คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย - บทที่ 419 อัจฉริยะ
“เจ้าถามมามากมายขนาดนี้ ที่แท้จะยอมช่วยข้าเปิดวงเวทสะกดวิญญาณเก้าชั้นหรือไม่?” พี่กระจกพลันจำเป้าหมายเดิมได้ จึงเอ่ยถามเพื่อเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
จินเฟยเหยาทำใจให้ร่าเริง เอ่ยอย่างช้าๆ “ท่านยังไม่ได้บอกว่าจะเปิดวงเวทอย่างไร อีกทั้งท่านจะเปิดวงเวทนี้ไปทำไม กักขังพวกเขาไว้ตลอดก็ดีแล้ว”
“โง่เขลา! จะได้อย่างไร เผ่าปิศาจในโลกระดับสวรรค์ไม่เดิมพันกับข้าเพราะเรื่องนี้ ข้าได้แต่เล่นกับคนของเผ่ามารและเผ่ามนุษย์ ถ้าเล่นกับพวกเขาไม่ได้ สิ่งของที่เขาแพ้พนันไปก ก็ไม่มีโอกาสพลิกจากแพ้เป็นชนะได้คืนมา เหตุผลง่ายดายขนาดนี้เจ้ายังไม่เข้าใจ!”
“เช่นนั้นท่านไปทำเองก็ได้นี่ ท่านสร้างการป้องกันเองท่านก็เปิดเอง จะไม่เร็วกว่าหรือ” จินเฟยเหยาเอ่ยอย่างไม่พอใจ
พี่กระจกชะงัก ตอบอย่างไร้เรี่ยวแรงกะทันหัน “เจ้าไม่เห็นหรือว่าข้ายุ่งมาก?” หลังเอ่ยจบก็เห็นจินเฟยเหยาส่ายศีรษะ เขาจึงเอ่ยอย่างไม่พอใจอีก “ข้าที่อยู่ตรงนี้เป็นวิญญาณจริง เพียงสายใยเดียว ย่อมดูไม่ออกว่ายุ่งมาก ทว่าร่างจริงของข้ายุ่งมาก ข้าจำได้ว่าตอนติดต่อครั้งที่แล้ว ข้ากำลังศึกษาโดมิโน่จีนอยู่ เล่นพนันสูงต่ำทั้งวันน่าเบื่อ หลายพันปี ผ่านไปแล้ว ต้องมีวิธีพนันแบบใหม่อีกแน่ อีกทั้งเจ้านึกว่าจะสามารถลงจากโลกระดับสวรรค์ได้ตามใจชอบหรือ? ต้องใช้เวลายาวนานมาก น่าเหนื่อยหน่าย”
“ท่านบอกตรงๆ ว่าขี้เกียจก็ได้ ฟังดูแล้วการเปิดวงเวทน่าจะเป็นเรื่องยุ่งยากมาก ตัวท่านเองยังหาข้ออ้างไม่อยากไปทั้งวัน” จินเฟยเหยาเบ้ปากมองพี่กระจกที่อยู่กลางอากาศ สงสัยว ว่านี่คือลุยภูเขาดาบลงทะเลเพลิง[1] ทำไมเขาจึงหาข้ออ้างไม่ยอมไปตลอด
“แค่ก!” พี่กระจกส่งเสียงไอ จากนั้นกระแอมให้ลำคอโล่งและเอ่ยว่า “ที่จริงก็ไม่ยุ่งยาก ข้าคิดจะให้ลาภลอยแก่ผู้เยาว์รุ่นหลังมากๆ ถ้าตาเฒ่าอย่างพวกเราจัดการเรื่องรอบกายเสร็จหมด ดแล้ว พวกเจ้าจะไปพบลอภลอยจากที่ใด แล้วจะทำให้พลังบำเพ็ญเพียรรุดหน้าอย่างพรวดพราดได้อย่างไร”
จินเฟยเหยาไม่ส่งเสียง คำพูดนี้ไม่ผิด ผู้บำเพ็ญเซียนบางคนค้นหาโชควาสนาที่คนรุ่นก่อนทิ้งไว้มาชั่วชีวิต บางคนได้ศิลาวิญญาณกองใหญ่ บางคนกลับได้ของวิเศษอันยอดเยี่ยม บางคนได้เ เคล็ดวิชาที่เหนือล้ำกว่าผู้บำเพ็ญเซียนในขั้นเดียวกัน อย่างเช่นตนเอง ก็ได้เคล็ดวิชาฟ้าดินดับสูญจากในชามหยกใบหนึ่ง ถ้ามิใช่เพราะสิ่งนี้ ตอนนี้ตนเองคงต้องหาสำนักแห่งหนึ่งอาศ ศัยอยู่กินระหว่างรอความตาย ไม่ใช่สิ อาจจะแก่ตายไปนานแล้ว
ทว่า ถ้ารู้ว่านี่ไม่ใช่โชควาสนาที่ได้มาโดยบังเอิญ ทว่าคนรุ่นก่อนจงใจวางไว้ตรงนั้น รอให้ทุกคนมาพบเข้าสักวัน เช่นนั้นความรู้สึกก็แตกต่างออกไป เหมือนเคล็ดวิชาฟ้าดินดับสูญของตน นเอง ถ้าเป็นจอมมารที่กลัวภรรยาแล้วใส่เคล็ดวิชาลงในชามลับหลังภรรยา คิดจะอาศัยช่วงรับประทานอาหารมอบให้บุตรนอกสมรสของตนเองฝึกปรือ แต่กลับถูกอนุภรรยาที่ไม่เข้าใจความลึกล้ำในนั น นึกว่านำอาหารชามหนึ่งมาไล่ตนเองไปจึงขว้างชามทิ้งด้วยโทสะ จากนั้นก็เปลี่ยนมือมานับไม่ถ้วนจนมาถึงมือของตนเอง
พอคิดแบบนี้ ก็ไม่รู้สึกว่าเป็นโชควาสนาอันหาได้ยากแล้ว แค่โชคดีพบโดยบังเอิญเท่านั้น เรื่องนี้ทำลายความรู้สึกชื่นชมบูชาของผู้บำเพ็ญเซียนตอนได้พบโชควาสนามามากน้อยเพียงใด
จินเฟยเหยาถอนหายใจ เอ่ยถามอย่างหดหู่ “ท่านว่ามา จะปิดวงเวทสะกดวิญญาณเก้าชั้นอย่างไร ถ้ายากเกินไปข้าทำไม่ได้นะ”
พอพี่กระจกได้ฟังก็เอ่ยอย่างยิ้มแย้ม “ง่ายดายยิ่ง เจ้าพกพากระจกสภาพโลกวิญญาณ เดินทางไปโลกวิญญาณทั้งหมดรอบหนึ่ง ดวงตาวงเวทในโลกวิญญาณบางแห่งไม่ต้องให้เจ้าไปทำ กระจกสภาพโลก กวิญญาณจะจัดการเอง ทว่ามีบางแห่งต้องให้เจ้าไปหาสถานที่ที่มีสีทองในแผนที่และจัดการพวกมัน บางแห่งต้องเปิด บางแห่งต้องปิด อย่างวงเวทของโลกวิญญาณจ้งถู่ต้องเปิด”
จินเฟยเหยารับฟังด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก นี่ถือว่าเรียบง่ายหรือง่ายดายกันแน่?
“อ้อ จริงสิ” พี่กระจกพลันนึกเรื่องหนึ่งขึ้นได้ จึงเอ่ยอีกว่า “เจ้าโชคดีมาก ที่โลกวิญญาณชิงหลิวต้องนำมังกรบ้าๆ ตัวนั้นลงมา จากนั้นเปลี่ยนศิลาวิญญาณจึงสามารถทำลายดวงตาวงเ เวทได้ เจ้าไม่ได้ทำเรื่องนี้โดยสมบูรณ์ แต่กลับจับพลัดจับผลูพามังกรมา ดวงตาวงเวทที่นั่นก็ให้คนอื่นเปลี่ยนศิลาวิญญาณ”
ฟังถึงตรงนี้ จินเฟยเหยาพลันรู้แจ้ง ชี้พี่กระจกแล้วเอ่ยถาม “หินผลึกที่เพิ่มมาแปดก้อนตรงก้นของท่าน พอดีเป็นโลกวิญญาณแปดใบที่ข้าเคยผ่านมาใช่หรือไม่ ไม่ว่าตั้งใจหรือไม่ตั้ง งใจ ถึงอย่างไรขอเพียงเปิดดวงตาวงเวทอันหนึ่ง ตรงก้นท่านก็จะเพิ่มหินผลึกมาหนึ่งอัน”
“เจ้าไม่โง่นี่นา” พี่กระจกหัวเราะหึๆ “โลกวิญญาณหลายใบที่เจ้าเคยไปก่อนหน้านี้ นอกจากเมืองไป่เหอของโลกวิญญาณชิงหลิวที่ต้องเป็นฝ่ายไปเปิดดวงตาวงเวท ในโลกวิญญาณอื่นๆ กระจกส สภาพโลกวิญญาณล้วนเป็นผู้เปิดวงเวทเอง แต่ฝั่งนั้นเจ้ายังมีโลกวิญญาณหกใบที่ยังไม่ได้ไป ถึงเวลาก็วนไปเปิดดวงตาวงเวทหน่อย ตอนนี้อยู่ห่างไกล เริ่มเดินทางจากฝั่งนี้ก่อนก็ได้ ”
“ให้ข้าดูตรงก้นของท่านหน่อยได้หรือไม่?” จินเฟยเหยาครุ่นคิด พลันเอ่ยวาจา
“โอ๋! สตรีลามก” พี่กระจกประหลาดใจอย่างยิ่ง คิดไม่ถึงว่าอ้าปากก็บอกจะดูก้นของตนเอง สตรีผู้นี้ลามกถึงเพียงนี้ ไม่สมควรมีเทาเที่ยสิงร่างเลย น่าจะเป็นฉยงฉีมากกว่า
“ถุย” จินเฟยเหยาส่งเสียงถุยอย่างไม่สบอารมณ์ ชี้หน้าเขาพลางเอ่ยว่า “ข้าหมายถึงด้านหลังของกระจกสภาพโลกวิญญาณ ท่านอย่าแทนที่ด้วยร่างของตนเองในโลกระดับสวรรค์ได้หรือไม่ ก้น ของบุรุษมีอะไรน่าดูกัน มิใช่ไม่เคยเห็นเสียหน่อย”
“พูดให้ชัดเจนแต่แรกสิ” พี่กระจกบ่นอย่างไม่พอใจแล้วหมุนตัว เผยให้เห็นหลังกระจกที่มีหินผลึกติดอยู่แปดก้อนราวกับรอยปะ
จินเฟยเหยามองดูอย่างละเอียด ก่อนหน้านี้ตอนผลักเปิดดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เคยเห็นด้านหลังของกระจกสภาพโลกวิญญาณ ยังจำสีสันที่ปรากฏขึ้นในนั้นได้อย่างชัดเจน ทว่าตอนนี้มีหินผลึก สีแดงก้อนหนึ่งกลายเป็นสีเขียวขจีแล้ว ท่าทางตอนเปิดดินแดนศักดิ์สิทธิ์คงไปสัมผัสดวงตาวงเวทเข้า หลังจากโลกวิญญาณจ้งถู่กลายเป็นป่าจึงถือว่าดวงตาวงเวทเปิดออกอย่างเป็นทางการ ดังนั นหินผลึกจึงกลายเป็นสีเขียว
“ดูพอแล้วหรือยัง ผู้อื่นเขินนะ” พี่กระจกส่ายร่าง เอ่ยด้วยน้ำเสียงเขินอายเลียนแบบสตรี
จินเฟยเหยากระอักกระไออย่างหนัก ผู้ยิ่งใหญ่คนนี้เป็นบุคคลอันตราย! คนที่มีตำแหน่งสูงส่งขนาดนี้ยังทำเรื่องเช่นนี้ออกมาได้ หากมิใช่คนผู้นี้ไร้สมองก็ได้แต่บอกว่าเจ้าหมอนี่เ เป็นยอดฝีมือในด้านจัดการคน คนแบบนี้หากไม่เบื่อหน่ายก็ยังดี ถ้าเบื่อหน่ายขึ้นมาใครก็หยุดเขาไว้ไม่ได้ จึงทำให้นางตกใจจนต้องรีบโบกไม้โบกมือ “ดูพอแล้ว เชิญท่านตามสบาย”
พี่กระจกหมุนตัวมาถามตรงๆ “เอาละ บอกความปรารถนาของเจ้ามา โชควาสนานี้ไม่เลวนะ สามารถบอกความปรารถนาได้ทุกอย่าง เจ้าต้องบอกสิ่งที่ยากๆ หน่อยล่ะ ให้ข้าจัดการเรื่องง่ายดายเกินไปไม ม่คู่ควรกับศักดิ์ฐานะของข้า ข้าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ มีความสามารถเทียมฟ้า ไม่ต้องเกรงใจ”
จินเฟยเหยาบริภาษในใจ เรื่องยากมากๆ อะไรกัน ตอนนี้เขาเป็นเพียงการรับรู้สายใยเดียว จะลงมือเองได้อย่างไร คงเหมือนกับการออกความคิดให้อินเยวี่ยที่โลกวิญญาณน้ำพุเหลืองเสียแป ปดส่วน จากนั้นก็ไปเสี่ยงชีวิตตามวิธีการที่เขาเสนอเหมือนม้าเฒ่า อินเยวี่ยทำมาตั้งหลายปีจึงเพิ่งได้อัคคีเมฆาก้อนนั้นที่โลกวิญญาณโหยวอวิ๋น เรื่องที่ตนเองเสนอก็ต้องถูกจัดการ รแบบนี้แน่ๆ จะเสนอให้ยากเกินไปไม่ได้ อีกทั้งเห็นน้ำเสียงของเขาตื่นเต้นอย่างยิ่ง ถ้าเสนอเรื่องง่ายๆ แล้วเขาเกิดโทสะแค้นเคืองข้าขึ้นมาจะทำอย่างไร จะต้องครุ่นคิดให้ละเอียด
ทันใดนั้น จินเฟยเหยาก็นึกเรื่องหนึ่งได้ เรื่องนี้ยากมาก อีกทั้งถ้าวิธีการยากเกินไปจะไม่ทำก็ได้ ดังนั้นนางจึงเอ่ยถาม
พอพี่กระจกได้ฟังก็หยุดนิ่งจริงๆ ลอยอยู่กลางอากาศโดยไม่ขยับเขยื้อน ไม่เอ่ยวาจาสักประโยคอยู่เนิ่นนาน จินเฟยเหยาลอบยิ้มกับตนเอง ครั้งนี้ยากจนทำให้ท่านนิ่งอึ้งได้แล้วสินะ ดู สิว่าท่านจะแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไร
แต่นางเพิ่งกระหยิ่มใจได้ครึ่งชั่วยาม พี่กระจกพลันเอ่ยปาก “เจ้าคิดจะหาเรื่องใส่ตัวใช่หรือไม่ จึงเสนอเงื่อนไขแบบนี้ออกมา ยากเกินไปแล้ว แต่ข้าสนใจอย่างยิ่งและมีวิธี แต่เกรงว่ าเจ้าจะทำไม่ได้”
“อะไรนะ ท่านทำได้จริงๆ หรือ!” จินเฟยเหยาตกใจสุดขีด คิดไม่ถึงว่าเรื่องแบบนี้ก็ทำได้ คนผู้นี้ร้ายกาจมาก ผู้บำเพ็ญเซียนที่เหาะขึ้นสวรรค์หลังข้ามด่านเคราะห์ก็คือเทพ!
“เจ้าไม่ต้องชื่นชมข้า ข้าสามารถมอบวงเวทให้เจ้าอันหนึ่ง เจ้าไปหาวัตถุดิบมากางวงเวทเอาเอง แล้วทำตามวิธีที่ข้าบอกอย่างเคร่งครัด เรื่องนี้ก็สำเร็จ แต่ถ้าเจ้าลดคุณภาพหรือเปล ลี่ยนไปใช้วัตถุดิบระดับต่ำๆ แล้วเกิดปัญหา นั่นเป็นเรื่องของเจ้า” พี่กระจกส่งเสียงขึ้นจมูกพลางเอ่ยอย่างจริงจัง
“ไม่หรอก ถ้าหาวัตถุดิบได้ไม่ครบข้าจะไม่กางวงเวท อย่างไรข้าก็ไม่รีบร้อน” จินเฟยเหยาส่งเสียงอืม
“รับไป” หลังสิ้นเสียงของพี่กระจก ก็มีแสงสายหนึ่งพุ่งออกมาจากกระจกสภาพโลกวิญญาณยิงเข้าสู่สมองของจินเฟยเหยาโดยตรง จากนั้นสิ่งของปริมาณมหาศาลก็ปรากฏขึ้นในสมองของนาง แผนภ ภาพวงเวท ชนิดและปริมาณของวัตถุดิบ ยังมีคาถาและสิ่งที่ต้องระวังทั้งหมดเบียดแทรกเข้ามาในสมองของนาง
รอจนบันทึกสิ่งของทั้งหมดไว้ในสมองแล้ว พอจินเฟยเหยากวาดตาดูวัตถุดิบเหล่านั้นก็โง่งมไปทันที “พี่กระจก พวกนี้คือสิ่งใด ข้าไม่เคยเห็นมาก่อน อย่างไรท่านก็บอกแหล่งกำเนิดหน่อย ย อีกทั้งยังมีปริมาณมากมาย นับไม่ถ้วน นี่เป็นวงเวทขนาดใหญ่เพียงใด”
“มากหรือ?” พี่กระจกส่ายไหวร่างอย่างกระหยิ่ม “วัตถุดิบแค่สามร้อยแปดสิบเอ็ดชนิดเอง ถ้าไม่แบ่งประเภทก็มีเพียงสองหมื่นเจ็ดพันหกร้อยยี่สิบแปดชิ้น อีกทั้งยังหาได้ง่าย ของพวกน นี้เป็นสิ่งที่มีในโลกระดับเทพทั้งหมด ต่อไปเจ้าค่อยๆ หาก็ได้ วงเวทอันนี้ไม่ถือว่าใหญ่ กว้างเพียงห้าจั้ง ในบรรดาวงเวทของข้านี่ถือว่าเล็กแล้ว ข้ามีวงเวทกว้างหกร้อยจั้ง คิด ดว่าเจ้าคงทำออกมาไม่ได้”
จินเฟยเหยาจุปาก ขนาดวัตถุดิบที่ไม่เคยได้ยินชื่อยังมีเกือบสามหมื่นชิ้น นี่ยังเป็นแค่วงเวทเล็กๆ หรือ แล้วอันที่กว้างหกร้อยจั้ง จนแก่ตายก็คงทำออกมาไม่ได้ ไม่ถูกสิ หรือว่ าวงเวทที่ใหญ่ที่สุดของเจ้าหมอนี่จะเป็นวงเวทสะกดวิญญาณเก้าชั้นอันนี้?
ดังนั้นนางจึงถามเพราะปากว่าง “พี่กระจก วงเวทสะกดวิญญาณเก้าชั้นเป็นวงเวทที่ใหญ่ที่สุดที่ท่านเคยกางใช่หรือไม่ นี่คือวงเวทที่สร้างขึ้นจากโลกวิญญาณเจ็ดสิบสองแห่งนะ วงเว วทอื่นๆ คงไม่มีสถานที่ใหญ่ขนาดนี้ให้ท่านกาง”
“จะว่าอย่างไรดีล่ะ…” พี่กระจกครุ่นคิด “ถ้าหมายถึงเรื่องกินพื้นที่ วงเวทอันนี้ก็ใหญ่ที่สุดจริงๆ เนื่องจากใช้โลกวิญญาณเจ็ดสิบสองแห่งกางวงเวท แต่ถ้าหมายถึงใหญ่ที่สุดล้วนๆ ก็ไม่ใช่มันหรอก อย่างไรมันก็สร้างขึ้นจากวงเวทเล็กๆ ถ้าเป็นวงเวทประกอบที่ใหญ่ที่สุด ข้ามีวงเวทใหญ่ที่สร้างขึ้นจากวงเวทเล็กๆ หนึ่งร้อยหกสิบอัน เพียงแต่ไม่มีโอกาสได้ใช้ม มาตลอด อีกทั้งยังมีกลุ่มวงเวทที่สร้างขึ้นจากวงเวทเล็กๆ หกร้อยห้าสิบอัน นั่นเป็นวงเวทประกอบที่มีปริมาณมากที่สุด ทว่าพอประกอบทั้งหมดเข้าด้วยกันก็มีขนาดไม่เกินหนึ่งพันจั้ง ง”
ได้ยินคำพูดของเขา จินเฟยเหยาก็เบือนหน้าไปกระซิบด่าอย่างดุร้าย “คนวิปลาส!”
“เมื่อครู่เจ้าว่าอะไรนะ!” พี่กระจกพลันเอ่ยถามเสียงเย็นชา
จินเฟยเหยารีบตอบด้วยสีหน้าชื่นชมบูชา “ข้าบอกว่าอัจฉริยะ! พี่กระจกเป็นเจ้าแห่งการป้องกันและอัจฉริยะด้านวงเวทจริงๆ”
“คำชมแบบนี้ธรรมดาเกินไป ข้าฟังจนเอียนแล้ว ตำแหน่งยิ่งสูงก็ยิ่งโดดเดี่ยว” พี่กระจกถอนหายใจอย่างเงียบเหงา ทำให้จินเฟยเหยาประจบประแจงไม่ออก
…………………………………………
[1] ลุยภูเขาดาบลงทะเลเพลิง หมายถึง ภารกิจที่ยากลำบาก