Your Talent Is Mine ระบบคัดลอกพรสวรรค์ - บทที่ 178 พลังการต่อสู้ระดับจักรพรรดิ!
บทที่ 178 พลังการต่อสู้ระดับจักรพรรดิ!
หลังจากคัดลอกพรสวรรค์เนตรโลหิตระดับกลางแล้ว เย่เทียนก็กลับไปยัง
ที่พักของเขา
-ชั้นสามของป้อมปราการ
“เปิดค่ายกล”
เย่เทียนเริ่มหลอมรวมพรสวรรค์เนตรโลหิตระดับกลางทันที ครั้งนี้เขาไม่ได้
รู้สึกเจ็บปวดอะไร เพียงแต่ร่างกายของเขาเริ่มร้อนขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น
เพียงไม่นานกระบวนการหลอมรวมก็สิ้นสุดลง
ในเวลานี้ในบรรดาพรสวรรค์มากมายของเย่เทียนปรากฏชื่อของพรสวรรค์เนตรโลหิตระดับกลางเพิ่มเข้ามา
พรสวรรค์ของเนตรโลหิตระดับกลางของเย่เทียนไม่ใช่การปลดปล่อยออกมา
จากดวงตาที่ 3 ตรงหว่างคิ้วเหมือนจักรพรรดิเนตรโลหิต แต่กลายเป็นว่าเขา สามารถเปิดใช้งานพรสวรรค์โลหิตจากดวงตาข้างใดข้างหนึ่งของเขาได้
ในตอนแรกเย่เทียนคิดว่าเมื่อหลอมรวมพรสวรรค์เนตรโลหิตแล้วเขาจะมีดวง ตาปรากฏขึ้นบนหว่างคิ้ว แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะคิดมากไป
ด้วยพรสวรรค์เนตรโลหิตระดับกลาง เย่เทียนสามารถลดความกังวลของเขาลงได้เล็กน้อย
หากสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิที่มีพรสวรรค์ในการโจมตีทางจิตวิญญาณ เขาจะ สามารถใช้พรสวรรค์เนตรโลหิตเพื่อต่อต้านการโจมตีทางวิญญาณนั้นได้
น่าเสียดายประโยชน์ที่แท้จริงของพรสวรรค์เนตรโลหิตคือการทําลาย
จิตสํานึกของศัตรู ทําให้วิญญาณของศัตรูสับสน ไม่ใช่ทําลายวิญญาณของศัตรู โดยตรง มันเป็นพรสวรรค์ที่ส่งผลกระทบต่อวิญญาณเล็กน้อยเท่านั้น
แน่นอนว่าพรสวรรค์เนตรโลหิตนี้จริงๆแล้วไม่ได้ยอดเยี่ยมอะไร เพียงแต่ว่ามัน เป็นพรสวรรค์เดียวที่เย่เทียนจะสามารถใช้รับมือกับสัตว์อสูรที่มีพรสวรรค์ในการโจมตีวิญญาณได้
หลังจากนั้นไม่นาน
เย่เทียนติดต่อกับนักบุญหญิงแห่งนิกายเทพจันทรา และได้รู้ข่าวของ จักรพรรดิจันทรา จักรพรรดิเนตรโลหิตและคนอื่นๆ
“พวกเขาพบสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิตัวนั้นแล้ว!”
เย่เทียนประหลาดใจ
จักรพรรดิเนตรโลหิตได้เดินทางไปยังสถานที่ที่จักรพรรดิเป่าหลงถูกสังหารและได้พบขนของสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิ เขาจึงได้ใช้พรสวรรค์คําสาปทําการ สาปแช่งสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิ
การโจมตีด้วยพรสวรรค์คําสาปจะสามารถระบุตําแหน่งโดยประมาณของเป้าหมาย ทําให้สามารถติดตามเป้าหมายได้ตลอด
แน่นอนว่าผู้ที่ถูกสาปไม่ใช่สัตว์อสูรระดับจักรพรรดิที่มีพรสวรรค์ในการโจมตี ทางจิตวิญญาณ แต่เป็นสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิอีกตัว
แต่ตราบใดที่เขาพบมัน บางทีเขาอาจพบสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิที่มี พรสวรรค์ในการโจมตีทางจิตวิญญาณ
เมื่อสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิถูกสาปให้โจมตี แน่นอนว่าพวกมันจะต้องหลบหนีและจะไม่อยู่ที่เดิม จักรพรรดิฝั่งมนุษย์นั้นสามารถติดตามมันได้หลังจากรู้ตําแหน่ งของมันแล้ว จากนั้นพวกเขาก็ตามรอยมันจากกลิ่นอายที่มันทิ้งไว้
ในที่สุดเหล่าจักรพรรดิก็พบสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิเหล่านั้นและยังได้พบกับสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิที่มีพรสวรรค์ในการโจมตีจิตวิญญาณ
ในการปะทะกันครั้งแรก มีจักรพรรดิ์มนุษย์ตายไป 1 คน แต่สัตว์อสูรระดับ จักรพรรดิกลับถูกฆ่าไป 10 ตัว แต่ก็ไม่สามารถสังหารสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิที่มี พรสวรรค์ในการโจมตีทางจิตวิญญาณได้
ในการปะทะครั้งนั้น จักรพรรดิจันทราได้รับบาดเจ็บไม่น้อย พรสวรรค์ด้านคํา สาปของจักรพรรดิเนตรโลหิตก็ไม่สามารถใช้งานได้ชั่วคราว เนื่องจากเขาใช้มันหลายครั้ง ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถยืนยันที่อยู่ของสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิที่มีพรสวรรค์ในการโจมตีจิตวิญญาณได้อีก
คราวนี้เหล่าจักรพรรดิ์มนุษย์ได้ยืนยันแล้วว่าพรสวรรค์ในการโจมตีวิญญาณของสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิตัวนั้น ไม่สามารถฆ่าจักรพรรดิจันทราและจักรพรรดิเนตรโลหิตได้
แต่สําหรับจักรพรรดิทั่วไปมันสามารถสังหารพวกเขาได้อย่างง่ายดาย มีเพียงจักรพรรดิที่มีพลังวิญญาณมากกว่าจักรพรรดิทั่วไป 10 เท่าเท่านั้นที่สามารถ ต้านทานการโจมตีวิญญาณของอีกฝ่ายได้
ใน 36 จักรพรรดิแห่งฐานจงไห่ นอกจากจักรพรรดิจันทราและจักรพรรดิเนตร โลหิตแล้ว จักรพรรดิที่มีพลังวิญญาณมากกว่าจักรพรรดิทั่วไป 10 เท่ามีไม่เกิน 10 คน 36 จักรพรรดิล้วนแต่มีพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่ง แต่พลังวิญญาณของพวกเขา ไม่ได้สูงเท่าที่ควรนี่จึงเป็นข่าวร้าย
“ดูเหมือนว่าระดับการบ่มเพาะของจักรพรรดิทั้ง 36 คนจะไม่ได้สูงมากนัก แต่ ก็พอเข้าใจได้เพราะมนุษย์เพิ่งฝึกฝนมาเพียงร้อยกว่าปี แต่สัตว์อสูรฝึกฝนมาอย่างยาวนาน แม้หลังเหตุการณ์ภัยพิบัติจะเกิดพลังปราณขึ้นบนโลก แต่พลังบ่มเพาะไม่สามารถเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้ ดังนั้นระดับการบ่มเพาะของมนุษย์จึงไม่ ได้สูงมากนัก” “เย่เทียนคิดกับตัวเอง
ดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้ว หากไม่ฆ่าสัตว์อสูรระดับจักรพรรดินั่น สถานการณ์คงจะไม่ดีขึ้น
ดูเหมือนว่าเหล่าสัตว์อสูรจะให้ความสําคัญกับสัตว์อสูรตัวนั้นเป็นพิเศษ มันจึงสามารถหลบหนีไปได้ คงต้องฝากความหวังกับการโจมตีครั้งต่อไปแล้ว
ไม่แน่ว่าหากไม่รีบกําจัดมันอีกฝ่ายอาจจะบุกเข้ามาในฐานที่มั่น หากเป็นเช่นนั้นทุกอย่างคงจบสิ้นอย่างแน่นอน
“ช่างมันเถอะ เราต้องรีบฝึกฝนก่อน พยายามแข็งแกร่งขึ้นให้มากที่สุด!”
เย่เทียนพยายามฝึกฝนอย่างหนัก เขาใช้ประโยชน์จากสมบัติของเขาเปิด
พื้นที่สมองอย่างบ้าคลั่ง
ทุกๆ 2 วัน เย่เทียนจะสามารถเปิดพื้นที่สมองได้ 1% ความเร็วในการบ่มเพาะ ของเขาในขณะนี้เหนือกว่าผู้ฝึกยุทธที่มีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับจันทรามาก จนพวกเขาไม่สามารถจินตนาการได้ถึง
เย่เทียนมาถึงฐานป้องกันในโลกสัตว์อสูรนี้เป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้ว
การบ่มเพาะตลอด 1 เดือนที่ผ่านมาทําให้ความแข็งแกร่งของเย่เทียนเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ตอนนี้เขาสามารถเปิดพื้นที่สมองได้ถึง 31% แล้ว ความแข็งแกร่งทาง ร่างกายของเขาเท่ากับ 3.1 พลังมังกร และการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาคือ12,400 มังกร
พลังโจมตีของระดับราชาศักดิ์สิทธิ์มีเพียงแค่ 1,000 มังกรเท่านั้น ในขณะที่ เย่เทียนมีพลังถึง 12,400 มังกร ทั้งความเร็วและพลังป้องกันของเย่เทียนก็เป็น พรสวรรค์ระดับลึกลับดังนั้นอาจพูดได้ว่าเขาไม่มีข้อบกพร่องเลย
จากการประเมินคร่าวๆ แม้ว่าจะไม่นับพรสวรรค์ด้านมิติและพรสวรรค์ด้านเวลาพลังการต่อสู้ที่แท้จริงของเขาอยู่ในระดับราชาศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุดแล้ว
พลังโจมตีของราชาศักดิ์สิทธิ์นั้นเหนือกว่าระดับจักรพรรดิทั่วไปมาก แต่ความเร็วและพลังป้องกันของระดับจักรพรรดิไม่ใช่สิ่งที่ราชาศัพท์สิทธิ์จะเทียบได้ แน่นอนเย่เทียนสามารถชดเชยเรื่องเหล่านี้ด้วยพรสวรรค์ด้านการป้องกันและพรสวรรค์ด้านความเร็วระดับลึกลับได้
แต่หากเขาเปิดใช้งานพรสวรรค์ด้านมิติและพรสวรรค์ด้านเวลา เย่เทียนจะ
สามารถสังหารระดับจักรพรรดิที่ไม่แข็งแกร่งได้อย่างแน่นอน
“ฉันมีพลังต่อสู้เทียบเท่ากับระดับจักรพรรดิแล้ว น่าเสียดายที่มันยังไม่เพียง
พอที่จะสามารถคุกคามระดับจักรพรรดิที่แท้จริงได้ เว้นเสียแต่ว่าพรสวรรค์ของฉันจะมีระดับสูงกว่าระดับลึกลับ!” เย่เทียนถอนหายใจ
อย่างไรก็ตามเขาพยายามแล้ว เมื่อพรสวรรค์ของเขากลายเป็นระดับลึกลับเหมือนว่าพรสวรรค์ระดับลึกลับจะถึงจุดสูงสุดแล้ว
แต่เย่เทียนยังรู้สึกได้ลางๆว่ายังมีระดับที่สูงกว่าระดับลึกลับ เพียงแต่เขายังไม่เจอมันในตอนนี้
ตึง!
มีข้อความจากผู้ติดต่อเกี่ยวกับภารกิจของเขาในครั้งนี้
“ตรวจสอบสถานการณ์ของสัตว์อสูรในพื้นที่หมายเลข 13 รายงานภารกิจได้ตลอดเวลา ภารกิจ 2 คน กําหนดเวลา 3 วัน”
พื้นที่หมายเลข 13 อยู่ห่างจากสถานที่แห่งนี้ประมาณ 300,000 กิโลเมตร ซึ่ง ไม่ไกลนัก แต่ที่นี่คือโลกของสัตว์อสูร ระยะทาง 300,000 กิโลเมตรนั้นอันตราย มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้
ในสถานการณ์ที่ตึงเครียด ระดับศักดิ์สิทธิ์ทั่วไปไม่กล้าเข้าไปลึกถึง 300,000กิโลเมตร แต่เย่เทียนเป็นมหาปราชญ์ ดังนั้นเขาจึงได้รับมอบหมายภารกิจในครั้งนี้
เย่เทียนรู้สึกว่าภารกิจนี้สมเหตุสมผลมาก ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ขอเปลี่ยนภารกิจ
ที่ทางออกของฐานทัพ
เย่เทียนเห็นคู่หูของเขาในภารกิจนี้อย่างรวดเร็ว
“เสวียนเฟิง!”
เย่เทียนมองไปที่เสวียนเฟิงด้วยความประหลาดใจ คู่หูของเขาในภารกิจครั้งนี้คือหมอนี้
แต่เขาก็ตระหนักได้ว่าระดับมหาปราชญ์ในที่แห่งนี้มีไม่มากนัก โอกาสที่เขาจะได้เจอกับเสวียนเฟิงจึงค่อนข้างสูง
“เย่เทียน บังเอิญจริงๆ ไม่คิดว่าภารกิจแรกของเราจะได้ร่วมทีมกัน!”
เสวียนเฟิงก็แปลกใจเช่นกัน
หลังจากนั้นพวกเขาก็ออกเดินทางได้ทันที ทั้งสองคนไม่ได้บินออกไป แต่ใช้วิธีวิ่งออกไปแทน การบินในโลกของสัตว์อสูร มันสะดุดตามากเกินไป การเดิน ทาง บนพื้นดินจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
ระหว่างทาง
เย่เทียนถาม “เสวียนเฟิง นายเป็นสมาชิกหลักของหอทหารรับจ้างขวาน สงครามใช่ไหม? ฉันสนใจทักษะดาบในมือของจักรพรรดิขวานสงคราม มีวิธีไหนบ้างที่จะทําให้ฉันขอยืมมันจากเขาได้ แต่หากต้องการทักษะดาบระดับทองสิบเล่มแล้วละก็ แน่นอนฉันคงต้องหมดหวัง ”
“นายกําลังพูดถึงทักษะดาบที่อยู่เหนือกว่าระดับทองอย่างนั้นหรอ? ฉันเป็น
เพียงศิษย์สายนอกของจักรพรรดิขวานสงครามเท่านั้น ฉันไม่สามารถช่วยนาย ได! แต่ถ้านายจริงจัง ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาส!”
เสวียนเฟิงกล่าวอย่างจริงจัง