ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่ 62 ซ่อนมีดสั้นในม้วนแผนที่
บทที่ 62 ซ่อนมีดสั้นในม้วนแผนที่
ในความเป็นจริง เสิ่นจุนเหวินในตอนนั้นแทบจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว
ก่อนจะถึงคืนนี้ เขาบอกคนทั้งเมือง ว่าเสี้ยเมิ่งเหยาจะต้องเปลี่ยนมาเป็นผู้หญิงของเขา แต่ในตอนนี้ เสี้ยเมิ่งเหยาที่อยู่ต่อหน้าเขากลับไปอิงแอบอยู่ในอ้อมกอดของผู้ชายอีกคน
เสิ่นจุนเหวินรู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองคงเขียวไปหมดแล้ว
“เสี้ยเมิ่งเหยา หวานเลี่ยนกันเสร็จรึยัง?”เสิ่นจุนเหวินมองเสี้ยเมิ่งเหยาด้วยสายตาเย็นชา “หวานกันเสร็จแล้วก็กลับมาหาฉันได้แล้ว อย่าลืมว่าตอนนี้เธอเป็นผู้หญิง!”
ซ่อนมีดสั้นไว้ในม้วนแผนที่!(ใช้เพื่อเปรียบเปรยว่าเมื่อเหตุการณ์ดำเนินมาจนถึงจุดสิ้นสุด ข้อเท็จจริงย่อมปรากฏออกมา)
เสิ่นจุนเหวินฉีกหน้ากากออกจนหมด ในเมื่อเสี้ยเมิ่งเหยาจะดื้อด้านไม่เอามีดจี้ไม่ยอมทำ งั้นเขาเองก็ไม่จำเป็นต้องเสแสร้งต่อไป ยังไงในมือเขาก็ยังมีสัญญาที่ทำไว้กับหลินหลันอยู่ ขอแค่ยังถือสัญญาไว้อยู่ในมือ เสี้ยเมิ่งเหยาก็ต้องยอมเชื่อฟังแน่นอน
“เสิ่นจุนเหวิน ฉันไม่รู้ว่านายกับแม่ฉันไปตกลงอะไรกัน แต่ฉันจะขอบอกนายให้ชัดเจน ไม่ว่าจะมีข้อตกลงอะไร ฉันก็ไม่ยอมรับทั้งนั้น ทางที่ดีนายยอมแพ้ไปซะเถอะ!”เสี้ยเมิ่งเหยาพูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
“เสี้ยเมิ่งเหยา เรื่องที่แม่ของเธอเอาเงินฉันไปหนึ่งพันล้าน เธออย่าพูดว่าไม่รู้!”เสิ่นจุนเหวินน้ำเสียงเย็นเยือก เงินของเขามันได้ง่ายขนาดนั้นเลยรึไง?
“เรื่องเงินน่ะฉันให้แม่คืนให้นายเหมือนเดิมก็ได้”เสี้ยเมิ่งเหยาพูดเบาๆ
เสิ่นจุนเหวินแสยะยิ้ม “แล้วเธอคิดว่าฉันขาดเงินเหรอ?”
“งั้นนายจะเอายังไง?”เสี้ยเมิ่งเหยากัดฟัน พูดอย่างโกรธเคือง
“ง่ายๆ นะ เธอหย่ากับเจ้ากระจอกเฉินเฟิงนั่นเดี๋ยวนี้ แล้วมาเป็นผู้หญิงของฉันซะ!”เสิ่นจุนเหวินแลบเลียริมฝีปาก ไม่ได้ซุกซ่อนความปรารถนาในดวงตาเลยแม้แต่น้อย เจ้ากระจอกเฉินเฟิงนั่นจะมีพรสวรรค์แล้วยังไงล่ะ เมื่อมาอยู่ต่อหน้าอำนาจที่แท้จริง พรสวรรค์ก็เป็นได้แค่เรื่องห่วยๆ นั่นแหละ
“ไม่มีทาง!”เสี้ยเมิ่งเหยาพูดอย่างเย็นชา
“ไม่มีทางเหรอ?”เสิ่นจุนเหวินเอ่ยเสียงเย็น “งั้นเธอก็รอแม่เธอเข้าไปนอนในคุกได้เลย”
เสิ่นจุนเหวินพูดขณะหยิบมือถือขึ้นมา เงินที่หลินหลันได้รับไม่ใช่ก้อนเล็กๆ แต่เป็นพันล้าน ถ้าให้ทนายของเขาดำเนินการล่ะก็ มันก็เพียงพอที่จะทำให้หลินหลันติดคุกไปชั่วชีวิต
ใบหน้าสวยของเสี้ยเมิ่งเหยาปรากฏแววตื่นตระหนก หรืออยากจะเห็นแม่แท้ๆ ติดคุกชั่วชีวิตจริงกันล่ะ?
อีกด้านหนึ่ง หลินหลันที่เฝ้าอยู่หน้าจอถ่ายทอดสดกำลังร้องไห้ ตอนนี้ในที่สุดเธอก็เข้าใจ ว่าทำไมซุนกุ้ยฟางถึงบอกว่าถือเงินเสิ่นจุนเหวินนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
จะถือไม่ได้ ก็เพราะมันร้อนจนลวกมือ!
“คุณเสิ่น ไว้หน้าผมหน่อยได้ไหม?”เฉินเฟิงถอนหายใจ สุดท้ายก็ลุกขึ้นอย่างอดไม่ได้
เขาอยากจะให้บทเรียนกับหลินหลันสักหน่อย แต่ก็ไม่ได้วางแผนว่าจะให้หลินหลันติดคุก แบบนั้นเสี้ยเมิ่งเหยาก็คงรับไม่ไหว
“ไว้หน้านาย? คิดว่าตัวเองเป็นใคร!”เสิ่นจุนเหวินมองเฉินเฟิงอย่างเหยียดหยาม พูดอย่างเย็นชา เจ้ากระจอกตอนนี้ก็รู้จักขอร้องฉันเหรอ? สายไปแล้ว!
เฉินเฟิงขมวดคิ้ว “คุณไม่ไว้หน้าผมเลยจริงๆ เหรอ?”
ทันใดนั้นเสิ่นจุนเหวินก็หัวเราะขึ้น “อยากให้ฉันไว้หน้านายเหรอ? ก็ได้ คุกเข่า เห่าเหมือนหมาสามครั้ง จากนั้นก้มหัวแทบเท้าฉัน แล้วฉันจะไว้หน้านาย!”
เสิ่นจุนเหวินร้ายกาจอย่างไม่มีใครเปรียบ นี่เป็นโอกาสดีที่จะทำให้เฉินเฟิงอับอาย และให้เขาได้ระบายความโกรธได้อย่างดี
“เสิ่นจุนเหวิน อย่าให้มันมากเกินไปนัก!”
เสี้ยเมิ่งเหยาโกรธสุดๆ ถ้าต้องทำให้เฉินเฟิงอับอายเพื่อช่วยหลินหลันจริงๆ งั้นเธอก็ยอมที่จะไม่สนหลินหลัน!
“เกินไปงั้นเหรอ? เสี้ยเมิ่งเหยา ให้เจ้ากระจอกนี่เห่าสามครั้งแล้วก้มหัวให้ฉัน ก็ช่วยแม่เธอให้ไม่ต้องนอนคุกไปอีกนานเชียวนะ ฉันไม่รู้สึกว่ามันเกินไปเลยสักนิด”เสิ่นจุนเหวินเอ่ยอย่างเหยียดหยาม แน่นอน ต่อให้เฉินเฟิงจะทำเรื่องพวกนั้นจริงๆ แต่เขาที่สมควรจะข่มก็ต้องข่มอยู่ดี จะให้ปล่อยเสี้ยเมิ่งเหยาไปคงไม่ได้
“คุกเข่าลง! รีบคุกเข่าแล้วเห่าสิ!”หลินหลันที่อยู่หน้าจออยากจะบินไปหาเฉินเฟิง แล้วจับหัวเขาก้มลงไปเลยซะเดี๋ยวนั้น
เฉินเฟิงไม่ได้รู้ถึงความคิดของหลินหลันในตอนนั้น ถ้าหากเขารู้ล่ะก็ น่ากลัวว่าคงจะพาเสี้ยเมิ่งเหยาหนีไปทันที
“คิดดูแล้วเป็นไง? เจ้าขยะ หลินหลันก็เป็นแม่ยายนายนะ หรือนายจะใจร้ายทนเห็นเธอติดคุกจริงๆ เหรอ?” เสิ่นจุนเหวินพูดอย่างยั่วยุ แม้ว่าวันนี้จะเอาเสี้ยเมิ่งเหยามาไม่ได้ แต่ความสัมพันธ์ของเสี้ยเมิ่งเหยากันเฉินเฟิงในอนาคตจะต้องปรากฏรอยร้าวขึ้นแน่
เฉินเฟิงยิ้มก่อนเดินไปหน้าเสิ่นจุนเหวิน “ยังจำได้ไหมว่าไม่กี่วันก่อนที่บ้านสวีเฟยหรงฉันจัดการนายยังไง?”
เสี้ยเมิ่งเหยานิ่งอึ้ง เฉินเฟิงเคยสู้กับเสิ่นจุนเหวินที่บ้านสวีเฟยหรงเหรอ? ทำไมเธอถึงไม่รู้ มิน่าเธอถึงรู้สึกว่าเป้าหมายที่แท้จริงในวันนี้ของเสิ่นจุนเหวินคือเฉินเฟิง ไม่ใช่เธอ ที่แท้เสิ่นจุนเหวินก็โดนเฉินเฟิงทำร้ายมา
ใบหน้าของเสิ่นจุนเหวินเปลี่ยนเป็นสีแดง หรี่ตาลงแล้วพูด “ทำไม เจ้ากระจอกนี่อยากจะลองดีกับฉันอีกเหรอ?”
เฉินเฟิงยิ้มเล็กน้อย “นายเดาถูกแล้ว”
“ไอ้เวร!”
เสิ่นจุนเหวินด่าออกมา จิตใต้สำนึกอยากจะถอยออกมา
แต่เฉินเฟิงก็กระแทกเข่าไปยังท้องน้อยของเสิ่นจุนเหวิน
ทันใดนั้น เสิ่นจุนเหวินก็รู้สึกได้แค่เพียงความเจ็บปวดที่แล่นปราดขึ้นมาจากส่วนท้อง จากนั้นร่างกายก็ทรุดลงกับพื้น บิดตัวงอเหมือนกุ้งอย่างควบคุมไม่ได้
บอดี้การ์ดหลายคนที่อยู่ข้างหลังเสิ่นจุนเหวินตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าเฉินเฟิงจะลงมือโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง
ที่จริงแล้ว ที่เสิ่นจุนเหวินมาวันนี้ก็ไม่ได้ถึงกับไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาเลย เขาคิดถึงสถานการณ์ที่เฉินเฟิงจะลงมือไว้อยู่แล้ว เพราะงั้นเขาถึงได้พาบอดี้การ์ดมาเป็นโหล เพียงแต่ไม่นึกว่าเฉินเฟิงจะเร็วขนาดนี้ บอดี้การ์ดหลายคนยังไม่ทันจะรู้ตัว เสิ่นจุนเหวินก็ถูกจัดการไปซะแล้ว
“ไอ้พวกไร้ประโยชน์ มัวยืนเซ่ออะไรอยู่ รีบไปฆ่าไอ้นั้นซะสิ”เสิ่นจุนเหวินคำราม ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเข่านั่นของเฉินเฟิง เขารู้สึกเจ็บจนน้ำตาจะไหลอยู่แล้ว
“ไป!”
“ฆ่ามัน!”
สีหน้าของเหล่าคนสวมสูทดำเปลี่ยนไป แล้วเข้าประกบเฉินเฟิง
พวกเขาเป็นบอดี้การ์ดมืออาชีพที่ได้รับการฝึกฝนอย่างมืออาชีพ ปกติแล้วสู้กับคนธรรมเจ็ดแปดคนได้สบายๆ
เฉินเฟิงตรงหน้านี้ ถึงแม้จะดูไม่ธรรมดา แต่พวกเขาก็ยังมั่นใจว่าจะสามารถจัดการเฉินเฟิงได้ในไม่กี่อึดใจ
“ตูม”
ใครจะไปรู้ เมื่อบอดี้การ์ดที่อยู่หน้าสุดพุ่งเข้าไป ยังไม่ทันได้แตะชายเสื้อของเฉินเฟิงก็ถูกเขาแตะเข้าที่ปากจนลอยไปชนกับโต๊ะอาหาร
ราวสายฟ้าฟาด
เรื่องหลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรน่าพูดถึงสักเท่าไหร่ เฉินเฟิงราวกับเสือตะปบฝูงแกะ เขาใช้เวลาเพียงไม่ถึงนาทีก็สามารถคว่ำบอดี้การ์ดเป็นโหลที่เสิ่นจุนเหวินพามาได้ทั้งหมด
เสิ่นจุนเหวินแทบจะร้องไห้เต็มที
ให้ตายเขาก็ไม่อยากจะเชื่อ เฉินเฟิงฝีมือร้ายกาจอะไรขนาดนี้
นี่ใช่เจ้ากระจอกที่พวกตระกูลเสี้ยพูดถึงจริงๆ เหรอ?
ถ้าคนโหดขนาดนี้แล้วยังกระจอกอีกล่ะก็ งั้นในสายตาของตระกูลเสี้ย ต้องเป็นคนแบบไหนถึงจะเรียกว่าเป็นหัวกะทิได้ล่ะ
ห้องถ่ายทอดสดแทบระเบิด
จำนวนผู้ชมพุ่งขึ้นถึง1.5ล้านคน ในความจริง หลายคนที่ชีวิตนี้ยังไม่เคยได้เห็นการถ่ายทอดสดที่มหัศจรรย์ขนาดนี้
รู้สึกเหมือนแทบจะเอาไปทำหนังสั้นได้สักเรื่อง
คุณแค่เล่นเปียโนเก่งก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ถึงขนาดต่อสู้ได้ดุเดือดขนาดนี้ ยังจะเหลือที่ให้คนอื่นมีชีวิตอยู่อีกมั้ย?