การต่อสู้ชิงบัลลังก์ในเงามืดของเจ้าชายไร้ค่าสุดแกร่ง (Saikyou Degarashi Ouji no An’ yaku Teii Arasoi ) - ตอนที่ 91
“เอาหล่ะ, ของฟังรายงานหน่อยซิ”
ท่านพ่อตัดเข้าประเด็น
ท่านพ่อกำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์ด้วยกันกับฟรานซ์, นายกรัฐมนตรี, ที่ยืนอยู่ข้างๆเขา คนที่กำลังเผชิญหน้ากับพวกเขาอยู่มีแค่ฉันกับลีโอ
ลีโอถูกขอให้รายงานที่สภาองคมนตรีในฐานะผู้ตรวจสอบแต่เขากลับขอประชุมเป็นการส่วนตัวกับท่านพ่อเพื่อรายงานแทน
ตอนแรกฉันตั้งใจจะชิ่งแต่ท่านพ่อบอกว่ามันจะเป็นปัญหาเอาได้และให้ฉันอยู่ต่อ บางทีเขาน่าจะอยากถามฉันเรื่องท่านพี่ลีเซกับเยอร์เกนถัดจากนี้
“ครับ ถ้างั้นข้าขอเริ่มรายงานเลยนะครับ พูดโดยสรุปเลยก็คือ, เรื่องที่ประชาชนทางใต้ตกเป็นเหยื่อขององค์กรลักพาตัวนั้นได้รับการยืนยันแล้วครับและน่าจะมีขุนนางทางใต้มาเกี่ยวข้องกับองค์กรที่ว่านี้ด้วย”
“…..แล้วยังไงต่อ”
“ครับ ศูนย์กลางของปัญหานี้คือชั้นใต้ดินในคฤหาสน์ของลอร์ดเมืองบัสเซา มันถูกใช้เป็นฐานปฏิบัติการสำหรับองค์กรลักพาตัวซึ่งพวกมันเอาไว้ใช้กักขังเด็กกับผู้หญิงที่จับตัวมา ข้าได้ยืนยันเรื่องนี้ผ่านคำให้การจากเด็กที่ช่วยเอาไว้ได้ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าอย่างน้อยเอิร์ลซิทเทอร์ไฮม์ที่ปกครองบัสเซาก็เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้”
หลังจากรูที่เชื่อมต่อกับโลกปีศาจถูกปิด, คฤหาสน์ก็ปรากฎขึ้นมาตามเดิมพร้อมกับชั้นใต้ดินของมัน
มันไม่ได้ถูกกลืนเข้าไปแต่น่าจะเป็นถูกแทนที่มากกว่า
และก็ต้องขอบคุณเรื่องนี้, พวกเราจึงได้พบหลายๆอย่างหลังจากที่ทำการสืบค้น
“แล้ว? ซิทเทอร์ไฮม์นั่นอยู่ที่ไหน?”
“เขาตายแล้วครับ จากคำบอกเล่าของอัศวินที่รู้จักเอิร์ลซิทเทอร์ไฮม์, ดูเหมือนว่าร่างของปีศาจที่ซิลเวอร์ต่อสู้ด้วยจริงๆแล้วเป็นร่างของเขาครับ ปีศาจตัวนั้นน่าจะยึดร่างของเขาไปหลังจากที่ตัดหัวทิ้ง”
“…..”
ท่านพ่อมองออกไปข้างนอกอย่างเงียบๆ
เขาน่าจะไม่อยากฟังแต่เขาก็ต้องฟัง
ฉันได้ฟังรายละเอียดจากลีโอมาพอสมควรแต่ดูเหมือนว่าเหตุการณ์นี้ยังมีเบื้องลึกอีกมาก
“องค์ชายลีโอนาร์ด ข้าได้ยินมาว่าคนที่อัญเชิญปีศาจจริงๆแล้วเป็นเด็กที่สามารถหนีมาได้ ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหนหรอครับ?”
“….พวกเราแกล้งจำลองการตายของพวกเด็กๆแล้วให้ท่านพี่ลีเซส่งพวกเด็กๆไปที่ชายแดนตะวันออกผ่านเส้นทางที่ปลอดภัยครับ ตอนนี้พวกเขาอยู่ภายใต้การคุ้มกันของกองทัพตะวันออก พี่สาวของเด็กที่เป็นต้นตอของเหตุการณ์เองก็อยู่ที่นั่นด้วย แถมพี่สาวคนนั้นยังเป็นนักผจญภัยซึ่งเป็นคนแรกสุดที่เอาเรื่องนี้มาร้องเรียนกับพวกเราด้วยครับ”
ใช่แล้ว, ตอนนี้, ลินเฟียอยู่ที่ชายแดนตะวันออก
เธอไปอยู่ที่นั่นเพื่อดูแลน้องสาวของเธอและพวกเด็กๆที่ถูกช่วยเอาไว้
ตัวเธอรู้สึกเป็นห่วงพวกเด็กๆและลีโอก็ตัดสินใจส่งเธอไปที่นั่นอย่างพอดิบพอดี ดูเหมือนเธอจะบอกว่าซักวันนึงเธอจะกลับมาเข้าร่วมกับพวกเราอย่างแน่นอนแต่เมื่อไหร่นั้นยังไม่อาจตัดสินใจได้
ถึงยังไง, ตัวตนของพวกเด็กๆก็ทำให้เหตุการณ์นี้ซับซ้อนยิ่งขึ้น
“ทำไมถึงจำลองการตายของพวกเขาหล่ะ? เจ้าคิดว่าข้าจะลงโทษเด็กพวกนั้นหรอ?”
ท่านพ่อถามด้วยน้ำเสียงที่ดูไม่ค่อยพอใจ
เหตุการณ์ที่พึ่งผ่านมานั้นเกิดขึ้นจากการที่พวกเด็กๆอัญเชิญปีศาจ พวกเขาเป็นทั้งเหยื่อและตัวการ นี่คือสาเหตุที่ท่านพ่อมีเหตุผลในการลงโทษพวกเขา
อย่างไรก็ตาม, นี่ไม่ใช่เหตุผลที่ลีโอจำลองการตายของพวกเด็กๆ
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ, มันเป็นเพราะพวกเราเจอเอกสารที่น่าสงสัยบางอย่าง”
จากนั้นลีโอก็ส่งกระดาษแผ่นนึงให้กับฟรานซ์
กระดาษมีคราบแดงคล้ำของเลือดเปื้อนอยู่ มันถูกพบในชั้นใต้ดินดังนั้นมันน่าจะเป็นเลือดของคนที่พยายามจะกำจัดมัน
“นี่มัน……!?”
ท่านพ่ออุทานออกมาด้วยความประหลาดใจในตอนที่เขาได้รับเอกสารจากฟรานซ์
ในตอนที่เขาแสดงมันให้ฟรานซ์ดู, เขาก็ขมวดคิ้วให้กับเนื้อหาของมันอย่างเห็นได้ชัด
สิ่งที่ถูกเขียนเอาไว้ในนี้คือคู่มือ
มันคือวิธีการสร้างอาวุธด้วยการผสานเด็กที่มีพลังแข็งแกร่งกับเด็กที่มีความสามารถในการขยายพลังของคนอื่นเข้าด้วยกัน
มันคือเอกสารที่อธิบายวิธีการพวกนั้น
พูดอีกนัยนึงก็คือ, เหตุการณ์ที่คล้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นทางใต้นั้นสามารถสร้างเกิดขึ้นใหม่ในประเทศอื่นได้ ด้วยเหตุนี้เองมันจึงสามารถสันนิษฐานได้ว่ามีคนในประเทศนี้ที่คิดแผนการพวกนั้นขึ้นมา
ยิ่งไปกว่านั้น, ยังมีคำๆนึงที่ปรากฎขึ้นหลายครั้งในเอกสารฉบับนี้ด้วย
“วิธีการแบบนี้….. ‘กองทัพ’คิดจะทำจริงๆหรอ…..?”
“จากเอกสาร, มันบอกเอาไว้อย่างชัดเจนว่าการทดลองนี้เป็นคำขอจากกองทัพของเรา กองทัพตะวันออกปลอดภัยเนื่องจากท่านพี่เป็นคนคุมอยู่แต่พวกเราไม่สามารถเชื่อใจเจ้าหน้าที่ทหารคนอื่นในเรื่องนี้ได้, นี่คือสาเหตุที่พวกเราตัดสินใจจำลองการตายของพวกเด็กๆเพื่อป้องกันจากการถูกตามล่าและถูกใช้ในฐานะอาวุธครับ โปรดอภัยให้ข้าด้วย”
“ถือเป็นการตัดสินใจที่ฉลาดดีแล้ว แต่ว่า, จากเอกสาร, ดูเหมือนว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นแค่การทดลอง ถ้าสันนิษฐานว่าพวกมันรวบรวมเด็กมาเพราะพวกมันถูกขอให้ทำการทดลองพวกนี้ก็คงไม่ผิดสินะ”
“หากพูดด้วยผลลัพธ์, ก็คงถือว่าสำเร็จครับ ถ้าพวกมันสามารถสร้างเหตุการณ์แบบนี้ในประเทศอื่นได้ก็คงจะเป็นโอกาสบุกรุกที่ดีสำหรับพวกเราแล้ว ปีศาจที่ถูกอัญเชิญมาในเหตุการณ์นี้มีพลังที่น่ากลัวจริงๆ แต่ว่า, เนื่องจากจักรวรรดิมีบ้านผู้กล้าหาญอยู่ด้วย, ดังนั้นคงไม่มีอะไรที่ต้องกลัว”
ใช่แล้ว นี่คือแผนการบุกรุก
และมันก็ไม่ใช่แค่เพราะท่านพ่อไม่มีความตั้งใจที่จะเริ่มบุกรุกใครเขาก็เลยไม่ได้รับแจ้ง มีคนกำลังเตรียมการบุกในอนาคตของตัวเองและนี่ก็คือการเตรียมการไปสู่สิ่งนั้น
นี่คือสิ่งที่สามารถตีความได้จากเอกสาร
“กอร์ดอนงั้นหรอ……”
“ข้ามีเรื่องอื่นที่อยากรายงานเป็นการส่วนตัวด้วยครับ”
“ยังมีอีกสินะ…..”
“โชคไม่ดี, ในขณะที่กำลังต่อสู้กับมอนส์เตอร์ทางใต้นั้น, ข้าได้ฟังคำสั่งเสียจากอัศวินคนนึงของเอิร์ลซิทเทอร์ไฮม์ ถ้าพวกเราเชื่อเรื่องราวของเขา, ดูเหมือนว่าเอิร์ลซิทเทอร์ไฮม์นั้นจริงๆแล้วถูกข่มขู่ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการลักพาตัว ซึ่งก่อนที่พวกเราจะไปถึงนั้น, เขาได้ตัดสินใจช่วยเหลือเด็กๆและลุกขึ้นมาต่อกรกับคนลักพาตัวครับ”
“งั้นหรอ…..พูดอีกอย่างก็คือ, องค์กรลักพาตัวมีอำนาจมากพอที่จะคุกคามลอร์ดได้สินะ”
“ครับ มีความเป็นไปได้ว่าจะมีขุนนางที่มีอำนาจคอยหนุนหลังพวกมันอยู่ บางที, ขุนนางทุกคนที่อยู่ทางใต้น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย”
ยิ่งขุดลงไปลึกเท่าไหร่, ความมืดก็ยิ่งเปิดเผยออกมามากขึ้นเท่านั้น
ไม่ว่าใครที่แปดเปื้อนความมืดนี้จะต้องถูกลงโทษ ถึงยังไง, ถ้าความมืดกระจายมากเกินไป, จักรวรรดิก็อาจจะทนรับไม่ไหวอีกก็ได้
อย่างไรก็ตาม, ถึงแม้ว่าจะไม่อยากปล่อยมันเอาไว้, แต่ก็ต้องเลือกเวลาที่เหมาะสมในการเปิดเผยความมืดเช่นนี้
“นี่มันชักจะซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆแล้วสิ ไม่ว่าจะเป็นคำขอจากกองทัพให้สร้างอาวุธมนุษย์ผ่านองค์กรลักพาตัวหรือความเป็นไปได้ที่ขุนนางทางใต้จะเกี่ยวข้องด้วย, พวกเราต้องเลือกภัยคุกคามที่พวกเราต้องจัดการก่อน”
“นี่คือเหตุผลที่ข้าอยากฟังการตัดสินใจของฝ่าบาทครับ”
“…..”
ท่านพ่อเงียบไปพักนึงแล้วหันมามองฉัน
ฉันมีความรู้สึกไม่ดีดังนั้นฉันจึงหันซ้ายหันขวาอยู่หลายรอบแต่ท่านพ่อก็ยังยิงคำถามนี้มาให้ฉัน
“เจ้าคิดว่าพวกเราควรทำยังไงดี? อาร์โนลด์?”
“ทำไมถึงมาถามข้าหล่ะครับ…..”
ฉันถอนหายใจแล้วเริ่มคิด
แต่ไม่ว่าฉันจะคิดยังไง, ฉันก็ยังไม่เจอคำตอบที่เหมาะสม
ถ้าพวกเราเริ่มขุดคุ้ยกองทัพ, พวกเราก็จะขัดแย้งกับกอร์ดอนและถ้าพวกเราเริ่มสืบสวนขุนนางทางใต้, พวกเราก็ต้องรับมือกับซานดร้าอีก
มันจะปลอดภัยที่สุดสำหรับพวกเราถ้าสรุปเหตุการณ์นี้ด้วยความพ่ายแพ้ของปีศาจทางใต้
อย่างไรก็ตาม……
“ท่านไม่อยากฟังคำตอบที่ปลอดภัยสินะครับ?”
“แน่นอน”
“เห้อ…..”
หลังจากถอนหายใจออกมา, ฉันก็ได้ข้อสรุป
อย่างไรก็ตาม, คำตอบนี้มันดีแล้วจริงๆหรอ?
แต่ไม่ว่ายังไง, ฉันก็ต้องตอบออกไปอยู่ดี
“ข้าคิดว่าตอนนี้พวกเราปล่อยกองทัพไว้ก่อนจะดีกว่าครับ คำขอสร้างอาวุธมนุษย์จากองค์กรลักพาตัวเป็นอาชญากรรมที่อภัยไม่ได้ก็จริงและพวกเราก็ต้องสืบให้ได้ว่าพวกเขาคิดจะเอาอาวุธพวกนี้ไปใช้ทำอะไร แต่ว่ารากเหง้าของปัญหาในครั้งนี้คือขุนนางทางใต้ ถ้าพวกเราจัดการเรื่องนี้อย่างขอไปทีและขุนนางทางใต้ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรม…..อย่างเลวร้ายที่สุดพวกเราก็อาจจะถูกก่อกบฎได้ ถ้าเป็นแบบนั้นพวกเราก็ต้องจัดการกับกบฎ, ซึ่งพวกเราต้องใช้กองทัพในการปราบปรามพวกเขา การสืบสวนค่อยจัดการหลังจากที่พวกเราทำให้พวกเขาอ่อนแอก็ได้ ถึงยังไงถ้าพวกเราทำกลับกันพวกเราก็อาจจะไม่สามารถตอบโต้กับกบฎทางใต้ได้อย่างเหมาะสมครับ”
“จัดการทั้งคู่ไปพร้อมๆกันสินะ ถ้าทำแบบนั้นพวกเราก็ไม่ต้องเตรียมมาตรการพิเศษรองรับเอาไว้ พวกเราแค่คอยสังเกตการกระทำของกองทัพและคิดมาตรการที่เหมาะสม ถ้าพวกเขาเริ่มทำอะไรที่เป็นอันตรายพวกเราก็จะสามารถสืบสวนพวกเขาได้แต่ถ้าไม่พวกเราก็สามารถปล่อยพวกเขาเอาไว้จนกว่าจะจัดการอีกปัญหานึงให้เรียบร้อยก่อนได้ ข้าคิดว่าเป็นข้อเสนอที่ดีนะ”
“….ในที่สุดเจ้าก็ตัดสินใจเลิกทำตัวเป็นคนไร้ความสามารถแล้วงั้นหรอ?”
ฉันส่ายหัวให้กับคำพูดของท่านพ่อ
ขอโทษนะ, แต่ฉันจำไม่เห็นได้เลยว่าเคยแกล้งทำตัวไร้ความสามารถกับท่านพ่อด้วย
ฉันก็แค่ไม่กระตือรือร้นเท่านั้นเอง
อย่างไรก็ตาม, พวกเราไม่สามารถจัดการกับปัญหานี้ด้วยการทำตัวแบบนั้นได้
“ข้าไม่เคยได้ฟังเรื่องสำคัญอะไรข้าก็เลยแค่รับฟังเอาไว้เฉยๆครับ แต่เหตุการณ์ในครั้งนี้มันหยั่งรากลึกมาก แถม, ลีโอเองก็อาจจะคิดข้อสรุปเดียวกันได้ตั้งนานแล้ว…..แต่ว่า, เขาอาจจะไม่สามารถพูดออกมาได้เมื่อพิจารณาจากสถานะของเขาครับ”
“…..นี่เจ้าคิดว่าข้าจะมองว่าเขากำลังใช้ข้อเสนอของตัวเองเพื่อความได้เปรียบในสงครามผู้สืบทอดหรอ?”
“จะมีคนคิดแบบนั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนี่ครับ การที่ข้าพูดนั้นก็ไม่ดีเหมือนกันแต่มันจะแย่ยิ่งกว่าถ้าลีโอพูดออกมาด้วยตัวเอง
ในตอนที่ฉันพูดออกไปแบบนั้น, ท่านพ่อก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย
ฟรานซ์เองก็มองเหมือนกับว่ารู้สึกประทับใจอยู่
ในขณะนั้นเองฉันก็สบตากับลีโอ เขาบอกขอบคุณผ่านทางสายตาและฉันก็ยักไหล่เพื่อบอกเขาว่าไม่เป็นไร
จากนั้น, ท่านพ่อก็สรุปการประชุม
“พวกเราจะปล่อยเรื่องนี้เอาไว้เฉยๆไม่ได้ ลีโอนาร์ด, เจ้าทำการสืบสวนเหตุการณ์ทางใต้ต่อไป พอมีเงื่อนงำให้ตามต่อใช่ไหม?”
“จากคำบอกเล่าของอัศวิน, เอิร์ลซิทเทอร์ไฮม์ได้ฝากจดหมายเอาไว้กับคนๆนึงที่ชื่อว่ารีเบคก้า ข้าตั้งใจจะเริ่มตามหาเธอก่อนครับ”
“เข้าใจหล่ะ เอิร์ลซิทเทอร์ไฮม์….เขาทิ้งจดหมายเอาไว้สินะ”
ความจริงที่ว่าเขามีจดหมายฝากฝังเอาไว้กับใครซักคนนั้นก็หมายความว่าเขากำลังมองหาโอกาสกลับตัว
ท่านพ่ออาจจะไม่สามารถยกโทษให้กับสิ่งที่เอิร์ลซิทเทอร์ไฮม์ทำลงไปได้แต่เขาเองก็มีความคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นของตัวเองเหมือนกัน
“จะว่าไป, อาร์โนล์ด มีอะไรเกิดขึ้นกับความสัมพันธ์ของสองคนนั้นรึเปล่า? มีอะไรคืบหน้าไหม?”
“เอ๊ะ?”
นี่จะคุยเรื่องนี้ตอนนี้เลยหรอ?
ด้วยการเถียงกลับไปแบบนั้นในใจ, ฉันก็บอกเขาว่าทั้งสองคนมีความคืบหน้าอยู่บ้าง
เมื่อได้ฟังเช่นนั้น, ท่านพ่อก็ขมวดคิ้วอย่างโจ่งแจ้งแล้วเริ่มเทศน์
อ้ากก, สุดท้ายก็จบแบบนี้หรอเนี่ย? ให้ตายเถอะ…..
ในขณะที่เฝ้าภาวนาให้การเทศน์จบไวๆ, ฉันก็ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย