ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี - บทที่ 256 ทฤษฎีสัมพัทธภาพของบอสเผย
วันอาทิตย์ที่ 5 กันยายน
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขามหาวิทยาลัยฮั่นตง
เฉียวเหลียงมองบอสเผยพร้อมกับยิ้มแห้ง เขารู้สึกลังเลใจอยู่เล็กน้อยว่าควรจะบอกออกไปดีไหม
เผยเชียนยิ้ม “บอกมาตรงๆ เลยครับ ผมเป็นนักออกแบบเกมที่ชอบฟังความเห็นคนอื่น”
ริมฝีปากของเฉียวเหลียงกระตุกขณะคิดในใจ อืม ไม่เถียงเรื่องนี้หรอก
หลังจากที่ครั้งก่อนเขาได้บอกความคิดเห็นไปตรงๆ เกมก็มีการอัปเดตอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์มาจากสิ่งที่เขาบอกไป
แต่ปัญหาเดียวก็คือ การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดมันตรงกันข้ามกับที่เขาได้แนะนำไป!
เฉียวเหลียงอยากให้เผยเชียนเสริมพลังพวกอาวุธที่ไม่ค่อยเด่น แต่เผยเชียนกลับไปลดความสามารถของอาวุธเด่นๆ แทน
เฉียวเหลียงอยากให้เผยเชียนลดความยากของเกมในช่วงต้น แต่เผยเชียนกลับไปเพิ่มความยากของช่วงกลางถึงช่วงท้ายเกมแทน
บอสเผยพูดถูก บอสเป็นนักออกแบบเกมที่ชอบฟังความเห็นของคนอื่นจริงๆ แต่พอได้ความเห็นไปแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปรับตามที่ได้รับคำแนะนำ…
สามวันที่ผ่านมา เฉียวเหลียงต้องพบกับความทุกข์ระทม
เกมกลับใจคือฟากฝั่งที่ปรับความสมดุลตัวเกมมาใหม่ทำให้เขากลับมาเล่นเกมอย่างยากลำบากอีกครั้ง พออาวุธที่ใช้จนชินมือไม่ได้ทรงพลังเหมือนอย่างเคย เขาก็ต้องไปลองใช้อาวุธชิ้นอื่น
นอกจากนั้นแล้วพอปรับความยากของเกมช่วงหลังขึ้น เฉียวเหลียงก็ติดอยู่จุดหนึ่งในเกมอยู่พักใหญ่ แม้แต่ฉากที่เขาเคยฆ่ามอนสเตอร์ได้ง่ายๆ ก็กลายเป็นยากขึ้นมาก ถ้าไม่ตั้งสติให้ดีอาจจะเสียท่าเอาได้
สรุปแล้วประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีขึ้นมากกลับกลายเป็นแย่ลงไปกว่าเดิมหลายเท่า!
แต่หลังจากไตร่ตรองดูให้ดีอีกที เฉียวเหลียงก็รู้สึกว่าจะโทษว่าเป็นความผิดของบอสเผยคนเดียวก็ไม่ถูกนัก เพราะครั้งก่อนเขาบอกไปไม่ละเอียดเอง
เฉียวเหลียงบอกแค่ว่าปังตอกับดาบจันทร์เสี้ยวใช้ดีมาก ไม่ได้บอกไปให้ชัดเจนว่าอยากให้ปรับพลังอาวุธอื่นๆ เพิ่มขึ้น
บอสเผยน่าจะเข้าใจผิด
ดังนั้นเฉียวเหลียงจึงตัดสินใจว่ารอบนี้จะบอกบอสเผยไปตรงๆ!
“บอสเผยครับ ในฐานะคนทดสอบเกม ผมควรจะให้คำแนะนำเพื่อปรับปรุงเกมให้ดีขึ้นใช่มั้ยครับ” เฉียวเหลียงถามลองเชิง
เผยเชียนยิ้มพร้อมพยักหน้า “ใช่ครับ”
“โอเคเลยครับ!”
เฉียวเหลียงพยายามคิดหาคำพูดที่เหมาะสม “ผมรู้สึกว่าตัวเกมปรับสมดุลมาได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่…”
“หืม ทำไมถึงว่าอย่างนั้นล่ะครับ” เผยเชียนถาม “หลังจากปรับไปรอบก่อน สมดุลเกมก็ยังไม่ดีขึ้นเหรอครับ”
เอ๊ะ
เฉียวเหลียงไม่รู้จะตอบอะไรไปชั่วครู่
ถ้ามองเรื่องอาวุธ สมดุลตรงนี้ก็ดีขึ้นจริงๆ ก่อนหน้านี้ปังตอกับดาบจันทร์เสี้ยวแข็งแกร่งเกินไปจนอาวุธอื่นๆ เทียบไม่ได้
ตอนนี้ปังตอกับดาบจันทร์เสี้ยวกากเท่าอาวุธอื่นๆ แล้ว ถือว่าปรับสมดุลให้เท่ากันแล้ว
“เอ่อ สมดุลเกมดีขึ้นครับ แต่…อาวุธที่เคยใช้ดีมันแย่ลง ซึ่งมัน…” เฉียวเหลียงรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ
เผยเชียนยิ้ม “เนิร์ฟอาวุธเด่นๆ ลงถ้าเทียบกันแล้วก็เท่ากับเป็นการเสริมพลังให้อาวุธอื่น คุณน่าจะรู้จักทฤษฎีสัมพัทธภาพใช่มั้ยครับ นั่นแหละที่ผมเอามาใช้”
เฉียวเหลียง “?”
อะไรคือทฤษฎีสัมพัทธภาพวะ!
เผยเชียนพูดต่อ “ตอนนี้เกมกลับใจคือฟากฝั่งมีอาวุธหลายสิบชิ้น อาวุธหลายชิ้นทำออกมาได้สมดุลดีแล้ว
“ถ้าไปปรับให้ดีขึ้นอีก ผมก็ต้องจัดการกับอาวุธหลายสิบชิ้นที่เหลือด้วย พอปรับไปแล้ว อาวุธบางชิ้นอาจจะเก่งเกินไปกลายเป็นวงจรอุบาทว์
“อาวุธที่เด่นๆ มีแค่สองสามชิ้น ถ้าผมเนิร์ฟอาวุธพวกนี้ลง เมื่อเอามาเทียบกันแล้วก็เท่ากับว่าอาวุธหลายสิบชิ้นที่เหลือถูกปรับให้ดีขึ้น
“อีกอย่างการทำแบบนี้จะทำให้มั่นใจได้ว่าสมดุลของอาวุธส่วนใหญ่จะไม่ได้รับผลกระทบ เป็นทางออกที่เหมาะสมที่สุด”
เฉียวเหลียง “??”
ก็ฟังดูมีเหตุผล…กับผีสิ!
เฉียวเหลียงรีบตอบกลับ “บอสเผยปรับสมดุลเกมแบบนี้ไม่ได้นะครับ! บอสเนิร์ฟอะไรที่มันใช้ดีอยู่แล้วไม่ได้ ก็เหมือนที่คนพูดกันว่า ถ้าทุกอย่างโดนเนิร์ฟลงหมดและไม่บัฟอะไรเพิ่ม เกมดีๆ ก็โดนผู้เล่นเทได้ เราจะเนิร์ฟอะไรลงโดยไม่คิดไม่ได้นะครับ!”
“ใครบอกว่าผมเนิร์ฟอย่างเดียว ผมปรับให้ตัวเกมยากขึ้นด้วย มอนสเตอร์ลิ่วล้อก็ตีแรงขึ้นนี่ครับ” เผยเชียนแก้จุดที่อาจารย์เฉียวพูดผิดทันที
เฉียวเหลียง “…แต่ที่เพิ่มคือความยากของเกมหมดเลยนี่ครับ!”
เผยเชียนยิ้มอ่อน “ใช่ครับ ที่ปรับเพิ่มคือความยากของเกมทั้งหมดเลย
“ไม่ดีเหรอครับ”
เฉียวเหลียงอึ้งไป
ก็แหงน่ะสิ!
ฉันเล่นเกมนี้อยู่ทุกวันยังผ่านไปไหนไม่ได้ แค่มอนสเตอร์ลูกกระจ๊อกก็ทำเอาปวดกบาลแล้ว พอหาทางเล่นเกมได้ง่ายขึ้น ทุกอย่างก็โดนเนิร์ฟลงหมดในสองวัน ทีนี้ฉันก็ต้องไปหาทางอื่นอีก
จะให้เป็นเรื่องดีได้ยังไง
เผยเชียนไม่รอให้อีกฝ่ายคัดค้านอะไรต่อ เขาตัดบททันที “อาจารย์เฉียวลองคิดดูนะครับ ว่าการที่เกมยากมากแบบนี้เป็นเรื่องไม่ดีสำหรับผู้เล่นมืออาชีพแบบคุณรึเปล่า
“ความยากของเกมก็เหมือนเพดาน ถ้าคุณกับผู้เล่นอื่นๆ สามารถทะลุเพดานนี้ไปได้ ก็บอกไม่ได้ว่าใครเก่งกว่าใคร
“แต่ถ้าเพดานมันสูงขึ้น ก็จะบอกได้ง่ายขึ้น
“การเพิ่มความยากของเกมจะทำให้เกมเมอร์มืออาชีพอย่างคุณมีพื้นที่ได้โชว์ฝีมือและความสามารถที่ผู้เล่นทั่วไปทำไม่ได้
“มันคือเรื่องไม่ดีจริงๆ เหรอครับ”
เฉียวเหลียงอึ้งไปเมื่อได้ฟังคำชมจากบอสเผย
นี่บอสเผยคิดว่าฉันเป็นเกมเมอร์มืออาชีพเหรอ
ช่างน่าขายหน้าจริงๆ!
เฉียวเหลียงหุบยิ้มไม่ลง “โอ๊ย ไม่หรอกครับ ผมก็แค่ขยันกว่าผู้เล่นคนอื่นๆ แล้วก็จริงจังกว่านิดหน่อย…”
เผยเชียนยิ้ม “อาจารย์เฉียวถ่อมตัวเกินไปแล้วครับ คนฝีมือดีอย่างคุณคู่ควรกับความท้าทายระดับนี้แหละ
“จะให้ผมลดความยากลงเหรอ นั่นเท่ากับเป็นการดูถูกคนอย่างคุณเลยนะครับ! การเพิ่มความยากทำให้เกมยังมีความท้าทายอยู่ เป็นการแสดงความจริงใจต่อเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์!”
เฉียวเหลียงมองหน้าจอสลับกับสีหน้าอันแสนจริงจังของบอสเผย เขารู้สึกดีขึ้นมาทันที
เข้าใจแล้ว
เหตุผลที่บอสเผยเจาะจงขอให้ฉันมาลองเล่นเกมยากๆ แบบนี้
ก็เพราะบอสเชื่อใจในสัญชาตญาณด้านการเล่นเกมและความอดทนของฉัน!
พอคิดตามนี้ เฉียวเหลียงก็ไม่รู้สึกคัดค้านการเนิร์ฟปังตอและดาบจันทร์เสี้ยวอีกต่อไป
ในฐานะเกมเมอร์มืออาชีพ เขาต้องเชี่ยวชาญอาวุธทั้งหมดให้ได้ ถ้าเอาแต่ใช้อาวุธสองอย่างที่ตัวเองถนัดก็เท่ากับเป็นการทำให้บอสเผยผิดหวัง!
หลังจากจัดการกับอารมณ์ตัวเองได้แล้ว เฉียวเหลียงก็รู้สึกว่าเกมไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น
แต่เฉียวเหลียงยังมีความคิดอีกหนึ่งอย่าง เขาอดทนเล่นมาจนถึงตอนนี้ก็เพราะมีบอสเผยคอยให้กำลังใจ!
แต่ผู้เล่นอื่นจะไม่ได้รับการดูแลเป็นพิเศษแบบนี้
นี่คือข้อผิดพลาดในการออกแบบที่ร้ายแรงมาก!
เฉียวเหลียงรีบชี้ให้เห็นประเด็นปัญหา “บอสเผยครับ ผมมีข้อแนะนำใหม่
“ถึงเกมนี้จะเป็นเกมที่ดี แต่ผมคิดว่าช่วงแรกของเกมนั้นยากเกินไปสำหรับผู้เล่น! ผมอดทนเล่นมาจนถึงตอนนี้ก็เพราะมีบอสเผยคอยให้กำลังใจ จนค่อยๆ รู้สึกสนุกกับการเล่นเกมนี้
“เพราะฉะนั้นผมคิดว่าต้องหาทางแก้ในจุดนี้”
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ง่ายมาก เดี๋ยวผมให้ทีมงานปรับแก้เลยทันที”
เฉียวเหลียงรู้สึกประทับใจมาก
สมแล้วที่เป็นบอสเผย แค่ไม่กี่วินาทีก็คิดทางแก้ได้แล้ว
“ผมจะเพิ่มส่วนหนึ่งเข้าไปในเกม” เผยเชียนตอบ “ตอนเริ่มเกม ผู้เล่นจะได้เขียนข้อความให้กำลังใจตัวเองระหว่างเล่น ทุกครั้งที่ผู้เล่นตาย ข้อความนี้จะเด้งขึ้นมาบนหน้าจอเพื่อบอกให้ผู้เล่นสู้ต่อไป”
หืม
ข้อความให้กำลังใจเหรอ
เฉียวเหลียงรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ แต่ก็บอกไม่ได้ว่าคืออะไร
เผยเชียนมองนาฬิกาข้อมือ “โอเค นี่ก็เย็นแล้ว ขอบคุณที่ทำงานหนักมาตลอดนะครับ ไปกินข้าวกันเถอะ!”
“โอเคเลยครับ!”
เฉียวเหลียงอยากจะหาคำตอบเรื่อง ‘ข้อความให้กำลังใจ’ ต่อ แต่พอได้ยินบอสเผยชวนไปกินข้าว เขาก็ลืมเรื่องนั้นไปทันที
บอสเผยเลี้ยงข้าวอีกแล้ว!
บอสเผยดีกับฉันจริงๆ เฮ้อ แบบนี้ยังไงก็ตอบแทนบุญคุณได้ไม่หมด! เฉียวเหลียงคิดในใจ
…
…
ทั้งสองลงจากรถตรงหน้าทางเข้าครัวส่วนตัวหมิงหยุน
พอเห็นอาจารย์เฉียวมองอาหารตาเป็นประกาย เผยเชียนก็อดขำในใจไม่ได้
อาจารย์เฉียวโดนปั่นหัวไม่หยุดเลย ฉันนี่มันวายร้ายจริงๆ
แต่พอมองไปรอบๆ ครัวส่วนตัวหมิงหยุน เผยเชียนก็หมดอารมณ์ทันที
นี่เป็นครั้งแรกที่เผยเชียนมาที่ครัวส่วนตัวหมิงหยุนหลังจากที่จู่ๆ ร้านก็ดังขึ้นมา
เรื่องมันยาวมาก
เผยเชียนซื้อวิลล่ากึ่งพาณิชย์ที่ตั้งแยกจากวิลล่าสำหรับพักอาศัยหลังอื่นๆ วิลล่าหลังนี้มีทางเข้าและพื้นที่สำหรับจอดรถส่วนตัว
เดิมทีนี่คือเหตุผลที่ทำให้วิลล่าหลังนี้ขายไม่ออก
แต่ตอนนี้โซนวิลล่ากึ่งพาณิชย์ในละแวกเดียวกันกับหมิงหยุนวิลล่ากลับเต็มไปด้วยรถหรู เป็นรถที่ไม่ค่อยพบเห็นได้บ่อยนักในเมืองจิงโจว
นอกจากนั้นยังมีแท็กซี่เทียวเข้าเทียวออกด้วย
ตอนนี้ลูกค้าครัวส่วนตัวหมิงหยุนไม่ได้มีแค่เจ้าของบริษัทใหญ่ๆ แล้ว พนักงานบริษัททั่วไปก็แวะมากินด้วย ลูกค้ากลุ่มนี้จะถ่อมาถึงร้านในวันอาทิตย์เพื่อลิ้มรสอาหารและสัมผัสการบริการดีๆ
ถึงจะมีลูกค้าไม่มากนัก แต่ก็ถือว่าแตกต่างจากแต่ก่อนมาก
ครั้งก่อนที่อาจารย์เฉียวมา ครัวส่วนตัวหมิงหยุนไม่มีลูกค้าเลย ทั้งร้านดูร้างผู้คน ที่เดินไปมาก็มีแต่พนักงาน
ครั้งนี้นอกจากด้านนอกร้านจะมีรถหรูจอดอยู่หลายคันแล้ว ด้านในยังเต็มไปด้วยลูกค้าอีก
ตรงโถงหลักมีโต๊ะอยู่ประมาณสี่ถึงห้าตัวซึ่งตอนนี้เต็มหมดแล้ว
ลูกค้าต่างคุยกันเบาๆ ระหว่างดื่มด่ำกับอาหาร
ไม่มีใครหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูป บรรยากาศทั้งร้านเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
แน่นอนว่าเนื่องจากครัวส่วนตัวหมิงหยุนมีที่นั่งจำกัด ถึงโต๊ะจะเต็มทุกตัว แต่โถงหลักก็ยังดูกว้างขวาง ไม่เหมือนพวกร้านดังๆ ที่มีทั้งลูกค้าอัดแน่นอยู่ในร้านและคิวยาวเหยียดด้านนอก
เผยเชียนรู้สึกปวดใจกับภาพที่เห็น
ในสายตาของเผยเชียน ลูกค้าเหล่านี้คือตัวปัญหา พวกเขาไม่ได้มาให้เงิน แต่มาขโมยเงินไปจากเขาต่างหาก!
เฉียวเหลียงที่เดินตามหลังเผยเชียนมารู้สึกผิด
ครั้งก่อนที่มาเขาเห็นว่าร้านร้างผู้คนมาก เลยคิดไปว่าบอสเผยเปิดร้านนี้ไว้เพื่อใช้กินดื่มเป็นการส่วนตัว
ดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้วเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่แบบนั้น ในร้านมีลูกค้ามากมาย ดูจะดังขึ้นกว่าแต่ก่อน น่าจะทำเงินได้เยอะเลย
ถึงอาหารที่ร้านจะอร่อยมากอยู่แล้ว แต่บอสเผยไปทำยังไงให้ร้านนี้ดังขึ้นมาได้ภายในเวลาแค่สองสัปดาห์กันนะ
เฉียวเหลียงรู้สึกทึ่งอยู่ในใจ ดูเหมือนว่าบอสเผยจะไม่ได้เชี่ยวชาญแค่เรื่องทำเกม แต่ยังเป็นอัจฉริยะด้านการทำธุรกิจอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมไหน เขาก็ปั้นได้หมด!