การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 211 อีกด้าน
บทที่ 211 อีกด้าน
บทที่ 211 อีกด้าน
เฮ่อหลานที่อยู่ด้านข้างยังคงกังวลเล็กน้อยหลังได้ยินสิ่งที่ลูกสาวคนโตพูดเมื่อครู่ “ที่หมู่บ้านหลี่ซานมีอะไรหรือ? แล้วมันอันตรายมากไหม?”
ถังซวงรู้สึกว่าเรื่องราวทั้งหมดพูดออกไปได้ยาก อีกอย่างมันเกี่ยวข้องกับชาวฝูซางด้วย ทว่าสุดท้ายเธอยังเชื่อมั่นในความสามารถของจิงเจ้อหรง จึงหันมองเฮ่อหลานด้วยรอยยิ้มประหลาดแล้วเอ่ยว่า “แม่คะ ไม่ต้องกังวลหรอก ลุงจิงเก่งอยู่แล้ว ทุกอย่างต้องเรียบร้อยดีแน่นอนค่ะ เดี๋ยวฉันกับพี่โม่จะเข้าไปช่วยตรวจสอบด้วย”
เฮ่อหลานรีบดึงถังซวงมาใกล้แล้วพูดว่า “ในเมื่อบอกว่าลุงจิงจัดการได้ ลูกกับเสี่ยวโม่ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าไปยุ่งเรื่องนี้สิ หมู่บ้านหลี่ซานนั่นมันอันตรายนะ”
แม้เธอจะรู้ดีว่าลูกสาวของตนเก่งกาจแค่ไหน แต่เฮ่อหลานก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายยังเป็นเด็ก
หลี่จงอี้พยักหน้าเห็นด้วยก่อนจะกล่าวเสริมว่า “ใช่แล้ว ครั้งนี้พวกเธอสองคนทำมามากพอแล้ว ที่เหลือให้อาเจ้อจัดการถูกต้องแล้ว”
หลังได้ยินอย่างนั้นแล้ว ถังซวงไม่ได้พูดอะไรต่อ
วันรุ่งขึ้น ถังไห่โปและถังชุนหยานมาที่นี่พร้อมกันโดยไม่มีใครคาดคิด
ถังซวงประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นทั้งสองมาที่นี่ เธออดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “ชุนหยาน มาที่นี่ทำไมหรือ?”
ก่อนถังชุนหยานจะทันได้ตอบกลับ ถังไห่โปก็เปิดปากของเขาแล้วพูดว่า “ถังซวง เป็นโชคดีของเธอจริง ๆ หลังจากที่เธอไปหมู่บ้านหลี่ซานก็มีคนสนใจเธอทันที แล้วเมื่อวานนี้ลูกพี่ลูกน้องของก่วงจี๋ทำยังไงรู้หรือเปล่า? ทันทีที่เขาได้พบเธอ เขาต้องการจะแต่งงานกับเธอทันที”
ถังชุนหยานมองถังไห่โปด้วยความขุ่นเคือง “พี่ซวงอย่าไปฟังคำไร้สาระของพี่ไห่ นับว่าพวกเราโชคดีที่ได้รู้ว่าหมู่บ้านหลี่ซานมีบางอย่างที่ผิดแปลกไป พวกเราต้องไม่ยอมรับคำขอแต่งงานนะคะ”
ถังไห่โปมองถังชุนหยานอย่างไม่พอใจก่อนจะตอบกลับว่า “เธอเชื่อคำไร้สาระของชุนหยานงั้นหรือ? หมู่บ้านหลี่ซานจะมีปัญหาได้ยังไง? พวกเขาก็อยู่อย่างสุขสบายมาตั้งหลายปี!”
แม้สิ่งนี้จะถูกต้อง แต่ถังชุนหยานก็ยังเชื่อถังซวง
“ในเมื่อพี่ซวงพูดอย่างนั้น ก็ต้องมีเรื่องผิดปกติกับหมู่บ้านหลี่ซานแน่ เพราะฉะนั้นพี่หยุดคิดเรื่องจะให้พี่ซวงแต่งงานกับคนของหมู่บ้านหลี่ซานได้แล้ว อีกอย่างพี่ซวงและเสี่ยวเซวี่ยยังเรียนอยู่ พวกเขาจะแต่งงานได้ยังไง!”
แน่นอนว่าเธอรู้ถึงเหตุผลที่พี่ชายของตนมาที่นี่ เพราะครอบครัวลูกพี่ลูกน้องของเมิ่งก่วงจี๋นั้นเตรียมสินสอดทองหมั้นไว้มากมาย ในเวลาเดียวกันเขายังให้สัญญากับแม่เฒ่าถังและคนอื่น ๆ อีกว่าถังซวงจะยอมแต่งงานกับคนจากหมู่บ้านหลี่ซานแน่ และเวลานั้นเขาจะได้รับเงินตอบแทนจำนวนมาก
“พี่ซวงคะ ทั้งหมดเป็นเพราะพี่ชายของฉันได้รับเงินจำนวนมาก เขาถึงกระตือรือร้นอย่างนี้”
ขณะพูดอย่างนั้น เธอพูดซ้ำถึงประโยคที่จางหงเม่ยพูดกับตนเมื่อเช้าอีกครั้ง “เขามาที่นี่เพื่อจะหว่านล้อมพี่ด้วยเงิน แต่อย่าไปหลงกลเขานะคะ”
หลังเห็นถังชุนหยานบอกกล่าวทุกสิ่งหมดสิ้น ถังไห่โปก็แทบอยากจะฉีกร่างของเธอทันที
“ถังชุนหยาน นังตัวเหม็นแกพูดบ้าอะไรออกไป เปลี่ยนถูกให้กลายเป็นผิดไปหมดแล้ว ฉันก็แค่มาที่นี่เพื่อจะบอกข่าวคราวเท่านั้น ไม่ได้คิดบังคับให้ถังซวงแต่งงานสักหน่อย!”
ถังชุนหยานจ้องมองถังไห่โปแล้วพูดต่อว่า “ก็เพราะพี่กำลังบังคับให้พี่ซวงแต่งงานทั้งที่รู้ว่าหมู่บ้านหลี่ซานมีปัญหา แล้วพี่ก็ยังต้องการให้ฉันกับพี่ซวงแต่งงานกับคนไม่ดี!”
“นี่… เธอ…”
ถังไห่โปโกรธจัดจนชี้หน้าถังชุนหยาน เขาถึงกับพูดไม่ออกชั่วขณะ
ถังซวงเข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น เวลานี้เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยแต่ยังไม่ได้ปฏิเสธ ก่อนจะหันมองถังชุนหยานแล้วพูดว่า “เธอกลับไปก่อน ส่วนเรื่องนี้ฉันจะคิดอีกครั้ง”
“พี่ซวงคะ มีอะไรต้องคิดอีก เราไม่ควรตอบรับสิ”
ถังไห่โปยกยิ้มก่อนจะพูดว่า “ได้ ตกลง ๆ เธอควรจะคิดให้รอบคอบ แล้วอีกสองสามวันเราจะกลับมารับคำตอบ”
ถังชุนหยานต้องการพูดบางอย่าง แต่ถูกถังไห่โปลากตัวออกไป
อีกด้าน เฮ่อหลานกำลังเตรียมผลไม้ และเมื่อมาถึงก็พบว่าถังชุนหยานออกไปแล้ว เธอจึงพยายามโน้มน้าวให้อีกฝ่ายอยู่ต่อ “ชุนหยาน เธอนั่งพักสักหน่อยสิจ๊ะ แล้วอยู่กินข้าวด้วยกันก่อน
”
“ไม่ดีกว่าค่ะคุณป้า พวกเราขอตัวกลับก่อนนะคะ”
ถังชุนหยานรู้สึกอับอายหากต้องอยู่กินข้าวต่อ คราวนี้เป็นเธอที่ลากถังไห่โปออกไป
หลังทั้งสองกลับไป เฮ่อหลานอดไม่ได้ที่จะมองถังซวงแล้วพูดว่า “ซวงเอ๋อร์ ชุนหยานกับพี่ชายมาที่นี่ทำไมหรือ?”
ถังซวงไม่ได้คิดปิดบังอะไร เพียงตอบกลับว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
“ซวงเอ๋อร์ คนพวกนั้นพบลูกแล้วหรือ ถ้าอย่างนั้น ลูกต้องห้ามไปที่หมู่บ้านหลี่ซานเป็นอันขาด มันอันตรายมากนะ” เฮ่อหลานรู้สึกกระวนกระวายใจ หลังได้ยินลูกสาวคนโตพูด เธอคิดว่าหมู่บ้านหลี่ซานเป็นสัตว์ประหลาดที่พร้อมจะกลืนกินมนุษย์จริง ๆ
เมื่อเห็นท่าทางกังวลของแม่ ถังซวงยิ้มแล้วตอบกลับว่า “แม่คะ หนูจะไม่ไปที่นั่นอีกแน่นอนค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะ”
เฮ่อหลานในวันนี้ไม่ง่ายที่จะโป้ปด เธอหันมองลูกสาวคนโตด้วยความสงสัย พลางเอ่ยถามกลับไปว่า “แล้วถ้าไม่คิดจะไปที่นั่นจริง ๆ ทำไมถึงไม่ปฏิเสธไปเลยล่ะ?”
เวลานี้ถังซวงไม่รู้จะพูดอะไรตอบ เธอไม่มีทางเลือกมากนัก อีกทั้งยังกลัวว่าจิงเจ้อหรงจะจัดการไม่ได้ ทว่าเธอยังสามารถหาทางจัดการมันได้ แต่ถ้าหากเธอต้องการเอาตัวเองไปอยู่ที่นั่นก็หมายถึงความเสี่ยงที่ต้องแบกรับ ดังนั้นเธอจึงบอกแผนการของตนไป แม่คงจะไม่ต้องเป็นห่วงมากกว่านี้แน่
“ค่ะ แล้วหนูจะไปบอกชุนหยานเองว่าหนูปฏิเสธการแต่งงาน”
ทว่าเฮ่อหลานยังไม่เชื่อ
เวลานี้จิงเจ้อหรงและโม่เจ๋อหยวนเดินเข้ามาพร้อมกัน
เมื่อเห็นจิงเจ้อหรงเข้ามา ถังซวงรีบเอ่ยถาม “ลุงจิงคะ เป็นยังไงบ้าง?”
สีหน้าของจิงเจ้อหรงไม่สู้ดีนัก โม่เจ๋อหยวนจึงเป็นคนอธิบาย “ซวงเอ๋อร์ เมื่อวานเราไปตรวจสอบแค่ในภูเขา แต่ความจริงแล้วมีฐานทดลองที่ถูกสร้างขึ้นโดยชาวฝูซางที่ท้ายหมู่บ้าน แต่พวกเขากำลังค้นคว้าอะไรนั่น พวกเรายังไม่ทราบ เรารู้แค่ว่าพวกเขากำลังทำบางอย่างที่มันอันตรายมาก”
“อันตราย… เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขากำลังทดลองไวรัส?”
หลังได้ยินอย่างนั้นแล้ว ถังซวงขมวดคิ้วทันที
เมื่อได้ยินคำพูดของถังซวง โม่เจ๋อหยวนส่ายศีรษะพลางตอบกลับว่า “เราก็ยังไม่แน่ใจ ลุงจิงเองก็ไม่สามารถผลีผลามลงมือได้ เพราะกลัวจะทำให้ชาวฝูซางโกรธและจัดการกับทุกคนที่เข้าไปจับกุมพวกเขา ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ผลกระทบนี้ราคาแพงเกินกว่าที่พวกเราจะจ่ายได้”
ท้ายที่สุดแล้วหากเป็นไวรัสโรคระบาด มันอาจแพร่กระจายออกไปได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นสีหน้าของจิงเจ้อหรงกับโม่เจ๋อหยวน ถังซวงเอ่ยพูดขึ้นว่า “ฉันมีวิธีไปที่หมู่บ้านหลี่ซานแล้วตรวจสอบฐานการทดลองนั่นแล้วค่ะ”
“ยังไง?”
ทั้งจิงเจ้อหรงและโม่เจ๋อหยวนหันมองถังซวงด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ถังซวงบอกเรื่องที่ถังชุนหยานกับถังไห่โปมาพบเธอเมื่อครู่ให้กับทั้งสองฟัง ก่อนจะกล่าวต่อว่า “ฉันจะไปที่หมู่บ้านหลี่ซานเพื่อตรวจสอบเรื่องนี้ แล้วจะส่งข่าวให้ทราบ”
“ไม่ได้ มันอันตรายเกินไป ฉันไม่ให้เธอไป”
จิงเจ้อหรงกล่าวปฏิเสธทันที เด็กหญิงตัวเล็กคนนี้จะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องร้ายแรงเช่นนี้ได้ยังไงกัน
“ลุงจิงคะ นี่คือวิธีที่เร็วที่สุดในตอนนี้ค่ะ อีกอย่างพวกลุงจิงก็รออยู่ด้านนอก ไม่มีอะไรที่ต้องกังวลเลยค่ะ”