ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี - บทที่ 149 ปล่อยพวกเขาไป
อพาร์ตเม้นต์เช่า
เผยเชียนเพิ่งจะตื่นจากการงีบตอนกลางวัน เขาพลิกตัวไปหยิบโทรศัพท์มาเช็กแล้วเห็นข้อความที่ยังไม่ได้อ่าน
“บอสเผยครับ ขอโทษที่จู่ๆ ทักมารบกวนนะครับ พอดีพวกเรามีปัญหาอยากจะมาปรึกษา จากที่เราถกกันมา ถ้าตัดช่องทางการเก็บเงินทุกอย่างออกจากเกมจะทำให้พวกผู้เล่นสายวาฬไม่พอใจ ขอถามบอสได้ไหมครับว่าเราจะแก้ปัญหาเรื่องนี้ยังไงดี”
เผยเชียนขยี้ตาพร้อมพึมพำเบาๆ “จากใครกันเนี่ย”
พออ่านดูดีๆ ก็รู้ว่าเยว่จือโจวที่เพิ่งได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผนของฉางหยางเกมส์เป็นคนส่งมา
เผยเชียนเพิ่งจะมอบ ‘กระบี่อาญาสิทธิ์’ ให้เยว่จือโจวไป ทำให้เอีกฝ่ายสามารถรายงานเขาได้โดยตรงว่าอยากจะไล่ใครออก เผยเชียนต้องหาทางสนิทกับเยว่จือโจวไว้เพื่อที่จะได้จัดการอะไรๆ ได้ง่ายๆ
แต่แทนที่จะทักมาบอกว่าอยากไล่ใครออก เยว่จือโจวกลับทักมาถามเรื่องเกมซะงั้น
เผยเชียนอ่านคำถามดูอีกรอบ
คำถามคือ ถ้าตัดช่องทางการเก็บเงินทุกอย่างออกจากเกมจะทำให้พวกผู้เล่นสายวาฬไม่พอใจได้ จะแก้ปัญหาเรื่องนี้ยังไงดี
เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เกมเพลงรบโลหิตเป็นเกมที่มีการวางเพดานค่าใช้จ่ายไว้ พวกผู้เล่นสายวาฬอาจจะทุ่มเงินหลายพันหลายหมื่นหยวนเพื่อให้ตัวเองเก่งกว่าผู้เล่นคนอื่น
ถ้าตัดช่องทางการเก็บเงินออก พวกผู้เล่นสายวาฬก็ไม่สามารถไล่ฆ่าคนได้อย่างเพลิดเพลินใจอีก ถ้าเป็นแบบนั้น พวกเขาจะไม่โกรธจัดจนทำเรื่องขอคืนเงินแล้วเลิกเล่นเกมไปเลยหรือ
แน่นอนว่าเผยเชียนไม่มีทางยอมให้พวกเขาทำเรื่องขอคืนเงินแน่
หนี้ทุกหนี้มีผู้ที่ต้องรับผิดชอบ เงินส่วนนี้ตู้รุ่ยเจี๋ยเป็นคนได้ไป พวกนายก็ต้องไปเรียกเก็บกับเจ้านั่นสิ
ส่วนเรื่องเลิกเล่นเกม…
ไม่มีปัญหา เลิกไปได้เลย!
บอสเผยไม่ได้สนใจพวกคนที่อยากเปย์เงินให้เขาและบริษัท
เขายึดถือแนวทางเดิม อยากเปย์เถิงต๋าเหรอ ฝันไปเถอะ!
พวกผู้เล่นสายวาฬต้องทำตัวให้มันดีๆ ถ้าไม่เปลี่ยนกลับไปเป็นผู้เล่นสายฟรีก็จงเลิกเล่นเกมไปซะ
ใช่ ต้องอย่างนั้นสิ!
เผยเชียนหยิบโทรศัพท์มาพิมพ์อย่างมึนๆ “ปล่อยพวกเขาไป”
เขาโยนโทรศัพท์ไว้ข้างหมอนแล้วกลับไปงีบต่อ
…
ที่ห้องประชุมของฉางหยางเกมส์ ทุกคนกำลังรอคำตอบจากบอสเผย
เยว่จือโจวนั่งจ้องหน้าจอโทรศัพท์อยู่ตรงหัวโต๊ะ รอคอยคำตอบจากบอสเผยอย่างกังวลใจ
บอสเผยไม่ได้ตอบกลับทันที น่าจะงานยุ่งอยู่
ฉางหยางเกมส์เป็นแค่หนึ่งในธุรกิจของบอสเผย บอสน่าจะไม่ได้ใส่ใจกับบริษัทนี้มากนัก อาจจะอยู่ลำดับล่างๆ สุดเลยด้วยซ้ำ
ส่วนคนอื่นๆ ก็มีความเห็นแตกต่างกันไป
บางคนพอได้ยินแผนปรับปรุงเกมของเยว่จือโจวก็คิดว่าน่าสนใจดี ควรจะลองสักตั้ง
อีกส่วนหนึ่งยังคงไม่พอใจเยว่จือโจว แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรออกไป
เพราะหวังเสี่ยวปินที่มีประสบการณ์มากในทีมออกแบบได้ตกลงทำตามแผนของเยว่จือโจวไปแล้ว ถึงคนอื่นจะอยากขัดก็ทำอะไรไม่ได้มาก แถมเยว่จือโจวยังสามารถติดต่อบอสเผยได้โดยตรง ถือเป็นอุปสรรคอันใหญ่หลวง
บางคนถึงขั้นสงสัยว่าที่เยว่จือโจวส่งข้อความไปถามบอสเผยตอนประชุม ก็น่าจะเพราะอยากประกาศอำนาจของตัวเอง!
เขากำลังบอกทุกคนเป็นนัยว่าเขาสามารถติดต่อหาบอสเผยได้โดยตรงและให้ทุกคนทำตัวดีๆ
ดังนั้นบรรยากาศในห้องประชุมจึงค่อนข้างตึงเครียด เยว่จือโจวที่เป็นบอสหน้าใหม่จัดการทุกอย่างได้อยู่หมัด
ติ๊ง
เสียงแจ้งเตือนข้อความดังขึ้น เยว่จือโจวรีบเปิดอ่านข้อความจากบอสเผย
ข้อความตอบกลับมาสั้นๆ แค่ ‘ปล่อยพวกเขาไป’
แค่นี้เองเหรอ
เยว่จือโจวผงะไปเล็กน้อย
หวังเสี่ยวปินที่นั่งอยู่ข้างเยว่จือโจวเอนตัวไปถามด้วยความสงสัย “บอสเผยตอบมารึยัง”
เยว่จือโจวหันหน้าจอโทรศัพท์ไปให้หวังเสี่ยวปินดู “บอสตอบมาแค่นี้ครับ
“พี่หวัง ลองอ่านดู…”
เยว่จือโจวรู้สึกสับสนเล็กน้อย
ตามหลักการแล้ว เขาควรเชื่อฟังตามที่บอสเผยบอก
แต่ถ้าเมินพวกผู้เล่นสายวาฬก็เท่ากับเป็นการฆ่าตัวตายไม่ใช่เหรอ
เกมสงครามแบบเกมเพลงรบโลหิต ยอดเติมเงินของผู้เล่นสายวาฬอยู่ที่ประมาณแปดสิบเปอร์เซ็นต์ของยอดเติมเงินจากผู้เล่นทั้งหมด ถ้าเมินคนพวกนี้ไปก็เท่ากับโยนรายได้แปดสิบเปอร์เซ็นต์ทิ้ง
นี่ไม่ใช่การตัดเนื้อร้ายเพื่อให้มีชีวิตต่อได้ นี่มันคือการฆ่าตัวตายชัดๆ!
เพราะเรื่องนี้พวกเขาถึงคุยกันมาเนิ่นนานแต่ก็ไม่ได้ทางออกที่ดีที่สุดสักที
การตัดช่องทางการเก็บเงินออกไปจะทำให้พวกผู้เล่นสายวาฬหมดความสนใจ ถ้าผู้เล่นสายวาฬไม่สนุกกับเกม รายได้ของเกมก็จะตกฮวบฮาบ
พูดอีกอย่างคือ ไม่ว่าจะมองมุมไหน วิธีของบอสเผยมีแต่จะทำให้เกมสูญเสียรายได้ เกมทั้งสองเกมที่กำลังดิ่งลงเหวยิ่งเจ๊งหนักเข้าไปใหญ่
ในเมื่อคิดหาหนทางไม่ออก เยว่จือโจวจึงตัดสินใจส่งข้อความไปปรึกษาบอสเผย
สุดท้ายบอสเผยก็ตอบกลับมาแค่สั้นๆ
ทางออกก็คือ… ไม่ต้องไปสนใจ
ปล่อยพวกสายวาฬไปตามยถากรรม
ช่าง…
ใจกล้าจริงๆ!
หวังเสี่ยวปินขมวดคิ้วเป็นปม ดวงตาค่อยๆ เบิกกว้างขึ้นเรื่อยๆ
“บอสเผยเป็นคนใจกล้ามาก น่ายกย่องสุดๆ!
“คำพูดนี้แฝงแง่คิดเอาไว้!”
หวังเสี่ยวปินรู้สึกท่วมท้น
ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่เยว่จือโจวก็รู้สึกว่าน่าจะเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ทีเดียว
คนมีประสบการณ์นี่มีมุมมองต่างออกไปจริงๆ
เรื่องลึกซึ้งแบบนี้มีแค่คนมากประสบการณ์อย่างหวังเสี่ยวปินเท่านั้นที่จะเข้าใจได้!
หวังเสี่ยวปินกระแอมกระไอก่อนจะหันไปพูดกับทุกคน “เราไม่ต้องคุยเรื่องนี้กันแล้ว บอสเผยให้ทางแก้มาว่า ‘ให้ปล่อยพวกเขาไป’!
“หมายความว่าเราไม่ต้องกังวลว่าการปรับปรุงครั้งนี้จะส่งผลต่อผู้เล่นสายวาฬยังไง
“พอปล่อยเวอร์ชันใหม่ออกไป ค่าสถานะของผู้เล่นสายวาฬจะยังเหมือนเดิม แต่จะไม่มีช่องทางการเก็บเงินอีกต่อไป เท่ากับว่าพวกเขาไม่สามารถเพิ่มพลังตัวเองได้ด้วยการใช้เงิน
“ส่วนผู้เล่นใหม่ที่เพิ่งเข้ามาเล่นจะได้เริ่มต้นที่จุดเดียวกัน และเล่นไปตามกฎเกณฑ์ของเวอร์ชันใหม่”
ทุกคนหันมองกันอย่างงุนงง
แค่นี้เหรอ
ไม่เห็นจะแก้ปัญหาตรงไหน
ถ้าผู้เล่นสายวาฬเลิกเล่นไป ก็จะไม่มียอดเติมเงิน จากนั้นจะเป็นยังไงต่อ
หวังเสี่ยวปินยิ้ม “บอสเผยช่วยเราแก้ปัญหานี้แล้ว
“การตัดช่องทางเก็บเงินออกจะทำให้ผู้เล่นสายวาฬหมดความสนใจ นั่นก็เป็นเรื่องหนึ่ง เราพยายามหาทางออกกันดูแล้ว แต่ก็ไม่มีทางไหนที่จะแก้ปัญหานี้ได้เลย!
“มันก็เหมือนเป็นการเปลี่ยนทุกอย่างใหม่หมด ถ้าเราตั้งใจจะแก้ตรงนี้ แล้วทำไมยังต้องสนใจด้วยว่าผู้เล่นสายวาฬจะคิดยังไง มันไม่จำเป็นเลย
“จุดประสงค์ของบอสเผยชัดเจนมาก นั่นก็คือปล่อยให้เป็นเรื่องของพวกเขา!
“เราหาทางแก้กันมานาน แต่คำพูดของบอสเผยก็ช่วยคลายปมปัญหาได้อย่างรวดเร็ว นี่แหละคือความต่างชั้นของเรากับบอส!”
ทุกคนถึงบางอ้อ
เหมือนปมเชือกยุ่งเหยิงถูกเฉือนออกเป็นชิ้นๆ ปัญหาที่แก้ไม่ตกกลับแก้ได้ง่ายๆ ด้วยคำพูดของบอสเผย!
แต่พูดน่ะมันง่าย ให้ทำสิยาก
ใครจะกล้าตัดรายได้แปดสิบเปอร์เซ็นต์ของตัวเองทิ้งกัน
คนอื่นไม่กล้า แต่บอสเผยกล้า!
พอคิดได้อย่างนี้ ทุกคนก็รู้สึกเคารพบอสเผยยิ่งขึ้นไปอีก
บอสสามารถตัดใจได้โดยไม่ลังเลเมื่อจำเป็น
คนที่เก่งจริงๆ ต้องทำได้แบบนี้แหละ!
เยว่จือโจวรู้สึกฮึกเหิม เขาตบลงบนโต๊ะ “โอเคครับ แก้ปัญหาสุดท้ายได้แล้ว… เริ่มทำงานกันได้!
“เราจะใช้แนวคิดของบอสเผยชุบชีวิตเกมทั้งสองเกมของเรา!”
………………………….