Your Talent Is Mine ระบบคัดลอกพรสวรรค์ - บทที่ 153 ทําลายค่ายกลขนาดใหญ่!

บทที่ 153 ทําลายค่ายกลขนาดใหญ่!

หลังจากนั้นไม่นาน เย่เทียนก็สํารวจทุกห้องภายในอาคารแห่งนี้ และพบเจอกับสมบัติล้ำค่ามากมาย

ยกตัวอย่างเช่น กระบี่ยาวเล่มหนึ่ง ที่เป็นอาวุธเวทย์ระดับที่สูงมาก กระบี่ประเภทนี้มีค่าอย่างมากในฐานจงไห่

มันถูกเรียกว่าศาสตราวุธเทวะ

ตามการคาดเดาของเย่เทียน กระบี่เล่มนี้น่าจะอยู่ในขั้นของศาสตราวุธระดับเทวะขั้นสูงสุดในยุคอารยธรรมโบราณแต่ตอนนี้มันลดระดับกลายเป็นศาสตราวุธเทวะกลางเท่านั้น

น่าเสียดายที่กระบี่เล่มนี้ไม่มีประโยชน์ต่อเย่เทียน

ในที่สุดเย่เทียนก็เลือกศาสตราวุธเทวดาระดับต่ำและถูกส่งออกไป

ถึงแม้มันจะเป็นระดับต่ำแต่ดาบเล่มนี้ก็เหมาะสมกับเขาเย่เทียนจึงตัดสินใจเลือกมัน

เมื่อหล่อเลี้ยงมันด้วยพลังปราณของเขาโดยทั่วไปแล้วระดับของมันจะไม่ลดลงอีก

การได้ศาสตราวุธเทวะระดับต่ำนับว่าได้กําไรไม่น้อยเลย

จากนั้นเย่เทียนยังคงมองหาอาคารใหม่

ผ่านไปไม่นาน เย่เทียนก็ออกค้นภายในสิ่งปลูกสร้างหลายแห่ง แต่เขาก็ไม่พบทักษะดาบ

ระดับทอง หรือสมบัติปรับแต่งพลังจิตเลยแม้แต่น้อย

สมบัติที่เขาพบค่อนข้างธรรมดาส่วนใหญ่จะเป็นอาวุธเทคนิคการบ่มเพาะระดับสูงสุดหรือโอสถที่สามารถช่วยทะลวงจุดชีพจร

โอสถเหล่านั้นถูกคุ้มครองด้วยค่ายคนพิเศษประสิทธิภาพทางยาจึงไม่ได้ลดลงมากนักมันยังคงมีมูลค่าสูงอยู่

สมบัติเหล่านี้เป็นกําไรสําหรับเย่เทียนแต่ตอนนี้เขาไม่สนใจพวกมัน

ในวันที่สิบ

ทันใดนั้นเย่เทียนก็มองเห็นแสงที่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าจากระยะไกล เขาจึงรีบมุ่งหน้าไปยังทิศทางนั้นอย่างรวดเร็ว

เพียงไม่นานเย่เทียนก็มองเห็นพระราชวังขนาดใหญ่ซึ่งยิ่งใหญ่กว่าอาคารที่เขาเคยพบมาทั้งหมด

ที่นั่นมีผู้ฝึกยุทธระดับราชาอยู่หลายคน

เย่เทียนคาดว่าในพระราชวังแห่งนี้จะต้องมีสมบัติล้ำค่าอยู่อย่างแน่นอนไม่แน่ว่าเมื่อเขาไป

ถึงที่นั่นอาจจะก่อให้เกิดความขัดแย้งขึ้นได้

“ดูเหมือนว่าถึงเวลาแล้วที่จะใช้พรสวรรค์การปลอมตัว!”

เย่เทียนใช้พรสวรรค์ในการปลอมตัวเปลี่ยนรูปร่างและรูปลักษณ์ของเขาและในไม่ช้ารูป

ลักษณ์ของเขาก็เปลี่ยนเป็นชายหนุ่มที่หน้าซีดอย่างรวดเร็ว

จากนั้นเย่เทียนก็บินต่อไป

เมื่อเข้าไปใกล้ๆ เย่เทียนเทียนก็พบว่าพระราชวังแห่งนี้มีรอยแยกนับไม่ถ้วนค่ายกลยังไม่สมบูรณ์

ในขณะเดียวกัน

ยอดฝีมือระดับราชาจํานวนไม่น้อยกําลังร่วมมือกันโจมตีค่ายกลของพระราชวังแห่งนี้และแสงที่เขาเห็นเมื่อครู่คือการทําลายจุดเชื่อมต่อของค่ายกล ทําให้พลังของค่ายกลรั่วไหลออกมาด้วย เหตุนี้จึงทําให้เกิดแสงที่ดึงดูดความสนใจของผู้คน

“คนของฐานแม่น้ำแยงซี!’!

เย่เทียนขมวดคิ้ว

ในเวลานี้คนของฐานแม่น้ำแยงซีก็เห็นเย่เทียนเช่นกันสีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปทันที

พวกเขารู้ว่าแสงก่อนหน้านี้ดึงดูดเย่เทียนมายังที่นี่

“รีบฆ่ามันซะ!”

ยอดฝีมือระดับราชาสองคนพุ่งเข้าใส่เย่เทียน

พวกเขาปลดปล่อยการโจมตีด้วยกระบวนท่าสังหาร คนหนึ่งใช้ทักษะหอกหนึ่งหอกของเขา

ราวกับฉีกกระชากอากาศโดยรอบ ส่วนอีกคนใช้พรสวรรค์มังกรเพลิง

ทั้งหอกและมังกรเพลิงยักษ์พุ่งเข้าหาเย่เทียน

ในแง่ของความแข็งแกร่งสองคนนี้ควรจะเป็นราชา 4 ดารา

“พวกมดปลวก!”

เย่เทียนเคลื่อนไหวและหายไปในพริบตาและดาบของเขาก็ฟาดฟันออกไป

วินาทีต่อมา ร่างของคนทั้งสองก็ร่วงหล่นลงสู่พื้น

เพียงกระบวนท่าเดียวสังหาร 2 คนในทันที!

ภายใต้การปลอมตัว เย่เทียนไม่กลัวจะเปิดเผยตัวตน ทั้งสองคนกล้าลงมือกับเขาถ้าไม่ฆ่ามันแล้วต้องรอให้ถูกฆ่าหรอกหรือ?

“แกฆ่าพวกเขา แกรู้หรือไม่ว่าพวกเขาเป็นใคร? พวกเขาเป็นอัจฉริยะของป้อมปราการเหล็กมังกรแห่งฐานแม่น้ำแยงซีของเรา!”

ชายหนุ่มตะโกนใส่เย่เทียนด้วยความโกรธ

เย่เทียนจ้องเขม็งไปที่อีกฝ่าย”ถ้าไม่พอใจก็ก้าวออกมา!”

สีหน้าของชายหนุ่มชะงักไปเขาไม่กล้าพูดอะไรอีก

ในขณะเดียวกัน

ชายหนุ่มคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นผู้นําเดินออกมาและกล่าวว่า “สหายจากฐานทัพจงไห้ทําไมเราต้องต่อสู้กันด้วย?นายได้พิสูจน์ความแข็งแกร่งของนายแล้วทําไมพวกเราไม่ร่วมมือกันทําลายค่ายกลนี้ล่ะ? พระราชวังแห่งนี้คาดว่าน่าจะมีสมบัติอยู่มากมายฐานทัพแม่น้ำแยงซีของเราค้นพบมานานแล้วอีกทั้งให้ค่ายกลยังถูกทําลายไปแล้วเกือบหมดแล้วเมื่อทําลายค่ายกลแล้วที่แห่งนี้สามารถนําสมบัติทุกชิ้นออกไปได้นายคิดว่าอย่างไร”

“ร่วมมือหรอ? ตกลง!”

เย่เทียนพยักหน้าเห็นด้วย

ดังนั้นเย่เทียนจึงเริ่มโจมตีค่ายกล

ในเวลาเดียวกันเขาก็ตรวจสอบพรสวรรค์ของฝ่ายตรงข้ามชายหนุ่มที่เป็นผู้นําชื่อซุนซิงเหอเขามีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับจันทราและพรสวรรค์อื่น ๆเองก็ไม่เลวเลยมีพรสวรรค์ระดับ

ล็กลับปลอมถึง 3 อย่าง

พลังการต่อสู้ของเขาน่าจะอยู่ในระดับราชา 7 ดาราและเขาก็น่าจะเป็นหนึ่งในอัจฉริยะอันดับต้นๆของฐานทัพแม่น้ำแยงซี

อีกด้านหนึ่ง

ชายหนุ่มคนหนึ่งรีบกล่าวด้วยเสียงเบา”พี่ซุนทําไมพี่ถึงไม่ลงมือล่ะ?ความแข็งแกร่งของพี่เป็นระดับราชาเจ็ดดาราพี่ต้องสามารถฆ่าเขาได้อย่างแน่นอน”

ซุนซิงเหอกล่าวอย่างจริงจังว่า”ข้ารู้สึกว่าหมอนั้นมีความแข็งแกร่งไม่ได้ด้อยไปกว่าข้ามากนักอีกอย่างทําไมข้าต้องสนใจสวะ 2คนที่เพิ่งตายไปด้วยยิ่งไปกว่านั้นแทนที่จะสนใจสู่ให้หมอนั่นช่วยทําลายค่ายกลกับเราไม่ดีกว่าหรือ?หากให้คนถูกทําลายแล้วด้านในมีสมบัติล้ำค่าค่อยร่วมมือสังหารมันก็ยังไม่สาย…”

“พี่ซุนช่างรอบคอบนัก พวกเราร้อนใจเกินไป!”

ชายหนุ่มรีบกล่าวประจบสอพลอ

แม้ว่าเย่เทียนจะไม่ได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูด แต่ต้องไม่ใช่เครื่องดีอย่างแน่นอน

พวกมันต้องการใช้ประโยชน์จากเขา แล้วทําไมเขาถึงไม่ใช้ประโยชน์จากพวกมันด้วยล่ะ?

หากสามารถทําลายค่ายกลด้วยความช่วยเหลือของคนเหล่านี้ได้ เขาก็จะไม่ต้องเสียเวลาและเหนื่อยมากนัก

ตูม!!!

ทุกๆคนต่างระเบิดพลังโจมตีออกมาทั้งวันทั้งคืนและจุดเชื่อมต่อค่ายกลอีกจุดหนึ่งก็ถูกทําลาย

ในเวลานี้ค่ายกลกําลังเริ่มสั่นคลอน คาดว่าหากทําลายอีกจุดเดียว ค่ายกลทั้งหมดก็จะถูกท่าลาย

เมื่อเห็นว่าค่ายกลกําลังจะถูกทําลาย ทุกคนก็ตื่นเต้นขึ้นมา

นี่เป็นพระราชวังจะมีสมบัติมากมายขนาดไหน?

อย่างไรก็ตามเย่เทียนขมวดคิ้วเล็กน้อย เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ?

ผ่านไปอีกวัน

ในที่สุดเย่เทียนและคนอื่น ๆ ก็ทําลายจุดเชื่อมต่อของค่ายกลได้อีกครั้ง

ตูม!

ค่ายกลทั้งหมดพลันสูญเสียกําลังไปในขณะที่แสงสว่างปรากฏขึ้นและค่อยๆสลายหายไป

ค่ายกลนี้ไม่ได้ถูกทําลายเพียงแต่หยุดทํางานแต่เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว

เมื่อค่ายกลหยุดทํางานพวกเขาก็สามารถกวาดสมบัติทั้งหมดออกมาได้

“” ฮ่าๆ สมบัติจ๋า ข้ามาแล้วววว!”

ผู้ฝึกยุทธระดับราชาคนหนึ่งพุ่งเข้าไปทันที

คนอื่นๆก็อดใจรอไม่ไหวจึงบุกเข้าไปเช่นกันในตอนนี้พวกเขาต่างคิดว่าใครไปถึงก่อนย่อมได้

รับสมบัติล้ำค่าก่อน!

เย่เทียนลังเลเล็กน้อยก่อนจะรีบพุ่งเข้าไปในพระราชวัง

ทันใดนั้น

– เสียงกรีดร้องก็ดังขึ้น

“อ๊ากกก”

มันเป็นเสียงกรีดร้องของผู้ฝึกยุทธ์คนแรกที่พุ่งเข้าไป

ระดับราชาคนอื่นๆรีบหลบหนีออกมาด้วยความเร็วสูงสุด

ตูม!!!!

อากาศโดยรอบพลันสั่นสะเทือนหุ่นเชิดศพเกราะทองจํานวนมากบินออกมาจากพระราชวังฉีกกระชากของผู้ฝึกยุทธระดับราชาเป็นชิ้นๆและกลายเป็นหมอกโลหิตในพริบตา

“หุ่นเชิดบัดซบ ตายซะ!”

ซุนซิงเหอที่มีพลังการต่อสู้ระดับราชาเจ็ดดารากลายเป็นเทพสงครามโบราณเขาใช้ทักษะ

หมัดที่น่าสะพรึงกลัวต่อยออกไปหมัดของเขาปลดปล่อยกลิ่นอายที่น่าเกรงขามออกมา

อย่างไรก็ตาม

หุ่นเชิดเกราะทองที่ถือดาบทำลายหมัดของเขาในกระบวนท่าเดียว พลังอันน่าเกรงขามของ

ซุน ซิงเหอ สลายไปในทันทีเมื่อเห็นดังนั้นใบหน้าของเขาก็เผยความหวาดกลัวออกมาและวิ่งหนีไปทันที

ในตอนนี้เขาไม่สนใจศักดิ์ศรีหรือสมบัติใดๆทั้งสิ้น

หากยังอยู่ต่อเขาจะต้องถูกหุ่นเชิดเกราะทองจํานวนมากรุมโจมตีจนตายอย่างแน่นอน!