่และถังหวูฉัวกับการต่อสู้ที่ดุร้ายนี้ และดูท่าว่าเจ้าสิ่งนั้นก็จะค่อยๆหยุดนิ่งไปเหมือนกัน
กระบี่เซวียนหยวนเหวี่ยงร่างของฟู่เซียวขึ้นไปบนอากาศ
เย่ฮัวขยับนิ้วช้าๆ และกระบี่ก็สร้างหนามสีทองขึ้นมาบนอากาศอีก
ร่างของฟู่เซียวที่ขยับไปไหนไม่ได้นั้นถูกหนามเหล่านั้นฉีกเป็นชิ้นๆและร่วงลงมาบนพื้น ภาพนี้มันทำให้ทุกคนเสียวสันหลังไปตามๆกัน
ถังหวูฉัวนั้นไม่กล้าที่จะคิดอะไรต่อแล้วและออกวิ่งไปเลย ถ้าเขาเอ้อระเหยยืนรอก็ไม่ต่างกับรอความตาย
เย่ฮัวหลับตาลงและพูดขึ้น “อยากจะออกไปจริงๆ แต่ฉันทำไม่ได้!”
ถังหวูฉัวนั้นโดนไม่ต่างกับฟู่เซียว เขาโดนแทงเข้าที่ท้องและนำกลับมา หากแต่คราวนี้ไม่ได้ฆ่า แค่กองไว้กับพื้นเฉยๆ
หลิงเทียนกลืนน้ำลายลงไป ถังหวูฉัวนั้นก็นับว่าเก่งกล้าเมื่อเทียบจากแต่ก่อน เรื่องนี้ตัวเขาเองรู้จากการทดสอบด้วยตัวเอง แต่นี่เขาก็ยังถูกแทงด้วยกระบี่เซวียนหยวนได้? นี่เป็นฝีมือเสี่ยวยี่งั้นเหรอ?
เขากลับไปป่วยอีกแล้ว หรือนี่จะเป็นเพราะเขากำลังควบคุมกระบี่นั่นอยู่เพื่อฆ่าคนอื่นแน่ๆ!
“อย่ามาหลอกกันน่าพี่เสี่ยว! ฉันรู้นะว่าเป็นฝีมือพี่!” หลิงเทียนเขย่าร่างของเสี่ยวยี่ หากแต่ก็ไม่มีการตอบสนอง
ทุกคนรู้ได้ทันทีแล้วว่า ใครหนี คนนั้นตาย!
แม้แต่ซ่งฮวงเองก็นั่งลงและมองกระบี่เซวียนหยวนอย่างระมัดระวัง
ฟุ่บ!
กระบี่เซวียนหยวนหายไปอีกครั้ง และเมื่อมันกลับมาปรากฏ เหล่าคนรอบๆกว่า 30 คนก็ล้มตายกันระเนระนาด
ซ่งฮวงขมวดคิ้ว คนเหล่านี้คือระดับท็อปของฝ่ายเหนือทั้งนั้น พวกเขาซ่อนตัวอยู่ละแวกนี้เพื่อสังเกตุการณ์และรอโอกาสที่จะเก็บกระบี่เซวียนหยวนกลับไป
ช่างโชคร้าย…โชคร้ายจริงๆ!
ในตอนนี้กระบี่เซวียนหยวนนั้นเหมือนพี่ใหญ่ที่กำลังมองต่ำลงไปยังทุกคนที่อยู่เบื้องล่าง ขณะที่เย่ฮัวเองก็โบกสะบัดนิ้วไปมาอย่างสบายอกสบายใจ
“หมอเทวดา เราควรทำยังดีตอนนี้ ดาบนั่นมันเป็นปีศาจไปแล้วนะ!” 1 ในทีมของเขาพูดขึ้นมาด้วยเสียงเบาๆ
ซ่งฮวงส่ายหน้าและไม่ได้พูดอะไร ตอนนี้กระบี่เซวียนหยวนคงโดนใครซักคนยึดไปแล้ว เขากำลังรอใครซักคนที่น่าจะเป็นเจ้าของโผล่ออกมา ระหว่างนั้นชีวิตก็ถูกแขวนอยู่กับสิ่งนี้ไปด้วย เพราะถ้าวิ่งหนีก็เตรียมลงไปคุยกับรากมะม่วงได้เลย ถังหวูฉัวยังไม่ตายตอนนี้ก็จริง แต่ก็ใกล้แล้ว เขากับความตายอยู่ห่างกันไม่กี่ก้าวแล้วล่ะ
“ไฮ่ไต่ซี่ เป็นยังไงบ้าง” กงเทียนลู่ถามด้วยน้ำเสียงเหนื่อย
ไฮ่ไต่ซี่เพิ่งจะหยุดเลือดที่ไหลไป มันทำให้หน้าเขาซีดไม่น้อยเลย “โชคดีอยู่ นายล่ะ?”
“ออร่าจากดาบนั่นทำลายราชามังกรของฉันไป ฉันเองก็โดนลูกหลงด้วย”