การต่อสู้ชิงบัลลังก์ในเงามืดของเจ้าชายไร้ค่าสุดแกร่ง (Saikyou Degarashi Ouji no An’ yaku Teii Arasoi ) - ตอนที่ 54
“คำขอแต่งงานขององค์หญิงลำดับหนึ่งหรอคะ?”
“ใช่, เป็นปัญหาสุดๆเลยหล่ะ”
ในตอนที่ฉันกลับมาถึงห้อง, ฟีเน่ก็ทักทายฉันด้วยขนมและน้ำชา
ฉันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ในขณะที่ฉันหยิบขนมขึ้นมาชิ้นนึง
“ข้าไม่เคยเจอเธอมาก่อนแต่ก็พอได้ยินข่าวลือมาอยู่บ้าง องค์หญิงเป็นนายพลที่ประสบความสำเร็จทางการทหารมามากมายในหลากหลายสนามรบ ชื่อเสียงของเธอไปไกลถึงประเทศอื่นๆ, บางคนถึงกับบอกว่าเธอเองก็เป็นหนึ่งในคนที่แข็งแกร่งที่สุดของจักรวรรดิ”
“ก็ไม่ถือว่าผิดหรอก อันที่จริง, เมื่อห้าปีก่อน, ที่การบุกรุกของโซคัลยุติลงก็เพราะเธอเป็นคนคอยปกป้องชายแดนทางตะวันออกเมื่อตอนนั้น เธอปฏิรูปการป้องกันชายแดนใหม่และทำให้มันแข็งแกร่งกว่าเคย”
“เธอดูเป็นคนที่ยอดเยี่ยมจังเลยนะคะ แล้วตัวจริงเป็นคนยังไงหรอคะ?”
ฟีเน่ถามในขณะที่รินชาใส่แก้วเปล่า
ในขณะที่กำลังนึกภาพเธอ, ฉันก็จิบชาและคิดถึงลักษณะนิสัยของพี่สาวคนโตของฉัน
อืมมมมม……
“ถ้าให้ใช้คำๆเดียวอธิบายตัวตนของเธอก็คงจะเป็น ‘ทหาร’ หล่ะมั้ง?”
“ท, ทหารหรอคะ…..?”
“อ่า, ทหาร ไม่ใช่อัศวินนะแต่เป็นทหาร เธอคือตัวแทนของคำๆนี้”
“ข้านึกภาพของเธอไม่ออกเลยค่ะ…..”
“ถ้าเจ้าได้เจอเธอก็คงจะเข้าใจเองแหล่ะ เธอไม่ใช่อัศวินเหมือนกับเอลน่า เธอเป็นทหาร สิ่งที่เธอชอบก็คือสนามรบ เธอไม่ได้มีอุดมคติที่สวยงามอย่างการสู้กันซึ่งๆหน้าในสนามรบ เธอยินดีที่จะใช้ทุกวิธีการตราบใดที่มันทำให้เธอชนะ เธอเป็นคนที่เปิดกว้างมากในเรื่องนี้ ในตอนที่พี่ชายคนโตของพวกเรา, มงกุฎราชกุมารเสียชีวิต, เธอถึงกับออกปากประกาศเองเลยว่าเธอจะไม่เข้าร่วมสงครามผู้สืบทอด เธอบอกว่าเธอจะทำหน้าที่เป็นจอมพลให้กับใครก็ตามที่ได้กลายเป็นจักรพรรดิ
และก็ต้องขอบคุณเรื่องนี้ที่ทำให้เจ้าหน้าทหารหลายคนหันไปสนับสนุนกอร์ดอนแทน
สำหรับเจ้าหน้าที่ทหารที่อยากประสบความสำเร็จทางการทหาร, พวกเขาก็คงอยากให้จักรพรรดิเป็นคนที่มีความเกี่ยวข้องกับกองทัพอย่างลึกซึ้ง ดังนั้นตัวเลือกของพวกเขาจึงมีแค่เธอหรือไม่ก็กอร์ดอน
ถ้าเธอเข้าร่วมในสงครามผู้สืบทอดตอนนี้กอร์ดอนก็คงจะเข้าร่วมกับฝั่งเธอไปแล้ว
“กองทัพไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับการเมือง พวกเขาควรจะให้ความสำคัญแค่การคุ้มกันประเทศก็พอแล้ว เธอคิดว่านี่คือแนวคิดที่ถูกต้องสำหรับทหารและนำมาปฏิบัติจริงด้วย”
“ข้าคิดว่าเธอดูแตกต่างจากข่าวลือที่ได้ยินมายังไงไม่รู้สิ……ในข่าวลือ, เธอดูเป็นคนที่สง่างามกว่านี้……..”
“เธอก็สง่างามอยู่แล้วนะ เธอมีผมบลอนด์สวย, ตัวสูง แค่ยืนอยู่เฉยๆก็มีเสน่ห์มากพอที่จะทำให้คนหันมามองแล้ว ถึงบรรยากาศรอบตัวจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงแต่ว่าเธอก็พอจะคล้ายกับเจ้าอยู่นะ”
“เอ่อ……ขอบคุณมากค่ะ”
จู่ๆฟีเน่ก็หน้าแดงขึ้นมาแล้วเธอก็ก้มหน้าลง
ในตอนที่ฉันกำลังสงสัยอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้น, เซบาสก็โผล่เข้ามาอย่างกระทันหัน
“ที่ท่านฟีเน่เขินก็เพราะท่านบอกว่าพี่สาวของท่านงดงามและบอกว่าท่านฟีเน่ว่าคล้ายกับเธอครับ แบบนี้มันก็เหมือนกับบอกว่าท่านฟีเน่สวยนั่นแหล่ะครับ”
“ก็น่าจะชินกับคำพูดพวกนี้อยู่แล้วไม่ใช่หรอ? เป็นพวกขี้อายรึไง?”
“ค, ค่ะ! แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นคนพูดด้วย……”
“งั้นหรอ ข้าไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกพวกนี้ซักเท่าไหร่”
ในขณะที่ฟีเน่ยังคงเขินกับเรื่องนี้, เซบาสก็ส่งเอกสารมาให้ฉัน
เซบาสตรวจสอบข้อมูลคนที่มาขอหมั้นพี่สาวของฉันเอาไว้ให้ล่วงหน้า และก็เป็นดังคาด, พ่อของฉันคงไม่รับคำขอแบบนี้จากคนแปลกๆหรอก แต่ถึงอย่างนั้น, ถ้าเป็นคนประเภทที่พี่สาวของฉันเกลียดเธอก็อาจจะพลอยเกลียดฉันไปด้วยเหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม, เท่าที่ฉันดูก็ไม่มีจุดที่ผิดแปลกอะไร
เอาเถอะ, มันก็แน่หล่ะนะ, เพราะนี้ป็นคำขอสำหรับพี่สาวของฉันนี่หน่า
“ในเมื่อเขามาขอพี่สาวของฉันแต่งงาน, ก็แสดงว่าคนๆนี้ต้องเป็นคนกล้าหาญอยู่พอสมควรเลยนะ”
“ก็จริงนะครับ เธอมีชื่อเสียงในฐานะเจ้าหญิงแม่ทัพผู้ไร้พ่ายซึ่งดูคล้ายกับภรรยาลำดับสองมากๆ ดูเหมือนว่าจักรพรรดิเองก็ดูจะถูกใจเขาเหมือนกัน”
“ภรรยาลำดับสอง นั่นก็แม่ขององค์หญิงคริสต้าไม่ใช่หรอคะ”
“พวกเธอมีแม่คนเดียวกัน ภรรยาลำดับสองเป็นคนสวยที่มีผมสีทองเหมือนกัน ข้าจำได้ว่าเธอเป็นคนอ่อนโยนที่ใจดีกับทุกคน”
“ข้าพอเดาสาเหตุที่ท่านพ่อถูกใจเจ้าได้อยู่นะ, ฟีเน่ เนื่องจากพี่สาวของข้าโตมามีนิสัยคนละขั้วกับภรรยาลำดับสอง, ส่วนเจ้าก็คือสิ่งที่ท่านพ่ออยากให้เธอเป็นจริงๆ ถ้าเจ้าทั้งคู่มายืนคู่กันแล้วถามใครซักคนว่า, ใครเป็นลูกสาวของภรรยาลำดับสอง, ไม่ว่าใครก็คงจะเลือกฟีเน่อย่างแน่นอน”
“งั้นหรอคะ? ข้ารู้สึกเป็นเกียรติจังเลยค่ะ”
เอาจริงดิ?
ฟีเน่ยิ้มกว้างใส่ฉัน
ฉันคิดว่าตรงส่วนที่เชื่อฟังของเธอนี้คงเรียกคะแนนจากท่านพ่อได้สูงจริงๆ
“เอาเถอะ, แต่เนื่องจากเธอเป็นแบบนี้ท่านพ่อก็เลยห่วงอยู่ว่าเธอจะกลายเป็นเจ้าสาวไม่ได้ เธอเป็นพี่สาวคนโตสุดดังนั้นในตอนที่เขาเอาคำขอแต่งงานไปให้ซานดร้า, เธอก็สามารถอ้างได้ว่าพี่สาวคนโตสุดของพวกเรายังไม่ได้แต่งงานเหมือนกัน”
“แต่ว่าจักรพรรดิไม่ค่อยชอบใจภรรยาลำดับห้ามาตั้งแต่แรกแล้วไม่ใช่หรอครับ, เพราะฉะนั้นพระองค์คงไม่สนเรื่องการแต่งงานของท่านซานดร้าหรอกครับ”
“ฝ่าบาทไม่ชอบเธอหรอคะ? ข้าได้ยินมาว่าจักรพรรดิรักภรรยาทุกคนเท่าๆกันไม่ใช่หรอ?”
ฟีเน่ขมวดคิ้วให้กับคำพูดของเซบาส
อืมม, พูดเรื่องพวกนี้กับฟีเน่จะดีไหมนะ
ในขณะที่ฉันกำลังลังเลอยู่, สายตาของฉันก็มองไปที่เซบาสแล้วเขาก็พยักหน้าอย่างเงียบๆ
เข้าใจหล่ะ เขากำลังจะบอกให้ฉันเล่าทุกอย่างให้เธอฟังสินะ
เอาเถอะ, ถ้านี่คือสิ่งที่เขาคิดฉันก็ไม่มีอะไรจะคัดค้านหรอก
“ถ้ามองจากภายนอก, พวกเขาก็ดูสนิทกันดีอยู่หรอก และเขาก็ไม่ได้รักลูกแต่ละคนไม่เท่ากันด้วย แต่ว่ามันมีข่าวลือบางอย่างเกี่ยวกับภรรยาลำดับห้าอยู่”
“ข่าวลือหรอคะ?”
“มันมีข่าวลือว่าภรรยาลำดับห้าเป็นคนลอบสังหารภรรยาลำดับสอง”
“มีการลอบสังหารกันเองในตำหนักในด้วยหรอคะ…..?”
“มันก็ไม่ใช่เรื่องผิดแปลกสำหรับตำหนักในหรอก โดยเฉพาะในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญอย่างสงครามผู้สืบทอดหรือตอนที่พวกเธอให้กำเนิดลูก ในตอนนั้นมุงกุฎราชกุมารยังมีชีวิตอยู่, และคริสต้าก็พึ่งจะเกิด แม้ว่าเธอจะเป็นที่ถูกใจขององค์จักรพรรดิ, แต่ภรรยาลำดับสองมีแค่ลูกสาวดังนั้นเธอจึงไม่ได้มีตำแหน่งที่สำคัญอะไร และเธอก็ไม่ใช่คนที่จะตกเป็นเป้าในการลอบสังหารด้วย”
“แล้วทำไมถึงมีข่าวลือแบบนั้นหล่ะคะ?
อืม, นั่นแหล่ะคือประเด็น
ภรรยาที่ไม่น่าจะตกเป็นเป้าลอบสังหารจู่ๆก็จากโลกนี้ไปอย่างกระทันหัน
ทีมสืบสวนถูกจัดตั้งขึ้นในทันทีแต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่อาจทราบสาเหตุการตายได้
เพราะเหตุนี้เอง, คนที่น่าสงสัยมากที่สุดก็คือภรรยาลำดับห้า
“เนื่องจากภรรยาลำดับสองกับลำดับห้านั้นยังสาวแถมยังเป็นบุตรีของดยุคกันทั้งคู่ก็เลยมักจะถูกนำมาเปรียบเทียบกันอยู่บ่อยๆ แต่ถึงอย่างนั้น, ไม่เหมือนกับภรรยาลำดับสองที่ท่านพ่อแต่งงานด้วยความรัก, ภรรยาลำดับห้านั้นเป็นคนที่เขาแต่งงานผ่านการแต่งงานทางการเมือง ทั้งคู่ต่างก็ให้กำเนิดลูกสาว, แต่ว่าภรรยาลำดับสองนั้นเป็นคนที่ให้กำเนิดก่อน เมื่อเปรียบเทียบชื่อเสียงของลูกสาวของพวกเธอ, ลูกสาวของภรรยาลำดับสองนั้นยังมีศักดิ์ศรีดีกว่า ซานดร้าเป็นคนที่เก่งมาตั้งแต่เด็กแล้วแต่ว่านิสัยของเธอก็ยังคงเป็นปัญหา และเพราะเจตนาที่ไม่ดีกับการแข่งขันอย่างเงียบๆระหว่างพวกเธอนี้เอง, ข่าวลือแบบนี้จึงเริ่มกระจายไปทั่ว”
“นี่คือต้นตอของข่าวลือหรอคะ? เธอถูกลอบสังหารเพราะความอิจฉาหรอ?”
“ความจริงเป็นยังไงข้าเองก็ไม่รู้หรอก แต่ในตอนนั้นภรรยาลำดับห้ามีข้อแก้ต่างที่ชัดเจน ในตอนที่ภรรยาลำดับสองจากไปภรรยาลำดับห้าอยู่ด้วยกันกับองค์ราชินี เธอไม่สามารถฆ่าภรรยาลำดับห้าได้, อย่างน้อยก็ในทางตรงหล่ะนะ ยิ่งไปกว่านั้น, การสืบสวนก็ไม่ได้พบอะไรที่นำไปสู่การฆาตรกรรมเลยด้วย แต่ว่า, ภรรยาลำดับห้าก็ยังคงถูกต้องสงสัยอยู่เพราะเธอเป็นคนที่สอนเวทมนตร์ให้ซานดร้า”
“เธอเป็นอาจารย์ขององค์หญิงซานดร้าหรอคะ?”
“เวทมนตร์ที่ข้าใช้คือเวทย์โบราณ หรือพูดอีกนัยนึงก็คือ, มันเป็นเวทย์ที่ไม่สามารถส่งต่อให้คนอื่นได้ ในทางกลับกัน, เวทมนตร์สมัยใหม่นั้น, คือเวทมนตร์ที่ใช้กันโดยทั่วไปในโลกนี้ ในบรรดาเวทมนตร์สมัยใหม่, ซานดร้านั้นเชี่ยวชาญเวทมนตร์ต้องห้าม, ซึ่งเป็นเวทมนตร์ที่บรรพบุรุษของพวกเราที่เป็นคนเผยแพร่เวทมนตร์สมัยใหม่ให้กับโลกนี้ได้ห้ามเอาไว้”
แต่ก็นะ, เวทย์ต้องห้ามมันก็มีอยู่ทุกรูปแบบนั่นแหล่ะ
ในขณะที่บางคนสงสัยว่าทำไมพวกเขาถึงต้องห้ามใช้เวทมนตร์พวกนั้น, มันก็มีอีกส่วนนึงที่บอกว่าเวทมนตร์พวกนี้ไม่ควรถูกนำมาใช้
ซานดร้าได้ศึกษาเวทมนตร์ต้องห้ามพวกนี้ การมีส่วนร่วมในการวิจัยเวทมนตร์ต้องห้ามของเธอนั้นเป็นที่รู้จักกันดีจากนักเวทย์ทั่วจักรวรรดิ
จากมุมมองของนักเวทย์, ซานดร้าเป็นคนที่พวกเขาชื่นชมอย่างมากเพราะเธอได้ไขความลึกลับมากมายที่เกี่ยวกับเวทมนตร์ต้องห้าม มีเวทมนตร์ที่สามารถเรียนรู้ได้มากขึ้นและมีเวทมนตร์ต้องห้ามทุกรูปแบบที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ ยิ่งไปกว่านั้น, เวทมนตร์พวกนี้ส่วนใหญ่ยังเป็นเวทย์ที่ทรงพลังทั้งนั้น”
และคนแรกที่เริ่มเดินบนเส้นทางนี้ก็เป็นใครไปไม่ได้นอกจากแม่ของซานดร้า, ภรรยาลำดับห้า
“ซานดร้าอ้างว่าเวทมนตร์ต้องห้ามนั้นสามารถนำมาใช้ในเรื่องดีๆได้แต่ไม่ว่าใครจะคิดยังไง, มันก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่ากระบวนการที่เธอใช้ในการเรียนรู้เวทมนตร์ต้องห้ามพวกนี้เป็นอันตราย แน่นอนว่า, แม่ของซานดร้า, ภรรยาลำดับห้าเองก็เหมือนกัน ข่าวลือเริ่มต้นขึ้นก็เพราะผู้คนสงสัยว่าอาจจะมีเวทมนตร์ต้องห้ามบางอย่างที่สามารถใช้สาปแช่งคนให้ตายได้”
“มีเวทมนตร์แบบนั้นอยู่จริงๆหรอคะ?”
“ไม่รู้สิ แต่ข้าไม่สามารถทำอะไรแบบนั้นได้แม้ว่าจะเป็นเวทมนตร์โบราณก็ตาม เอาเถอะ, ถ้าพวกเราตั้งใจสืบพวกเราก็อาจจะเจอจริงๆก็ได้ คำสาปที่แม้แต่การสืบสวนขององค์จักรพรรดิก็ยังไม่พบร่องรอยอะไร มันไม่แปลกหรอกที่ของแบบนั้นจะมีอยู่ในบรรดาเวทมนตร์ต้องห้ามและคนที่จะค้นพบเวทมนตร์แบบนั้นได้ก็มีแค่ภรรยาลำดับห้าหรือซานดร้าที่ได้รวบรวมหนังสือและคำภีร์เวทมนตร์ต้องห้ามจากทั่วทั้งทวีป”
“แต่ถ้าเกิด…..มีเวทมนตร์แบบนั้นจริงๆหล่ะก็……..”
“ก็นะ, ไม่ว่าใครก็คงจะถูกลอบสังหารได้ นี่คือสาเหตุที่เธอตกเป็นผู้ต้องสงสัย เมื่อสามปีก่อน, มุงกุฎราชกุมารก็ตายไปเหมือนกัน มีการจัดตั้งทีมสืบสวนและก็ไม่พบหลักฐานการลอบสังหาร มันดูคล้ายกับคดีของภรรยาลำดับสอง…..ตั้งแต่นั้นมา, ท่านพ่อจึงสงสัยภรรยาลำดับห้ามาโดยตลอด แต่เนื่องจากไม่มีหลักฐานอย่างเป็นทางการ, เขาจึงไม่สามารถห้ามซานดร้าไม่ให้ศึกษาเวทมนตร์ต้องห้ามได้เช่นกัน”
และอีกเหตุผลที่การวิจัยของซานดร้ายังไม่ถูกแบนคงเป็นเพราะมันประสบความสำเร็จด้วยหล่ะนะ
มีเวทมนตร์มากมายที่ซานดร้าเผยแพร่จากการศึกษาเวทมนตร์ต้องห้ามถูกนำไปเสนอต่อกองทัพในฐานะเวทมนตร์ทางการทหารและส่วนช่วยในการพัฒนาอาวุธเวทมนตร์ใหม่ๆ
ตราบใดที่ยังมีขุมอำนาจทางเวทมนตร์อย่างจักรวรรดิโซคัล, พวกเราก็ไม่สามารถหยุดการวิจัยในเรื่องนี้ได้ไม่อย่างนั้นนักเวทย์เก่งๆจะย้ายไปอยู่โซคัลกันหมด
ท่านพ่ออาจจะไม่ค่อยชอบใจกับเรื่องนี้ โดยส่วนตัวแล้ว, เขาคงอยากจะหยุดมันในทันที แต่ก็นะ, ที่เขาเป็นจักรพรรดิที่ยอดเยี่ยมก็เพราะเขาไม่ปล่อยให้ความรู้สึกส่วนตัวเข้ามาแทรกแซงการตัดสินใจของเขา
“คนที่มีความไม่พอใจในตัวภรรยาลำดับสองซึ่งเป็นคนที่ไม่น่าจะตกเป็นเป้าลอบสังหารและสามารถทำการลอบสังหารได้โดยไม่ทิ้งหลักฐานอะไรเลย นี่คือเหตุผลที่เธอถูกสงสัยสินะคะ?”
“ใช่แล้วแหล่ะ แต่มันก็ยังเป็นแค่การคาดเดา มันไม่มีหลักฐานอะไรเลย ในตอนที่มงกุฎราชกุมารตาย, ทั้งภรรยาลำดับห้าและซานดร้าอยู่ในเมืองหลวงของจักรวรรดิในขณะที่มงกุฎราชกุมารอยู่ที่แนวหน้า ไม่ว่ายังไง, มันก็ยังห่างกันเกินไป แม้กระทั่งในบรรดาเวทมนตร์ต้องห้ามเอง, มันก็อาจจะไม่มีคำสาปที่ใช้ได้จากระยะไกลขนาดนั้นหรอก แต่ไม่ว่ายังไง, มันก็มีมูลเหตุมากพอที่จะทำให้ผู้คนเริ่มสงสัยในตัวพวกเธอหล่ะนะ”
บ้านแม่ของซานดร้าอยู่ทางใต้
มันคือสถานที่ที่ลีโอดำเนินการสืบสวน
ตำแหน่งอย่างผู้ตรวจสอบนั้นถือว่าเข้ากับลีโอ เขาเป็นคนจริงจังและใส่ใจดังนั้นเขาจะพยายามสืบหาหลักฐานอย่างเต็มที่โดยไม่ปล่อยให้พลาดไปไม่ว่ามันจะเป็นจุดที่เล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม
แต่เขตใต้เป็นสถานที่ที่อิทธิพลของคนๆนั้นครอบคลุมอยู่
มันคงจะดีอยู่หรอกถ้าเธอไม่คิดจะทำอะไร
ฉันไม่สามารถช่วยเขาอย่างเปิดเผยได้ด้วย
เหตุผลที่พวกเราได้รับงานแยกกันในเวลาเดียวกันนั้นน่าจะเป็นเพราะว่าท่านพ่ออยากทดสอบความสามารถส่วนตัวของพวกเราด้วย
“ข้าคงทำได้แค่คอยสนับสนุนจากในเงามืดสินะ”
“แบบนั้นก็ไม่เห็นไปไรเลยนี่คะ ถึงยังไงนั่นก็คือสิ่งที่พวกเราทำมาโดยตลอดอยู่แล้ว”
“นั่นสินะ”
ในขณะที่บทสนทนาดำเนินต่อไปเช่นนี้, ฉันก็ยิ้มออกมาในขณะที่กินขนมที่ฟีเน่เตรียมเอาไว้ให้ฉัน