ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี - บทที่ 101 ไม่ได้มองหาหนังสือแต่เป็นเสน่ห์
ถ้าผู้เล่นที่ออกมาโวยวายมีแค่คนเดียว เผยเชียนคงจะเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ รวมถึงไม่คิดจะทำอะไร
แต่จากสถานการณ์ในตอนนี้ ถ้าเขาไม่ทำอะไรสักอย่าง ผู้เล่นจะต้องไม่ยอมปล่อยเขาไปแน่
ผู้เล่นจะต้องเดือดกันยกใหญ่และอาจตรวจสอบเกมแม่ทัพผีอย่างละเอียด…
ทีนี้เขาได้เกิดปัญหาใหญ่แน่!
ระบบมีกฎห้ามไม่ให้เปิดเผยหรือบอกใบ้การมีอยู่ของระบบกับผู้อื่น หมายความว่าเผยเชียนต้องคอยแอบทำเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลหรือเรื่องที่ขัดกับหลักการโดยไม่ให้ใครรู้ จะปล่อยให้มีคนสงสัยไม่ได้!
คงจะดูไม่สมเหตุสมผลถ้าเผยเชียนไม่ยอมอัปเดตเกมแม่ทัพผีที่สร้างกำไรให้มากมาย
ถ้าไม่มีผู้เล่นมากมายขนาดนี้มาปั่นกระแสเกมแม่ทัพผี เผยเชียนก็คงจะเป็นไม่เป็นไร
แต่ถ้าเรื่องนี้เลยเถิดไปกันใหญ่จนคนทั้งในและนอกวงการเกิดสงสัย การไม่ทำอะไรเลยของเผยเชียนก็จะกลายเป็นการละเมิดกฎได้
เขาไม่จำเป็นต้องเสี่ยง
พอคิดอยู่สักพักก็ตัดสินใจว่าหลังจากเกมนักออกแบบเกมเสร็จสมบูรณ์ เขาจะคิดเรื่องอัปเดตเกมแม่ทัพผี
อาจจะเพิ่มการ์ดออริจินัลเข้าไปสักสามสี่ใบกับซื้อเทมเพลตระบบใหม่มาลง จากนั้นก็ตั้งราคาไว้ต่ำๆ ก็ถือว่าเสร็จสิ้น
ทีนี้ก็จะมีปัญหาตอนวันสรุปบัญชีครั้งต่อไป
แต่ยังไงพอถึงตอนนั้น เขาก็ต้องหาทางผลาญเงินใหม่เพิ่มอยู่ดี
ระหว่างที่กำลังคิด เขาก็มาถึงร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
ตรงประตูมีพนักงานกำลังติดตั้งป้ายหน้าร้าน
ด้านบนทางเข้าเป็นผนังกระจกที่มีโลโก้ร้านขนาดใหญ่ผิดปกติแปะอยู่
ตรงกลางโลโก้มีรูปปลาเค็มหน้าตาน่าเกลียด เหมือนไปเอาอิโมจิมาแปะใส่ รูปร่างของปลาดูบิดเบี้ยว หางดูเหมือนจะกลายร่างเป็นหางมังกรได้
ด้านบนปลาเค็มมีตัวอักษรแนวศิลปะรูปตัว M มันดูคล้ายครีบที่ยื่นมาเกาจุดที่คันและดูคล้ายมงกุฎตรงหัวด้วย
ด้านหลังโลโก้มีตัวอักษร Y ขนาดใหญ่ที่ยึดโลโก้ทั้งหมดไว้ด้วยกัน
เผยเชียนตั้งใจมองโลโก้
อืม ดูแปลกแต่ก็ไม่สวย ดูไม่สวยแต่ก็เป็นเอกลักษณ์…
หน้าร้านมีแค่โลโก้อันเบ้อเริ่ม ไม่มีภาษาจีนหรือภาษาอังกฤษกำกับไว้เลย
เผยเชียนเดาว่าน่าจะเป็นฝีมือของหม่าหยาง
เจ้านั่นน่าจะเป็นคนติดต่อนักออกแบบและสั่งทำโลโก้นี้ เผยเชียนสงสัยว่าหม่าหยางส่งคำอธิบายไปให้นักออกแบบอย่างไรถึงออกมาเป็นแบบนี้ได้
ที่หน้าร้านไม่มีคำอธิบายใดๆ แต่ก็ตรงกับที่เผยเชียนต้องการพอดี
ผู้คนที่เดินผ่านหน้าร้านจะไม่รู้ว่าร้านนี้เป็นร้านอะไร ไม่รู้ว่าข้างในทำอะไรกัน!
เผยเชียนเดินเข้าไปในร้านอินเทอร์เน็ตแล้วมองไปรอบๆ
การตกแต่งด้านในเกือบจะเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในร้านมีคนงานสองคนกำลังเก็บกวาดร้านอยู่
เขาซื้อโต๊ะ เก้าอี้ และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ มาเรียบร้อยแล้ว ข้างในร้านมีกล่องขนาดต่างๆ วางกองอยู่ จางหยวนง่วนอยู่ในกองกล่อง กำลังประกอบคอมพิวเตอร์ เขามีผู้ช่วยสองคน เผยเชียนเดาว่าน่าจะเป็นพนักงานที่เพิ่งจ้างมาใหม่
“เป็นไง พี่เชียน ชอบมั้ยครับ!”
หม่าหยางเดินเข้ามาในร้านอย่างภาคภูมิใจ
เผยเชียนพยักหน้า “อืม ดูดีเลยนะ”
“มีอะไรที่อยากได้หรืออยากให้ทำเป็นพิเศษมั้ยครับ วางบาร์ไว้ตรงนั้นโอเคมั้ย โต๊ะกับเก้าอี้วางโอเครึยัง ชั้นหนังสือมีเยอะมากเลยครับ พี่อยากให้เอาหนังสือแบบไหนมาลงดี”
หม่าหยางเดินไปทั่วร้าน สามสิบเปอร์เซ็นต์คืออยากถามความเห็นจากเผยเชียน แต่อีกเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์คืออยากโชว์งานให้ดู
เขาอยากแสดงให้เห็นว่าตนเองทำงานได้สมบูรณ์แบบแค่ไหน!
เผยเชียนตรวจสอบส่วนต่างๆ ในร้านอินเทอร์เน็ต ทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาต้องการหมด จริงๆ แล้วดูดีกว่าที่คิดเอาไว้อีก!
ไม่ว่าจะเป็นโซนคาเฟ่หรือโซนบาร์ สิ่งที่ใกล้คอมพิวเตอร์มากที่สุดคือเคาน์เตอร์ที่ลูกค้าสามารถสั่งเครื่องดื่มต่างๆ ได้ อีกด้านหนึ่งเป็นเวทีขนาดเล็ก ด้านบนเวทีมีไมโครโฟนจำนวนหนึ่งไว้สำหรับใช้ร้องเพลง
ตรงผนังมีชั้นหนังสือเรียงอยู่ ส่งให้ร้านดูมีรสนิยมขึ้นมาก
พอเห็นชั้นหนังสือ เผยเชียนก็คิดว่าควรจะเสนออะไรสักหน่อย
ตอนนี้ทุกชั้นยังว่างอยู่ หม่าหยางยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะซื้อหนังสือแนวไหนมาเติมดี
ตัวเลือกมีทั้งหนังสือการ์ตูน นิยายขายดี นิยายคลาสสิก และอื่นๆ
เผยเชียนมองชั้นหนังสือแล้วนับดูว่าต้องซื้อหนังสือมาลงกี่เล่ม กะดูแล้วน่าจะใช้อย่างน้อยหลายพันเล่ม
ถ้าจะทำเป็นร้านอินเทอร์เน็ตสไตล์ญี่ปุ่นก็ต้องเอาหนังสือการ์ตูนมาลงโดยไม่ต้องสงสัย
ไม่อย่างนั้นอย่างน้อยก็ต้องหานิยายบนเว็บดังๆ มาลง
แต่เผยเชียนไม่ทำอย่างนั้นแน่
ถ้าเขาเอาหนังสือการ์ตูนมาลง เดี๋ยวไปล่อพวกโอตาคุพร้อมเปย์เข้า!
อย่างที่เขาว่ากัน ‘ของสะสมของโอตาคุราคาอาจจะเทียบเท่าบ้านหนึ่งหลังในปักกิ่ง’ อย่าได้ริอ่านดูถูกกำลังซื้อของคนพวกนี้ทีเดียวเชียว!
เอาหนังสือการ์ตูนกับฟิกเกอร์มาลงไม่ได้เด็ดขาด
เผยเชียนกระแอมกระไอพร้อมกับชี้ไปทางชั้นหนังสือ “ไอ้หม่า จำไว้นะ เราไม่ได้มองหาหนังสือ แต่เป็น…”
หม่าหยางพูดขัด “ความเหงาเหรอ”
“ความเหงาบ้าอะไร เสน่ห์ต่างหาก! เรากำลังมองหาเสน่ห์!” เผยเชียนพูดอะไรไม่ออก
“อ๋อๆ เสน่ห์” หม่าหยางพยักหน้ารัว
“หนังสือการ์ตูนกับนิยายเหรอ…เอามาทำไม ไร้สาระ!
“ต้องเอาพวกหนังสือที่มีเสน่ห์…ซื้อมาเติมชั้นให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้เลย”
เผยเชียนบอกหนทาง
“พี่เชียน ยกตัวอย่างชื่อหนังสือที่ควรซื้อให้สักหน่อยได้มั้ย” หม่าหยางถาม
เผยเชียนพยักหน้าพร้อมตอบ “ได้ ขอคิดก่อน
“ประวัติย่อของรถไถยูเครน คู่มือสำหรับคนขับรถไถขนาดเล็ก สร้างรถไถเพื่อบ้านเกิด เรื่องราวของนายสถานีรถไถและหัวหน้านักปฐพีวิทยา การใช้งานและการรักษารถไถเดินตาม…”
หม่าหยางอึ้งไป
“พี่เชียน คือ…พี่จะเอาหนังสือเกี่ยวกับรถไถมาทำไมเยอะแยะ”
เผยเชียนอธิบายอย่างจริงจัง “นี่แหละคือวิธีสร้างเสน่ห์ดึงดูดใจ! มีแต่คนรสนิยมสูงเท่านั้นถึงจะเข้าถึงได้ แกเข้าใจมั้ย
“เออ ช่างเหอะ สำหรับแกคงยากที่จะเข้าใจ ไปเสิร์ชในเน็ตว่า ‘ชั้นหนังสือของเด็กรสนิยมดี’ แล้วก็เลือกซื้อหนังสือที่นายไม่เข้าใจชื่อซะ!
“ไม่อย่างนั้นก็ไปร้านหนังสือเก่าแล้วเลือกเล่มที่สภาพเก่าๆ ขาดๆ ยิ่งเก่าเท่าไหร่ยิ่งดี!”
“อ๋อ โอเค ได้เลยครับ!” หม่าหยางพยักหน้ารัว
ทั้งสองเปลี่ยนไปคุยเรื่องเชฟ
พวกเขายังไม่ได้ตัดสินใจเรื่องเชฟ แต่ก็ได้รับใบสมัครจากเชฟดีๆ มากมายเพราะเสนอค่าจ้างไปค่อนข้างดี อีกอย่างดูจากสภาพที่นี่ก็ไม่น่าจะมีงานอะไรให้ทำเยอะแยะ
“แกต้องเลือกเชฟแบบที่ฉันบอกก่อนหน้านี้ ฉันไม่อยากได้เชฟที่ทำอาหารญี่ปุ่นกับอาหารฝรั่งเศสเป็น ฉันอยากได้เชฟที่ทำอาหารง่ายๆ ทั่วไปได้อร่อยๆ เข้าใจมั้ย”
เผยเชียนรู้สึกกังวลจึงสั่งหม่าหยางไปอีกรอบ
หม่าหยางตบอกตัวเอง “วางใจได้ครับ เดี๋ยวผมจัดการให้!”
เผยเชียนพยักหน้า “ดีมาก!”
เขาเดินดูรอบร้านอีกครั้งและรู้สึกพึงพอใจมาก
อนาคตดูสดใสเหลือเกิน มองแวบเดียวก็รู้ว่าจะต้องขาดทุนแน่!
เผยเชียนหันไปมองหม่าหยาง ในใจรู้สึกท่วมท้นเล็กน้อย “หม่าหยาง ถ้าไม่ใช่แก ฉันก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว!”
หม่าหยางยิ้มกว้าง หน้าบานเป็นกระด้ง “โห ดูพี่พูดเข้า ผมไม่ได้เก่งอะไรเลย! พี่เชียน ชมผมเยอะเดี๋ยวผมเหลิงนะพี่!”
“ไม่ต้องห่วง เหลิงไปเลย แกไม่ใช่คนถ่อมตัวอยู่แล้ว”
เผยเชียนเดินกลับไปที่โซนร้านอินเทอร์เน็ต
จางหยวนประกอบคอมพิวเตอร์เร็วมาก แต่ถึงจะทำงานมือเป็นระวิงมาพักใหญ่ก็คืบหน้าไปได้แค่ครึ่งทาง
เผยเชียนเห็นคอมพ์เครื่องหนึ่งเปิดอยู่
โคตรแจ่มเลย!
บนโต๊ะคอมพิวเตอร์มีที่ว่างมากมาย เก้าอี้เกมมิ่งก็นั่งสบายมาก แป้นพิมพ์กับเมาส์ก็ไม่ใช่ของราคาถูก ดูเป็นของดีเลยทีเดียว
แหม ก็ลงทุนไปตั้งเยอะนี่
“อย่าลืมนะ โต๊ะทุกตัวจะต้องมีทิชชู่เปียกคุณภาพดีหนึ่งห่อ เอาไว้ให้ลูกค้าเช็ดมือเช็ดหน้าก่อนเล่น เอาไว้เช็ดเมาส์ได้ด้วย ฉันไม่อยากให้เมาส์กับหูฟังสกปรก
“แต่ถ้าลูกค้าทำสกปรกก็ทำอะไรไม่ได้ ให้เอาอันใหม่มาเปลี่ยนเลย” เผยเชียนพูดอย่างช่วยไม่ได้
หม่าหยางดูลังเล “จะได้เหรอพี่เชียน ลูกค้าจะยอมเช็ดมือก่อนเล่นกันเหรอ”
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะคิดได้ว่าก็ฟังดูมีเหตุผล จะหวังให้ลูกค้าเช็ดมือด้วยทิชชู่เปียกกันเองได้อย่างไร
เป็นไปไม่ได้เลย
“งั้นเอาแบบนี้ ถ้าลูกค้าเดินมาที่โต๊ะคอมพ์ เราจะให้พนักงานเอาผ้าขนหนูไปให้ทันที เหมือนที่ร้านอาหารหรูๆ ทำกัน
“ผ้าขนหนูพวกนี้จะต้องสะอาดและผ่านความร้อนเพื่อฆ่าแบคทีเรีย หาคนมาดูแลเรื่องนี้ด้วย!”
หม่าหยางตาเบิกโพลง “จะไม่…หรูไปหน่อยเหรอครับ”
เผยเชียนส่ายหน้า “แกคิดว่าเราทำร้านอะไรกันอยู่ ที่นี่คือศูนย์ความบันเทิงระดับสูง! ลูกค้าของเราคือพวกบ้านรวย เราต้องบริการอย่างดีเยี่ยม เข้าใจไหม”
เขานึกอะไรขึ้นได้เลยพูดต่อ “แล้วก็ออกกฎห้ามสูบบุหรี่ในร้านด้วย จะตรงไหนก็สูบไม่ได้! ถ้าอยากสูบก็ต้องออกจากร้าน”
“หา”
หม่าหยางคิดว่าร้านนี้จะเหมือนร้านอินเทอร์เน็ตร้านอื่นๆ ที่แบ่งเป็นโซนสำหรับสูบบุหรี่และโซนห้ามสูบบุหรี่ เขากำลังจะขึ้นป้ายพอดีเลย
แต่เผยเชียนห้ามเอาไว้ก่อน
“แต่…”
เผยเชียนพูดขัด “ไม่มีแต่ เราต้องทำให้ที่นี่เป็นร้านบรรยากาศดี จะให้มีควันบุหรี่ได้ไง เออ ใช่ ไปติดตั้งระบบระบายอากาศด้วย พื้นที่แออัดแบบนี้ต้องทำให้มีลมหมุนเวียน
…………………….