ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 12 บทที่ 335 คดีเก่าเมื่อสิบสองปีที่แล้ว
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 12 บทที่ 335 คดีเก่าเมื่อสิบสองปีที่แล้ว
วาจาของเซียวยวี่จะว่าเข้าใจยากก็ไม่ใช่ ว่าไปแล้วก็ฟังเข้าใจง่าย แต่ทุกคนคิดอยู่นานก็ยังไม่เข้าใจความหมายที่เขาจะสื่อ
โหยวเจิ้งเฉิง “ท่านหมายความว่า มีคนบอกนางว่าผู้ใดคือปีศาจ? ”
จากนั้น สีหน้าของโหยวเจิ้งเฉิงจึงเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง “ท่านหมายความว่า มีคนเชิญนางมาให้ร้ายจอมยุทธ์หญิงโดยเฉพาะ?”
ซินแสสวี่ “ข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังพูดอะไร ข้าไม่รู้ด้วยว่าอะไรคือหวงหลิน นี่เป็นเพียงความข้างเดียวของปีศาจอย่างเจ้า! ข้าจับปีศาจมาสิบกว่าปี ไม่เคยพลาดท่า วันนี้เสียท่าให้ปีศาจอย่างเจ้า ถือว่าข้าโชคไม่ดีเอง! แต่เจ้าอย่าเพิ่งลำพองใจไป ข้าย่อมมีวิธีกำราบเจ้า คืนความสงบสุขให้กับปวงชน! ”
นักต้มตุ๋นคนหนึ่ง เอ่ยวาจาราวกับเป็นผู้กอบกู้โลกอย่างไรอย่างนั้น!
“จริงหรือ? ไม่รู้จักหวงหลินหรือ? ” เซี่ยยวี่หลัวแย้มรอยยิ้ม “ถ้าอย่างไร ให้ทุกคนดูมือของท่าน ได้ยินมาว่ามือที่เคยสัมผัสหวงหลิน เมื่ออยู่ในที่มืดจะเรืองแสงสีเขียวอ่อน หากมีแสงสีเขียวปรากฏ เช่นนั้นก็เป็นเครื่องยืนยันว่าท่านเคยสัมผัสหวงหลิน ถึงเวลาท่านจะอธิบายอย่างไรอีกว่าท่านไม่รู้จักหวงหลิน? ”
ซินแสสวี่กำลังจะยื่นมือออกมาอย่างได้ใจ ก็เห็นหมอผีน้อยคนหนึ่งที่อยู่ข้างหลังนางซ่อนมือไว้อย่างฉับพลัน
โหยวเจิ้งเฉิงตะโกนเสียงดัง “เหยาหลี่ซวี จับมือนางไว้! ”
เหยาต้าไห่เดินขึ้นหน้าสองก้าว คว้าหมับจับมือของหมอผีน้อยไว้ทันที
หมอผีน้อยตกใจจนตัวสั่น กลับพยายามดิ้นรนสุดชีวิต “ข้าไม่รู้จักหวงหลิน ปล่อย… ปล่อยข้า”
โหยวเจิ้งเฉิงตะคอกเสียงดัง “หากเจ้าไม่ได้ทำเรื่องน่าละอายใจ เจ้าจะลนลานไปไย? หรือว่า มือของเจ้าเคยสัมผัสหวงหลิน ดังนั้นจึงกลัวพวกเราตรวจสอบ? ”
หมอผีน้อยไม่ได้กล่าวอะไร ตกใจจนสีหน้าซีดเผือด
ซินแสสวี่กัดริมฝีปาก ฝืนทนอยู่นานกว่าจะกลืนคำว่าเจ้าคนไร้ประโยชน์กลับเข้าไป
หมอผีน้อยที่ถูกพาไปยังห้องมืดในศาลบรรพชนถูกนำตัวกลับมาอย่างรวดเร็ว โหยวหลี่เจิ้งสีหน้าฉายประกายเกรี้ยวกราด “ซินแสสวี่ ท่านจะอธิบายอย่างไร? ”
หลังจากพาไปในห้องมืด บนมือของหมอผีน้อยมีแสงสีเขียวอ่อนอยู่จริง!
“ข้าไม่รู้อะไรทั้งนั้น! ” ซินแสสวี่ยังคงกล่าวก่อนส่งเสียงเย็นในลำคออย่างหยิ่งทะนง
“เช่นนั้นหรือ? ท่านไม่รู้? คนของท่านบอกวิธีการของท่านออกมาหมดแล้ว! ” โหยวหลี่เจิ้งกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “ปีศาจอะไรกัน ดูท่าขอเพียงแค่มีเงิน คนธรรมดายังถูกท่านกล่าวหาว่าเป็นปีศาจได้! ”
ซินแสสวี่เดินขึ้นหน้าไปดึงผมหมอผีน้อย “เจ้าคนไร้ประโยชน์ ใครใช้ให้เจ้าบอก! ”
หมอผีน้อยเบิกตากว้างด้วยความหวาดผวา “ซินแส ข้า… ข้าไม่ได้กล่าวอะไรเลย! ”
ซินแสสวี่ได้ฟังดังนั้น ก็ล้มนั่งลงบนพื้นราวกับดินโคลนเหลวหนึ่งกอง
จบกัน จบกัน ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาไม่เคยพลาดท่า วันนี้กลับต้องพลาดท่าด้วยน้ำมือของแม่หนูคนหนึ่ง
เซียวจิ้งยี่ตะคอกเสียงดังลั่น “ใครจ่ายเงินให้เจ้ามากันแน่? ”
มาถึงบัดนี้ หากเซียวจิ้งยี่ยังไม่เข้าใจละครฉากนี้ก็ถือว่าเป็นคนโง่เขลาอย่างแท้จริงแล้ว
ซินแสสวี่เป็นเพียงนักต้มตุ๋น เป็นห่วงความปลอดภัยของหมู่บ้านสกุลเซียวอะไรกัน ไม่ใช่เลยแม้แต่น้อย!
เมื่อเห็นซินแสสวี่ไม่ปริปาก เซียวจิ้งยี่หัวเราะอย่างเย็นเยียบ กล่าวกับเซียวยวี่ที่อยู่ข้างๆ “เซียวยวี่ เจ้าลองกล่าวมา ใส่ร้ายปรักปรำผู้บริสุทธิ์ ตามกฎหมายต้าเยว่ต้องถูกลงโทษเช่นไร? ”
เซียวยวี่โอบไหล่เซี่ยยวี่หลัวไว้ กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “ตามกฎหมายต้าเยว่ ต้องถูกจองจำสิบปีขึ้นไป คนที่ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ชีวิต มีโทษประหารชีวิต”
ร่างกายของซินแสสวี่กำลังสั่น จู่ๆ ก็ชี้ไปทางกลุ่มคน กล่าวราวคนเสียสติ “ไม่เกี่ยวกับข้า ข้าเพียงรับเงินมาแล้วทำงานเท่านั้น ทั้งหมดเป็นเพราะเขา เพราะเขาให้เงินข้าห้าสิบตำลึง ให้ข้ามาชี้ตัวว่าเจ้าเป็นปีศาจ ให้ข้ากำราบเจ้าเสีย! ”
สายตาทุกคู่หันมองไปยังทิศที่ซินแสสวี่ชี้ไป
เซียวหยวนยืนอยู่ตรงนั้น ซินแสสวี่ชี้ไปทางเซียวหยวน “เป็นเขา เป็นเขา เขาให้เงินข้าห้าสิบตำลึง ให้ข้ามาชี้ตัวว่าเจ้าเป็นปีศาจ! ”
เซียวจิ้งยี่เดินขึ้นหน้าสองก้าว จับตัวเซียวหยวนออกมา “เจ้าเด็กสารเลว เจ้าคิดจะสร้างเรื่องให้ใหญ่โตหรือ? ”
เซียวหมิงจูเห็นเซียวหยวนถูกจับไป กลัวจนใช้มือบีบผ้าเช็ดหน้าแน่น ร่างกายสั่นเทิ้ม
เซียวหยวนเห็นดังนั้น จึงคุกเข่าดังตุ้บ “หัวหน้าหมู่บ้าน ข้า… ข้า… ข้าไม่ได้คิดจะเล่นงานเซี่ยยวี่หลัว เพียงแค่ เพียงแค่ภายหลังเซี่ยยวี่หลัวมา หมู่บ้านของเราก็เกิดเรื่องขึ้นไม่น้อย ข้าอยู่ข้างนอกมานานปี เคยเห็นเรื่องราวต่างๆ มาไม่น้อย ทุกคนล้วนบอกว่าหากคนผู้หนึ่งมีความเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง ย่อมต้องมีปัญหาแน่ ข้าเองก็ไม่กล้า จึงได้แต่เชิญซินแสสวี่มา ข้าทำไปเพราะหวังดีต่อหมู่บ้าน! ”
เซียวหยวนกล่าววาจายาวเหยียด กล่าวแย้งให้ตัวเอง
ไม่ได้พูดชื่อเซียวหมิงจูออกมาเลยแม้แต่น้อย
เซียวหมิงจูกำลังกลัว นางกลัวว่าเซียวหยวนจะพูดชื่อนางออกมา หากทำเช่นนั้น เซียวยวี่ต้องแค้นนางแทบตายแน่
ไม่สามารถกำราบเซี่ยยวี่หลัวได้ หากให้พี่อายวี่รู้ว่านางเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง เช่นนั้นชั่วชีวิตนี้พี่อายวี่คงไม่สนใจนางอีก!
เซียวหมิงจูยิ่งคิดก็ยิ่งกลัว!
“เจ้า ช่างเลอะเลือนนัก! ” เซียวจิ้งยี่ถอนหายใจทีหนึ่ง ก่อนกล่าวกับเซี่ยยวี่หลัว “ยวี่หลัว วันนี้เซียวหยวนใส่ร้ายเจ้า เจ้าลองดูเองว่าคิดจะจัดการเช่นไร ข้าจะฟังเจ้าทั้งหมด! ”
เซียวจิ้งยี่คิดไม่ถึงเลยว่าในหมู่บ้านของตนเองจะมีคนเช่นนี้ เขาไม่มีหน้าจะขอร้องอ้อนวอนแทนเซียวหยวน
เซี่ยยวี่หลัวมองเซียวหยวนแวบหนึ่ง นางไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับคนผู้นี้มาก่อน และไม่มีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดเขาถึงต้องเสียเงินห้าสิบตำลึงเชิญหมอผีมาใส่ร้ายนาง
เห็นได้ชัดว่าข้างกายมีคนบงการให้เขาทำเช่นนี้
และช่วงที่ผ่านมา เซียวหยวนไปกินข้าวที่บ้านท่านป้าสี่ทุกวัน เขาใกล้ชิดกับผู้ใดที่สุด และผู้ใดมีความบาดหมางกับนาง คนที่วางแผนเล่นงานนางคือผู้ใด คำตอบก็กระจ่างแจ้งแล้ว
เซียวยวี่เองก็เดาออกแล้วเช่นกัน กำหมัดจนแน่น เส้นเลือดบนมือปูดนูนขึ้น พอจะดูออกว่าเซียวยวี่โมโหเป็นอย่างมาก
เซี่ยยวี่หลัวโบกมือ ไม่คิดจะสาวความต่อ “ข้ากับเขาไม่มีความบาดหมางต่อกัน ลงโทษให้คุกเข่าในศาลบรรพชนสามวันก็แล้วกัน”
นางไม่ได้ให้เซียวหยวนบอกว่าใครคือผู้บงการอยู่เบื้องหลัง
เซียวหมิงจูเป็นสตรีที่ยังไม่ออกเรือน หากวันนี้ดึงดันสาวความจนรู้ว่าเป็นเซียวหมิงจู ย่อมจะส่งผลต่อชื่อเสียงของนาง
“สามวัน? สามวันน้อยเกินไป คุกเข่าห้าวัน เจ้าสำนึกผิดอยู่ในนั้นดีๆ! ” เซียวจิ้งยี่บวกเพิ่มอีกสองวัน ยิ่งรู้สึกว่าเซี่ยยวี่หลัวเป็นสตรีแสนดีที่มีจิตใจดีงาม ปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างใจกว้าง
อยู่กับเซียวยวี่ซึ่งเป็นบุรุษดีที่มีคุณธรรมน้ำใจงาม ช่างเป็นคู่สร้างคู่สมที่สวรรค์สร้างมาให้คู่กันจริง
“ลงโทษให้เจ้าคุกเข่าในศาลบรรพชนห้าวันถือว่าเบามากแล้ว เซียวหยวน เจ้ายังไม่รีบขอบคุณภรรยาเซียวยวี่อีก” เซียวจิ้งยี่กล่าว
เซียวหยวนคุกเข่าลงบนพื้น โค้งตัวก้มหน้าพร้อมกล่าว “ขอบคุณน้องสะใภ้เซียวยวี่”
ไม่มีผู้ใดเห็น ว่ายามเขาโค้งตัวก้มหน้า แววตาฉายประกายโกรธแค้นและขุ่นเคือง
ตั้งแต่ต้นจนจบเซียวหยวนไม่ได้เอ่ยถึงเซียวหมิงจู
แบกรับความผิดทั้งหมดไว้เพียงคนเดียว!
เซียวหมิงจูเห็นเซียวหยวนคุกเข่าอยู่ตรงนั้นเพียงลำพังด้วยท่าทางน่าสงสาร ภายในใจก็ทั้งเสียใจและอึดอัดใจยิ่งขึ้น
แทบอยากสับเซี่ยยวี่หลัวออกเป็นชิ้นๆ
หลัวไห่ฮวาค้ำไม้เท้า อาศัยจังหวะตอนที่มีคนเยอะคิดจะฉวยโอกาสหนีไป เซียวจิ้งยี่เพ่งเล็งนางนานแล้ว มีหรือจะปล่อยให้นางไป “เจ้าเอาหวงหลินมาจากไหน? ”
หลัวไห่ฮวายิ้มเจื่อน ยังไม่ได้กล่าวอะไร เซียวหยวนก็กล่าวก่อน “หัวหน้าหมู่บ้าน ท่านไม่ต้องถามแล้วขอรับ ซินแสสวี่ข้าเป็นคนเชิญมาเอง หวงหลินนั่นข้าก็เป็นคนให้พี่สะใภ้ไห่ฮวาเองขอรับ! หากท่านจะโทษก็โทษข้าเถอะ! ”
เซียวจิ้งยี่โมโหแทบตาย “โง่เขลานัก! ”
“พวกเจ้าสองคน ไปคุกเข่าในศาลบรรพชนทั้งคู่ คุกเข่าห้าวัน นอกจากคนเข้าไปส่งข้าว ใครก็ห้ามเข้าไป! ” เซียวจิ้งยี่ตะคอกเสียงดัง
เซียวหยวนและหลัวไห่ฮวาถูกคุมตัวไปยังศาลบรรพชน
จู่ๆ โหยวเจิ้งเฉิงที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็คิดถึงคดีเก่าเมื่อนานปีขึ้นมาได้ “สิบสองปีที่แล้ว มีครอบครัวหนึ่งเกิดเรื่องแปลกประหลาด เจ้าไปจับปีศาจ เผาหญิงชาวบ้านตายไปหนึ่งคน เรื่องนี้ เจ้าคงยังจำได้กระมัง? ”