ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี - บทที่ 732 - ก้าวเล็กๆ สู่แผนการ
วันเสาร ์ที่ 12 พฤศจิกายน
ปักกิ่ง งานโชว์เคสแบรนด์แบรนด์สาวหน้านิ่ง
ถึงจะเรียกว่าเป็ นงานโชว์เคสแบรนด์แต่ก็ไม่ได้จัดสเกลใหญ่มาก นัก แค่เชิญนักลงทุนกับเจ้าของบริษัทที่รู ้จักกันมา
บริษัทอินเทอร ์เน็ตอื่นๆ มักจัดงานโชว์เคสแบรนด์ให้ยิ่งใหญ่ที่สุด โดยหวังให้มีคนเข้าร่วมงานไม่ต่ากว่าหลักหมื่น
ที่เมิ่งชั่งจัดงานโชว์เคสแบรนด์เล็กๆ ไม่ใช่เพราะไม่ต้องการเป็ น จุดสนใจ แต่เพราะคิดว่าการจัดงานโชว์เคสแบรนด์สเกลใหญ่น่าจะ ทาให้เกิดผลลัพธ ์ตามที่ต้องการไม่ได้
ถึงเวลาที่เหมาะสมเมื่อไหร่ เขาจะเช่าสถานที่ขนาดใหญ่จัดงาน โชว์เคสแบรนด์ที่มีผู้ร่วมงานหลักหมื่น
สาหรับ ‘ผู้ประกอบการ’ ทางอินเทอร ์เน็ตอย่างพวกเขาแล้ว ยิ่ง กระแสดังเท่าไหร่ก็ยิ่งดี
ยิ่งสเกลใหญ่ก็ยิ่งมีคนรู ้จักเยอะขึ้น สร ้างผลกระทบทางตลาดได้ ซึ่งจะเรียกกระแสและความนิยมมาสู่บริษัทและสินค้า
แต่ตอนนี้ ยังไม่เหมาะเท่าไหร่ที่จะคุยโวถึงความสุดยอดของแบ รนด์สาวหน้านิ่ง
เพราะพวกนักลงทุนหลอกง่ายกว่าคนทั่วไป
ที่เป็ นแบบนั้นเพราะนักลงทุนกระตือรือร ้นเรื่องโอกาสทาง อินเทอร ์เน็ตและแนวคิดระดับสูงต่างๆ ส่วนคนทั่วไปจะให้ความสนใจ ที่ผลิตภัณฑ์มากกว่า
การโน้มน้าวนักลงทุนให้เชื่อในบะหมี่เย็นที่ผสานโอกาสทาง อินเทอร ์เน็ตเป็ นเรื่องง่าย แต่ก็ยากที่จะโน้มน้าวให้คนทั่วไปเชื่อ
ดังนั้นแผนของเมิ่งชั่งคือโน้มน้าวนักลงทุนเพื่อหาเงินก่อน พอ เปิ ดร ้านแห่งแรกของแบรนด์สาวหน้านิ่งได้แล้วค่อยโปรโมตต่อ สายตาสาธารณชนผ่านการท าการตลาด
เนื่องจากงานนี้สเกลเล็ก เมิ่งชั่งเลยตัดสินใจจัดในห้องประชุม ของโรงแรมหรูในปักกิ่ง ซึ่งรองรับคนได้ประมาณร ้อยกว่าที่นั่ง
ทุกอย่างตั้งแต่การตกแต่ง การบริการของพนักงาน ป้ ายต่างๆ และของช าร่วยบนโต๊ะต่างจัดเตรียมอย่างพิถีพิถันโดยไม่สนว่าจะใช ้ เงินไปเท่าไหร่
ส่วนเมิ่งชั่งยังแต่งกายใน ‘สไตล์เรียบโก้ดูเข้าถึงง่าย’ เหมือนตอน ที่พบกับเฮ่อเต๋อเซิ่ง เขาสวมสูทลาลอง เสื้อยืดสีเรียบ กางเกงยีน และ รองเท้าผ้าใบ ดูเป็ นผู้ใหญ่และน่าเชื่อถือ แต่ก็ดูกระตือรือร ้นด้วย เหมือนกัน
เมิ่งชั่งยิ้มขณะพูดคุยกับนักลงทุนและประธานบริษัทตรงหน้า ทางเข้างาน เขาพาแต่ละคนเข้าไปในงานแล้วเชิญให้นั่งประจาที่
ถึงคนส่วนใหญ่ที่มางานโชว์เคสแบรนด์วันนี้จะฐานะมั่งคั่งกว่า แต่เมิ่งชั่งก็ไม่ตื่นเวทีหรือรู ้สึกว่าตัวเองต้อยต่ากว่าเลย เขากลับ เหมือนเจ้าภาพที่คอยต้อนรับแขกเหรื่ออย่างดี
“บอสหลี่ บอสเซวีย เชิญครับ”
พอเห็นหลี่สือกับเซวียเจ๋อปิ นมาด้วยกัน เมิ่งชั่งก็รีบเข้าไป ต้อนรับด้วยรอยยิ้ม ท่าทีของเขาดูกระตือรือร ้นกว่าปกติ แต่ก็ไม่ได้ แสดงออกชัดเจนเกินไป
ทักษะในการประเมินคนจากรูปลักษณ์และการกระทาเป็ นเรื่อง ส าคัญมาก
คนที่มาวันนี้เมิ่งชั่งเป็ นคนเชิญหลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วน แล้ว เขาเตรียมตัวและเตรียมข้อโต้แย้งส าหรับความเป็ นไปได้ในการ ลงทุนของคนกลุ่มนี้ รวมถึงตัดสินแล้วว่าควรพยายามเพิ่มรึเปล่ามา เรียบร ้อย
เขารู ้ดีว่าถึงบริษัทฟู่ หุยของบอสหลี่จะเทียบชั้นกับบริษัทลงทุน ยักษ์ใหญ่ในแง่ของทรัพยากรไม่ได้ แต่ก็มีความเป็ นไปได้สูงที่สาว หน้านิ่งจะได้เงินลงทุนจากบริษัทนี้
ส่วนเซวียเจ๋อปินก็ไม่ได้มีทรัพยากรมาก แต่ขอเพิ่มจากพ่อได้
สิ่งสาคัญที่สุดคือทั้งสองตามติดบอสเผยไม่ห่าง มีโอกาสสูงที่ พวกเขาจะร่วมลงทุนกับบอสเผยด้วย เพราะงั้นก็คุ้มที่เมิ่งชั่งจะ พยายามกับสองคนนี้มากกว่าคนอื่น
หลังจากพาหลี่สือกับเซวียเจ๋อปินไปนั่ง เมิ่งชั่งก็เห็นเฮ่อเต๋อเซิ่ง กับชายหน้าใหญ่ยาวเดินมาพอดี
เมิ่งชั่งรีบก้าวออกไปต้อนรับ “บอสเหอ! ส่วนคุณ… น่าจะเป็ น บอสหม่าในตานานใช่มั้ยครับ เชิญเลยครับ เชิญเลย ผมเตรียมที่นั่ง ด้านหน้าไว้ให้คุณทั้งสองแล้วครับ!”
เอาเข้าจริง เมิ่งชั่งก็ไม่ได้คาดหวังว่าบอสเผยจะมา แค่ชวนไป งั้นๆ
ถ้าบอสเผยมาก็คงท าเงินได้เป็ นกอบเป็ นก า
ถึงบอสเผยจะไม่ได้มา แต่ก็ส่งบอสหม่าผู้ลึกลับซึ่งรับผิดชอบ บริษัทลงทุนมาแทน ซึ่งเมิ่งชั่งค่อนข้างแปลกใจทีเดียว
เพราะงั้นเขาเลยจัดที่นั่ง VIP แถวหน้าตรงกลางไว้ให้เป็ นพิเศษ
ที่ทาแบบนี้มีเหตุผลอยู่สองข้อ
ข้อแรก เขาอยากแสดงความจริงใจให้เถิงต๋ารับรู ้ เพราะยังไง เถิงต๋าก็เป็ นคนให้เงินสองล้านหยวนมาเริ่มทาโปรเจ็กต์ ข้อสอง เขา อยากส่งข้อความถึงทุกคนว่า ฉันไม่ได้หลอกลวงพวกนาย เถิงต๋าให้ ค่าโปรเจ็กต์ฉันจริงๆ!
ดังนั้นเมิ่งชั่งจึงต้อนรับเฮ่อเต๋อเซิ่งกับหม่าหยางเต็มที่กว่าใคร เขานาทั้งสองไปยังที่นั่งแถวแรกด้วยตัวเอง พอยืนยันว่าทั้งสองนั่งที่ แล้ว ก็ค่อยกลับไปต้อนรับคนอื่นๆ ด้านหน้างานต่อ
นี่เป็ นการพบกันครั้งแรก เมิ่งชั่งไม่รู ้ว่าบอสหม่าเป็ นคนยังไง มี ความคิดทัศนคติแบบไหน
แต่เขาก็รู ้ว่าถ้าใส่ใจบอสหม่ามากเกินไปจะพลาดได้ง่าย เพราะ งั้นเลยอ้างไปว่าต้องออกไปต้อนรับคนอื่นต่อเมื่อเห็นว่าบอสหม่าไม่ คิดจะสนิทชิดเชื้อด้วย
หม่าหยางคว้าน้าแร่ขวดละสิบหยวนตรงหน้ามาดื่มสองอึก จากนั้นก็ยกมือเช็ดปากอย่างไม่ค่อยมีมารยาทเท่าไหร่
“หน้าที่หลักของผมวันนี้คืออะไร” หม่าหยางหันไปถามเฮ่อเต๋อ เซิ่ง
เฮ่อเต๋อเซิ่งตอบ “แล้วแต่บอสหม่าเลยครับ บอสเผยบอกแค่ว่าให้ คุณมาเป็ นตัวแทน ไม่ได้สั่งอะไรอีก ถ้าอยากพูดอะไรก็เชิญได้ หรือ ถ้าอยากนั่งเงียบๆ ก็ได้เหมือนกันครับ ไม่เป็ นไรเลย”
“โอ้” หม่าหยางพยักหน้าแล้วก้มหน้าเล่นมือถือเงียบๆ ต่อ
…
ไม่นานก็ถึงเวลาเปิดงานโชว์เคสแบรนด์
รายชื่อผู้เข้าร่วมงานกาหนดไว้แล้วเพราะใช ้วิธีส่งจดหมายเชิญ ที่นั่งมีคนนั่งเกือบเต็ม มีส่วนน้อยที่มาไม่ได้เพราะติดธุระ
แสงไฟหรี่ลงเล็กน้อย ก่อนบนจอขนาดใหญ่จะแสดงตัวเลขนับ ถอยหลัง จากนั้นก็เป็ นคลิปเปิดงานโชว์เคสแบรนด์
ฉากหลังเป็ นสีขาวบริสุทธิ์ เมิ่งชั่งปรากฏบนจอ เขายังคงสวมเสื้อ สีเรียบ นั่ งมองกล้องด้วยแววตามั่นใจและพูดเปิ ดคลิปเป็ น ภาษาอังกฤษ
“ทุกคนรู ้ว่าวัฒนธรรมอาหารและเครื่องดื่มของประเทศเรามี ประวัติศาสตร ์ยาวนาน
“การเปิ ดตัวแบรนด์สาวหน้านิ่งจะเป็ นการเริ่มต้นสไตล์การ บริโภคใหม่และเป็ นโอกาสในการเปลี่ยนแปลงโลก”
หลังกล่าวเปิดสั้นๆ โลโก้อันโดดเด่นของสาวหน้านิ่งก็ปรากฏบน พื้นหลังสีขาว
คลิปนี้ถ่ายและตัดต่อในช่วงสองวันที่ผ่านมา เนื่องจากเวลา กระชั้นชิดฉากจึงไม่ได้หวือหวามากนัก
แต่พื้นหลังสีขาว ดนตรีบรรเลงประกอบ ท่าทีผ่อนคลายของเมิ่ง ชั่ง ภาษากายที่สื่อถึงความมั่นใจ และภาษาอังกฤษคล่องปร๋อก็สร ้าง ความรู ้สึกเหนือชั้นกว่าอย่างอธิบายไม่ได้
นักลงทุนบางส่วนที่นั่งอยู่แถวหลังมาร่วมงานเล่นๆ แต่พวกเขาก็ ดูจริงจังกันขึ้นมาทันที
เพราะยังไงการน าเสนอก็เป็ นความสามารถในการแข่งขันหลัก ของผู้ประกอบการอินเทอร ์เน็ต
คนที่พูดได้ดีและเต็มไปด้วยความมั่นใจย่อมทาให้ผู้อื่นรู ้สึก เชื่อมั่นได้
หม่าหยางขมวดคิ้ว ใบหน้ายาวใหญ่ของเขาดูยาวขึ้นกว่าเดิม
“ไม่เห็นมีชาวต่างชาติเลยนี่ แล้วจะพูดภาษาอังกฤษทาไม” หม่าหยางสับสน
เฮ่อเต๋อเซิ่งกระซิบตอบ “ความคิดและวิสัยทัศน์ระดับสากลเป็ น สิ่งที่คนเชิดชูกันตอนนี้ครับ การพูดภาษาอังกฤษได้คล่องถือเป็ นข้อ ได้เปรียบในสายตาใครหลายคน”
หม่าหยางเบ้ปาก เขามีความประทับใจแรกกับเมิ่งชั่งที่ไม่ค่อยดี นัก
คลิปยังเล่นต่อไปบนจอขนาดใหญ่
เริ่มแรก เขาพูดเรื่องที่ว่าบะหมี่เย็นของแบรนด์สาวหน้านิ่ง ‘แตกต่างอย่างมีนัยสาคัญ’ กับบะหมี่เย็นทั่วไปอย่างไร โดยเล่า เกี่ยวกับวัตถุดิบ มาตรฐานกระบวนการผลิต ขนาด กรรมวิธี และ รสชาติที่เหนือขึ้นไปอีกขั้น
จากนั้นก็โยงอินเทอร ์เน็ตเข้ากับแบรนด์สาวหน้านิ่ง เช่น ใส่ใจ ประสบการณ์ของผู้ใช ้งาน วิธีการทางการตลาดที่ล้าขึ้นซึ่งช่วยร่น ระยะระหว่างผู้ใช ้ลง เอกลักษณ์ของแบรนด์สาวหน้านิ่ง และอื่นๆ
สุดท้ายก็เล่าเกี่ยวกับการขยายธุรกิจต่อไปของแบรนด์สาวหน้า นิ่ง โดยจะไม่จากัดแค่ด้านอาหารและเครื่องดื่ม แต่จะขยายไปสู่วิถี ชีวิตและแนวคิด จนเกิดเป็ นโมเดลธุรกิจแบรนด์ใหม่
คลิปมีความยาวไม่ถึงห้านาที เนื้อหาจึงครอบคลุมแค่คร่าวๆ แต่ ก็บอกได้ว่าเป็ นการสรุปเนื้อหาโดยสังเขปของงานโชว์เคสแบรนด์
เหตุผลที่เอาไว้ตอนแรกสุดก็เพื่อโชว์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง เพื่อที่นักลงทุนและบอสบริษัททุกคนที่มางานจะได้เข้าใจชัดเจนถึง เนื้อหาของงานโชว์เคสแบรนด์
หลังดูคลิปเปิดตัว แต่ละคนก็แสดงออกแตกต่างกันไป
บางคนมองอย่างจริงจังและสนใจ บางคนดูสับสน บางคนขมวด คิ้ว
แต่ไม่มีใครเหม่อเลยสักคน
ไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ อย่างน้อยทุกคนก็ให้ความสนใจกัน หมด
เซวียเจ๋อปิ นเองก็ขมวดคิ้ว เขาหันไปกระซิบกับหลี่สือ “สร ้าง ‘วัฒนธรรมบะหมี่เย็น’? ‘โมเดลธุรกิจบะหมี่เย็น’? เชื่อได้จริงๆ เหรอ ครับ”
หลี่สือไม่ออกความเห็น “รอฟังเขาอธิบายก่อน”
เมิ่งชั่งเดินขึ้นเวทีพร ้อมรอยยิ้มและท่วงท่าที่แสดงออกถึงความ มั่นใจ
เขามองไปรอบๆ ห้องและสังเกตเห็นการแสดงออกของเหล่านัก ลงทุน
คลิปเปิดตัวให้ผลลัพธ ์ตามที่เขาคาดการณ์ไว้เป๊ ะ
งานแรกของการท าการตลาดคือท าให้ทุกคนรับรู ้ถึงตัวตน ถึงจะ ได้ชื่อเสียงในทางลบ แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้รับความสนใจเลย
ถึงเนื้อหาในคลิปจะเว่อร ์เกินจริงไปมาก แต่ก็ยังไม่หลุดเกณฑ์ และไม่ดูบ้าเกินไป
พอมารวมกับงานโปรดักชันสุดเยี่ยมยอดและการแสดงออกสุด มั่นใจของเมิ่งชั่ง ผู้ชมก็แบ่งออกเป็ นสองฝั่งตามที่วางแผนไว้
บางคนมองว่าคลิปทาออกมาได้ดีมาก เมิ่งชั่งเองก็ดูมี ความสามารถไม่ธรรมดา บางคนมองว่าเว่อร ์เกินไป ความส าเร็จ ระดับนั้นอยู่ห่างไกลมาก เหมือนสร ้างวิมานบนท้องฟ้ า
แต่ก็ไม่สาคัญ เพราะเมิ่งชั่งไม่คิดจะครองใจทุกคนด้วยคลิป เปิดตัวเพียงคลิปเดียวและงานโชว์เคสแบรนด์
แผนของเขาเชื่อมโยงกัน นี่เป็ นแค่ก้าวเล็กๆ ก้าวแรก
เมิ่งชั่งไล่สายตามองทุกคนแล้วยิ้ม “หลายคนอาจจะงงหลังจาก ได้ดูคลิปเปิดตัวไป
“บางคนอาจจะอยากร ้องถามว่า แค่ท าบะหมี่เย็นเนี่ยนะ?
“กับอีแค่บะหมี่เย็น ทาไมต้องคุยโวยกใหญ่ถึงเรื่องการค้าขาย บนอินเทอร ์เน็ตกับโมเดลธุรกิจด้วย บ้ารึเปล่า
“แน่นอนผมรู ้ดีว่าแนวคิดนี้ยอมรับได้ยากในแวบแรก เพราะเป็ น แนวคิดที่มาล้มล้างแนวคิดตามปกติของเรา
“แต่ผมมีค าถามอยากถามทุกคน ถ้าได้ฟังผู้ประกอบการเล่า แนวคิดหรือโมเดลที่ทุกคนคิดว่าน่าเชื่อถือ เป็ นไปได้ และประสบ ความส าเร็จแน่นอน คุณจะกล้าลงทุนรึเปล่า
“ถ้าผมเป็ นนักลงทุน ผมคงไม่กล้าลงทุนในโปรเจ็กต์แบบนั้น
“เพราะโมเดลธุรกิจที่ทุกคนมองว่าน่าเชื่อถือต้องเป็ นโมเดลที่ หลายคนลองท ามาแล้ว การแข่งขันจึงดุเดือดมาก ไม่มีเหตุผลในการ ก้าวเข้าตลาดในฐานะผู้ประกอบการตอนนี้
“ดังนั้นแน่นอนว่าโมเดลธุรกิจใหม่ย่อมเกิดขึ้นมาพร ้อมความ คลางแคลงใจมากมาย
“รบกวนทุกท่านอดทนฟังจนผมบรรยายจบ ระหว่างการบรรยาย ผมจะอธิบายแบรนด์สาวหน้านิ่งในทุกย่างก้าวให้ฟังคร่าวๆ
“อันที่จริง คุณไม่ต้องรีบเข้ามายื่นเงินทุนให้ผมหลังบรรยายจบ และรอดูสถานการณ์ไปก่อนก็ได้
“หลังจากทุกขั้นตอนของผมค่อยๆ เป็ นจริงและพิสูจน์ให้เห็นแล้ว ว่าโมเดลธุรกิจนี้เป็ นไปได้ ทุกคนค่อยตัดสินใจก็ได้ครับว่าจะลงทุนดี รึเปล่า”