กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี - บทที่ 366 การผลิตแบบ OEM
บทที่ 366 การผลิตแบบ OEM
บทที่ 366 การผลิตแบบ OEM
เหล่าไต้รู้สึกงุนงง “โรงงานนี้ไม่ดีตรงไหนเหรอ?”
เซี่ยชิงหยวนพูดว่า “โรงงานนี้พอดูเผิน ๆ ก็ดูดีนั่นแหละ แต่ฉันเคยได้ยินมาว่าการจัดการภายในยุ่งเหยิงและการควบคุมคุณภาพไม่ดีเลยน่ะค่ะ”
นี่คือข่าวที่เซี่ยชิงหยวนรู้จากในชีวิตก่อนหน้านี้ของเธอ
โรงงานตัดเย็บซื่อซิ่งทำได้ดีมากในช่วงปีแรก ๆ แต่หลังจากที่หุ้นส่วนของโรงงานได้ลิ้มรสผลประโยชน์แล้ว พวกเขาก็ต้องการขยายการผลิต พวกเขาทำงานในทุกด้านของการผลิตและการออกแบบ ทว่าผลลัพธ์ของการทำหลายอย่างไปพร้อม ๆ กันแบบนี้ย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งหนึ่งในข้อเสียคือการการควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์ และพวกเขาไม่สามารถรักษามาตรฐานได้ตลอด
ในเวลานี้ยังพอซื้อของด้วยได้ แต่หลังจาก 1-2 ปีที่ชื่อเสียงเริ่มเสื่อมถอย ก็ดูเหมือนว่าโรงงานจะถูกขายเนื่องจากความขัดแย้งระหว่างหุ้นส่วน
หากเธอขายสินค้าที่คุณภาพดีบ้างแย่บ้าง เธอจะถูกเหล่าภรรยาข้าราชการพวกนั้นถ่มน้ำลายใส่จนตายแน่นอน
เหล่าไต้อดไม่ได้ที่จะยกนิ้วให้เซี่ยชิงหยวน “เธอมีความรู้ค่อนข้างดีเลยนะเนี่ย”
หลังจากพูดอย่างนั้น ทั้งสองก็ไปที่โรงงานเสื้อผ้าแห่งที่สองที่เหล่าไต้เลือกไว้
เมื่อเทียบกับโรงงานตัดเย็บซื่อซิ่ง โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าแห่งที่สองนั้นด้อยกว่าในทุก ๆ ด้าน มันไม่ใช่โรงงานขนาดใหญ่และไม่ใช่โรงงานใหม่ แม้แต่ป้ายชื่อโรงงาน ‘เฟิงหวง’ ที่ประตูก็ยังเป็นสนิม
นอกจากนี้ในบรรดาพนักงานที่เดินไปรอบ ๆ ข้างใน ก็จะเห็นคนพิการหนึ่งหรือสองคนเดินอยู่ท่ามกลางพวกเขาด้วย
เหล่าไต้อธิบายว่า “แม้ว่าโรงงานนี้จะเก่าไปหน่อย แต่ก็มีชื่อเสียงที่ดีในเมืองกว่างโจวเลยนะ และคุณภาพของเสื้อผ้าก็ดีเหมือนกัน”
เขาหยุดชั่วคราวและเข้าใกล้เซี่ยชิงหยวน “แต่มีสิ่งหนึ่งที่ด้อยกว่าสองโรงงานแรกอย่างเห็นได้ชัดคือรูปแบบของเสื้อผ้าที่จะล้าหลังกว่าราว ๆ สิบวันถึงครึ่งเดือนน่ะ”
อุตสาหกรรมเสื้อผ้า ถือได้ว่าเป็นอุตสาหกรรมที่ต้องอาศัยการตามให้ทันกระแสนิยมอย่างต่อเนื่อง และต้องอยู่ในแถวหน้าของเทรนด์ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นมาตรฐานหนึ่งของอุตสาหกรรมนี้เลย
หากโรงงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ช้ากว่าโรงงานอื่น ๆ ถึงสิบวันหรือครึ่งเดือน โรงงานก็จะด้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด
แค่เพียงมองเซี่ยชิงหยวนก็ทราบสาเหตุของปัญหาในโรงงานนี้ทันที
สาเหตุหลักที่โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าไม่เจริญรุ่งเรืองและยังมีคนพิการอยู่บ้าง คือยังตามกระแสภายนอกไม่ทันและไม่สามารถปฏิรูปให้เข้ากับยุคสมัยทันตามกาลเวลาได้
ในช่วงไม่กี่ปีหลังจากนี้โรงงานตัดเย็บเฟิงหวงก็คงจะยังดำเนินไปได้ด้วยดี แต่ในขณะที่เมืองเสิ่นเจิ้นค่อย ๆ พัฒนา อีกทั้งเมื่อเมืองกว่างโจวและเมืองเสิ่นเจิ้นบูรณาการเข้ากับมาตรฐานสากลมากขึ้น โรงงานตัดเย็บเฟิงหวงจะเริ่มเสื่อมถอยและกลายเป็นอดีตไปในที่สุด
เซี่ยชิงหยวนพูดอย่างจริงจัง “เข้าไปดูกันเถอะ”
…
เมื่อได้ยินว่ามีคนต้องการค้าขายด้วย ผู้อำนวยการของโรงงานตัดเย็บเฟิงหวงก็เข้ามาทักทายเขาเป็นการส่วนตัวทันที
แซ่ของผู้อำนวยการคือ ‘ฝ่าน’ เขาอายุประมาณสี่สิบหรือห้าสิบปี รูปร่างสมส่วน ผิวค่อนข้างคล้ำ และมีผมสีขาวที่ไม่สม่ำเสมอ โดยที่หว่างคิ้วมีริ้วรอยของการขมวดคิ้วหลายปีทิ้งไว้อยู่ด้วย
เขายิ้มทันทีที่เห็นทั้งสองคน “พวกคุณสองคนมาที่นี่เพื่อสั่งเสื้อผ้าเหรอครับ?”
เขายื่นมือออกไปหาทั้งสองคนแล้วแนะนำตัวเอง “ผมแซ่ฝ่าน และเป็นหัวหน้าโรงงานเฟิงหวงครับ”
เหล่าไต้พยักหน้า “ใช่ครับ เราอยู่ในธุรกิจเสื้อผ้า มาที่นี่เพื่อซื้อสินค้าน่ะครับ”
หัวหน้าฝ่านพูดอย่างเร่งรีบ “ถ้าอย่างนั้นเชิญเข้ามาคุยกันก่อนเถอะครับ บังเอิญว่าเรามีสินค้าใหม่จำนวนหนึ่งเพิ่งออกมาจากสายการผลิตของโรงงานเราพอดี พวกคุณสามารถเลือกชมได้เลยนะครับ”
หลังจากพูดแล้วเขาก็พาทั้งสองไปที่สำนักงานโรงงาน
เมื่อเดินผ่านในโรงงาน เซี่ยชิงหยวนได้ตรวจดูด้านในและพบว่าแม้พื้นที่จะไม่ใหญ่นัก แต่เครื่องจักรและวัสดุภายในก็จัดวางอย่างเป็นระเบียบ แม้แต่คนงานในสายการผลิตก็ยังทำงานอย่างจริงจัง และในพื้นที่ที่ต้องระมัดระวังเรื่องความปลอดภัย พนักงานทุกคนก็สวมชุดป้องกันทั้งหมดเช่นกัน
เซี่ยชิงหยวนรู้สึกชอบใจผู้บริหารของโรงงานนี้ทันที
หัวหน้าฝ่านสั่งให้พนักงานเอาเสื้อผ้าแบบใหม่สุดมาสวมบนหุ่นแสดง ดวงตาของเขาแสดงความรักและความมั่นใจในเสื้อผ้าเหล่านี้มาก “คุณสองคนลองดูเสื้อผ้าของเราสิครับ พวกมันทั้งหมดล้วนถูกตัดเย็บมาอย่างมีคุณภาพที่สุดเลยล่ะ”
เขาคว้าเสื้อผ้าตัวหนึ่งแล้วพลิกกลับด้านในเพื่อแสดงตะเข็บให้เห็น
“ดูสิ ตะเข็บถูกเก็บงานเรียบร้อยมาก ไม่มีด้ายหลุดลุ่ยเลยครับ”
เซี่ยชิงหยวนเองก็หยิบเสื้อผ้าตัวหนึ่งขึ้นมาแล้วสำรวจดูอย่างละเอียด และพบว่าเป็นอย่างที่หัวหน้าฝ่านพูด เสื้อผ้าตัวนี้ไม่มีข้อบกพร่องใด ๆ เลย
ในส่วนของสไตล์หรือรูปแบบ เมื่อเทียบกับโรงงานตัดเย็บซื่อซิ่งและหมานต๋าก็พอสู้ได้อยู่บ้าง
เหล่าไต้สัมผัสเสื้อผ้าในมือของเขาและไม่อาจวางลงได้เลย “ชุดนี้ดีจริง ๆ”
หัวหน้าฝ่านแสดงสีหน้าภาคภูมิใจ “ผู้อำนวยการโรงงานของเราเน้นย้ำเสมอว่าคุณภาพควรเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก ดังนั้นคุณมั่นใจได้เลยครับว่าปัญหาเรื่องคุณภาพอย่างในโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าอื่น ๆ จะไม่เกิดขึ้นในเฟิงหวงของเราแน่นอนครับ”
ขณะเดียวกันเซี่ยชิงหยวนกับเหล่าไต้ก็พบปัญหาร้ายแรงในโรงงานตัดเย็บเฟิงหวงทันที ซึ่งก็คือผู้อำนวยการให้ความสำคัญกับคุณภาพเป็นอันดับแรกมากกว่าที่จะตามกระแส นี่เป็นสิ่งที่อันตรายมากสำหรับอุตสาหกรรมเสื้อผ้า
หลักการของผู้อำนวยการส่งผลต่อการตัดสินใจสำคัญในโรงงานและยังกำหนดทิศทางการพัฒนาในอนาคตของโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าด้วย ไม่น่าแปลกใจเลยที่หลังจากนี้โรงงานตัดเย็บเฟิงหวงจะเสื่อมถอยอย่างแน่นอน
เซี่ยชิงหยวนพยักหน้า “หัวหน้าฝ่านคะ ตอนที่ฉันเพิ่งเข้ามา ฉันเห็นป้ายบอกว่าคุณรับทำเสื้อผ้าตามชื่อเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นด้วยใช่ไหมคะ?”
เดิมทีหัวหน้าฝ่านยังคงคิดที่จะขายผลิตภัณฑ์ของตัวเอง แต่โดยไม่คาดคิดเซี่ยชิงหยวนกลับสนใจเรื่องการทำ OEM*[1]
เขาพูดว่า “ใช่ครับ นี่เป็นแผนใหม่ที่เสนอโดยรองผู้อำนวยการของเราในปีนี้น่ะครับ”
มีคนมาทำ OEM ไม่มากนัก ท้ายที่สุดแล้วงานฝีมือในเสื้อผ้าของพวกเขาเน้นทำคุณภาพให้ดีที่สุด ซึ่งการมาสั่งให้ทำเสื้อผ้าที่ด้อยคุณภาพนั้นไม่สามารถทำได้
เซี่ยชิงหยวนกับเหล่าไต้มองหน้ากัน และเข้าใจว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่
เหล่าไต้พูดว่า “แล้วคุณคิดค่าใช้จ่ายเท่าไรสำหรับการทำโออีเอ็มเหรอครับ?”
หัวหน้าฝ่านพูดว่า “สำหรับการให้เราผลิตสินค้าให้ภายใต้เครื่องหมายการค้าของพวกคุณนั้น มันขึ้นอยู่กับว่าคุณจะจัดหาวัสดุเองหรือให้เราจัดซื้อให้ หากคุณจัดหาวัสดุเอง ค่าธรรมเนียมการดำเนินการจะขึ้นอยู่กับค่าใช้จ่ายในการผลิตเสื้อผ้า คำนวณตามความยากครับ”
“อย่างเสื้อเชิ้ตธรรมดาสำหรับฤดูร้อน โดยทั่วไปค่าดำเนินการอยู่ที่หกถึงเจ็ดเหมา กระโปรงและกางเกงขายาวประมาณสี่ถึงห้าเหมา เสื้อผ้าหน้าหนาวจะมีราคาแพงกว่า เช่นเสื้อกันหนาวและแจ็คเก็ต ซึ่งทั้งหมดเริ่มต้นที่สามถึงสี่หยวนครับ”
“แต่ถ้าให้เราซื้อวัสดุให้ด้วย เสื้อผ้าฤดูร้อนจะอยู่ที่ราคาประมาณตัวละหนึ่งหยวน และเสื้อผ้าหน้าหนาวจะแพงกว่า เสื้อกันหนาวธรรมดามักจะมีราคาประมาณยี่สิบหรือสามสิบหยวน และเสื้อแจ็คเก็ตบุผ้าฝ้ายราคามากกว่าสามสิบหยวนไปแล้วครับ”
สุดท้ายเขาก็สรุปว่า “แน่นอนว่าราคาที่ผมเสนอไปนั้นคำนวณตามมาตรฐานฝีมือที่สูงสุดในโรงงาน แต่ถ้าข้อกำหนดเรื่องคุณภาพไม่ได้คำนึงถึงฝีมือที่สูงสุด ราคาก็อาจถูกกว่านี้ได้ครับ”
หลังจากถามสิ่งนี้ เซี่ยชิงหยวนและเหล่าไต้ก็คิดคำนวณในใจ
ในท้ายที่สุด เซี่ยชิงหยวนกับเหล่าไต้ได้พูดคุยกัน โดยในครั้งนี้ตัดสินใจจะซื้อเสื้อผ้าสำเร็จรูปก่อน และรอจนกว่าจะเลยปีใหม่เพื่อดูว่าพวกเขาสามารถจัดหาวัสดุเองได้หรือไม่ และปล่อยให้โรงงานตัดเย็บเฟิงหวงดำเนินการผลิตให้พวกเขา
ขณะนี้อุตสาหกรรมสิ่งทอในประเทศที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดอยู่ที่มณฑลเจียงซูและเจ้อเจียง โดยเฉพาะในสถานที่อย่างเมืองฉางโจว อุตสาหกรรมสิ่งทอที่นั่นมีเอกลักษณ์เฉพาะในประเทศไม่น้อย
แต่ถึงอย่างนั้นเซี่ยชิงหยวนยังรู้จักสถานที่อีกแห่งหนึ่งด้วยคือในเมืองฝอซาน ซึ่งอยู่ถัดจากเมืองกว่างโจว อีกทั้งยังมีโรงงานผ้าไหมหงเหมียนที่สร้างขึ้นในปี 1970 พูดกันว่าอุปกรณ์และเครื่องจักรมาจากฮ่องกง ผลิตภัณฑ์หลักคือผ้าไหมและผ้าไหมถัก รวมถึงการนำเข้าและส่งออกเสื้อผ้า รวมถึงเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง
อาจพูดได้ว่าในขณะนี้หากโรงงานสิ่งทอในฉางโจวไม่สามารถหาอุปทานที่ดีได้ ก็สามารถร่วมมือกับโรงงานผ้าไหมหงเหมียนก่อนได้
เซี่ยชิงหยวนพูดว่า “ฉันวางแผนที่จะนำสินค้าจำนวนหนึ่งกลับไปทดสอบยอดขายก่อนค่ะ หากครั้งนี้ยอดขายดี เราก็สามารถร่วมมือกันต่อไปได้”
แน่นอนว่าหัวหน้าฝ่านย่อมรู้สึกมีความสุขเป็นธรรมดาเมื่อได้ยินเรื่องนี้ “เรายังมีเสื้อผ้าอีกหลายแบบที่ยังไม่ได้ออกวางขายเลยครับ ผมจะพาคุณไปเลือกดูก่อน แล้วจะให้ส่วนลดแก่คุณด้วยเมื่อถึงเวลา”
เซี่ยชิงหยวนยิ้มและพูดว่า “ขอบคุณหัวหน้าฝ่านมากค่ะ”
เสื้อผ้าหน้าหนาวของโรงงานนี้ไม่ดีเท่าเสื้อผ้าฤดูร้อน และมีรูปแบบกับสีให้เลือกไม่มากเช่นกัน
แต่ถึงอย่างนั้นก็มีทั้งเสื้อกันหนาว แจ็คเก็ตบุนวม แจ็คเก็ต เสื้อโคตขนสัตว์ และแม้แต่เสื้อสเวตเตอร์และโคตแคชเมียร์ รวมถึงดาวน์แจ็คเก็ตที่ได้รับความนิยมเฉพาะในต่างประเทศเท่านั้น
เสื้อผ้าของผู้หญิงมีสีสันมากกว่าผู้ชาย แต่ส่วนใหญ่มีความทนทานต่อคราบมากกว่า เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
เซี่ยชิงหยวนวางแผนที่จะซื้อสินค้าในเฟิงหวงแล้วไปที่หมานต๋าเพื่อดูเสื้อผ้าต่อ ที่นั่นคุณภาพและงานฝีมืออาจแย่กว่า แต่จะมีแบบและสีให้เลือกมากกว่าแน่นอน
เหล่าไต้เลือกเสื้อผ้ากับเซี่ยชิงหยวน เขายังต้องการได้รับส่วนลดที่มากขึ้นหากทั้งสองคนซื้อสินค้าจำนวนมากพร้อมกัน
อาเซียงมองดูเสื้อผ้าเหล่านี้จากด้านข้าง และไม่สามารถหยุดยิ้มกว้างได้เพราะรูปแบบที่แปลกใหม่
ในเมืองเตียนเฉิงจะเคยเห็นเสื้อผ้าแบบนี้ได้ที่ไหนล่ะ?
ผู้คนมักจะสวมเสื้อแจ็คเก็ตเป็นเวลาหลายปีจนกระทั่งสำลีด้านในแข็ง แต่ก็ยังคงไม่อาจตัดใจทิ้งไปได้
เมื่ออาเซียงถอนหายใจ เซี่ยชิงหยวนก็เรียกเธอ “อาเซียงมานี่หน่อย”
[1] OEM หรือ (Original Equipment Manufacturer) คือ ผู้รับจ้างผลิตสินค้าให้กับบริษัทที่จะไปขายในแบรนด์ของตัวเอง โดยโรงงานประเภทนี้จะรับจ้างผลิตสินค้าให้กับแบรนด์ต่าง ๆ ตามแบบที่ลูกค้ากำหนด แล้วติดชื่อแบรนด์ หรือ จะไม่ตีตราก็ได้ ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าโดยการใช้กระบวนการผลิตของโรงงานตั้งแต่ฝ่ายผลิต ไปจนถึงเครื่องจักรต่าง ๆ สำหรับการผลิต ซึ่งทำให้ลูกค้าที่มาจ้างโรงงานผลิตนั้น ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก โดยไม่ต้องถึงขั้นจัดตั้งโรงงานหรือซื้อเครื่องจักรผลิตสินค้าเอง ทำให้ผู้จ้างผลิตมีความเสี่ยงน้อย ใช้เงินทุนในการผลิตไม่มาก ซึ่งผลตอบแทนที่ได้ถือว่าคุ้มค่า โรงงานประเภทนี้นั้นมักจะเป็นโรงงานเปิดใหม่ ๆ หรือโรงงานที่ไม่เน้นการสร้างแบรนด์ของตนเองแต่เน้นการผลิตให้กับแบรนด์อื่น ๆ ที่ต้องการผลิตในจำนวนน้อย หรือไม่มีโรงงานเป็นของตนเองนั่นเอง