Your Talent Is Mine ระบบคัดลอกพรสวรรค์ - บทที่ 14 พรสวรรค์ของเงาทมิฬ
หลี่ไห่เป็นนักรบแต่เป็นเพียงนักรบขั้นต้น ตอนนี้เขามีอายุ 60 ปีแล้ว เเละเขาก็จะติดอยู่ในระดับนี้ไปตลอดชีวิต หลี่ไห่นั้นเป็นคนรับใช้ที่พ่อของโม่เฉ่าเป่ยมอบหมายให้เป็นผู้ติดตามและคอยรับใช้
“นายน้อย ข้าตรวจสอบเรื่องนี้มาแล้ว เย่เทียนเป็นเพียงครอบครัวธรรมดา พ่อแม่ของเขาเคยเป็นนักสู้ แต่เสียชีวิตในป่าขณะออกไปทำภารกิจเมื่อหนึ่งปีก่อน ตอนนี้ในครอบครัวเหลือเพียงเย่เทียนและน้องสาวเท่านั้น” ชายชราหลี่ไห่รายงานตามความจริง
“หากไม่ใช่เพราะฉันต้องเก็บตัวบ่มเพาะเพื่อทะลวงผ่านขั้นนักรบ มันจะมีชีวิตอยู่ถึงหนึ่งเดือนได้อย่างไร หึ หาคนไปฆ่ามันซะ ! ”
โม่เฉ่าเป่ยกล่าวด้วยแววตาอาฆาต
สีหน้าของหลี่ไห่เปลี่ยนไป ” นายน้อย การฆ่าคนในฐานทัพมันจะเป็นปัญหากับเรา ถ้าหากถูกคนจับได้ ต่อให้ตระกูลโม่ของเรานั้นจะมีอํานาจมากแค่ไหนก็อาจจะต้องตกในที่นั่งลําบาก! ”
“หากถูกจับได้มันก็อาจจะเกิดปัญหาจริงๆ แต่ถ้าทำโดยไม่มีใครจับได้ ก็ไม่มีปัญหาแล้วถูกไหม?” โม่เฉ่าเป่ยยิ้มเยาะ
“นายน้อยหมายความว่าอย่างไร?” ทันใดนั้นหลี่ไห่ก็นึกถึงใครบางคนขึ้นมาได้ “นายน้อย ท่านต้องการเชิญเงาทมิฬมาทำงานนี้อย่างนั้นหรือ? แต่การว่าจ้างเงาทมิฬนั้นราคาก็ไม่ใช่ถูกๆ อย่างน้อยก็ต้องใช้เงินถึงหนึ่งล้านหยวน! ”
การฆ่าเด็กน้อยระดับผู้ฝึกยุทธในราคา 1 ล้านหยวนสำหรับหลี่ไห่นั้นไม่คุ้มค่าเลย
โม่เฉ่าเป่ยเพียงพึ่งเลื่อนขั้นเป็นนักรบเท่านั้น เขาสามารถรับเงินจากตระกูลโม่ไม่เกินหนึ่งล้านหยวนเท่านั้น
“พรสวรรค์ของเจ้าเด็กนั่นน่าจะไม่เลวนัก อายุยังน้อยก็บรรลุถึงผู้ฝึกยุทธ์ขั้นกลางแล้ว พรสวรรค์ของมันน่าจะเป็นพรสวรรค์ระดับเริ่มต้น ไม่น่าจะเป็นพรสวรรค์ระดับกลาง แต่ถึงอย่างนั้น ด้วยความช่วยเหลือของเลือดสัตว์ร้ายระดับกลางและเลือดอสูรงูหลามใบไม้เขียว บางทีมันอาจจะเลื่อนขึ้นเป็นระดับนักรบได้ภายในหนึ่งหรือสองปี ค่าใช้จ่ายในการสังหารผู้ฝึกยุทธ์หนึ่งคนกับนักรบหนึ่งคนนั้นแตกต่างกัน ฉันอยากสังหารมันตั้งแต่มันยังไม่เติบโต ท่านเข้าใจหรือไม่? ถึงเงินจำนวน 1 ล้านจะเป็นตัวเลขที่ไม่น้อยสําหรับฉันตอนนี้ แต่ในอีกหนึ่งหรือสองปีเงิน 1 ล้านจะนับเป็นอะไรได้? “โม่เฉ่าเป่ยกล่าวอธิบาย
“นายน้อย ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจะติดต่อเงาทมิฬโดยเร็ว!”
หลี่ไห่กล่าว
พูดจบก็ถอยออกจากห้องไป
ภายในห้อง โม่เฉาเป่ยพึมพํากับตัวเอง “แม้ว่าเงาทมิฬจะเป็นเพียงผู้มีพรสวรรค์ระดับรอง หลังจากกลายเป็นนักรบขั้นต้นเขาก็ไม่สามารถพัฒนาตัวเองได้ แต่เขาเป็นนักรบที่มีพรสวรรค์ที่หาได้ยากอย่างพรสวรรค์เงาทมิฬที่สามารถซ่อนตัวอยู่ในเงามืดได้ แม้แต่นักรบชั้นยอดก็ยังยากที่จะสังเกตเห็น การคงอยู่ของพรสวรรค์เงาทมิฬ มันเป็นพรสวรรค์ที่น่ากลัวมากในหมู่นักรบแม้แต่เราเองก็ไม่สามารถหลบการลอบสังหารของเงาทมิฬได้ การว่าจ้างให้เขาลอบสังหารเย่เทียนต้องสำเร็จแน่นอน! ”
จากนั้นโม่เฉาเป่ยก็วางเรื่องนี้ลงและเริ่มฝึกยุทธ์
……
หนึ่งวันต่อมา
เหมือนดังทุกๆวันเย่เทียนเตรียมจะกลับบ้านหลังจากฝึกในป่าเล็ก ๆของสถาบัน
อย่างไรก็ตามเมื่อเขากําลังจะออกจากป่าสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความตกใจ
เขามองไปที่ต้นไม้ที่อยู่ห่างออกไปราวสามเมตร ต้นไม้ต้นนี้ขนาดไม่เล็กมากนัก ใต้ร่มเงาของมันไม่มีอะไรเลย มันว่างเปล่า
อย่างไรก็ตามเย่เทียนสัมผัสได้ว่ามีคนอยู่ที่นี่
[มนุษย์: หลี่ฉุน
พรสวรรค์ในการฝึกฝน: ระดับรอง
พรสวรรค์เงาทมิฬ: ระดับเริ่มต้น]
พรสวรรค์ในการคัดลอกได้กลายเป็นสัญชาตญาณของเย่เทียน เขาสามารถสํารวจทุกสิ่งที่อยู่รอบ ๆ ตัวได้ทุกเวลา เมื่อมีคนหรือสัตว์ป่าเข้ามาใกล้เขาจะรู้ได้ทันที
นี่เป็นวิธีหนึ่งของเย่เทียนใช้ในการปกป้องตัวเอง
“คนที่ชื่อหลี่ฉุนคนนี้น่าจะใช้พรสวรรค์เงาทมิฬซ่อนตัว ดังนั้นเราจึงมองไม่เห็นเขาด้วยตาเปล่า คนที่ปลุกพรสวรรค์เช่นนี้ได้ แน่นอนว่าต้องมีความแข็งแกร่งเหนือผู้ฝึกยุทธอย่างเราเเน่นอน แต่พรสวรรค์ของเขาเป็นเพียงพรสวรรค์ระดับรองเท่านั้น คาดว่าเขาน่าจะเป็นนักรบขั้นต้น!”
เพียงชั่วพริบตา เย่เทียนก็สามารถคาดเดาสถานการณ์ของหลี่ฉุนได้
ตอนนี้เป็นเวลาใกล้พลบค่ํา ท้องฟ้าก็กําลังจะมืดลง เหล่าศิษย์ของสถาบันก็จากไปแล้ว ในป่าเล็กๆ แห่งนี้มีเพียงเขาคนเดียว จุดประสงค์ที่หลี่ฉุนซ่อนอยู่ที่นี่มันชัดเจนมาก
“หรือว่าจะมาเพื่อลอบสังหารข้า?”
เย่เทียนคิดในใจ
เขาไม่รู้จักหลี่ฉุน เห็นได้ชัดว่ามีคนจ้างหลี่ฉุนมาลอบสังหารเขา และเขาก็ไม่จําเป็นต้องเดาก็รู้ว่าเป็นใคร
“โม่เฉ่าเป่ย!”
ดวงตาของเย่เทียนเปล่งประกายด้วยจิตสังหาร
เขาคิดว่าโม่เฉ่าเป่ยจะใช้ลูกเล่นเล็กน้อยเพื่อสร้างปัญหาให้กับเขา แต่ก็ไม่คิดว่าโม่เฉ่าเป่ยจะกล้าจ้างคนมาลอบสังหารโดยตรง
“ถ้ารอดไปได้ โม่เฉ่าเป่ย แกตายแน่!”
เย่เทียนสาบานในใจ
สถานการณ์ตอนนี้ไม่ได้ส่งผลดีต่อเย่เทียนมากนัก แต่นี่ก็เป็นโอกาสของเย่เทียนเช่นกัน
พรสวรรค์ในการคัดลอกของเขาในตอนนี้นั้นสามารถใช้ได้อีกครั้ง เดิมทีเขาไม่รู้ว่าจะใช้มันคัดลอกพรสวรรค์อะไรดี ตอนนี้พรสวรรค์หายากได้วิ่งมาหาเขาแล้ว
พรสวรรค์เงาทมิฬเป็นพรสวรรค์ที่ท้าทายสวรรค์สําหรับนักรบขั้นต้น เมื่อเย่เทียนมีพรสวรรค์เงาทมิฬ เขาก็จะสามารถทําสิ่งต่างๆที่เขาไม่สามารถทําได้ในตอนนี้ได้ง่ายดายยิ่งขึ้น
“หากต้องการพรสวรรค์เงาทมิฬ ก่อนอื่นเราต้องฆ่าหลี่ฉุน!” เย่เทียนพูดกับตนเองอย่างใจเย็น
เขาเดินต่อไปอย่างช้าๆ และสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่กําลังใกล้เข้ามา
เขารู้ดีว่าหลี่ฉุนกําลังจะลงมือแล้ว!
แต่ในขณะที่หลี่ฉุนกําลังจะลงมือ เย่เทียนก็ชิงลงมือก่อน
ฟึบ!
พรสวรรค์ด้านความเร็วถูกเรียกใช้งาน
ด้วยพรสวรรค์ความเร็ว ความเร็วของเย่เทียนเหนือกว่านักรบทั่วไป หากเทียบกับนักรบขั้นกลางก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลย
หลี่ฉุนคิดว่าการสังหารผู้ฝึกยุทธ์สำหรับเขานั้นง่ายมาก ดังนั้นเขาจึงไม่ได้จริงจังกับภารกิจนี้มากนัก
แต่ทันใดนั้น ร่างหนึ่งก็แวบผ่านมาปรากฏตรงหน้าเขา หลี่ฉุนเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
“ตาย!”
เย่เทียนที่ถือดาบเหล็กในมือฟันออกไปอย่างรุนแรง
ฉึก!
แม้ว่าความเร็วของเย่เทียนจะรวดเร็วมาก แต่ดาบเหล็กในมือเขากลับเร็วยิ่งกว่า
“เจ้าหนู รนหาที่ตาย!”
หลี่ฉุนปรากฏตัวจากเงามืด ตอนนี้มีบาดแผลปรากฏขึ้นที่แขนขวาของเขา บาดแผลค่อนข้างสาหัส
ถ้าเย่เทียนแข็งแกร่งกว่านี้แขนของหลี่ฉุนคงจะถูกตัดขาดไปแล้ว
หลี่ฉุนได้รับบาดเจ็บที่แขนขวา แม้ว่าพลังการต่อสู้ของเขาจะลดลงอย่างมาก แต่เขาก็รู้สึกว่าเขายังสามารถที่ฆ่าเย่เทียนได้
แต่ไม่นานเขาก็ต้องตกตะลึง!
ความเร็วของเย่เทียนนั้นรวดเร็วอย่างมาก มันเร็วยิ่งกว่าเขา รวมไปถึงทักษะดาบที่ทั้งรวดเร็วและเฉียบคม แม้ว่าตัวหลีฉุนจะฝึกฝนทักษะดาบมานานกว่า 20 ปี เขาก็ยังไม่แข็งแกร่งเท่าเย่เทียน
เย่เทียนอาศัยความเร็วและวิชาดาบค่อยๆกดดันหลี่ฉุน ในขณะที่แขนขวาของหลี่ฉุนยังคงมีเลือดไหลออกมา ทําให้สภาพของหลี่ฉุนแย่ลงเรื่อยๆ
ทันใดนั้น
เย่เทียนคว้าโอกาสฟันไปที่หน้าอกของหลี่ฉุนจนเกิดบาดแผลฉกรรจ์อีกครั้ง
“เจ้าหนู รอก่อน!”
ร่างของหลี่ฉุนวูบวาบ และเลือนหายไปในความมืด
อย่างไรก็ตามเย่เทียนไม่ได้หยุดและยังคงฟันออกไปยังความว่างเปล่า
อ๊าก!!!!
ภายใต้การโจมตีเพียงครั้งเดียว ร่างหนึ่งกระเด็นถอยหลัง มันคือหลี่ฉุน
“บ้าเอ้ย! เป็นไปไม่ได้ เจ้ามองทะลุพรสวรรค์เงาทมิฬของข้าได้อย่างไร!!!”
เห็นได้ชัดว่าหลี่ฉุนไม่อาจเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ที่ฐานหลินไห่แห่งนี้ อย่าว่าแต่นักรบระดับเดียวกับเขาเลย แม้แต่นักรบชั้นยอดก็ไม่สามารถมองทะลุพรสวรรค์ของเขาได้ มีเพียงผู้ฝึกยุทธุ์ที่มีพลังจิตวิญญาณกล้าแกร่งเท่านั้นที่สามารถปลดปล่อยพลังจิตออกมาสัมผัสการคงอยู่ของเขาได้
ด้วยพรสวรรค์เงาทมิฬ มันทำให้ผู้ฝึกยุทธจำนวนมากในฐานหลินไห่ไม่กล้ายั่วยุเขา เขาไม่คิดเลยว่าวันนี้เขาจะถูกจัดการโดยเด็กน้อยที่มีระดับเพียงผู้ฝึกยุทธ์
เย่เทียนไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาตอบกลับหลี่ฉุนด้วยดาบในมือ
ไม่นานหลี่ฉุนก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เขาถูกเย่เทียนฟันจนคอขาดกระเด็นและตายไปในที่สุด